ตอนที่ 568 ชายที่สวมผ้าคลุมหน้า
มังกรทุกตัวย่อมมีจุดสำคัญที่ไม่อยากให้ใครแตะต้องสำหรับ หลิน เทียนหลง ก็คือห้องหนังสือของเขา เพราะว่ามันเป็นสถานที่ประชุมหารือสิ่งต่างๆ
หรือก็คือ…
ห้องหนังสือก็คือหัวใจของวังตะวันออก
ถ้าหากอาคารถูกวางเพลิงไปมั่วๆล่ะก็หลิน เทียนหลง จะเสียหน้าเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นห้องหนังสือ มันราวกับเขาถูกตบหน้าอย่างจัง
พวกของใช้ต่างๆสามารถหามาทดแทนใหม่ได้ไม่ยาก แต่สำหรับในห้องหนังสือนั้นมันไม่ใช่
ปิงหยาง เข้าใจเรื่องนี้อย่างถ่องแท้
ดังนั้นนางจึงไม่เลือกวางเพลิงที่ห้องหนังสือแต่นางไม่คิดเลยว่า ฟาง เจิ้งจือ จะตั้งเป้าหมายได้อย่างพอเหมาะพอเจาะเช่นนี้
เหวินเต๋าเปา กำลังสับสน
ความจริงแล้วเขาเห็นฟาง เจิ้งจือ วิ่งไปคนละทางแต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะวางเพลิงที่ห้องหนังสือ
”ห้องหนังสือกำลังลุกไหม?องค์รัชทายาท …คงกำลังเป็นบ้าแน่”
”แน่นอน!”หนานกงมู่ พยักหน้าขณะที่เขาตอบ เหวิน เต๋าเปา แต่เขาเองก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกัน
เพราะเขารู้จักนิสัยของฟาง เจิ้งจือ ดี เรื่องนี้คงไม่ใช่แค่ความบังเอิญง่ายๆแน่
การกระทำของฟาง เจิ้งจือ เกิดจากความตั้งใจ เขาจะไม่ทำอะไรโดยที่ไม่มีเหตุผลและยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาไม่ชอบความเสี่ยง
แต่ห้องหนังสือเป็นที่แบบไหนกัน?
มันเป็นหัวใจของวังตะวันออกอยู่ที่ใจกลางของวัง มันเป็นสถานที่ที่มีการป้องกันหนาแน่นที่สุด
และสำหรับฟาง เจิ้งจือ ในการกระทำเช่นนี้มันเป็นความเสี่ยงอย่างที่สุด
ห้องหนังสือ…
ทำไมเขาถึงต้องเผาห้องหนังสือ?
หนานกงมู่ ลองเดา แต่ก็ไม่เข้าใจ
เหยียนซิว นั้นตรงข้ามกับคนอื่น เหมือนว่าเขาจะกังวลอยู่เล็กน้อยการคาดเดาของเขาต่างไปจาก ปิง หยาง และ หนานกง มู่ แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจถึงเรื่องที่ ฟาง เจิ้งจือ เผาห้องหนังสือ
แต่ตอนนี้…
การวางเพลิงครั้งนี้ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถหนีได้ยังไงกัน?
”ข้าต้องไปที่นั่น!”เหยียนซิว หายไปอย่างรวดเร็วหลังจากพูดจบ
มีร่างๆหนึ่งปรากฎตัวต่อหน้าเหยียน ซิว โดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
”เจ้าไปไม่ได้”เสียงของหนานกง มู่ ดังขึ้นอย่างสุภาพ เขาอธิบายเพียงแค่นั้น
และเหยียน ซิว ก็หยุด
เขากำมือแน่นพร้อมกับสีหน้าอันเย่อหยิ่งมีกลิ่นอายบางอย่างที่เปล่งออกมาจากร่างของเขา มันเป็นกลิ่นอายที่ชั่วร้าย
เมื่อเห็นสิ่งนี้เหวิน เต๋าเปา ก็กระวนกระวาย
ในช่วงเวลาแบบนี้ถ้า เหยียน ซิว กับ หนานกง มู่ ต่อสู้กันขึ้นมา ใครจะเป็นหยุดพวกเขากัน?พวกเขาไม่มีทีท่าจะใส่ใจทหารยามของวังตะวันออกแม้แต่น้อย
แล้วพวกเขาจะหนีได้อย่างไร?
”นายน้อยเหยียน…”เหวิน เต๋าเปา พยายามจะเข้าไปห้ามแต่เมื่อเห็นหน้าของ เหยียน ซิว เขาก็ถอยกลับไปทันที
และไม่มีความคิดจะเข้าไปขวางอีก
”เราจะรอที่นี่!”เหยียนซิว พูด
”ดี”หนานกง มู่ ตอบกลับ
ทั้งสองพูดไม่มากและนิ่งเงียบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่เหวิน เต๋าเปา บอกได้เลยว่า…
เหยียนซิว ยังสงบใจไม่ได้
แต่เขาก็ต้องระงับมันเอาไว้
…
แขกพิเศษทั้งสี่คนของวังตะวันออกกระจายกันไปทั้งสี่มุม
จากนั้นพวกเขาเห็นคน
ผู้ที่สวมชุดสีดำใบหน้ามีผ้าคลุมปกปิดอยู่
ร่างผอมๆของเขาสะท้อนเป็นเงาจากแสงของดวงจันทร์
แขกทั้งสี่ต่างประหลาดใจ
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อไม่เพียงแต่เขาไม่หลบหนีออกไป เขายังยืนอยู่ที่ทางเข้าของห้องหนังสือ
นั่นคือ..
”เจ้าเป็นคนวางเพลิงงั้นรึ?”หนึ่งในพวกเขามองไปที่ชายคนนั้นและเอ่ยถามขึ้นแม้ว่าจะมั่นใจในตัวตนชายคนนั่นอย่างมากแล้วก็ตาม
”แม้แต่คนที่ตาบอดยังสามารถบอกได้เจ้าอยากจะถามเช่นนั้นจริงๆหรือ?”ชายที่สวมผ้าคลุมหน้าเย้ยหยันเขา
”เข้าใจแล้วเจ้าแน่ใจแล้วหรือที่ไม่คิดจะหลบหนี?”เขาพยักหน้ารับแล้วเอ่ยถามอีกครั้ง
”ทำไมข้าต้องหนีด้วย?”ชายที่สวมผ้าคลุมหน้าตอบกลับ
”ดูเหมือนว่าเจ้าไม่สนใจชีวิตอีกต่อไปแล้วงั้นต่อไปเจ้าจะยอมจำนนรึ พวกเราควรช่วยเจ้าไหม?”แขกคนนั้นพยักหน้าอีกครั้ง เพราะดูเหมือนเขาจะเข้าใจในตัวชายคนนี้
…
จะมีใครคาดหวังที่จะมีชีวิตอยู่หลังจากที่เผาวังตะวันออกอีกกัน?
”เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ?”ชายที่สวมผ้าคลุมหน้ายิ้มเยาะ
”พวกเราจะไม่ถามถึงตัวตนของเจ้า!”แขกคนหนึ่งพูดขึ้นหลังจากคิดบางอย่าง
เขายอมแลกชีวิตตัวเอง!
ทุกยุคสมัยของราชวงศ์จะมีผู้ชายเช่นนี้
และมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกพวกเขาคิดว่านี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะใช้กับการต่อสู้ที่มีความเสี่ยง
ในสายตาของเหล่าแขกชายผู้สวมผ้าคลุมหน้าคนนี้เป็นคนที่เสียสละ
เขาถูกล้อมรอบจากทั้งสี่ทิศเนื่องจากพวกเขาไม่ต้องการจะฆ่าเขาในทันที พวกเขาเพียงรอ…
รอให้หลิน เทียนหลง ได้คุยกับเขา
ไฟยังคงลุกไหม้
สายลมพัดผ่านทำให้เกิดประกายไฟขึ้นที่กิ่งไม้ต้นไม้ จนไม่สามารถควบคุมได้
ทหารยามนับไม่ถ้วนล้อมตัวเขา
พวกทหารไม่ได้ยืนนิ่งเฉยเหมือนกับแขกทั้งสี่คนพวกเขายังคงพยายามจะดับไฟแม้ว่าจะได้เห็นสิ่งนี้
ในที่สุดหลิน เทียนหลง ก็มาถึง
ตัวเขาแข็งค้างไปชั่วขณะหนึ่งเมื่อเขาได้เห็นชายที่สวมผ้าคลุมหน้า ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นในทันที
ราวกับว่านักล่าได้เห็นเหยื่อที่กำลังจะตาย
”ข้าต้องการเขาแบบตัวเป็นๆ!”หลินเทียนหลง พูดขึ้น
เพราะในตอนที่เขาเห็นชายคนนี้เขาต้องการจะทรมานชายคนนี้ และค่อยๆทรมานจนมันเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย
”รับทราบ!”แขกทั้งสี่คนตอบรับ
แขกคนหนึ่งก้าวไปข้างหน้าทันใดนั้นเองแสงสีน้ำเงินก็เปล่งประกายในแววตาของเขา ก่อนที่จะมีเปลวไฟปรากฎตัวขึ้นบนตัวเขา
เปลวไฟสีน้ำเงิน!
เปลวไฟนี้เรียกว่า”เปลวไฟแห่งความตาย”
ชื่อของเปลวไฟนี้ถูกตั้งมาจากคุณสมบัติของมันเปลวไฟแห่งความตาย นอกจากมันจะสามารถเผาผิวหนังเลือดเนื้อจนถึงกระดูกแล้วนั้น ผู้ที่โดนไฟชนิดนี้จะรู้สึกเหมือนมีลาวาเผาไหม้อยู่ในร่างกาย
เต๋าแห่งการสรรค์สร้างสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆได้มากมาย
เต๋าบางชนิดก็เกิดจากการผสมกับของเต๋ามากกว่าสองอย่าง
เช่นเต๋าของเปลวเพลิงแห่งความตาย…
ในฐานะแขกของวังตะวันออกพวกเขาจะเป็นแค่คนธรรมดาได้ยังไง?
แขกที่เหลือก็มองไปที่ชายคนนั้น
”นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าจะพูดยอมแพ้ซะแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”แขกคนนั้นพูดขึ้นมาด้วยความหยิ่งยโส มันมาจากการที่เขาอยู่ในสงครามมาหลายปี
”โอ้หยุดพูดเรื่องไร้สาระเถอะ” ชายใต้ผ้าคลุมหน้าตอบกลับมาด้วยความเจ็บปวด แต่ท่าทีของเขากลับเรียบเฉยราวกับสายน้ำ
แขกคนนั้นไม่ได้พูดอะไรต่อ
จากคำพูดของชายคนนี้เขาคงไม่ต้องเมตตาอะไรอีกต่อไป?
เปลวไฟสีน้ำเงินเข้มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
เปลวไฟพุ่งเข้าหาชายสวมผ้าคลุมหน้าพร้อมกับร่างกายของแขกคนนั้นที่กลายเป็นแสงและผสานรวมกับเปลวไฟนั้น
เขาไม่คิดจะใช้แต่กำลังเขาต้องใช้สมองด้วย!
เขาไม่เคยคิดจะประมาทคู่ต่อสู้เขาเตรียมพร้อมจะโจมตีและป้องกันในเวลาเดียวกัน ถ้าฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งกว่าเขา เขายังมีโอกาสจะหนี
แต่ถ้าคู่ต่อสู้ของเขาอ่อนแอกว่า..
เปลวไฟแห่งความตายจะทรมารเขาจนตายในที่สุด
เปลวไฟโจมตีอย่างรวดเร็ว
มันปรากฎด้านหน้าชายสวมผ้าคลุมหน้าก่อนจะล้อมเขาไว้อย่างรวดเร็ว
แขกอีกสามคนรู้สึกประหลาดใจ
แค่นี้เองรึ?
มันไม่อ่อนแอเกินไปหน่อยงั้นรึ?!
”ไม่!เขาคงอยากตายอยู่แล้ว!” หนึ่งในแขกไม่คิดจะเดาอะไรอีกต่อไป
”ไม่ต้องกังวล!”แขกที่เข้าโจมตีพยักหน้า
ตาย!
เปลวไฟสีน้ำเงินเข้มรอบชายสวมผ้าคลุมหน้าไม่ได้ถอยหนีนั่นหมายความว่าเขาจะต้องตายอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันอ้อนวอนแน่นอน
แต่น่าเศร้า…
ชายสวมผ้าคลุมหน้ายังคนมีท่าทีนิ่งสงบเช่นเคย
หลังจากสูดหายใจลึกๆ………..ไอรีนโนเวล
แขกทั้งหมดรู้สึกสับสนเล็กน้อย
เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อถูกเปลวไฟแห่งความตาย แม้แต่ผู้ที่แข็งแกร่งก็ไม่สามารถทนได้ แต่ชายสวมผ้าคลุมหน้าผู้นี้กลับไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมาแม้แต่น้อย
เขาไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
ราวกับเขา…
เป็นแค่รูปปั้น
หรือว่าเขาตายไปแล้ว!
แขกทุกคนต่างสงสัยร่างของเขาถอยกลับมาพร้อมกับถอนเปลวไฟที่เผาชายสวมผ้าคลุมหน้าอยู่
แล้ว…
เขาเห็นดวงตาคู่หนึ่ง
ดวงตาของชายสวมผ้าคลุมหน้าที่ยังคงสงบนิ่งเช่นเคยเขามองไปยังแขกเงียบๆด้วยสายตาอันเยาะเย้ย
”เจ้า…ไม่เป็นไรเลยงั้นหรือ?”แขกมองไปที่ชายสวมผ้าคลุมหน้า เขาไม่เชื่อว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น
”ก็คงงั้น”ชายสวมผ้าคลุมหน้าตอบกลับเรียบๆ
”เป็นไปได้ยังไง?มันเป็นเปลวไฟแห่งความตายที่สามารถเผากระดูกและร่างกายของเจ้าให้เป็นจุนได้!” ร่างกายของแขกคนนั้นสั่นด้วยความไม่เชื่อ
”เจ้าอยากจะลองอีกครั้งไหมล่ะ?”ชายวัยกลางคนดูเหมือนจะเห็นด้วย พร้อมกับแนะนำขึ้นมา
”เจ้า…ข้าจะฆ่าเจ้า!”แขกคนนั้นในที่สุดก็ทนไม่ไหว เขาไม่คิดว่าความเมตตาของเขาจะถูกดูถูก
ตอนนี้เขาต้องการฆ่าจริงๆ
ถ้าเขาฆ่าชายสวมผ้าคลุมหน้าคนนี้ไปจริงๆหลิง เทียนหลง คงไม่ว่าอะไรเขาใช่ไหม?
ด้วยความคิดนี้เขาสร้างเปลวไฟขึ้นมาอีกครั้งครั้งนี้มันรุนแรงกว่าเดิมถึงสามเท่า
ก่อนที่มันจะพุ่งไปทางชายสวมผ้าคลุมหน้าอีกครั้ง
มันปกคลุมทั่วตัวชายสวมผ้าคลุมหน้าอีกครั้งครั้งนี้แขกไม่คิดจะแสดงความเมตตาใดๆอีกแล้ว
ทันใดนั้น…
ชายสวมผ้าคลุมหน้าก็เคลื่อนไหว
เขาเดินช้าๆราวกับกำลังเดินเล่นอยู่
และเมื่อชายสวมผ้าคลุมหน้าเคลื่อนไหวเปลวไฟรอบร่างกายของเขาก็อ่อนลง
เขาเดินออกจากเปลวไฟ!
ไม่มีอาการบาดเจ็บแม้แต่ปลายเล็บ!
”เจ้า…เป็นไปได้อย่างไร?!” แขกคนนั้นใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ มันเป็นอะไรที่แปลกประหลาดสำหรับเขามาก เขาตกใจมากจนคิดไม่ออก
และสิ่งที่ตามมายิ่งแปลกไปกว่านั้น
หลังจากชายสวมผ้าคลุมหน้าเดินออกจากไฟดวงตาของเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเปลวไฟสีน้ำเงินถูกจุดขึ้นมาในตาของเขา ก่อนที่มันจะขยายใหญ่ขึ้นจนคลอบคลุมนัยตาทั้งหมด
จากนั้น…
”ฟุบ!”
เปลวไฟปรากฏขึ้นข้างๆชายที่สวมผ้าคลุมหน้ามันเป็นเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มเดียวกับแขก แต่ มันแข็งแกร่งและทรงพลังกว่ามาก
เพจหลัก: Gate of god TH
Gate of God – ตอนที่ 568 ชายที่สวมผ้าคลุมหน้า
Posted by , ? Views, Released on September 29, 2022
Gate of God
GoG, 神门Adventure Comedy Fantasy Harem Martial Arts Xianxia กำลังภายใน นิยาย จีน นิยาย ผจญภัย นิยาย ศิลปะการต่อสู้ นิยาย แฟนตาซี นิยาย แอคชั่น
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง
Recommended Series
Comment
Facebook Comment
