Gate of God ตอนที่ 470 ตายหรือมีชีวิต
หยุน ชิงวู มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ จากนั้นก็มองไปบนท้องฟ้านางไม่รู้สึกประหลาดใจกับนิสัยของฟางเจิ้งจือเท่าไรนัก
“เจ้าคิดว่าดวงจันทร์คืนนี้สวยไหม?”
“เชี่ยหม? นั่นคือคําถามของเจ้าหรอ?” น้ําเสียงของฟางเจิ้งจือเปลี่ยนไปทันที
“ใช่ นั่นคือคําถามของข้า” หยุน ชิงวู พยักหน้า
“ดวงจันทร์ สวยมาก!” ฟาง เจิ้งจือ เงยหน้ามองดวงจันทร์ยามค่ําคืนถ้าไม่ใช่ว่าเขา นอนจมกองเลือดอยู่
เขาถือว่าอยู่ในตําแหน่งที่ดีมากที่จะชมดวงจันทร์
อย่างไรก็ตาม …
เขาไม่คิดว่านี่จะเป็นคําถามของ หยุน ชิงวู
“อืม ข้าคิดว่ามันค่อนข้างงดงามเช่นกัน” หยุน ชิงวูเงยหน้าขึ้นมองอย่างเงียบสงบ
ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถสงบใจลงได้
เขาไม่รู้ว่าทําไม หยุน ชิงวู ถึงถามเขาเกี่ยวกับดวงจันทร์แต่เขารู้ว่าหลังจากนางถามเสร็จ ก็มีฝ่ามือพุ่งเข้ามาที่หน้าอกเขาทันที
มันเป็นฝ่ามือที่ดูแก่ชรา
“ในฐานะครึ่งเซียน เจ้าคิดจะแอบลอบโจมตีข้างั้นรึ? ถ้าเจ้ากล้าก็ให้ข้าขอชื่นชมดวงจันทร์อีกสักพัก!” ฟาง เจิ้งจือเอี้ยวตัวหลบ
เขารู้ดีว่าฝ่ามือนี้ทรงพลังขนาดไหน
เขายังรู้
จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น
ดังหยาง ลังเลไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นเพราะฟาง เจิ้งจือพูด
แต่เขาเลือกที่จะไม่โจมตี
ฟาง เจิ้งจือ อยากจะถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่เขาทําไม่ได้
เพราะมันเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้นจังหยางเยือกเย็นเป็นอย่างมาก
ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร
ความมั่นใจหรือเพราะการตัดสินใจ
เขารู้ว่า คังหยาง ได้ตัดสินใจไปแล้ว
“หรือข้าจะต้องตายจริงๆ?!” ฟาง เจิ้งจือมองไปยังดวงจันทร์และกลุ่มดาวบนท้องฟ้า เขารู้ว่าถ้าการโจมตีครั้งต่อไปจากจังหยาง เร็วพอเขาจะตายโดยไม่รู้สึกเจ็บปวด ที่เขาไม่รู้คือเขาจะไป ที่ไหนต่อหลังจากเขาตาย
หลังจากเขาตายในโลกก่อน เขาก็ถูกพามาที่โลกนี้หลังจากใช้เวลาในโลกนี้มาหลายปีเขาก็คุ้ นชินกับมันมันเป็นโลกที่สวยงาม
ดอกไม้ที่งดงาม น้ําที่ใสสะอาด แมแต่อากาศก็เต็มไปด้วยความสดชื่น
ฟาง เจิ้งจือ รักทุกสิ่ง
ที่นี่ไม่มีมลพิษทางอากาศและน้ํา
ฟาง เจิ้งจือ ชอบที่จะเดินทางไปยังที่ต่างๆบนโลกใบนี้
ที่สําคัญกว่าเขามีครอบครัวอันอบอุ่น
“พ่อแม่ ถ้าพวกท่านรู้ว่าข้าตาย…พวกท่านจะเศร้าขนาดไหนนะ?”ภาพมากมายผุดเข้า มาในหัวฟางเจิ้งจือ
ตอนที่ ผู้อาวุโสหมู่บ้านภูเขาทางใต้พาเหล่ากองตรวจการศักดิ์สิทธิ์เข้ามาในหมู่บ้าน
นั่นเป็นวันแรกที่ ฟาง เจิ้งจือ ได้สัมผสถึงลังในโลกใบนี้
ตอนที่ทุกคนในหมู่บ้านต่างนําตานองหน้าเพราะ ฟาง เฮ่าเตอและกลุ่มนักล่าบาดเจ็บสหาหัส
นั่นคือวันที่ ฟาง เจิ้งจือ ได้ใช้พลังในโลกใบนี้
วันที่ ฟาง เจิ้งจือ กับครอบครัวออกจากหมู่บ้านภูเขาทางใต้
นั่นคือวันที่เขาได้ใช้ประโยชน์จากพลังของเขาอย่างเต็มที่
จากนั้น
ทุกวันที่เขากลับบ้านตอนเย็นมักจะมาพร้อมกับเหยื่อที่เขาล่าได้ “ท่านพ่อ ท่านแม่ ขากลับมาแล้ว!”
