Gate of God ตอนที่ 472 พายุ
การวิจัยแสดงให้เห็นว่า .
การต่อสู้ของพวกรุ่นเยาว์ มีโอกาสเจอผู้ที่ใช้ท่าทาง หรือวิธีแปลกๆอยู่มาก เขาอาจจะกัดหูหรือเหยียบเท้า
หากเป็นคนที่มีอายุมากพวกเขาจะต่อสู้แบบเดิมๆ พวกเขาจะรอโอกาสที่เหมาะสมในการโจมตีและใช้วิชาลับ
ทั้งหยาง
เป็นปีศาจที่มีประสบการณ์ยาวนาน เขาไม่คิดว่าคู่ต่อสู้จะใช้วิธีที่น่ารังเกียจเช่นนี้
เพราะงั้นเขาจึงไม่ทันได้ระวังตัว
อย่างที่ว่าไป ดังหยางมีการตอบสนองเหนือมนุษย์
การโจมตีของ ฟาง เจิ้งจือ จึงไม่ได้ผล
แต่มันก็เพียงพอที่จะทําให้ทั้งหยางเหงื่อตกได้
“เจ้าสวะ!” คังหยางไม่เคยคิดเลยว่า ฟาง เจิ้งจือ จะโจมตีจุดยุทธศาสตร์ของชายชราเช่นนี้
พวกเขาสองคนอยู่ใกล้มากๆ
ในระยะเท่านี้ ไม่มีอะไรรับประกันว่าเขาจะป้องกันการโจมตีของ ฟาง เจิ้งจื้อ ได้ทัน
ค้งหยางจะไม่เสี่ยง
เขาเลือกที่จะหลบมัน เขาก้มตัวลงต่ําแล้วกระโจนขึ้นไป
ขณะที่เขาลอยขึ้นไปในอากาศ
เขาตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ ..
เขารู้สึกว่าสีหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ เปลี่ยนไป ราวกับ ฟาง เจิ้งจือ กําลังยิ้ม
ความจริงแล้ว
ฟาง เจิ้งจือ กําลังยิ้มจริงๆการโจมตีครั้งนี้เป็นกลลวง เขาไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีจุดยุทธศาสตร์ของดั่งหยาง
เขากํามือซ้ายแน่น
ตอนนี้กลืนกินโลกกลับมาอยู่ในมือของเขาแล้ว
นั่นคือจุดประสงค์ที่แท้จริงของการโจมตี
การขโมยสมบัติคืนจากมือของครึ่งเซียนได้นั้น มันเป็นเรื่องที่ทําให้เขาอยากฉลองจริงๆ
ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะเบา ๆ
ตอนนี้เขามีโอกาส
ทั้งปีศาจและมนุษย์ต่างพูดไม่ออก
เป็นเพราะว่า
สิ่งที่พวกเขาได้เห็นนั้นน่าตกใจอย่างไม่น่าเชื่อ
เสียงอุทานว่า “เจ้าสวะ!” ดังเข้าหูของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นเหมือนกับว่าคังหยางจะหลงกลฟางเจิ้งจือ
เมื่อเขากระโจนขึ้นไปเขาละทิ้งกลืนกินโลกไว้ด้านหลัง
มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
“เจ้าไร้ยางอายนั้น! เขากล้าดียังไง
ปีศาจทุกตนต่างโกรธเกรี้ยว วีรบุรุษของพวกเขากําลังถูกทําให้อับอาย จากการโจมตีที่น่ารังเกียจของศัตรูตัวฉกาจ
ทหารฝ่ายมนุษย์ต่างยิ้มอย่างขมขื่น พวกเขามองหน้ากันและต่างรู้ดีว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีทางเลือกอื่น
อย่างที่ว่าไป นั้นเป็นการกระทําที่น่ารังเกียจ …
คําถามเดียวก็คือ…
ค้งหยางถูกโจมตีหรือไม่?
“ทําได้ดี! เจ้าไร้ยางอาย ทําได้ดีมาก!” ทุกๆคนต่างหมดคําพูด เว้นแต่ผู้เดียว เสียงของบึงหยางดังลั่น
ฉือ กูเหยียน ถอนหายใจเมื่อเห็นความตื่นเต้นของ บึง หยาง นางตัดสินใจจะเว้นระยะห่าง ะหว่างฟางเจิ้งจือ และ บึง หยาง
ปิง หยาง รู้สึกประทับใจมากเกินไป
ฟาง เจิ้งจือ คงทําให้นิสัยนางแย่ลงแน่นอน
สีหน้าของ หยุน ชิงวู เปลี่ยนไปเมื่อมองไปที่ ปิง หยาง และ ฉือ กูเหยียน ขณะนั้นเองหลายๆฉากก็ผุดขึ้นมาในความคิดของนาง
ด้วยเหตุผลบางอย่างนางรู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอก
“น่ารังเกียจ!” หยุน ชิงวู สบถออกมา จากนั้นนางก็นึกถึงเรื่องบางอย่าง และหันไปหาทั้งหยางทันที “อาจารย์” ”
นางต้องการถามว่าคงหยางเป็นอะไรไหม .
