Gate of God ตอนที่ 471 ข้าขอโทษครึ่งเซียน
หัวหน้าดินแดนปีศาจต่างมองไปที่ก้อนหินสีดําที่อยู่กับฟาง เจิ้งจือพวกเขารู้ว่ามันคืออะไรแต่พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ
ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ไม่เชื่อ
หยุน ชิงวู เองก็ไม่เชื่อเช่นกัน
“ฟาง เจิ้งจือ เป็นผู้ทําลายกลืนกินโลก?”
นางเป็นคนที่คิดแผนการที่ภูเขาคงหลิง แต่มันก็ล้มเหลว
หยุน ชิงวู ไม่รู้ถึงเหตุผลที่ทําให้แผนการล้มเหลว ที่นางรู้คือกลืนกินโลกได้หายไปพร้อมกับศิลาเซียน
หยุน ชิงวู เริ่มคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับภูเขาทั้งหลิง
อย่างไรก็ตามนางปฏิเสธความคิดนั้นทันที
นางไม่คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะมีพลังมากพอจะทําลายกลืนกินโลก
แม้ว่ากลืนกินโลกจะไม่ได้ทรงพลังเท่ากับตอนแรก แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ จะทําลายลงได้อยู่ดี
แม้แต่ ซิง หยวนกัว ก็ไม่สามารถทําลายมันได้
ยิ่งไปกว่านั้น นางได้รู้มาว่า ฟาง เจิ้งจือ เองก็อยู่ในกลืนกินโลก ณ เวลานั้นเช่นกันหมายความ ว่า ฟาง เจิ้งจือทําลายกลืนกินโลกจากภายในงั้นหรือ?
นั่นยิ่งเป็นไปได้ยากมากกว่า
งั้น…
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หยุน ชิงวู มองดูก้อนหินสีดําบนมือของ ฟาง เจิ้งจือ แววตาของนางเต็มไปด้วยความสับสนอย่างไรก็ตามนางไม่คิดจะเสียเวลาคิดเรื่องนั้น
มีปัญหาที่เร่งด่วนยิ่งกว่า
นั่นก็คือ
กลืนกินโลกถูกเปิดใช้งานแล้ว!
ตามปกติแล้ว ต้องใช้ผู้ที่อยู่ในระดับจุติ และ ผู้ที่อยู่ในระดับอภินิหารอีกกว่า 10 คนเพื่อที่จะเปิดใช้งานมันอย่างไรก็ตามการโจมตีของคังหยางเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะเปิดใช้งานมัน ได้แล้ว
” บังเอิญ? หรือโชคชะตา?”
“ ปิง หยาง ถามอย่างสับสน เมื่อนางเห็นก้อนหิน
“พี่เหยียน นั่นมันสิ่งที่มาจากตอนนั้น เรืองแสง
“อืม กลืนกินโลก!”
“นั่นหมายความว่า เจ้าไร้ยางอายนั่นคือคนที่ช่วยเราไว้บนภูเขาทั้งหลิง
“ใช่” ถือ กูเหยียน พยักหน้า นางไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ ทําได้ยังไงอย่างไรก็ตามกลืนกินโลกอยู่ในกํามือของเขา
นั่นอาจหมายความได้ว่า ..
ฟาง เจิ้งจือ เป็นคนที่ช่วยชีวิตพวกนางเอาไว้ทั้งหมด
บนกําแพงของถิ่นฐานเนินเขาเหล็ก
ซิง หยวนกัว พึมพํากับตัวเองขณะที่มองก้อนหินยนหน้าอกของ ฟาง เจิ้งจือ
“มันคือเขา มันเป็นเขาจริง ๆ – ยอดเยี่ยมมาก ด้วยกลืนกินโลกพวกเราสามารถหลุดพ้นจากสถานการณ์ตอนนี้ได้แน่นอน!” ซิง หยวนกัว เองก็ยังสับสนเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามในฐานะผู้บัญชาการกองทัพ
ความกังวลหลักของเขาคือทําอย่างไรจึงจะชนะสงครามนี้
กลืนกินโลกคือโอกาสเดียว
” ฟาง เจิ้งจือ!”หนานกง เฮา ปากอ้าค้างขณะที่ชักดาบออกจากฝัก
ไม่มีใครรู้ว่า หนานกง เฮา กําลังคิดอะไรอยู่
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดเลยว่า หนานกง เฮา พึ่งถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ฟาง เจิ้งจือ ได้เข้าร่วมการต่อสู้บนภูเขาดังหลิง
เขารู้ดีว่าหัวหน้าปีศาจพูดถึงอะไร
กลืนกินโลก?