“บ้าน ข้าจะกลับไปได้ไหมนะ?” ฟาง เจิ้งจือ มองไปบนท้องฟ้าด้วยความเศร้า
“เจิ้งจือเจ้ายังไม่กลับมาอีกหรอ?”
“เจิ้งจือ เจ้าเป็นความภูมิใจของหมู่บ้านพวกเรา!”
“เจิ้งจือ ได้เป็นเจ้าหน้าที่แล้ว! หมู่บ้านของเรายอดเยี่ยมมาก! มีทั้งการสร้างโรงเรียน รวมถึงถนนด้วย!”
“ใช่!” เขาคือความภูมิใจของพวกเรา
“เจ้าดูพอหรือยัง?” คังหยางขัดจังหวะทําให้ ฟาง เจิ้งจือ กลับมาสู่ความเป็นจริง
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ตอบ
เขาดิ้นรนมามากแล้ว
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเมื่อเผชิญหน้ากับ คังหยาง ก็มีเพียงแค่ความตายรอเขาอยู่เท่านั้น
แต่เขาก็ยังจะดิ้นรนต่อไป
มือ, เท้า, ฟัน ..
ฟาง เจิ้งจือ ใช้ทุกสิ่งที่ร่างกายสามารถใช้ได้
“อ๊าก!” พลังมหาศาลปะทุออกมา
แรงที่เกิดมาจากมิติพิเศษของเขา ไม่เหมือนครั้งที่แรงที่พลังของเขาระเบิดออกมาเป็นรอบๆ
แต่มันระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง!
ราวกับแม่น้ําที่พยายามจะทําลายตะหลิงอย่างไม่ยอมแพ้
ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีความคิดที่จะถอยกลับ ความคิดเดียวของเขาคือใช้ทุกสิ่งที่เขามี
“ตูม!” พลังทําให้ชุดของคังหยางพัดไปด้านหลัง
ร่างกายของคังหยาง เคลื่อนไหว ..
ราวกับเขาถูกยกขึ้นจากพื้นอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม เขาตั้งตัวได้อย่างรวดเร็วและพุ่งลงมาใส่ ฟาง เจิ้งจืออย่างรุนแรง
” พี่เหยียน ฟาง เจิ้งจือ จะตายแล้วเท่านต้องไปช่วยเขา!” ปิง หยางตะโกนออกมาด้วยความ กังวล
นางเป็นกังวลอย่างแท้จริง
พูดตามความเป็นจริง นางไม่รู้ว่าทําไมตัวเองถึงกังวล
“เจ้าหน้าด้าน!” ฉือ กูเหยียน หน้าซีด ไม่มีใครเคยเห็นนางเป็นแบบนี้มาก่อน
ขณะที่เสียงของนางทะลุผ่านอากาศไป
ลําแสงสีเงินก็พุ่งลงมาปะทะพื้นดิน
มันส่องสว่างราวกับกับรวมแสงของดวงดาวนับไม่ถ้วนเอาไว้ และรวมพลังเพื่อโจมตีไปที่คั่งหยาง
“ตูม!” เสียงระเบิดดังดังลั่น
ร่างกายของคังหยาง สั่นสะท้าน แต่เขาไม่หลบ ในความเป็นจริงเขาไม่พยายามจะหลบแม้แต่ น้อยปล่อยให้ลําแสงที่พุ่งลงมาปะทะเข้ากับร่างกายของเขา
ร่างกายอันผอมบางของคั่งหยางเหมือนกับภูเขาลูกใหญ่ที่ไม่ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
เขายกมือขึ้นและมองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยดวงตาอันดํามืดของเขา
“ข้าคิดว่าเจ้าคงดูพอแล้วนะ” ดังหยางพูดออกมาอย่างนิ่งสงบ
เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังดวงตาคู่นั้น
เขาหมดหวัง เป็นครั้งแรกที่ความพยายามของเขาไม่ทําให้เกิดอะไรขึ้น
พลังอันรุนแรงที่เขาปล่อยออกมาก่อนหน้านี้พัดอาวุธลับและของต่างๆที่อยู่รบๆตัวเขากระเด็นออกไปไกล
เขากําลังเผชิญหน้ากับครึ่งเซียน
“ข้ายังไม่ได้แต่งงานเลย!” ฟาง เจิ้งจือ มีเรื่องให้เสียใจมากมาย แม้ในโลกก่อนหน้านี้ เขายังหาแฟนไม่ได้ด้วยซ้ํา
ในโลกนี้เขามีความสามารถอันไร้ขีดจํากัด แต่ตอนนี้เขากําลังจะตายอย่างโดดเดี่ยว
ฟาง เจิ้งจือ ไม่อยากยอมรับมัน
แต่ตอนนี้เขาทําอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ
กระจกป้องกันใจของเขาพังทลายไปแล้ว มีอะไรที่ป้องกันการโจมตีของ คังหยาง ได้บ้าง?
