Gate of God ตอนที่ 465 ข้าต้องการให้เจ้าตาย
ฟาง เจิ้งจือ สับสนมาก
ทําไมชื่อของ ปิง หยาง ทําให้ครึ่งเซียนถึงกับลังเล?
หลังจากยืนนิ่งไปนาน ค้งหยาง ก็พยักหน้า
“อืม เจ้าพูดถูก ข้ารู้ถึงผลที่จะเกิดขึ้นดี อย่างไรก็ตาม ผลจะไม่ได้เกิดกับเมืองเงาเลือดเท่านั้น อาณาจักรเซี่ยก็เช่นกัน” ค้งหยางตอบ
“หึ เจ้าตาบอด! ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ เจ้าคิดว่าไม่มีใคนกล้าพูดเรื่องนี้หรือไงกัน? ข้าขอเตือนเจ้าหน่อย.ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นถ้าข้าโตขึ้นจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่” ท่าทีของ ปิง หยาง แข็งค้างทันทีเมื่อได้ยิน
“ผู้ใหญ่? อืม… นั่นเป็นปัญหาที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง หากเจ้าอายุมากกว่านี้ข้าคงไม่กล้าทําอะไรเจ้าแต่ตอนนี้เจ้าอายุเพียง 14 ปี อีกสองปีเจ้าถึงจะบรรลุนิติภาวะ”
ค้งหยาง ส่ายหัว ปิง หยาง ถูกดึงมาด้านหน้าของเขา
” บรรลุนิติภาวะ? 2 ปี? ไม่กล้าทําอะไรนาง?”
ฟาง เจิ้งจือ ตกตะลึงเมื่อได้ยิน เกิดอะไรขึ้น?
ผู้ที่อยู่ในระดับผนวกดารา…
แต่กลับทําให้ครึ่งเซียนหวาดกลัวได้?
นี่เรื่องตลกใช่ไหม?
หรือ ค้งหยาง อาจจะเข้าใจอะไรผิด หรือสมองถูกกระทบกระเทือน ถ้าเขาเป็นคังหยาง คงทําให้ ปิง หยาง หุบปากไปแล้ว
ไม่อย่างนั้น…
“ปล่อยข้าไป ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้… เจ้าตาบอด! ฟาง เจิ้งจือ เจ้าไร้ยางอาย ข้าช่วยเจ้าแล้ว! ที่นี้ ก็เป็นตาเจ้า!”
อย่างที่เขาคิดเสียงของ ปิง หยาง ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
” ทําให้นางหุบปากที!” ฟาง เจิ้งจือ ร้องตะโกน
อย่างไรก็ตาม คัง หยาง ไม่ได้ทําอะไร เขามอง ปิง หยาง เงียบๆ
ปากของ ฟาง เจิ้งจือ กระตุกเล็กน้อยเมื่อฟังสิ่งที่ ปิง หยาง พูด
แต่เขาก็ทําได้แค่ไม่สนใจนาง
อืม…
ฟาง เจิ้งจือ คิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ ยิ่ง ปิง หยาง ตะโกนมากเท่าไร ความสนใจของผู้คนก็พุ่งมาที่เขาเรื่อยๆ
ตอนนี้เขาอับอายเป็นอย่างมาก
ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มอย่างขมขื่น
เขาอยากจะถามเหลือเกินว่าพวกเจ้ามองหาอะไร ถ้าพวกเจ้ากล้ามากก็ไปช่วย ปิง หยาง สิ
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถพูดออกมาได้
ฟาง เจิ้งจือ ยอมรับว่าตัวเองไร้ยางอาย อย่างไรก็ตามการเมินเฉยผู้หญิงที่เขาพึ่งช่วยชีวิตไปแล้วนั้น
เป็นบางสิ่งที่…
เขาไม่สามารถทําได้จริงๆ
ตอนนี้เขาควรทําอะไรดี?
เขาควรจะเพิกเฉยกับความจริงที่ว่านางพยายามจะช่วยเขา?
” ฟาง เจิ้งจือ มาช่วยข้าหน่อย เจ้าเข้าถึงเตาแห่งสวรรค์แล้วใช่ไหม? มาจัดการเจ้านี่เร็วเข้า!” เสียงของ ปิง หยาง ดังขึ้น
ทหารทุกคนต่างมองหน้ากัน
พวกเขาต้องการช่วยนาง…
เต่พวกเขาไม่สามารถทําอะไรได้
ตอนนี้…
ความหวังเดียวของพวกเขาคือ ฟาง เจิ้งจือ
แต่ ฟาง เจิ้งจือ กลับไม่มีท่าทีอะไรเลย?
พวกเขากําลังรอให้ ฟาง เจิ้งจือ ทําอะไรสักอย่าง
ตามปกติแล้วพวกเขาจะไม่เชื่อมั่นใน ฟาง เจิ้งจือ
แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้….
