Gate of God – ตอนที่ 564 องค์ชายที่มีชีวิตอันสงบสุข

ตอนที่ 564 องค์ชายที่มีชีวิตอันสงบสุข
ข่าวคำสารภาพของซู ฉิง นั้นราวกับอาวุธอันทรงพลัง มันกระจายไปทั่วอาณาจักรอย่างรวดเร็ว แม้แต่การทดสอบกฎแห่งเต๋าก็ถูกหยุดเอาไว้
”ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคดีแดนใต้คือองค์รัชทายาท?!”
”ใช่ถ้าไม่ใช่คำสั่งขององค์รัชทายาท ซู ฉิง จะกล้าฆ่า ฉาน หลิง ได้ยังไง? และหลังจากที่เขากลับมาเมืองหลวงองค์รัชทายาทก็เลื่อนขั้นให้เขากลายเป็นหัวหน้าของกองตรวจการทั้งห้าในแดนเหนือ!”
”ฟางเจิ้งจือ ต้องถูกใส่ร้ายแน่นอน!”
เมื่อข่าวลือแพร่ไปเรื่อยๆจากเรื่องที่ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือเปล่าก็กลายเป็นเรื่องที่เป็นจริงสำหรับทุกคน
นอกจากคนทั่วไปแล้วเจ้าหน้าที่ก็ต่างซุบซิบพูดคุยเช่นกัน
วันนี้สีหน้าของหลิน เทียนหลง ดูแย่มาก เขานิ่งเงียบตลอดพิธีการตอนเช้า
”แน่นอนว่าข่าวนั้นกระจายไปทั่วอาณาจักรเซี่ยแล้วต่อให้องค์จักรพรรดิไม่พูดถึงมัน ทุกคนก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
”ซูฉิง ช่างโหดเหี้ยมจริงๆ ใครจะรู้ว่าเขาเข้ามาในเมืองหลวงแล้ว?”
”อืมถ้า ซู ฉิง ไม่พูดเรื่ององค์รัชทายาทออกมา แน่นอนว่าไม่นานเขาต้องตายแน่ นี่เป็นทางรอดเดียวของเขา”
”เจ้าหน้าที่หลี่พูดถูกตอนนี้ที่เราต้องทำคือดูว่าองค์รัชทายาทจะทำยังไงต่อไป!”
…
พระราชวังตะวันออกที่ประทับของหลิน เทียนหลง
แม่ที่นี่จะงดงามเพียงใดแต่ก็มิอาจปกปิดกลิ่นเลือดอันรุนแรงที่ลอยมาตามสายลมได้
ด้านนอกห้องหนังสือมีเจ้าหน้าที่สามคนนอนจมกองเลือดอยู่ พร้อมกับจานอาหารที่แตกกระจายอยู่บนพื้น ห่างออกไปมีเจ้าหน้าที่สามสิกว่าคนใต้เท้าของพวกเขาเต็มไปด้วยเลือดเช่นกัน
ความโกรธของจักรพรรดินั้นน่ากลัวเพียงไหน?หลิน เทียนหลง จะไม่โกรธเกรี้ยวได้ยังไง? ด้วยความโกรธเกรี้ยวขององค์รัชทายาท พระราชวังทางตะวันออกจะสงบอยู่ได้อย่างไร?
คนรับใช้ไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้นมาพวกเขาต่างนั่งคุกเข่าและก้มหัวแนบพื้น
บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด
ห้องหนังสือนั้นมืดสนิทหน้าต่างทุกบานถูกปิดด้วยผ้าม่านสีดำ
หลินเทียนหลง นั่งอยู่บนเก้าอี้ ด้วยใบหน้าอันน่าเกลียดน่ากลัว
ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ในห้องมีเพียงร่างหนึ่งที่สวมชุดคลุมสีดำอยู่
”ฝ่าบาทพวกเรายังต้องรออีกไหม?” ร่างนั่นคุกเข่าและพูดขึ้นมา
”ฮ่าฮ่า…คิดว่าข้าอยากข้องเกี่ยวกับคนแบบพวกเจ้าหรือไง?”หลิน เทียนหลง หัวเราะด้วยความเศร้าศร้อย ก่อนที่เขาจะกำหมัดแน่น
”หากฝ่าบาทไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับพวกเราแล้วข้าจะอยู่ที่นี่ไปอีกทำไม?” ร่างนั้นตอบโต้
”แล้วแต่เจ้า…ออกไป!”หลิน เทียนหลง ตะโกน
”ในโลกนี้ไม่มีศัตรูและมิตรถาวรในเมื่อพวกเรามีศัตรูร่วมกัน ทำไมพวกเราไม่ร่วมมือกันล่ะ?” ร่างในชุดคลุมยังคงพูดต่อไป
”เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเคยพูดประโยคนี้กลับใครบางคนเมื่อปีที่แล้วและคนคนนั้นก็ตาย!” หลิน เทียนหลง หัวเราะอย่างเย็นชา
”ไม่ใช่ท่านที่พูดแต่เป็น ซู ฉิง ข้าพูดถูกไหม?”
”เจ้ารู้ได้ยังไง?”
”ข้ารู้มากกว่านั้นเช่นแผนการของท่านเกี่ยวกับแดนเหนือ…”
”หุบปาก!เจ้ารู้เรื่องเหล่านี้ได้ยังไง?!” ท่าทีของ หลิน เทียนหลง เปลี่ยนไป ถ้วยน้ำชาในมือของเขาแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้น น้อย
”ไม่ว่าซู ฉิง รู้อะไร พวกเราก็รู้” ร่างนั้นพูดออกมาด้วยความเจ็บปวด
”หมายความว่าอะไร?หรือ ซู ฉิง…” หลิน เทียนหลง ตกตะลึง
”ฝ่าบาทเดาได้ถูกต้อง ดังนั้นท่านน่าจะรู้ว่า ซู ฉิง จะทำอะไรต่อไป เขาทำเพื่อช่วยชีวิตตัวเอง”
”เจ้าอยากให้ ซู ฉิง เผยสิ่งที่ข้าทำในแดนเหนืองั้นหรือ? ใครจะเชื่อกัน?”
”ไม่ แต่ถ้าผู้นำของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ ฉือ เฮา เป็นคนพูดล่ะ ท่านคิดว่าทุกคนจะเชื่อไหม?”
”เจ้า…”
”มาคุยถึงการร่วมมือกันเถอะฝ่าบาท ถ้าท่านร่วมมือ พวกเราจะทิ้ง ซู ฉิง โดยไม่ลังเล ท้ายสุดตำแหน่งองค์รัชทายาทของท่านจะไม่เปลี่ยนแปลง ”
”ข้าจะเชื่อเจ้าได้ยังไง?”หลิน เทียนหลง ถามด้วยความตึงเครียด
”ฝ่าบาทดูเหมือนจะไม่มีทางเลือก”
”ไม่ข้าสามารถฆ่าเจ้าพร้อมทั้งเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของ ซู ฉิง ให้ท่านพ่อรู้ ท่านพ่อต้องเชื่อข้าแน่นอน!”
”งั้นท่านจะรออะไรอยู่ล่ะ?”
”เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้างั้นหรือ?”
”แน่นอนว่าท่านกล้าแต่ข้าคิดว่าท่านจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน เพราะอย่างแรกคือท่านไม่สามารถฆ่าข้าได้ อย่างที่สองการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของ ซู ฉิง จะทำให้องค์จักรพรรดิสูญเสียความเชื่อใจ ถ้ามันเป็นอย่างนั้นท่านจะทรงอำนาจเหมือนเก่าได้ยังไงกัน? หรือท่านจะยอมแพ้ที่จะแย่งชิงบัลลังก์ และกลับไปเป็นองค์ชายที่มีชีวิตอันสงบสุขแทน?” ร่างนั้นถามอย่างตรงไปตรงมา
”องค์ชายที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข?”หลิน เทียนหลง เอนตัวไปเล็กน้อย แน่นอนการเป็นองค์ชายที่ใช้ชีวิตสุขสบายไปวันๆย่อมเป็นที่อิจฉาของผู้คน
แต่
เขาอยู่ในราชวงศ์
ตั้งแต่เกิดมาเขามีความสุขอยู่กับความร่ำรวย และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งองค์จักรพรรดิ เขาจะกลับไปเป็นองค์ชายแบบนั้นได้ยังไงกัน?
ทรัพย์สมบัติและเงินทองเป็นงานของเหล่าคนชั้นล่างไม่ใช่ของราชวงศ์ นั่นเพราะว่าพวกเขามีสิ่งเหล่านี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว
ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีจุดมุ่งหมายในชีวิตเลย
สิ่งเดียวที่จะเติมเต็มความต้องการของเขาได้คือตำแหน่งนี้ตำแหน่งที่สามารถควบคุมโลกได้ อำนาจที่สามารถตัดสินความเป็นความตายของทหารและผู้คนนับล้าน
”ใครจะมาสนว่าข้าเป็นองค์ชายแบไหน?”หลินเทียนหลง ตอบกลับพร้อมกำหมัดของเขาแน่น
”แน่นอนแต่ว่าเกี่ยวกับ ฟาง เจิ้งจือ? ฝ่าบาทยังอยากให้เขามีชีวิตอยู่งั้นหรือ?”เขาพยักหน้าและกล่าวเตือนองค์ชทายาท
”ทำไมข้าถึงต้องกลัวเขา?”
”ฝ่าบาทท่านไม่กลัวเขาจริงๆหรือ? ก่อนที่ ฟาง เจิ้งจือ จะเข้าเมืองหลวง ท่านก็พูดไว้แบบนี้? แต่สุดท้ายเกิดอะไรขึ้นกัน?”
หลินเทียนหลง เงียบลงอีกครั้ง
ในฐานะองค์รัชทายาทแห่งวังตะวันออกจักรพรรดิองค์ต่อไปของอาณาจักรเซี่ย ดูเหมือนมันเป็นเรื่องที่ดูหมิ่นเขามากๆ ที่หาว่าเขากลัว ฟาง เจิ้งจือ ผู้ต่ำต้อย
แต่ความจริงที่ว่าคนๆนี้ผู้ที่เกิดในหมู่บ้านธรรมดา ทำให้เขากังวลใจครั้งแล้วครั้งเล่า
เขาไม่กลัว!
แต่เขาไม่ต้องการให้ฟาง เจิ้งจือ มีชีวิตอยู่
”เจ้า…มีวิธีฆ่า ฟาง เจิ้งจือ หรือไม่?”หลิน เทียนหลง มองไปที่ชายคนนั้นแล้วถามเขา
”แน่นอนฟาง เจิ้งจือ จะต้องตายแต่ไม่ใช่ในตอนนี้” ร่างนั้นพยักหน้าและส่ายหัว
”หมายความว่ายังไง?”
”ในตอนนี้ฝ่าบาทยังเป็นแค่องค์รัชทายาท แต่เมื่อฝ่าบาทได้ควบคุมโลก ท่านจะยังคงเป็นกังวลถึงความเป็นความตายของ ฟาง เจิ้งจือ อยู่อีกหรือไม่?”คนๆนั้นเอ่ยถาม
”โลก?ฮ่าฮ่า…โลกเป็นของข้ามานานแล้ว ข้าคือองค์รัชทายาท จักรพรรดิองค์ต่อไปของอาณาจักรเซี่ย!”
”ใช่แล้วฝ่าบาท!”ร่างนั้นพยักหน้ารับอย่างจริงจัง
”เจ้าคิดอย่างนั้นหรือไม่?”
”แน่นอน”
”ทำไมล่ะ?พูดเหตุผลมา!”
”ถ้าไม่เป็นท่านข้าคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้”
”ฮ่าๆ … เจ้าตอบได้ดี ในอีกสองวัน การทดสอบระดับจักรพรรดิจะเริ่มขึ้น และผู้คนมากมายก็จะสนใจแต่เรื่องนั้น”
”นั่นหมายความว่าฝ่าบาทจะร่วมมือกับพวกเรางั้นหรือ?”
”ข้าจะไม่เปิดเผยตัวเองจะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับเจ้า”
”ฮ่าฮ่าแน่นอน!”ร่างนั้นพยักหน้าและค่อยๆเดินไปที่กำแพง เมื่อสัมผัสกำแพงร่างของเขาก็พลันหายไปในกำแพ ทันที “ฝ่าบาท โปรดอย่าลืมข้อตกลงของพวกเรา!”
…
เมื่อฟาง เจิ้งจือ ออกจากเรือนรับรองทางใต้ อาทิตย์ก็ใกล้จะขึ้นแล้ว แน่นอนว่าเขาไม่ได้มีธุระที่ต้องจัดการที่นั่น เพียงแต่เขาไม่ได้นอนมากกว่าหนึ่งวันและอ่อนเพีลยมาก
ดังนั้น…
เขาจึงงีบหลับที่เรือนรับรองทิศใต้
มันเป็นเหตุผลง่ายๆ
ฉานยู่ มองดู ฟาง เจิ้งจือ อยู่เงียบๆในขณะที่เขากำลังหลับ แม้กระทั่ง ฟาง เจิ้งจือ ตื่นขึ้นมาและออกจากเรือนรับรองไป นางก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดกับเขาสักคำ
ฟางเจิ้งจือ ออกมาด้วยความสดใส
แต่ผู้คนโดยรอบต่างตกใจ……..ไอรีนโนเวล
พวกเขามองดูขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ เดินออกมาจากเรือนรับรองทางใต้อย่างเปิดเผย ด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ
”เรือนรับรองทิศทางใต้…ฟาง เจิ้งจือ เดินออกมาจากเรือนรับรองทิศทางใต้?!”
”นั่นมันเรือนรับรองทิศที่องค์หญิงอยู่เขาออกมาจากที่นั่นได้ยังไง?”
ผู้บังคับบัญชาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นแต่เขาไม่สามารถถามออกไปได้
และแน่นอนว่าฟาง เจิงจือ ไม่คิดจะอธิบายตัวเอง นอกจากนี้ เขาจะอธิบายยังไง?จะบอกว่าเขาเพียงงีบหลับในเรือนรับรองทิศทางใต้เท่านั้นรึ? ไม่มีทาง นั่นเป็นไปไม่ได้?
แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
”ดูเหมือนว่าวู่ จวี้เอ๋อ จะทำงานได้ดีมาก!”ฟาง เจิ้งจือ พึมพำพร้อมกับเผยรอยยิ้ม
ข่าวลือ
แม้ว่ามันจะไม่สามารถฆ่าใครในทันทีได้เฉกเช่นคมดาบแต่ก็สร้างแรงกดดันได้อย่างมหาศาล
เมื่อเทียบกับปีก่อนฟาง เจิ้งจือ เข้าใจขึ้นอย่างมาก สำหรับทิศทางและเป้าหมายในการฝึกของเขา
และ…
นอกจากนี้ในเรื่องของการวางยุทธศาสตร์
เขามีข้อมูลมากมายที่รวบรวมจากแหล่งต่างๆ อย่างต่อเนื่องและสิ่งนี้ทำให้เขารู้หลายสิ่งหลายอย่างที่คนอื่นไม่รู้
ดังนั้นเขาเชื่อว่ามันไม่ยากที่จะบรรลุสิ่งต่างๆ
แต่วู่ จวี้เอ๋อ ไม่รู้สึกเช่นนี้
นางรู้สึกว่าฟาง เจิ้งจือ ทำในสิ่งที่แตกต่างเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ นั่นจึงได้ผลที่แตกต่างออกไปทั้งยังมีความสมบูรณ์แบบ
”การทดสอบระดับจักรพรรดิกำลังจะเริ่มใหม่แล้วงั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ เงยหน้ามองท้องฟ้าพร้อมกับคิดไปด้วย
เขาจำได้ว่าในการทดสอบระดับจักรพรรดิครั้งก่อน
โลกแห่งเซียน!
ตอนนั้นฟาง เจิ้งจือ ได้เผชิญหน้ากับผู้ที่เขาไม่อาจเอาชนะได้ หยิง ซาน… นอกจากนี้เขายังได้รับดาบมาจากโลกแห่งนั้น
ดาบที่ติดตามเขามาตลอดจนถึงทุกวันนี้
ในพริบตาสองปีผ่านไปผู้คนมากมายได้มาที่เมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการทดสอบ
คนเปลี่ยนไปแต่กฎยังคงเหมือนเดิม
ไม่!
มีคนหนึ่งที่ยังเหมือนเดิม!
”หนานกงมู่!” ฟาง เจิ้งจือ เลื่อนสายตาไปมองยังร่างที่ยืนสงนิ่งอยู่ด้านหน้าเขา
ชุดของเขาเรียบๆเหมือนสองปีที่แล้วไม่มีผิด
แววตาของเขาก็เช่นกัน
แน่นอนมีความแตกต่าง บางอย่าง ใบหน้าของเขามีแผลเป็นลึกสองแผลเพิ่มขึ้นมา
แต่มันไม่ได้เกิดจากดาบหรือมีด
แต่เป็นจากสัตว์ป่า!
กรงเล็บอันแหลมคมของสัตว์ร้ายได้ทิ้งรอยแผลเป็นเหล่านี้ไว้
”นานแล้วสินะ”เสียงแผ่วเบาออกมาจากปากของเขา
เพจหลัก: Gate of god TH