อย่างไรก็ตามนางกลืนมันกลับเข้าไป เมื่อตระหนักว่ามันไม่สมควรที่จะถาม
“ข้าไม่เป็นไร!” คังหยางรู้ชัดว่า หยุน ชิงวู กําลังเป็นห่วงเขา เขาส่ายหัวแต่ก็ตอบคําถามออกมาทันที
นั่นหมายความว่าการโจมตีของ ฟาง เจิ้งจือ
เข้าเป้า!
แม้แต่คังหยางก็มีความอับอาย
เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่เขาไม่สามารถทํามันได้
เขาไม่อาจพูดได้ว่า ฟาง เจิ้งจือ พลาด
มันช่าง …
น่าอับอาย!
ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถอธิบายได้เช่นกัน
ไม่ว่าการโจมตีจะได้ผลหรือไม่ มันก็ไม่สําคัญ
สิ่งสําคัญคือเขาได้กลืนกินโลกกลับคืนมา ตอนนี้เขาแค่หาวิธีที่จะใช้งานมัน
“โลกในหัวใจของเจ้าจะเชื่อมโยงกับกลืนกินโลก มันจะกลืนกินโลก!”
ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา มันเป็นเสียงแห่งความหวัง
ฟาง เจิ้งจือ ตกตะลึง
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเสียงของ ฉือ กูเหยียน จะงดงามเช่นนี้ เสียงของนางเหมือนกับเสียงของนางฟ้านางสวรรค์
ตั้งแต่เมื่อไร
ที่นางเป็นแบบนี้?
เสียงของนางช่างน่าลงไหล?
ฟาง เจิ้งจือ ได้สติทันที เขารู้ว่าไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้
ท่าทีของคังหยางเปลี่ยนไป
มันเปลี่ยนไปทันทีที่เขาได้ยินเสียงของ ฉือ กูเหยียน
ไม่ใช่แค่คงหยาง
ทั้ง หยุน ชิงวู และปีศาจตนอื่นๆเองก็ตกใจ
“อิ่มม”!
ทันใดนั้นเองเกิดเสียงอันดังก้องแสงสีเงินมากมายสาดส่องไปยังท้องฟ้า
มันพุ่งขึ้นไปถึงสรวงสวรรค์
ในเวลาไม่นานท้องฟ้ายามค่ําคืนก็สว่างไสว ดวงดาวมากมายต่างเปล่งแสงประกาย
แผ่นดินสั่นสะเทือน
จากนั้นเสาแสงก็ระเบิดออก สะเก็ดแสงมากมายกระจายออกตกลงสู่พื้นราวกับฝน
ทั้งฝุ่นและทรายกระจายเต็มท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
“นั่น มัน กลืนกินโลก!
“เขาเปิดใช้งานมันแล้ว!
“วิ่ง
เสียงตื่นตระหนกหลายคนเริ่มทับซ้อนกันขณะที่ปีศาจพยายามที่จะหยุดมัน แต่มันก็สายเกินไป
หยุน ชิงวู กัดริมฝีปากของนางขณะมองดูแสงบนท้องฟ้า แววตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว
” ฟาง เจิ้งจือ!” เสียงของ หยุน ชิงวุ ไม่ดังมากนักนางถูกฝุ่นกลบบังอย่างรวดเร็ว แต่ทุกคนยังสามารถได้ยินเสียงไม่พอใจของนาง
ไม่นานหลังจากนั้น …
พื้นดินที่นางยืนอยู่ก็เกิดรอยร้าว รอยแตกของพื้นแตกขยายออกไปถึงกองทัพที่อยู่ด้า นหลังของนาง
พงกปีศาจต่างพยายามหนั
อย่างไรก็ตาม ..
พวกเขาถูกพายุทรายกลืนกินเข้าไป
พวกเขากรีดร้อง …
ปีศาจไม่สามารถรักษาระเบียบแถวได้อีกต่อไป
พวกเขาเริ่มวิ่งหนีกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง แต่พายุทรายนั้นเร็วเกินไปไม่มีที่ให้หนี
”เผ่าพันธุ์ปีศาจ!”