พวกเขาจําเป็นต้องเชื่อ
” ท่านพ่อ พวกเราควรทํายังไงดี?” ซิง ฉิงซุย มองไปที่ ซิง หยวนกัว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล เขารู้ว่า ปิง หยาง ต้องปลอดภัย
ซิง หยวนกัว มองไปที่ คังหยาง
เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาเขารู้ว่านี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะโจมตี บางทีอาจจะมีโอกาสเจรจา
ถ้าเขาโจมตีทุกอย่างจะเลวร้ายกว่านี้…
อีกอย่าง ตอนนี้พวกปีศาจกําลังได้เปรียบ หากพวกเขายังดึงดันจะสู้ต่อ คงมีแต่ต้องตาย
ถ้ารอต่อไป สถานการณ์อาจจะดีขึ้น!
“รอ!” ซิง หยวนกัว ตะโกนออกมา
“แต่…” ซิง หยวนกัว อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็เงียบไป
….
“ฟาง เจิ้งจือ เจ้าสารเลว เจ้าไร้ยางอาย เจ้าจะทิ้งข้าไว้คนเดียวหรือ? ถ้าข้าตาย ข้าจะหลอกหลอนเจ้าตลอดไป!” ปิง หยาง กังวลมาก
“หุบปาก!” ฟาง เจิ้งจือ ทนไม่ได้อีกต่อไป
นางคิดอะไรกัน? ตอนนี้การถ่วงเวลาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
” ข้าจะไม่หุบปาก ข้าอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเจ้า?แต่เจ้ากลับยืนเฉยๆ? “
”เจ้าช่วยหุบปากได้ไหม!” ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็ระเบิดความโกรธออกมา ”คังหยาง ข้าสามารถแลกเปลี่ยนตัวประกันกับเจ้าได้ แต่มีเงื่อนไข”
“มันคืออะไร” คังหยางพยักหน้า
“ถอนทัพ”
”เป็นไปไม่ได้”
“งั้นพูดให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ถอนทัพออกจากเนินเขาเหล็ก” ฟาง เจิ้งจือ พูดออกมา
” เป็นไปไม่ได้เช่นกัน” คังหยาง ตอบ
“งั้นก็ไม่มีอะไรต้องคุย ข้าไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวระหว่างเรื่องมนุษย์กับปีศาจ การที่ข้ามาที่นี่ เป็นเรื่องยังเอิญ ข้าเพียงอยากมีชีวิตเท่านั้น หากข้าแลกตัวประกัน ข้าต้องตายแน่นอน ดังนั้นข้าเองก็ควรจะฆ่า หยุน ชิงวู”
ฟาง เจิ้งจือ โบกมือให้คังหยาง
คังหยาง บังคับให้ ฟาง เจิ้งจือ ช่วย ปิง หยาง ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถจัดการ ฟาง เจิ้งจือ ได้
ไม่ใช่เพราะเขาลืมว่านางได้ช่วยเขาไว้
แต่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่อยากตาย
“เจ้าคิดว่าการที่พวกเราถอนทัพออกจากที่นี่ เจ้าจะมีชีวิตรอด?” คังหยาง มอง ฟาง เจิ้งจือ พร้อมปล่อยจิตสังหารออกมา
“อย่างน้อยข้าจะมีโอกาสมีชีวิตอยู่” ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับ
“ถ้าข้าบอกข้าแค่ต้องการชีวิตของเจ้าล่ะ?” คังหยาง ถามอย่างใจเย็น
”…” ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไร
“ได้ ข้ายอมรับเงื่อนไขของเจ้า แต่ต้องเป็นตัวเจ้าที่ใช้แลกเปลี่ยน!” คังหยางพยักหน้าหลังจากลังเล
” ข้าต้องหันหลังไหม?” ฟาง เจิ้งจือ หันไปมองรอบๆก่อนจะหันไปมอง ฉือ กูเหยียน
หลังจากได้ยินการแลกเปลี่ยน นางก็คิดสักพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้าในที่สุด
“เชี่ยเอ้ย! “ ฟาง เจิ้งจือ สบถออกมา
อย่างไรก็ตามเขาไม่ส่งเสียงดังมากนัก
ฟาง เจิ้งจือ รู้ดีว่าทําไม คัง หยาง ถึงต้องการตัวเขา
อย่างไรก็ตาม …
เขาไม่มีทางเลือก
เขาไม่อาจเพิกเฉยต่อ ปิง หยาง ได้
หากปีศาจถอนตัวออกจากเนินเขาเหล็ก
ดินแดนใต้ก็จะมีโอกาสที่จะรอดชีวิต นั่นหมาความว่าเขาก็มีโอกาสหนีเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม … เขาต้องสามารถหาวิธีหลบหนีได้ก่อน
อย่างน้อยเขาก็มีตัวเลือก
ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่า คัง หยาง ไม่อยากจะเสียเวลาอีกต่อไป การให้ปีศาจถอนทัพออกไปจากเนิน เขาเหล็กเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
“ตกลง ข้ายอมรับเงื่อนไขของเจ้า” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
เขาไม่มี ทางเลือกอื่น ปิง หยาง ต้องปลอดภัย เขาอาจจะใช้ ปิง หยาง เป็นโล่ได้ทีหลัง
นางมีเกราะเพลิง
นางอาจจะรับการโจมตีให้เขาได้สักรอบสองรอบ
“ออกคําสั่งให้ถอนทัพออกจากเนินเขาเหล็ก” ค้งหยาง ไม่ลังเล
เขาสั่งคําสั่งทันที
“รับทราบ!” หัวหน้าดินแดนหยักหน้าหลังจากได้ยินคําสั่ง
ก่อนที่พวกเขาจะหันมามอง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยดวงตาอันคมกริบ
ฟาง เจิ้งจือ คือศัตรูหมายเลขหนึ่ง
มันอาจจะเป็นเพราะความสามารถของเขา
แต่ที่สําคัญกว่านั้น
พวกเขามีปัญหากับสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทํา
ทั้งตอนที่หน้าผา และครั้งนี้
“ถอนทัพ!”
