Gate of God – ตอนที่ 463

Gate of God ตอนที่ 463 ระบายความโกรธ

 

ถ้าการที่ ฟาง เจิ้งจือ โจมตี หยุน ชิงวู เป็นเพราะความถือดี แต่ตอนนี้ที่เขาโจมตีดังหยาง

 

มันเป็นเพราะอะไรกัน?

 

“เจ้ากล้างั้นรึ?” หยุน ชิงวู มองไปที่ร่างสีน้ําเงิน นางอยากถามเขาว่าไปเอาความกล้าหาญนี้มาจากไหน แต่นางก็เงียบไป

 

นางมีคําตอบอยู่แล้ว

 

ฟาง เจิ้งจือ

 

เขาอาจจะดูเหมือนคนที่กลัวตาย แต่ตอนนี้เขากลับกล้าหาญอย่าไม่น่าเชื่อ

 

มีอะไรที่เขาไม่กล้าทําด้วยงั้นหรือ?

 

หยุน ชิงวู มองไปที่ ค้งหยางที่ทรุดเข่าลงอยู่กับพื้น

 

ด้วยระยะเท่านี้

 

ใกล้เกินไป!

 

หยุน ชิงวู และ ค้งหยาง ไม่ได้ยืนอยู่ไกลจากเขามากนัก และ ฟาง เจิ้งจือ เป็นคนที่ใกล้ทั้งหยางมากที่สุด

 

เขาถูกพันธาการด้วยเตาแห่งสวรรค์

 

นั่นหมายความว่าเขาต้องตายแน่นอน

 

ตอนแรก ค้งหยาง ยังระวัง ฟาง เจิ้งจือ อยู่ แต่เมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ ทําอะไรไม่ได้ เขาจึงลดการป้องกันลง

 

เพราะคงหยางมีงานที่สําคัญกว่า

 

นั่นก็คือ

 

เขาต้องปกป้อง หยุน ชิงรู!

 

ปกป้องนางจากการโจมตีของ ฉือ กูเหยียน

 

แน่นอนเหตุผลที่สําคัญกว่านั้นคือ ค้งหยาง ตาบอด

 

รวมกับเรื่องระยะทาง

 

ต่อให้เขาคือทั้งหยาง

 

เขาก็ไม่สามารถป้องกัน ฟาง เจิ้งจือ ได้

 

ทุกคนต่างมองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความไม่เชื่อ ตกใจ หวาดกลัว

 

ครึ่งเซียน!

 

แต่กลับโดน ฟาง เจิ้งจือ โจมตี

 

สายลมอันเยือกเย็นพัดผ่านยามค่ําคืนดวงดาวยังคงส่องประกาย

 

“ครึ่งเซียน?” ฟาง เจิ้งจือ มองดังหยาง ด้วยความมั่นใจ

 

เขารู้ว่าคงหยางเป็นครึ่งเซียน

 

แล้วยังไง?

 

ถ้า ปิง หยาง ที่อยู่ในระดับผนวกดารายังกล้าเสี่ยง แล้วเขาที่อยู่ในระดับอภินิหารจะไม่กล้าเสี่ยงงั้นหรือ

 

ยิ่งไปกว่านี้

 

เขาไม่มีทางเลือกอื่น!

 

หนี?

 

เขาจะหนีไปที่ไหนได้ กองทัพปีศาจยืนอยู่เต็มหน้าประตูถิ่นฐานเนินเขาเหล็ก

 

เขาราวกับลูกแกะที่อยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่า

 

ถ้าเขาเคลื่อนไหวผิดพลาดเพียงครั้งเดียว

 

เขาอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ําว่าตัวเขาตายยังไง

 

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้โง่ ที่สําคัญกว่านั้นเขารู้ว่าเขาไม่สามารถทิ้งระยะห่างจาก จังหยาง ได้ทัน

 

ดังนั้นแทนที่จะวิ่งหนี

 

ทําไม

 

ไม่ต่อสู้ล่ะ!