” พวกเราจะถูกทําลายที่นี่ไม่ได้
เหล่าปีศาจไม่เคยรู้สึกกลัวเช่นนี้มาก่อน พวกเขาคิดอยู่เสมอว่าจะสามารถดํารงอยู่ได้ตลอดไปแต่ตอนนี้
พวกเขากําลังเผชิญหน้ากับเทพแห่งความตาย
ที่นี่ มีทหารปีศาจนับแสนนายกว่า 90% ของทั้งหมดเป็นกองกําลังจากเมืองเงาเลือด ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา
ปีศาจจะมีชีวิตรอดต่อไปอย่างไร
ซิง หยวนกัว สั่นเทาขณะที่เขามองดูกลืนกินโลก กําลังกลืนกินกองทัพปีศาจเข้าไป
เขาตื่นเต้นอย่างแท้จริง
กองทัพปีศาจทั้งหมดรวมตัวอยู่ในที่เดียว
“สงครามกําลังจะจบลง?” ซิง หยวนกัว โล่งอกขณะเขามองดูพายุทราย
เขามองไปที่จุดของแสงสว่างท่ามกลางพายุ เขารู้ว่าคนๆนั้นคือใครและเขาจะกลายเป็นความภูมิใจของอาณาจักรเซี่ย
ฉาน หลิง ก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน
เขาหวังให้ ฟาง เจิ้งจือ ตายลงอย่างทรงเกียรติ แต่เขาก็หวังที่จะชนะในสงคราม
ถ้าดินแดนภูเขาทางใต้ได้รับชัยชนะ จากนั้นเขาจะสามารถเจรจากับอาณาจักรเซียได้
ตอนนี้
ทุกอย่างเป็นในทางที่เขาต้องการ
พวกปีศาจล้มเหลวแล้ว!
อันที่จริงตอนนี้เขามีทหารกว่าแสนนายในดินแดนของเขา ..
อย่างไรก็ตามเขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่ามีบางอย่างผิดปกติ ..
หลังจากที่กลืนกินเหล่าปีศาจและ หยุน ชิงวู พายุทรายก็ไม่มีทีท่าจะหยุดลงมันกําลังหมุนไปทางเนินเขาเหล็ก
“หยุด!” ฉาน หลิง รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เขาก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่พวกเขาถูกพายุดูดเข้าไป
แต่มันก็สายเกินไป
กว่าที่พวกเขาตระหนักถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น พายุทรายก็พัดมาถึงเนินเขาเหล็กแล้ว
ฉาน หลิง ต้องการสาปแช่ง
เขาไม่เคยรู้สึกโกรธเช่นนี้มาก่อนในชีวิตของเขา
เมื่อเขาคิดว่าทุกอย่างที่เป็นของเขาพังทลายลง เขาไม่สามารถยอมรับมันได้
“ฟาง เจิ้งจือ!” ฉาน หลิง ตะโกนลั่น
เขาไม่สามารถยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้
หัวหน้าถิ่นฐานคนอื่นๆ ทหารของดินแดนภูเขาทางใต้ เหล่าหน่วยเกราะมังกรและกองทัพทลายภูผาต่างก็ต้องตกใจ
“อ๊าก!”
“วิ่ง
“มันสายเกินไปแล้ว ข้า…”
เสียงของพวกเขาดังขึ้น ขณะที่พวกเขาเองก็ถูกกลืนเข้าไปในพายุทราย
ในเวลาเดียวกันนั้นกําแพงสีดําของเนินเขาเหล็กก็เต็มไปด้วยฝุ่นผง
ท้องฟ้าทั้งหมดมืดสนิท
ดวงดาวดับหายไป
ราวกับเป็นจุดเริ่มต้นของโลกใหม่
อย่างไรก็ตาม ฝุ่นเริ่มลดลงและรอยแตกบนพื้นดินเริ่มหายไป ต้นไม้ใบหญ้าทุกอย่างกลับมาดวงดาวปรากฏขึ้นอีกครั้งบนท้องฟ้า
แสงสีเงินส่องลงบนพื้นดิน
ร่างๆหนึ่งเริ่มปรากฏให้เห็น
พวกเขาคือทหารปีศาจในชุดเกราะสีดํา
อย่างไรก็ตาม …
พวกเขาดูไม่ค่อยดี
กําแพงของเนินเขาเหล็กเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ร่างปรากฏขึ้นที่ด้านบน ท่าทีของพวกเขาเหมือนๆกันกับเหล่าปีศาจ
สายลมพัดผ่านพวกเขา
ทั้งปีศาจ หน่วยเกราะมังกร กองทัพทลายภูผา และเหล่าทหารของดินแดนทางใต้
ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
พวกเขายืนนิ่ง ๆ อยู่กับที่
ระหว่างถิ่นฐานไปจนถึงกองทัพพวกปีศาจ มีร่างยืนอยู่ 4 ร่างหนึ่งคือชายชราในชุดสีฟ้า
ข้างๆเขาคือ หยุน ชิงวู ฉือ กูเหยียน และ บึง หยาง
แต่…
ไม่มี ฟาง เจิ้งจือ
“ฮ่าฮ่าฮ่า โลกในหัวใจของเจ้าจะเชื่อมโยงกับกลืนกินโลก มันจะกลืนกินโลก”ในตอนนั้นเองเสียงดังลั่นผ่านอากาศ
มันเป็นเสียงหัวเราะที่คลุ้มคลั่ง
จากนั้นก็มีคําถาม ..
“โอ้? ทําไมองค์รัชทายาทถึงอยู่ที่นี่ด้วย?”
“ใช่!” ทําไมข้าถึงมาอยู่ที่นี่? นั่นเป็นคําถามที่ดีมาก!!” ฉาน หลิง ก้มหัวของเขาแล้วกัดฟันแน่