“ถอนทัพ!”
” ถ่ายทอดคําสั่งลงไป!”
เสียงของปีศาจดังขึ้นเป็นระยะ
ฉาน หลิง มองไปด้วยความตกใจ
เขารู้ว่าปีศาจนั่นเป็นยังไง
หยุน ชิงวู!
ผู้นําอันโด่งดังของเหล่าปีศาจ…นางสามารถจัดระเบียบดินแดนปีศาจให้กลายเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน?
“ถอนทัพ!”
เสียงยังคงดังก้องไปทั่ว
ไม่นานปีศาจที่หน้าประตูถิ่นฐานก็ถอนทัพออกไปทั้งหมด
“ท่านที่เกิดอะไรขึ้น?” องค์หญิง ฉาน ยู่ ปรากฏตัวขึ้น
นางไม่สบายใจที่อยู่ๆพวกปีศาจก็หายไป
” อย่าถามคําถามตอนนี้เลย ตรึงกําลังของพวกเราเอาไว้เ”ฉาน หลิง สั่ง
องค์หญิง ฉาน ยู่ พยักหน้าก่อนจะมองไปยังร่างที่สวมชุดสีน้ำเงิน
มันไม่ใช่จุดที่สําคัญที่สุด เพราะที่สําคัญคือตอนนี้มีหญิงสาวนอนอยู่ข้างๆเขา
” หยุน ชิงวู?! เป็นไปได้ยังไง?”องค์หญิง ฉาน ยู่ ตกตะลึง
นางไม่เข้าใจว่า ฟาง เจิ้งจือ หนีจากเตสวรรค์ได้ยังไง เพราะนางไม่ได้เห็นเหตุการณ์ในตอน
หยุน ชิงวู หมดสติได้ยังไง?
และ…
เกิดอะไรขึ้นที่นี่?
“เจ้าจะไม่ทําตามคําสั่งงั้นหรือ?”ฉาน หลิง ขมวดคิ้ว
“แต่ … “ องค์หญิง ฉาน ยู่ ลังเล
“อา ฟาง เจิ้งจือ เข้าสู่เตาแห่งสวรรค์แล้ว” ฉาน หลิง มองไปที่องค์หญิง ฉาน ยู่ และถอนหายใจ
“อะไรนะ!? เขา … เป็นไปได้ยังไง?!”องค์หญิง ฉาน ยู่ เบิกตากว้าง
“ข้าเองก็ไม่รู้ แต่มันเป็นความจริง “
แม้แต่ตัวเขาเองก็ตกตะลึงตอนที่เห็น
ฟาง เจิ้งจือ อายุเพียง 16 ปี!
ถ้าเขาเข้าถึงเตสวรรค์ได้ตอนอายุเท่านี้ อนาคตของเขาจะเป็นยังไง?ถ้า ฉาน หลิง อยากจะเป็นจักรพรรดิ ฟาง เจิ้งจือ ต้องถูกเขี่ยให้พ้นทางก่อน
แน่นอนว่า…
ฟาง เจิ้งจือ ต้องตายอยู่แล้ว
ฉาน หลิง รู้ดีตั้งแต่ คังหยางจับตัว ฟาง เจิ้งจือ ได้
“งั้นเรามาเริ่มแลกเปลี่ยนกัน” เสียงของ คังหยาง ดังขึ้น
ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ ฉือ กูเหยียน เงียบๆ
“เจ้าจะไปไหม?”
“ไม่” ฉือ กูเหยียน ตอบอย่างใจเย็น
“เจ้าไม่กลัวตายหรือ?”
“ไม่ เขาต้องการชีวิตเจ้าไม่ใช่ข้าเสียหน่อย” ฉือ กูเหยียน ตอบอย่างใจเย็น
”บัดซบ!” ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจอย่างมากกับคําตอบนี้
แต่เขาหันไปมอง ปิง หยาง อีกครั้ง ตอนนี้เขาควรทําอะไรดี?
เพจหลัก : Gate of god TH