หินก้อนนี้เป็นสมบัติในตํานานงั้นหรือ?
แข็งแกร่งมาก!
นี่เป็นสิ่งที่สามารถทําลายโลกได้ทั้งใบด้วยสิ่งนี้เขาสามารถเอาตัวรอดได้แน่!
มีปัญหาเดียวเท่านั้น
เขาจะใช้มันยังไง?
“เอ่อ … เจ้ารู้วิธีใช้งานมันหรือไม่?” ฟาง เจิ้งจือมองไปที่จังหยางแล้วถามเขาด้วยความจริงใจ ท่าทีของคังหยางเปลี่ยนไปในทันที
สายลมพัดชุดคลุมของคังหยางพริ้วไหวไปด้านหลัง
ทุกอย่างอยู่ภายใต้ความเงียบ
ค้งหยางไม่ใช่คนเดียวที่เงียบไป ปีศาจทุกตนรวมทั้งทหารบนเนินเขาเหล็กต่างก็เงียบเช่นกัน
เหล่าปีศาจมองหน้ากันและกัน พวกเขาต่างยิ้มเยาะออกมาพวกเขาต่างรู้สึกดีที่ได้ยินเช่นนั้น
ทหารฝ่ายมนุษย์ต่างยิ้มอย่างขมขื่น
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง
รู้วิธีใช้งานหรือไม่?
นั่นเป็นคําถามที่ยอดเยี่ยมมาก!
ริมฝีปากของ หยุน ชิงวู สั่นเทา นางอยากจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแต่ก็ต้องอดกลั้นมันเอาไว้มันไม่ใช่เวลาจะมาหัวเราะ
ถ้านางหัวเราะตอนนี้
มันอาจจะเร็วเกินไปที่จะเฉลิมฉลอง
นอกจากนี้นางไม่ชอบหัวเราะต่อหน้าผู้คน
สําหรับ บึง หยาง นางตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์
นางอยากจะด่า ฟาง เจิ้งจือ จริงๆเขาไม่รู้จริงๆ หรือ?
อย่างไรก็ตามนางก็กลืนคําพูดกลับไป
ค้งหยาง เริ่มเคลื่อนไหวทันที
เขายกมือขึ้นโดยไม่ลังเล เขารู้ว่ากลืนกินโลกอันตรายเพียงไหน
มันอันตรายมาก แม้แต่เขายังกลัวมัน
ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าตัวเองเป็นคนไร้ยางอายเสมอ ดังนั้นเขาไม่คิดว่าสิ่งที่คั่งหยางทําจะไม่มีเหตุผล
ฟาง เจิ้งจือ คาดเดาถึงความเป็นไปได้ต่างๆนาๆ
อะไรคือประโยชน์ของการที่เขามีสมบุติในมือ แต่ไม่รู้วิธีใช้มัน?
ฟาง เจิ้งจือ โมโหมาก มันราวกับว่าเขากําลังจะได้นอนกับหญิงสาวแต่เขาไม่รู้ว่าซิปที่เอาไว้ถอดเสื้อของนางนั้นอยู่ตรงไหน
ที่สําคัญที่สุดคือหญิงสาวนางนั้นจะอยู่กับเขาเพียงแค่สามนาที่เท่านั้น!
เขากดดันมาก
ฟาง เจิ้งจือ ตื่นตระหนก
ค้งหยางยกมือขึ้นแล้ว ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่ามันทรงพลังและรวดเร็วแค่ไหนเขาต้องการที่จะหยุดค้งหยาง แต่เขาไม่สามารถได้
“ปิง หยาง และ ฉือ กูเหยียน ต้องรู้วิธีใช้มันแน่นอน! ทําไมพวกนางถึงไม่บอกข้าละ หรือข้าควรจะถาม?” ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่าพวกเขาคงมีปัญหาในการทํางานร่วมกันบางอย่าง
ในความเป็นจริง
เขาจะโทษ ฉือ กูเหยียน และ ปิง หยาง ไม่ได้
ไม่มีใครคิดจะตอบคําถามของเขาในสถานการณ์เช่นนี้ นอกจากนี้พวกนางไม่รู้จะตอบ ฟาง เจิ้งจือ ได้ยังไงในเวลาสั้นๆ
เพราะทั้งหยางนั้นเร็วเกินไป
ค้งหยาง ลังเลอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ฟังคําถามของ ฟาง เจิ้งจือแต่เขาก็ได้สติอย่างรวดเร็ว
เขาไม่คิดจะให้โอกาส ฟาง เจิ้งจือ ทําอะไร
ฟาง เจิ้งจือ มองการโจมตีของคั่งหยางที่เข้ามาพร้อมกัดฟันแน่น
นี่ไม่ใช่สมบัติหรือ?
ทําไมไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย!
เขาไม่มีทางเลือกอื่น เขาตื่นตระหนกเป็นอย่างมากและได้เขวี่ยงหินไปทางดังหยาง
“อั้ก!
แสงสีเงินพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของคังหยาง
ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่าเขาปาหินไปถูกทางไหมแต่เขาต้องขอพูดเลยว่าตัวเขานั้นแม่นมาก
เขาได้ฝึกปาของใส่คู่ต่อสู้มาตลอด
ไม่สําคัญว่ามันจะเป็นสมัติหรืออาวุธลับ
มันก็โยนได้เหมือนกัน!
ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มอย่างมั่นใจ
อย่างไรก็ตามทุกคนที่เห็นสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือทํากลับตกตะลึง
พวกเขาไม่สามารถทําใจเชื่อได้
ฟาง เจิ้งจือ ทําอะไรกัน?
“เกิดอะไรขึ้น”
“เขาโยนกลืนกินโลกทิ้งทําไม?
“เขาทําอย่างนั้นจริงๆ?!”
ทหารทุกคนไม่อยากเชื่อสายตาตวเอง พวกเขาอ้าปากค้าง
แต่ไม่มีเสียงออกมาแม้แต่น้อย
ปากของ บึง หยาง เองก็อ้าค้างเช่นกัน
นางไม่อยากจะเชื่อเลยแม้แต่น้อย
ในความเป็นจริง
แม้แต่ ถือ กูเหยียน และ ฉือ กู เหยียน ก็ตกตะลึง
ผู้หญิงสองคนที่สวยที่สุดในโลก
แต่ปากของพวกนางกลับอ้าค้าง
ตาของพวกนางจับจ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
“โป้ก!” มันพุ่งโดนหน้าผากของจังหยางพอดีทําให้เกิดรอยแดงบนหน้าผากของเขา
ค้งหยางไม่ได้พยายามจะหลบ
มือของเขาหยุดกลางอากาศ มันไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากฆ่า ฟาง เจิ้งจือแต่เขาอยากถามฟาง เจิ้งจือ เหลือเกินว่า
“เจ้ากําลังทําอะไรอยู่?”
ตั้งแต่เด็ก คังหยาง ปราถนาที่จะเห็นดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ และดวงดาว
แต่ตอนนี้
สิ่งที่เขาอยากจะเห็นคือสีหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ เขาต้องการที่จะรู้ว่า ฟาง เจิ้งจือใช้สมองส่วนไหนคิด
นี่เป็นคําถามที่ทุกๆคนในสนามรบก็อยากจะถามออกมาเช่นกัน
พวกเขาดูที่ ฟาง เจิ้งจือ …
จากนั้นก็มองไปที่กลืนกินโลกที่พึ่งถูกปาใส่หน้า คังหยาง
น่าเศร้ามาก
มันไม่ได้อยู่ในมือของ ฟาง เจิ้งจือ อีกต่อไปแล้ว
เขาไม่รู้ว่าการเควี่ยงกลืนกินโลกจะทําให้เกิดอะไรหรือไม่ แต่เขารู้ว่าเขาเควี่ยงเข้าเป้า
และคังหยางก็หยุดลง
ได้ผลไหม?
หรือมันจะทํางานถ้าเขาโยนออกไป?
ตอนนั้นเขาก็คิดว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วบางครั้งปัญหาที่ซับซ้อนที่สุดก็มีวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุด
อาจใช้ได้กับกรณีแบบนี้
ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะ
คังหยาง เป็นครึ่งเซียนแล้วยังไง? เขายังถูกโจมตีด้วยหินของ ฟาง เจิ้งจือ!
ฟาง เจิ้งจือ ค่อนข้างภูมิใจในตัวเอง แต่เขาไม่ได้เข้าใจอะไรเลย
โดยปกติแล้ว ..
หลังจากสมบัติโจมตีถูกเป้าหมาย มันจะสั่นคลอนโลกทั้งใบ อย่างไรก็ตาไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้แต่น้อย
ตรึงคู่ต่อสู้เอาไว้ชั่วขณะ?
คั่งหยางไม่ควรจะกระอักเลือดออกมาจากปาก แบบนั้นหรอกหรือ?
เดี๋ยวก่อน
มีบางอย่างผิดปกติ!
กลืนกินโลกเป็นเหมือนมิติคู่ขนาน หลังจากโจมตีเป้าหมายควรจะ
หายไป?
หรือถูกดูดเข้าไป
อย่างน้อยที่สุด ทั้งหยาง ควรร้องตื่นตระหนกออกมา!
ฟาง เจิ้งจือ มองที่ คังหยางและตระหนักว่าคังหยางยังมีสภาพเดิมไร้รอยขีดข่วน
เกิดอะไรขึ้น?
เป็นไปได้ไหมว่าเขาอาจโยนพลาด? รอยยิ้มของ ฟาง เจิ้งจือ แข็งค้าง
ค้งหยางกระโจนออกไปและหลบกลืนกินโลกขณะที่มันพุ่งเข้ามาเฉียดหน้า
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้โง่
ความเร็วในการตอบสนองของเขาไม่ได้เร็วที่สุดในโลก แต่เขารู้ว่ากําลังเกิดอะไรขึ้น
การเคลื่อนไหวของคังหยาง ทําให้พิสูจน์ได้ว่าการโจมตีของ ฟาง เจิ้งจือนั้นทําอันตรายเขาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ดังนั้น
อันดับแรกคือต้องหยุดคงหยาง
เขาต้องไม่ปล่อยให้กลืนกินโลกตกไปอยู่ในมือของคั่งหยาง
ฟาง เจิ้งจือ เป็นกังวลอย่างมากเมื่อเขาเห็นดังหยางพุ่งเข้าไปหากลืนกินโลกเขาไม่ได้รวดเร็วเท่าคังหยาง
อะไรอีกละ?
หากทั้งหยางมีกลืนกินโลก…
เขาจะยังคงมีโอกาสไหม?
เขาเกลียดตัวเองที่ไม่รู้ว่าจะเปิดมันยังไง
ฟาง เจิ้งจือ โกรธมาก เขาคิดว่าคงหยางจะหายไปหลังจากถูกปาหินใส่
แต่มันไม่ใช่!
ไม่มีทาง
เขาต้องเอามันกลับมาให้ได้
“อ๊ากกก!” ฟาง เจิ้งจือ ร้องตะโกน มือข้างหนึ่งของเขาเอื้มไปที่กลืนกินโลก
อีกมือไปที่หว่างขาของคังหยาง
ฟาง เจิ้งจือ ไม่เคยใช้วิธีนี้กับชายคนไหน โดยเฉพาะคนแก่
เขาเคารพผู้สูงอายุเสมอ ..
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาสิ้นหวัง เขาไม่มีทางเลือกอื่นในขณะนี้
เขาต้องเล็งไปที่จุดยุทธศาสตร์ของจังหยาง
ข้าขอโทษ
ครึ่งเซียน!