เกราะ!
เขาเคยได้เกราะดีๆมาชุดหนึ่งนี่!
ฟาง เจิ้งจือ คลําไปรอบๆตัวเขา แต่เขาก็พบว่าชุดเกราะนั้นก็กระเด็นออกไปไกลเช่นกัน
เขาพูดไม่ออก
เขาไม่มีแม้แต่ชุดเกราะ
ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ คิดมือของเขาก็สัมผัสเข้ากับหินสีดําก้อนหนึ่ง
“หินนี้คือ “ฟาง เจิ้งจือ เจอมันตอนที่หนีออกมาจากกลืนกินโลก
อย่างไรก็ตามหินก้อนนี้ดูไม่มีประโยชน์อะไรแม้แต่น้อย เขาทิ้งมันไว้ในกระจกป้องกันใจเฉบๆ
หินนี้ยังไม่พังไปอีกหรือ?
ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่าหินก้อนนี้คืออะไร หรือทําอะไรได้
เขาไม่มีเวลามานั่งคิด
คังหยางได้โจมตีมาที่หน้าอกของเขาอีกครั้งแล้ว
เขาไม่ต้องคิดมากอะไรอีกต่อไป
ฟาง เจิ้งจือ วางหินไว้ที่หน้าอกของเขา เขาไม่ต้องสนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว
“ตูม!”
ฟาง เจิ้งจือ สัมผัสได้ถึงความรุนแรงจากการโจมตีครั้งนี้
เขาไม่สามารถหลบได้
แม้เขาจะวางหินขวางเอาไว้แรงที่ส่งผ่านมายังเขาก็ยังรู้สึกได้อย่างชัดเจน
ตาของ ฟาง เจิ้งจือ เบิกกว้าง
เขามั่นใจว่าเขาต้องตายแน่นอน
อย่างน้อยที่สุด
มิติพิเศษของเขาก็น่าจะถูกทําลาย
” ข้าอยากรู้ว่าจะอยู่โดยไม่มีมิติพิเศษได้ไหม? แล้วจะอยู่ได้นานเท่าไรกัน?” ฟาง เจิ้งจือ คิดเรื่องนี้กับตัวเองเขากําลังรอ ..
เขากําลังรอให้มิติพิเศษแตกสลาย
อย่างไรก็ตามหลังจากลังเลสักครู่เขาก็ตระหนักว่าสิ่งที่เขารู้สึกคือความเจ็บปวด
หรือค้งหยางเมตตากับเขา?
เขาล้มเลิกความคิดนี้ไป จังหยางไม่มีทางแสดงความเมตตา
งั้นทําไมเขาไม่ตาย?
เขามองไปที่คั่งหยาง
ทั้งหยางเองก็มองกลับมาที่เขา
ตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ ฟาง เจิ้งจือ ความนิ่งสงบของเขาได้หายไป
ราวกับ ฟาง เจิ้งจือ ได้หย่อนหินลงไปในทะเลสาบ
ก้อนหิน!
ฟาง เจิ้งจือ มองก้อนหินบนหน้าอกที่ส่องประกายอยู่ตอนนี้
ก่อนหน้านี้มันทั้งดําและว่างเปล่า
ตอนนี้มันเปล่งแสงเจิดจ้าเป็นอย่างมาก
แสงสีเงินผสานเข้ากับดาวบนท้องฟ้า
“หินก้อนนี้เป็นสมบัติ!” ฟาง เจิ้งจือ ตกตะลึง
แม้แต่คนบ้าก็รู้ว่าหินก้อนนี้ได้ช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่รู้ว่าก้อนหินกลายเป็นสิ่งมีค่าไปได้ยังไงแต..
มันก็ดีกว่าเขาไม่มีอะไรเลย
นอกจากนี้เขาได้วางหินก้อนนี้ไว้ในกระจกป้องกันใจ บางที่อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ได้
ถ้าไม่มี
เขาก็จะคิดว่ามันเป็นขยะชิ้นหนึ่งละกัน
แสงจากอกของ ฟาง เจิ้งจือ ดึงดูดสายตาของทุกคน
ทุกคนบนกําแพงต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
“นั่นคืออะไร?”
พวกเขาคิดกับตัวเอง
อย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถตอบคําถามนั้นได้
กองทัพปีศาจที่อยู่เบื้องหลัง หยุน ชิงวู ก็สับสนเช่นกัน หัวหน้าดินแดนต่างตกตะลึง
พวกเขาทั้งหมดตกตะลึง
อย่างไรก็ตาม …
พวกเขาไม่ได้ตั้งคําถาม แต่พวกเขาหวาดกลัว
“นันมัน 2
“นั่นมัน กลืนกินโลก!”
“เป็นไปได้ยังไง?! ทําไม ฟาง เจิ้งจือ ถึงมีมันได้?!”