 

เรื่องการลอบโจมตี ฟาง เจิ้งจือ เชี่ยวชาญอยู่แล้ว

 

สําหรับคนตาบาดอะไรที่เขาเชื่อถือมากที่สุด? แน่นอนว่าเป็นเสียงที่ได้ยิน! เขาใช้หูระบุตําแหน่งคู่ต่อสู้

 

ดังนั้นเพื่อที่เขาจะโจมตีได้สําเร็จ

 

เขาต้องทําให้ คงหยางสับสนก่อน

 

ขั้นแรก ฟาง เจิ้งจือ ระเบิดพลังออกมาเพื่อทําให้ คัง หยาง สับสนและลดการป้องกัน

ซึ่งมันสําเร็จ

 

บางครั้ง บางสิ่งที่ง่ายกว่าที่คิดมาก

 

อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ก็ไม่ได้หลงในความสําเร็จมากมาย

 

เพราะการโจมตีก็เหมือนแค่สร้างรอยถลอกเล็กน้อยเท่านั้น

 

ฆ่าทั้งหยาง?

 

มันไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดแม้แต่น้อย

 

ดังนั้นเป้าหมายที่แท้จริงของเขาคือ… หยุน ซึ่ง

 

ตอนนี้กําลังเบิกตากว้างมองเขาด้วยความตกใจ

 

ฟาง เจิ้งจือ มอง หยุน ชิงวู ด้วยดวงตาอันลุกโชน เขาเป็นนักล่าที่หมายหัวเหยื่อเอาไว้แล้ว

 

ตอนแรกเขาเหมือนอยู่ริมหน้าผา

 

แต่ตอนนี้

 

เขามีโอกาส ไม่มีแสงสีฟ้าเหนือหัว หยุน ชิงวู อีกต่อไป

 

เพราะ คัง หยาง ถูกโจมตี

 

มันจึงหายไปเช่นกัน

 

ฟาง เจิ้งจือ พุ่งออกไปอย่างเร่งรีบก่อนที่ใครจะทันตั้งตัว

 

“ข้าจะทําให้เจ้ารู้ว่าความอัปยศนั้นเป็นเยี่ยงไร!” ฟาง เจิ้งจือ ตะโกนก้อง ขณะพุ่งเข้าไปหาหยุน ชิง

 

เขาสัมผัสได้ถึงความอุ่นจากร่างกายของนาง

 

เขาอยู่ใกล้นางมาก!

 

ตราบที่เขาควบคุม หยุน ชิงวู ได้ ความได้เปรียบย่อมตกเป็นของเขา เขายังสามารถหันไปบอกคนอื่นๆได้อีกว่า

 

” ข้อขอตัวก่อน!”

 

นั่นจะเป็นผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ

 

ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะเบาๆด้วยความผ่อนคลาย เขากําลังจะพิสูจน์ให้คนอื่นเห็น

 

เขาตัดสินใจกระโดดเข้าสู่สนามรบ

 

มันเป็นหนทางที่ถูกต้องที่สุด!

 

สายลมพัดผ่านหูเขา ร่างของเขาพุ่งออกไปราวกับสายฟ้า ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกราวกับว่าเขาสามารถควบคุมทุกอย่างได้

 

อย่างไรก็ตาม …. ในที่สุดร่างกายของเขาก็หยุดลง

 

เขาหยุดห่างจากหยุนชิงวัยเพียง 1 นิ้ว ขณะที่มือของเขาเกือบจะจับเอว หยุน ชิงวู ได้แล้ว

 

ความตั้งใจของเขาคือจับตัว หยุน ชิงวู พลิกลงกับพื้น

 

เขากลับขยับไม่ได้

 

ฟาง เจิ้งจือ ต้องการหันหลังกลับแต่ร่างกายของเขาไม่ขยับ แม้แต่ปากของเขาก็ขยับไม่ได้

 

เชี่ยเอ้ย

 

เตาแห่งสวรรค์

 

ฟาง เจิ้งจือ รู้ในทันทีว่าคงหยาง ฟื้นตัวแล้ว นอกจากนี้เขายังรู้ว่าตัวเองติดกับแล้ว

 

ทันใดนั้นเสียงร้องของสัตว์ตัวหนึ่งก็ดังขึ้น

 

มันบดบังแสงจันทร์และแสงดาว

 

ปีกของมันพัดลมอันรุนแรงไปยังร่างของคนที่อยู่ด้านหลัง ฟาง เจิ้งจือ ราวกับใช้ดาบ

 

บนหลังของมันมี ปิง หยาง ยืนอยู่ด้วยแววตาแห่งความมุ่งมั่น

 

หอกของนางเปล่งประกายสีทองออกมา

 

ตอนนี้นางราวกับเป็นเทพแห่งความตาย นางแทงไปที่ค้งหยาง ด้วยความรวดเร็ว

 

“ตูม!”

 

เสาเพลิงพุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้า พร้อมกับลําแสงสีทองที่อยู่ด้านใน

 

ฟาง เจิ้งจือ หันไปมองร่างที่ยืนอยู่บนหลังนกตัวนั้น เป็นครั้งแรกที่เขาชื่นชมในความปาเถื่อนของนาง

 

นาง…

 

ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!

 

นางไม่กลัวตายงั้นหรือ?!

 

นางคิดอะไรอยู่?

 

ตอนที่เขากําลังคิดอยู่นั้นเอง ลําแสงสีเงินก็พุ่งลงมาราวกับดาวตก

 

“ตูม!”

 

เกิดเสียงระเบิดอันดังก้องขึ้น

 

มันต่างจากการโจมตีของ บึง หยาง เป็นอย่างมาก มันทําให้เกิดหลุมบ่อบนพื้นมากมายบน

 

“ถือ กูเหยียน?!” ฟาง เจิ้งจือ ตกใจกับสิ่งที่เขาได้เห็นมาก เขาพบว่าไม่ใช่แค่ ปิง หยางเท่า นั้นที่บ้าไปแล้ว

 

ถือ กูเหยียน ก็ด้วย!

 

หรือว่าพวกนางอยู่ด้วยกันมากเกินไป…

 

เลยติดนิสัยอีกคนหนึ่งมา?

 

ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะตีโต้

 

สําหรับการโจมตีครั้งแรกของเขา

 

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้เลือก หยุน ชิงวู เป็นเป้าหมายเพราะนางยังมีแสงสีฟ้าอยู่บนหัว

 

แต่ตอนนี้

 

แสงสีฟ้าหายไปแล้ว

 

ฟาง เจิ้งจือ คงโง่มากถ้าไม่ฉวยโอกาสนี้

 

“พงทลาย!” ฟาง เจิ้งจือ ตะโกน ก่อนจะมีแสงส่องออกมาจากร่างกาย

 

เขาเคลื่อนไหว

 

หยุน ชิงวู ตกตะลึง ก่อนที่นางจะทันได้หนี ฟาง เจิ้งจือ ก็จับเอวนางเอาไว้แล้ว

 

ฟาง เจิ้งจือ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น

 

เขาชะงักไปเล็กน้อยแต่เขาก็คิดได้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่มาสนใจเรื่องนี้

 

เขาตัดสินใจแล้ว

 

เขายก หยุน ชิงวู ขึ้น

 

“เจ้า…” ตอนนี้ดวงตาของ หยุน ชิงวู แทบจะถลนออกมาจากเบ้า นางอยากจะถามว่า ฟางเจิ้งจือ หลุดพ้นจากพันธนาการมาได้ยังไง

 

อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้มีท่าทีที่อยากจะตอบอยู่แล้ว

 

เท้าของนางถูกยกขึ้นจากพื้น

 

นี่ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดี แม้แต่ หยุน ชิงวู เองก็พยายามดิ้นรนเพื่ออิสระ แต่แปลกมากที่ร่างกายของนางเหมือนถูกพันธนการไว้ด้วยแรงบางอย่าง

 

“สวรรค์…. เตสวรรค์! เขา เข้าใจมันแล้วจริงๆ?!” หยุน ชิงวู ตื่นตะลึง นางรู้ว่าร่างกายข องนางถูกพันธนการด้วยอะไร

 

นางอยากกรีดร้องออกมาดังๆ แต่นางพบว่าหัวของนางกําลังจะโดนพื้น ที่สําคัญกว่านั้น

 

นางไม่ทันได้ตั้งตัวแม้แต่น้อย

 

“อึ้ง!” หยุน ชิงวู เบิกตากว้าง ก่อนที่นางจะได้พูดอะไร นางก็หมดสติไปเสียก่อน

 

“เตสวรรค์ เต๋สวรรค์” หยุน ชิงวู พึมพัม ก่อนที่ตาของนาง

 

สนามรบตกอยู่ในความเงียบ

 

ดวงตานับไม่ถ้วนมองอยู่ที่ หยุน ชิงวู ไม่มีใครคิดออกว่าเกิดอะไรขึ้น

 

เริ่มที่ ฟาง เจิ้งจือ หลุดจากพันธนาการ

 

และโจมตี คังหยางปิง หยาง และ ฉือ กูเหยียน ร่วมมือกันโจมตี ทั้งหยาง

 

ไปจนถึง…

 

ฟาง เจิ้งจือ โจมตี หยุน ซึ่ง จากนั้นก็ยกตัวนางขึ้นและเอาหัวนางโขกกับพื้น

 

“นายน้อย!”

 

“ไอสารเลว… กล้าดียังไง”

 

“ฆ่ามัน เราต้องฆ่ามันให้ตาย!”

 

ปีศาจทุกตนต่างโกรธเกรี้ยว พวกเขาเห็นสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทําทุกอย่าง

 

อย่างไรก็ตาม ..

 

พวกเขาไม่สามารถทนได้ที่ ฟาง เจิ้งจือ หยามนายน้อยของพวกเขา

 

เอาหัวโขกพื้น?!

 

เขาคิดอะไรอยู่?

 

ต่อให้เขาคิดจะจับนางเป็นตัวประกันก็ช่วยทําดีๆกับนางหน่อย!

 

ไม่มีใครเข้าใจ

 

“เจ้าสวะ!” ทันใดนั้นเสียงอันหยาบกร้านก็ดังขึ้นมา มันเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

 

ในที่สุดคงหยาง ก็ตั้งตัวได้

 

นานแค่ไหนแล้วที่ ค้งหยาง ไม่ได้โกรธแค้นแบบนี้ แม้ตอนที่เขาได้ยินสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือทําที่ หน้าผานั้น

 

เขายังไม่รู้สึกโกรธเท่านี้

 

ความอัปยศ!

 

นี่คือความอัปยศอย่างรุนแรง เขาไม่คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถหลุดจากพันธนาการเขาได้ถึงสองครั้ง

 

เต่าสวรรค์

 

สิ่งที่เขาพยายามใช้ทั้งชีวิตเพื่อเข้าใจมัน แต่กลับถูกทําลายด้วยมนุษย์? มนุษย์วัยเยาว์?

 

คังหยางไม่เคยเห็นอัจฉริยะแบบนี้มาก่อน

 

ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะถ่ายทอดทุกอย่างที่เขารู้ให้ ฟาง เจิ้งจือ แม้เขาจะไม่ใช่ปีศาจก็ตาม

 

ความเป็นจริงเขาก็ไม่ได้ต้องการฆ่าฟันใคร

 

ปิง หยาง คงจะตายไปแล้วในตอนนี้

 

อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่เขาทนไม่ได้

 

นั่นคือหยุน ชิงวู ถูกล่วงเกิน

 

งานหลักของเขาคือปกป้องนาง แต่นางกลับถูกเอาหัวโขกพื้นต่อหน้าเขา!

 

“ตูม!”

 

สายฟ้าฟาดลงมาจากท้องฟ้า

 

ค้งหยางกําหมัดแน่น ชุดคลมสีดําถูกพัดไปด้วยสายลมเผยให้เห็นชุดสีฟ้าที่อยู่ด้านใน

 

สายลมพัดแรงก้อนเมฆดําปกคลุมทั่วท้องฟ้า

 

คลื่นขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากร่างของคังหยางถ้าระเบิดของ ฟาง เจิ้งจือ เปรียบดั่งทะเลสาบค้งหยางก็เป็นเหมือนมหาสมุทร

 

มหาสมุทรที่บ้าคลั่ง

 

มันน่าหวาดกลัวมาก แม้แต่เหล่าปีศาจที่อยู่ด้านหลังเองก็ต้องก้าวถอย

 

“นี่คือความโกรธของครึ่งเซียนงั้นรึ?”

 

กองกําลังทั้งหมดต่างรู้สึกถึงความโกรธแค้นอันรุนแรงที่ค้งหยางแสดงออกมา พวกเขาต่างหวาดกลัวไปจนถึงกระดูกสันหลัง

 

เต่าสวรรค์…

 

มันน่ากลัวมาก!

 

พวกเขาหันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ

 

ทุกคนรู้สึกได้ถึงพลังของคังหยาง อย่างไรก็ตามความหวาดกลัวจาก ฟาง เจิ้งจือ เองก็ปกคลุมจิตใจพวกเขาเช่นกัน

 

ไม่มีใครรู้ว่าเขาทําได้อย่างไร

 

แต่ที่ ฟาง เจิ้งจือ สามารถหนีจากพันธนาการและทําให้ หยุน ชิงวู สลบไปนั้นเป็นความจริง

 

เพื่อที่จะทําสิ่งนี้

 

สิ่งเดียวที่อธิบายได้คือเขาเข้าใจในเตสวรรค์

 

เขาอายุไม่ถึง 16 ปี…

 

เขายังเด็กอยู่

 

ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถทําอะไรหลายอย่างได้ในขณะคนที่โตกว่ายังทําไม่ได้! เขามีความสามารถขนาดไหนกัน?

 

ไม่มีใครรู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ แข็งแกร่งแค่ไหน แต่พวกเขารู้ว่าเขาไม่ได้อ่อนแอไปกว่าคังหยางเลย

 

นั่นหมายความว่า …

 

ไม่ช้าก็เร็วอาจจะมีครึ่งเซียนเกิดขึ้นในหมู่มนุษย์

 

นอกจากนี้เขาจะเป็นครึ่งเซียนที่มีเต่นับร้อยดวงในมิติพิเศษ!

 

สัตว์ประหลาด!

 

ความจริงแล้ว มันอาจจะเกินจริงไปเสียหน่อย แต่ไม่มีคําพูดไหนที่จะสามารถอธิบายความสามารถของ ฟาง เจิ้งจือ ได้เลย

 

พวกเขาทุกคนตกตะลึงด้วยพลังของค้งหยาง และตระหนักถึงความสามารถของ ฟาง เจิ้งจือหนานกง เฮา มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ

 

เป็นครั้งแรก หนานกง เฮา ดูเหมือนจะอยู่ภายใต้แรงกดดันอันยิ่งใหญ่ มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน

 

อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้มองไปที่รอบๆตัว เขามองที่ดังหยาง

 

“เจ้าต้องการอะไร? การต่อสู้? เข้ามาเลย โจมตีข้า!” ฟาง เจิ้งจือ มองที่ค้งหยางอย่างดูถูกขณะที่ดึงลูกธนูออกมาจากพื้นแล้วจ่อไปที่คอของ หยุน ชิงวู

 

เจรจา…

 

โดยใช้ หยุน ชิงวู เป็นเชลย….

 

นั่นคือเป้าหมายของ ฟาง เจิ้งจือ

 

อย่างไรก็ตาม หยุน ชิงวู ไม่จําเป็นต้องตื่นขึ้น

 

ความจริงแล้ว ผู้ที่ลักพาตัวส่วนใหญ่มักจะทําพลาดโดยการใช้เชลยเป็นตัวกลาง จน สุดท้ายก็ต้องตายด้วยมือของเชลยเอง

 

หลอกข้าได้หนนึงเจ้าควรจะละอายใจ แต่ถ้าหลอกข้าได้สองหนข้าควรจะละอายใจเองฟาง เจิ้งจือ จะไม่ยอมโดนหลอกอีก

 

นอกจากนี้ หยุน ชิงวู เป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เขาไม่มั่นใจว่านางจะยอมสั่งให้ปีศาจถอยทัพไปหรือไม่

 

ตราบใดที่ หยุน ชิงวู ยังมีสติ

 

อาจมีหลายอย่างที่คาดเดาไม่ได้

 

เพราะงั้นเขาจึงต้องทําให้นางสลบไป

 

นั่นคือตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุด

 

ตราบใดที่เขาไม่ได้ฆ่า หยุน ชิง ตราบใดที่เขาสามารถควบคุม หยุน ชิงวู ได้พวกปีศาจก็จะ ทําตามคําสั่งของเขาแน่นอน!

 

ฟาง เจิ้งจือ สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่มาจากตัวจังหยาง แต่เขาทําเพียงยิ้มเยาะออกมา

 

เขากําลังจะกลายเป็นผู้กอบกู้โลกจริงๆงั้นหรือ?

 

ชัยชนะพึ่งเริ่มต้นเท่านั้น

 

ฟาง เจิ้งจือ รอ

 

แต่…

 

ทั้งสนามรบเงียบลงจนน่ากลัว

 

จากนั้นก็มีร่างหนึ่งร่อนลงมาอยู่ข้าง ฟาง เจิ้งจือ ร่างในชุดสีชมพู

 

แต่มีบางอย่างผิดปกติ

 

เดี๋ยวก่อน

 

ทําไมนางถึงอยู่คนเดียว!

 

ท่าทีของ ฟาง เจิ้งจือ เปลี่ยนไป เขารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น

 

เขามองไปด้านข้าง

 

เขาเห็นสิ่งที่เขาคาดเอาไว้อย่างชัดเจน ร่างในเกราะเพลิงแดงลอยอยู่ในอากาศ นางจับหอกเพลิงอยู่ในมือ

 

อย่างไรก็ตาม …

 

หอกได้สูญเสียจิตวิญญานในการโจมตีไปแล้ว

 

จากนั้นคงหยางก็ปลอยคลื่นพลังอกจากมือขวาดีดอินทรีย์เหมันต์หายไปบนท้องฟ้า

 

ก่อนที่จะกระแทกกับพื้น และตายในที่สุด

 

“เชี่ยเอ้ย!” ท่าทีของ ฟางเจิ้งจือ เปลี่ยนไปเขารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น

 

ฟาง เจิ้งจือ ทําให้ หยุน ชิงรู หมดสติไป

 

เขาต้องโกรธมากอย่างแน่นอน

 

เพื่อที่จะจับตัว หยุน ชิงวู, ฉือ กูเหยียน และ ปิง หยาง ถึงกับต้องเสียสละตัวเอง

 

กลับกันมันก็เปิดโอกาสให้คงหยางสามารถจับตัวพวกนั้นได้ในทั้งสอง

 

ปิง หยาง ดูเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

 

บึง หยาง อ่อนแอเกินไป

 

เพื่อที่จะดึงความสนใจคงหยาง เขาเลยตัดสินใจทําให้ทั้งหยาง โกรธเขาได้ท้าทาย

 

ราวกับ…

 

ขอให้คงหยางต่อสู้กับเขา

 

นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ ฟาง เจิ้งจือ คิด อย่างไรก็ตามดูเหมือน

 

ค้งหยางโกรธ…

 

แต่เขาไม่ได้บ้าคลัง กลับกันเขาพุ่งไปหา บึง หยาง ทันที

 

มีกี่คนกันที่จะสามารถทําแบบนั้นได้?

 

“องค์หญิง!”

 

“ฝ่าบาท!”

 

เสียงมากมายดังขึ้นจากกลุ่มของหน่วยเกราะมังกรและกองทัพทลายภูผา

 

ซิง หยวนกัว หน้าซีดขาว

 

องค์หญิง บึง หยางถูกจับ?

 

นั่นอาจจะสร้างปัญหาให้อาณาจักรเซียได้เลย

 

“อ้ากกก! ข้าขยับไม่ได้! เจ้าไร้ยางอาย มาช่วยข้าสิ ข้าขยับไม่ได้! เจ้าไม่ได้เข้าถึงเตสวรรค์แล้วเหรอ?ช่วยข้าออกไปให้ได้! “ เสียงของ ปิง หยาง ดังขึ้นมา

 

เห็นได้ชัดว่า ..

 

ปิง หยาง เป็นคนที่รักชีวิตของตัวเองเหนือสิ่งอื่นใดนางไม่ได้เป็นคนที่เสียสละตัวเองเพื่อสิ่งที่ดีกว่า

 

คําพูดของนางพึ่งพูดกับ ฟาง เจิ้งจือ ว่านางอุตส่าห์ช่วยชีวิต ฟาง เจิ้งจือ แต่ทําไม่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ช่วยชีวิตนาง

 

ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มขมขึ้นเมื่อมองดู บึง หยาง

 

เขาอยากช่วยนางจริงๆ แต่เขาจะทํายังไง?

 

เต่ําสวรรค์…

 

ฟาง เจิ้งจือ หวังว่าเขาจะเข้าใจเตสวรรค์ได้ทั้งหมด แต่เขายังไปไม่ถึงจุดนั้น เขาหลุดจากพันธนาการได้เพราะเปลี่ยนกดของอากาศที่ตรึงร่างเขาเอาไว้

 

หรือก็คือเขาสามารถช่วยตัวเองได้ แต่ช่วยคนอื่นไม่ได้

 

แม้ว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถคลายวังวนรอบตัว ปิง หยาง ได้แต่จะดีหรือ?

 

ปิง หยาง จะวิ่งไปได้ไกลแค่ไหน?

 

นางกําลังสู้กับครึ่งเซียนที่อยู่มานานกว่าศววรรษ ฟาง เจิ้งจือ พยายามทําบางอย่างซ้ําๆ

 

“เจ้าไร้ยางอาย เจ้ากําลังทําอะไรอยู่?มาช่วยข้าที!” ปิง หยาง แผดเสียง

 

“ฝ่าบาท ข้าเชื่อในความสามารถของท่าน ข้าแน่ใจว่าท่านสามารถเข้าใจเตสวรรค์ได้เ” ฟางเจิ้งจือ เยินยอนาง

 

“สวะ!”

 

“เอาล่ะ ข้าต้องไปแล้ว”

 

“เจ้าไม่กล้าหรอก!” ”

 

“ฝ่าบาท ท่านอยากให้ข้าทําอะไร?”

 

“ไม่ได้ยินหรือไง ข้าต้องการให้เจ้าช่วยข้า! ข้ายังเด็กและมีเส้นทางชีวิตข้างหน้าอีกมาก! ข้าตายที่นี่ไม่ได้!”

 

“งั้นลองพยายามเข้าใจ เข้าใจเตสวรรค์! ข้าสอนท่านได้ ก่อนอื่น เจ้าต้องใจเย็นๆและจินตนการว่าอยู่กลางทะเลสาบอันกว้างใหญ่และมีน้ําวนอยู่รอบๆตัวเจ้า …”

 

“น้ําวนบ้าบออะไรของเจ้า มาช่วยข้า!” บึง หยาง ขัดกลางคัน

 

“อ้า…เจ้าไม่สามารถเข้าถึงมันได้” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหน้าอย่างผิดหวัง เขาบอกนางในสิ่งที่เขารู้แต่นางไม่เปิดใจยอมรับมันเลย

 

เขามองไปที่ ถือ กูเหยียน

 

เขารู้สึกเหมือนว่าถึงตานางคิดแผนบ้างแล้ว

 

อย่างไรก็ตามดูเหมือน ฉือ กูเหยียน ดูจะไม่มีแผนการใดๆ นางมองดู ฟาง เจิ้งจือ แววตาของนางระยิบระยับเหมือนดาวในท้องฟ้า

 

“ทําไมเจ้าไม่ช่วยนาง?บอกนางถึงสิ่งที่เจ้าพูดกับข้าสิริฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ ถือ กูเหยียนด้วยความคาดหวัง

 

“นางอ่อนแอ” ถือ กูเหยียน ตอบ

 

ฟาง เจิ้งจือ ถอนหายใจ

 

นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะแก้ไขได้ง่าย

 

ตอนนี้เขาจะทํายังไงดี?

 

เขามี หยุน ชิงวู แต่ฝ่ายตรงข้ามมี บึง หยาง เขามีเพียงสองตัวเลือก แลกตัวเชลย หรือ

 

“ทําร้ายพวกนางทั้งคู่!” ฟาง เจิ้งจือ รู้ดีว่าปกติเขามีสองทางเลือก แต่กรณีนี้เขาทําไม่ได้

 

แม้ว่าเขาจะพยายามแลกเชลย เขาก็อาจจะช่วย ปัง หยาง ไม่ได้และนางอาจตายได้ในที่สุด

 

นั่นคือสถานการณ์ปัจจุบัน

 

“ข้าจะไม่ทําข้อตกลงกับเจ้า ปล่อยองค์หญิงของพวกเรา หรือให้ข้าฆ่า หยุน ชิงวู!”ฟาง เจิ้งจือ ตัดสินใจชัดเจน

 

“เป็นอย่างนั้นหรอกหรือ? แม้ว่าข้าตาบอด แต่ถ้าข้าเดาถูก องค์หญิง บึง หยาง ในตํานานอยู่ในกํามือของข้า!” ค้งหยางตอบอย่างใจเย็น

 

“องค์หญิงปิงหยางในตํานาน?” ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่าทําไมเขาถึงเรียกนางแบบนั้น

 

เป็นเพราะ ปิง หยาง เป็นองค์หญิงคนโปรดหรือ?

 

หรือเป็นเพราะชื่อเสียงของนางในเมืองหลวง

 

ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัว แม้ว่าจะเป็นไปได้ แต่ดูเหมือนจะมีโอกาสไม่มาก

 

คู่ต่อสู้ของเขาคือครึ่งเซียน คังหยาง ทําไมครึ่งเซียนจึงใส่ใจรายละเอียดที่ไม่สําคัญเช่นนั้น?

 

ฟาง เจิ้งจือ ไม่เข้าใจ แต่เมื่อเขาหันมามอง ถือ กูเหยียน เขาตระหนักว่าท่าทีของนางเปลี่ยนไป

 

“เกิดอะไรขึ้น?” ฟาง เจิ้งจือ เห็นท่าทีของ ซิง หยวนกัว ชิง ฉิงซุย พวกหน่วยเกราะมังกรและกองทัพทลายภูผาเองก็เช่นกัน

 

ที่สําคัญที่สุดคือ

 

แม้แต่ ฉาน หลิง และหัวหน้าถิ่นฐานต่างก็หน้าซีดเมื่อได้ยินชื่อ “องค์หญิง ปิง หยาง” 

 

นางโด่งดังขนาดนั้นจริงหรือ?

 

” ตาเฒ่า ในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าเป็นองค์หญิง บึง หยาง ก็ควรปล่อยข้าไปเสียเจ้าคงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าข้าเจ็บตัว!” เสียงของ บึง หยาง เต็มไปด้วยความหยิ่งยโส

 

ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้เลยว่านางเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน

 

บาดเจ็บ?

 

นางถูกตรึงอย่างสมบูรณ์

 

ว่า คงหยาง ไม่ได้สนใจ บึง หยาง

 

และเขาไม่ได้มีท่าทีเยาะเย้ยต่อสิ่งที่นางพูดแม้แต่น้อย เขาเริ่มครุ่นคิดในสิ่งที่ได้ยิน

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset