Gate of God – ตอนที่ 418

ดาบค่อยๆปักลงไปบนหน้าอกของ ฟาง เจิ้งจือ มันเป็นดาบที่ดูแปลกๆแต่ก็คมเป็นอย่างมาก

ดาบนั้นมีชื่อว่าดาบอสูรกาย

ซี่ โปหนาน ไม่มีแรงพอจะยกดาบขึ้น ไม่ใช่ ซี่ โปหนาน ที่แทงดาบใส่ ฟาง เจิ้งจือ แต่เป็น หยุน ชิงวู

เลือดพุ่งออกมาจากบาดแผลกระเด็นใส่ดาบทันที  ก่อนที่มันจะถูกชะล้างโดยน้ำฝน

ซี่ โปหนาน ตกตะลึงและประหลาดใจที่เห็นสิ่งนี้ เขารู้ว่า หยุน ชิงวู จะโจมตี แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่า หยุน ชิงวู จะเด็ดขาดเช่นนี้

เหตุผลไม่ชัดเจนมากนัก

ในฐานะที่เป็นนายน้อยของเหล่าปีศาจ หยุน ชิงวู ไม่เคยมีความเมตตาให้กับมนุษย์

แต่…

ซี่ โปหนาน ยังคงคิดถึงคำที่ หยุน ชิงวู พูดว่า “ทำไมเจ้าถึงหยุดล่ะ?”เขาได้ยินอย่างชัดเจน

แม้เขาไม่คาดคิดว่า หยุน ชิงวู จะถามคำถามแบบนั้นออกมา แต่มันก็ไม่สำคัญ หยุน ชิงวู โจมตีแล้ว

มีแต่ความเงียบ

นอกจากเสียงฝนแล้ว พื้นที่โดยรอบก็เงียบสนิท ไม่มีใครเอ่ยพูด ไม่มีเสียงหายใจของพวกเขา

“ฟาง เจิ้งจือ …ล้มเหลว?!

“หยุน ชิงวู แทง ฟาง เจิ้งจือ!

“มันเกิดขึ้นได้ยังไง?

ผู้เข้าสอบทั้งหมดและทหารไม่สามารถหาคำตอบให้คำถามเหล่านี้ได้ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น

ไป่ ซิง คลายกำปั้นของเขาออกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็ดีใจที่ หยุน ชิงวู ตัดสินใจฆ่า ฟาง เจิ้งจือ

นั่นหมายความว่า …

ฟาง เจิ้งจือ ไม่รอดแล้ว

“ฉึก!“เสียงดังอย่างชัดเจน

นี่ไม่ใช่เสียงของดาบอสูรกายที่ดึงออกจากร่างของ ฟาง เจิ้งจือนี่คือเสียงของดาบไร้ร่องรอยที่ร่วงลงสู่พื้น

มันปักลงไปในพื้นดินราวกับมีดที่ปักลงบนเนยก้อน

แสงสีม่วงประหลาดพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า มันล้อมรอบด้วยสายฟ้าสีม่วงเป็นจำนวนมาก

หยุน ชิงวู จับดาบอสูรกายแน่น นางจ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ และมองดูแววตาของเขาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร

จากนั้นดาบที่หมุนอยู่ในดวงตาของเขาก็เริ่มช้าลง

พูดให้ชัดเจน

มันค่อยๆหายไปดวงตาของเขาถูกชะล้างกลับคืนสู่ปกติ

ทะเลสาบเต็มไปด้วยน้ำใสบริสุทธิ์

ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกสับสนเมื่อเห็นหญิงสาวในชุดสีขาว ทำไมเขาถึงมาปรากฎตัวที่ศิลาเซียน

นี่…

นี่มันที่ไหน?

เขายังอยู่ในความฝันงั้นหรือ?

คำถามเหล่านี้ผ่านเข้ามาในใจของเขา แต่ไม่มีใครตอบเขาได้ มีเพียงหญิงสาวในชุดขาวที่เคลื่อนไหว

“ทำไมข้าไม่จับนางมาแล้วถามนางล่ะ?”ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มออกมาทันที

แต่ไม่นานนัก

เขาจำได้ว่าเขามีความคิดเดียวกันก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขากระโดลงไปในน้ำ เขากลับหานางไม่เจอ

เขาถูกหลอกไปครั้งหนึ่งแล้ว

เขาจะไม่ถูกหลอกอีกครั้ง

ดังนั้น…

ถ้าเขาไม่สามารถเข้าใกล้และถามนางได้ เขาจะหาตัวตนที่แท้จริงของนางได้อย่างไร เขาจะหนีจากที่นี่ได้อย่างไร?

ฟาง เจิ้งจือ เริ่มนึกถึงฉากที่เกิดขึ้นที่กองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ที่หอสมบัติสวรรค์

เขาจำได้ว่าเมื่อเขาเห็นผู้หญิงคนนี้ในชุดสีขาวครั้งสุดท้าย เขาได้เข้าถึงพลังระดับสะท้อนสวรรค์

แต่คราวนี้ …

เขาไม่รู้สึกอะไรเลย

เดี่ยวก่อน เขารูัสึกอะไรบางอย่าง ฟาง เจิ้งจือ หันไปมองรอบๆตัวเขา มีทั้งหญ้า ต้นไม้และทะเลสาบ

นี่คือโลกที่ไม่มีสายลม ไม่มีคลื่นบนผิวน้ำของทะเลสาบ ผิวใน้ำสงบนิ่งจนเกือบจะเหมือนเป็นกระจก

มันบริสุทธิ์บริสุทธิ์

ความบริสุทธิ์?

“ไม่ใช่ มันสงบ!”แววตาของ ฟาง เจิ้งจือ สว่างขึ้น ในตอนนั้นเองเขารู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไรมันเป็นความสงบ

แม้ว่าหญิงสาวในชุดขาวจะเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เต้นระบำอยู่บนผิวน้ำของทะเลสาบ

มันเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อทำให้ ฟาง เจิ้งจือ ตระหนักถึงความสงบในโลกใบนี้

ผิวของน้ำสงบนิ่ง ผืนป่าโดยรอบสงบนิ่ง ใบหญ้าสงบนิ่ง แม้กระทั่งเขาเองก็สงบนิ่ง

การมองเห็นการเคลื่อนไหวบางอย่างทำให้เข้าใจถึงความสงบ?

ฟาง เจิ้งจือ ไม่เคยพยายามเข้าใจทฤษฎีเหล่านี้เลยแม้แต่น้อยอย่างไรก็ตาม เขานึกถึงเหตุการณ์ตอนศิลาเซียน

เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงหนีมาได้

แต่…

ตอนนี้เขาเข้าใจ

เขาได้เคลื่อนไหว!

เขารบกวนความสงบ!

ตอนนั้น ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าเขาได้รบกวนความบริสุทธิ์โดยการลงไปอาบน้ำในทะเลสาบในความจริงแล้วเขารบกวนความสงบ!

ด้วยการรบกวนโลกที่สงบนิ่ง เขาได้ทำลายกฎของโลก หากไม่มีกฏเกณฑ์โลกก็จะล่มสลาย

พูดให้ชัดเจนมากขึ้น …

โลกจะปฏิเสธ ฟาง เจิ้งจือ และขับไล่เขาออกไป ฟาง เจิ้งจือ ได้ทำลายความสงบ ดังนั้นเขาจึงถูกขับไล่

“ศิลาเซียน … ข้าถูกขับไล่ออกจากศิลาเซียนงั้นรึ? ถ้าอย่างนั้น …ทำไมข้าถึงกลับมา?”ฟาง เจิ้งจือ จำได้ว่า ฉือ กูเหยียน และ ปิง หยาง เคยบอกเขาไว้บางอย่าง

ศิลาเซียนแต่ละชิ้นมีพลังของเต๋าที่แข็งแกร่ง

ใครก็ตามที่สามารถเข้าใจมันได้จะกลายเป็นเซียน

เนื่องจากเขาพยายามคิดว่าทำไมเขาถึงถูกขับไล่ออกจากสถานที่นี้มาก่อน เขาจึงสามารถเดาได้ว่าศิลาเซียนมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับ “ความสงบ”

เงียบสงบ?

มันเกี่ยวกับหัวใจงั้นเหรอ?

หรือว่าเขาต้องสงบนิ่งเหมือนสายน้ำ?!

ถ้าเป็นอย่างนั้น น้ำและทะเลสาบที่อยู่ด้านหน้าเขาก็สามารถอธิบายได้ อย่างไรก็ตาม ต้นไม้และใบหญ้าล่ะ…

จะอธิบายสิ่งเหล่านั้นว่ายังไง?

ต้องไม่ใช่แน่ ถ้าศิลาเซียนเป็นตัวแทนของเต๋าอันแข็งแกร่ง เต๋าไม่สามารถง่ายดายขนาดนี้ได้แน่อย่างไรก็ตาม อะไรเป็นตัวแทนของความสงบ?

สงบ…

ถ้ามันไม่สงบนิ่งเหมือนสายน้ำ แล้วจะสงบนิ่งเหมือนอะไรกัน?

ความบริสุทธิ์?

ฟาง เจิ้งจือ กลับไปคิดถึงความคิดเดิมของเขา เมื่อเขาคิดอย่างนั้นแววตาของเขาก็สดใสขึ้น

นั่นมัน!

เงียบสงบ ในสมัยโบราณความสงบและความบริสุทธิ์หมายถึงสิ่งเดียวกัน คำว่าบริสุทธิ์ได้สร้างคำว่าสีเขียวและความตั้งใจขึ้นมา

สีเขียวเป็นตัวแทนของชีวิตและการเกิดใหม่ ความตั้งใจหมายถึงการจะรักษาสิ่งหนึ่งที่สำคัญเอาไว้

ความสงบหมายถึงการรักษาความบริสุทธิ์และความเป็นตัวเองเอาไว้

ฟาง เจิ้งจือ ค่อยๆหาสิ่งอ้างอิงจากสัญลักษณ์แห่งความสงบต่างๆที่เขาเคยอ่านในโลกก่อน เขาเริ่มนึกถึงตัวตนที่เป็นตัวเแทนแห่งความสงบที่ละคน

ฟาง เจิ้งจือ ตระหนักได้ว่าเขาค่อยๆสงบลง เขาเริ่มซึมซับบรรยากาศไปกับทะเลสาและพืชพันธ์ุรอบตัววิสัยทัศน์ของเขาก็เริ่มชัดเจนขึ้น

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็มองไปที่หญิงสาวในชุดขาว เขามองจนสามารถเห็นริมฝีปากของนางได้

ริมฝีปากที่งดงาม

ดูคุ้นเคยมาก

ราวกับว่าพวกเขาเคยเจอกันที่ไหนมาก่อน

ฟาง เจิ้งจือ ต้องการจะมองให้ใกล้ขึ้น แต่เขาก็เริ่มตระหนักว่าร่างของนางเริ่มจางหายไป ไม่ว่าเขาจะพยายามอย่างหนักแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่นางเป็นได้

ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?

เขาอยู่ไม่ไกลมากนัก ทำไมเขาไม่สามารถมองเห็นนางได้?

ทำไมเขาถึงรู้สึกคุ้นเคยมากขนาดนี้?

ฟาง เจิ้งจือ คอยคิดแต่คำถามเหล่านี้ อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถคิดคำถามเดิมวนซ้ำไปซ้ำมาได้อีก

เขาพยายามใช้หัวใจคิด

อย่างไรก็ตาม …

เขานึกออกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“ข้าเคยเห็นนางที่ไหนสักแห่ง!”ฟาง เจิ้งจือ ยังคงมองดูใบหน้าที่พร่ามัวของนาง เวลานี้แม้แต่ริมฝีปากของนางก็พร่ามัว

เขาจะต้องสงบนิ่งเพื่อจะได้เห็นหน้าตาของนางงั้นหรือ?

ฟาง เจิ้งจือ เคยเห็นผู้หญิงคนนี้สองครั้งแล้ว

ถ้า…

เขาไม่มองนางให้ดี เขาจะยังเป็นผู้ชายอยู่รึ?

เขาตั้งเป้าในใจ เขาเริ่มก้าวไปในทิศทางที่ควรไป เขาสงบใจลงแม้กระทั่งคุกเข่าบนพื้นเพื่อให้สงบใจลงมากกว่าเดิม

หญิงสาวยังคงเต้นรำบนทะเลสาบต่อไป

เดี๋ยวก่อน!

เขารู้สึกราวกับว่าวิสัยทัศน์ของเขาแตกต่างจากก่อนหน้านี้  ทุกส่วนในร่างกายของเขาก็ต่างออกไป พวกเขารู้สึกสงบและบริสุทธิ์ …

สงบและบริสุทธิ์

เซลล์ทั้งหมดในร่างกายของเขา!

ระดับอภินิหาร!

เคยมีการพูดเอาไว้ว่าระดับอภินิหารนั้นจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตาย เซลล์ทุกส่วนในร่างกายเหมือนถูกทำให้บริสุทธิ์และกลับมามีชีวิตใหม่

ไม่!

มันไม่ใช่พลัง แต่เป็นความสงบและความบริสุทธิ์!

เซลล์ทั้งหมดสงบและบริสุทธิ์กว่าที่เคยเป็นมา  พวกมันอนุญาติให้ร่างกายกำจัดความเหนื่อยล้าเจ็บป่วยและพวกมันก็จะกลับคืนเป็นเซลล์ร่างกายดั้งเดิม

หัวใจของ ฟาง เจิ้งจือ เต้นแรง และสงบลง จากนั้นมันก็เต้นแรงขึ้นอีกก่อนจะสงบลง  ราวกับเขากำลังอยู่ในวัฐจักร

เมื่อเขาเข้าถึงเต๋าครั้งแรก เขาเริ่มจากร่างกายของตัวเอง

ในตอนนั้นเขารู้สึกว่าเขาสามารถควบคุมทุกเซลล์ เลือดทุกหยด กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายของตัวเองได้

แต่ตอนนี้…

เขาสามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายและกำจัดสิ่งที่ไม่ดีออกไปได้!

เดี๋ยวก่อน เขาเข้าใจถึงพลังของเต๋างั้นหรือ?หรือเขาแค่เกือบ?

หรือว่าเขาเข้าถึงพลังระดับอภินิหารแล้ว?

เขาควรจะเฉือนตัวเองและทดสอบดีไหม? พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากแล้วหรือไม่? หรือว่าเขาเป็นเซียนแล้ว?

“ฮ่าฮ่าฮ่า … ข้าเป็นเซียนจริงๆรึนี่?”ฟาง เจิ้งจือ เริ่มหัวเราะและทำให้ความสงบพังทลายลง

จากนั้นหญิงเต้นรำในชุดขาวก็หยุดลงราวก

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset