Gate of God ตอนที่ 476 บ้า
คำเดียวที่จะพออธิบายลักษณะของต้นไม้นี้ได้คือ…
มันใหญ่มาก!
เมื่อต้นไม่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างกิ่งก้านมากมายแตกหน่อยืดออกไปสูงเสียดฟ้า
มันเต็มไปด้วยกิ่งไม้นับไม่ถ้วน…
ที่สำคัญคือบนตนไม้นั้นเต็มไปด้วยผลไม้ที่ส่องแสงออกมามากมาย
มีสีแดงสีเขียว สีฟ้า สีน้ำเงิน สีม่วง …
ลวดลายที่ซับซ้อนปรากฎอยู่บนเปลือกของผลไม้เหล่านี้
”ตูม!”
โลกถูกทำให้สั่นสะเทือนขณะที่ก้อนหินกระจายไปทั่วทุกทิศทาง
ทุกคนต่างจ้องมองไปที่ต้นไม้
”มันคืออะไรกัน?!”
”อาจจะเป็นไปได้ว่าฟาง เจิ้งจือ … ”
”มันจะต้องเป็น!นี่คือแหล่งพลังงานของมิติพิเศษของเขา!”
พวกเขามองต้นไม้ที่กำลังเติบโตด้วยความตกใจ…
ตอนที่พวกเขาอยู่นอกถิ่นฐานวานรน้ำแข็ง….
ฟางเจิ้งจือ บอกว่าเขามีเต๋านับร้อยในมิติพิเศษ พวกเขาทั้งหมดไม่เชื่อ …
แต่ตอนนี้…
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงพวกเขาทำได้แค่หวาดกลัว
…
คังหยางยืนอยู่กลางอากาศ ชุดสีฟ้าของเขาพัดไปตามสายลม
รอยแตกรอบๆเขาเริ่มหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เขาขมวดคิ้ว…
ไม่มีใครรู้ว่าเพราะเขาเห็นต้นไม้ที่สูงใหญ่หรือรู้สึกได้ว่ารอยแตกได้หายไป อย่างไรก็ตามทุกคนสามารถสัมผัสได้ว่าคังหยางไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก
อย่างไรก็ตามในพริบตา…
ต้นไม้ก็ปรากฎตัวหน้าคังหยางราวกับพวกมันมีเป้าหมายที่เขา
”ขาด!”คังหยาง ตะโกน
ทันใดนั้นแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นบนมือเขามันมีรูปร่างคล้ายจันทร์เสี้ยว ก่อนที่เขาจะเขวี้ยงมันใส่เถาวัลย์ที่พุ่งเข้ามา
”ตูม!”เถาวัลย์ขาดเป็นสองส่วน…
ก่อนที่จะตกลงไปที่พื้น
ไม่นานเถาวัลย์ก็ถ่งเข้ามาอีกครั้ง
”ขาดไปซะ!”เขาตะโกนอีกครั้ง
เถาวัลย์ขาด…
แต่เถาวัลย์อื่นก็พุ่งเข้ามาอีกครั้งอีกครั้งและอีกครั้ง…
แม้แต่กิ่งไม้และใบไม้ก็โจมตีใส่คังหยาง
กิ่งไม้และเถาวัลย์ราวกับเป็นแส้…
ใบไม้อันแหลมคมราวกับมีดที่พุ่งใส่คังหยางราวกับคังหยางยืนอยู่กลางสายฝนที่ตกหนัก
แสงสีทองตัดกับแสงสีเขียว
มันดูบ้าคลั่งมาก
”บ้าชัดๆ!ผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้ว!”
ทุกคนจ้องมองการต่อสู้ที่เกิดขึ้นพวกเขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
”ตูม!เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วท้องฟ้า
แสงสีทองนับไม่ถ้วนกลายเป็นดาบพุ่งเข้าใส่ต้นไม้พวกมันตัดกิ้นก้าน เถาวัลย์ออกเป็นสองส่วน ใบไม้ร่วงหล่นกับพื้น
ซิงหยวนกัว มองไปที่ฉากตรงหน้า ท่าทีของเขาซับซ้อน ไม่รู้ว่าควรคิดยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้นดี
”ฟางเจิ้งจือ ฟาง เจิ้งจือ !เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไรกันแน่?!” ซิง หยวนกัว กัดฟันแน่น
ฉานหลิง เองก็มองไปที่ต้นไม้แต่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา อย่างไรก็ตามมือของเขากลับกำแน่น
หัวหน้าถิ่นฐานเองก็ต่างมองหน้ากัน
ดวงตาของหนาน กงเฮา เป็นประกาย เขากำดาบแน่นก่อนจะปล่อยมัน ก่อนจะจับไปที่ดาบอีกครั้ง….
ดูเหมือนว่าเขากำลังพบกับตัวเลือกที่ตัดสินใจได้ยากอยู่
ปิงหยาง จ้องมองการต่อสู้ด้วยดวงตาอันเป็นกังวล
”พี่เหยียนชายคนนั้นกำลังทำอะไร… ”
”เขาเชื่อมโยงมิติพิเศษเข้ากับกลืนกินโลกด้วยการทำแบบนี้เขาจะแข็งแกร่งขึ้นมาก ที่สำคัญที่สุดคือต้นไม้ต้นนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากการสรรค์สร้าง!”ริมฝีปากของ ฉือ กูเหยียน สั่นเล็กน้อย นางเต็มไปด้วยความสับสน
”มีสิ่งที่ไม่ได้เกิดจากการสรรค์สร้างด้วยงั้นหรือ?”
”ใช่มันเกิดจากแหล่งพลังงานของ ฟาง เจิ้งจือ ต่อให้คังหยานเป็นเซียนก็ไม่สามารถควบคุมมันได้!”่
”นั่นหมายความว่าฟาง เจิ้งจือ จะชนะ?!”
”ไม่แต่นี่เป็นวิธีเดียวที่เขาจะสามารถสู้กับเซียนได้… แต่ … ”
”แต่อะไร?”
”เมื่อกลืนกินโลกพังทลายเขาจะ … ” ฉือ กูเหยียน กำหมัดแน่น นางไม่สามารถพูดต่อได้…
”เขาจะตาย!”เสียงของ หยุน ชิงวู ดังขึ้น
”ตาย?”ปิง หยาง เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
หยุนชิงวู พยักหน้า นางมองไปบนท้องฟ้า ไม่มีใครรู้ว่านางมองไปที่คังหยางหรือต้นไม้
ฉือกูเหยียน ไม่พูดอะไรเช่นกัน
นางมองไปบนท้องฟ้าขณะที่มือของนางเคลื่อนไหวนางดูเหมือนกำลังจะหาบางอย่างจาก ปิง หยาง
…
การต่อสู้บนท้องฟ้ายังคงดำเนินต่อไป..
มันทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
แสงสีทองตัดต้นไม้และใบ
”เชี่ยเอ้ย!”ทันใดนั้นเสียงก็ดังก้องไปทั่ว
จากนั้นสายเลือดก็ไหลลงมาจากท้องฟ้ามันสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
”บาดเจ็บ?่
”เขาไม่สามารถสู้กับคังหยางได้…”
ทุกคนมองดูสายเลือดที่เกิดขึ้น
ในฐานะมนุษย์…
พวกเขาหวังว่าฟาง เจิ้งจือ จะชนะ
อย่างไรก็ตาม…
พวกเขารู้ว่าต่อให้ฟาง เจิ้งจือ พยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถเอาชนะเซียนได้อยู่ดี
คังหยางเป็นเซียน…
สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
ท้องฟ้าสีขาวและดาวเริ่มหายไปแสงสีแดงปรากฎขึ้นที่ขอบฟ้า
รุ่งอรุณกำลังมาถึง…
อย่างไรก็ตามมีเซียนยืนอยู่ท่ามกลางแสงแห่งวันใหม่
”ตูม!”
ทันใดนั้นเสียงระเบิดดังก้องไปทั่ว
ในเวลาเดียวกันคลื่นพลังอันรุนแรงก็เกิดขึ้น
มันเป็นพายุหมุน…
พายุขนาดมหึมาที่เต็มไปด้วยคมดาบสีเขียวพร้อมโจมตีใส่คังหยาง
”ตายซะ!”
เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความโกรธ
มันเป็นเสียงของฟาง เจิ้งจือ
ไม่มีใครคิดว่าฟาง เจิ้งจือ โหดร้ายที่ทำแบบนี้
แม้แต่…
ปีศาจ…
พวกเขาก็ไม่สามารถว่าอะไรฟาง เจิ้งจือ ได้ เพราะถ้าพวกเขาอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน พวกเขาก็จะทำแบบนี้
แต่คังหยางสามารถป้องกันพายุได้กิ่งไม้ค่อยๆล่วงหล่น
คังหยางมองไปยังกิ่งไม้ที่ตกลงไปที่พื้นหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเขาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว
ท่าทีของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
ก่อนที่เขาจะเคลื่อนไหวเขาไปอยู่ด้านในต้นไม้ภายในชั่วพริบตา
”ตูม!”เสียงดังขึ้น
คังหยางถืออผลไม้สีแดงไว้ในมือ
”ตูม!”เสียงระเบิดดังขึ้น
เสาเพลิงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและเผาไหม้รอบๆไปในเวลาเดียวกัน
ขณะเดียวกันแขนของคังหยางสั่นเล็กน้อย แสงสีทองบนหน้าผากของเขาจางไปชั่วขณะ ก่อนจะกลับมาเป็นแบบเดิมอย่างรวดเร็ว
ด้านล่าง…
ทุกคนมองเสาเพลิงที่เกิดขึ้น
พวกเขามีท่าทีแตกต่างกันไปบางคนตกใจกลัว บางคนยินดี
ทุกคนรู้ว่าคังหยาง กำลังทำอะไรอยู่
และรู้ว่าทำไม
”ฟางเจิ้งจือ ข้าจะทำลายเจ้าซะ!” เสียงของคังหยาง ดังก้อง
หลังจากที่เขาพูดจบ…
ร่างกายของเขาก็กลายเป็นลำแสงก่อนจะปรากฎขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับผลไม้สองลูกในมือ
มือของคังหยางเคลื่อนไหว
เขาพยายามดึงผลไม้ออกมา
อย่างไรก็ตามไม่มีเสียงผลไม้ที่หลุดออกมาเพราะผลไม้ได้หายไปจากมือเขา
ท่าทีของคังหยางแข็งค้าง
คนอื่นๆที่เห็นก็ตกใจเช่นกันพวกเขารู้ว่าผลไม้คือเต๋า
พวกมันเติบโตบนต้นไม้
แล้วพวกมันจะเคลื่อนไหวเองได้ยังไง?
นั่นคือคำถาม
คังหยางก็สับสนเช่นกัน
อย่างไรก็ตามคำตอบถูกเฉลยออกมาในเวลาไม่นานมีใครบางคนอยู่ด้านหน้าคังหยาง
ชายคนนั้นยืนอยู่บนกิ่งไม้…
เขาสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน
แสงแดดส่องกระทบใบหน้าของเขา
”ฟางเจิ้งจือ!”
”เขาดึงผลไม้ของตัวเองออกมา!”
”เขาจะทำอะไรกัน?”
ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ ทำ
เขาพยายามจะทำอะไร?
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ว่าใครคิดอะไรอยู่ ต่อให้รู้ก็ไม่คิดจะตอบคำถามเหล่านั้น เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าผลลัพธ์ของสิ่งที่เขาทำจะเป็นยังไง
แต่นั่นเป็นการตัดสินใจของเขา
”ข้าจะกินมัน!”ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่คังหยาง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและบ้าคลั่ง
เขาอ้าปาก…
จากนั้นก็เอาผลไม้เข้าปากและกลืนลงไปท่ามกลางสายตาอันตกใจของผู้คน
ทันใดนั้น…
ทั้งโลกเงียบสนิท
ทุกคนมองไปยังฟาง เจิ้งจือ ที่กำลังเคี้ยวผลไม้ พวกเขาไม่เชื่อสายตาตัวเอง
แต่นั่นไม่สำคัญ
ที่สำคัญกว่า…
ฟางเจิ้งจือ พึ่งกินผลไม้แห่งเต๋าไป?!
ไม่มีใครเคยทำแบบนี้มาก่อน
การที่จะทำแบบนี้นั้นหมายความว่าคนคนนั้นสิ้นหวังแล้ว
พวกเขาต้องเชื่อมโยงมิติพิเศษเข้ากับกลืนกินโลกจากนั้นก็ต้องอาศัยความบ้าในการทำแบบนี้
ไม่มีใครเคยทำมาก่อน
บ้าไปแล้ว…
แต่
เขาต้องการทำอะไร?
ไม่มีใครรู้หรือ ฟาง เจิ้งจือ จะเสียสติไปแล้ว
จากนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเป็นเสียงที่ค่อนข้างพอใจ
”โอ้?มันค่อนข้างอร่อยอยู่นะ”