Gate of God – ตอนที่ 579 หัวหน้าผู้คุมสอบ!

ฟางเจิ้งจือ…
หัวหน้าผู้คุมสอบ?
มันไม่น่าเชื่อเป็นอย่างยิ่ง
การสอบระดับจักรพรรดินั้นมีความสำคัญมากในเมืองหลวงผู้ที่ผ่านการทดสอบนี้จะสามารถกลายเป็นเจ้าหน้าที่ในสภาได้และ…ผู้คุมสอบถือว่าเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสิน
เขาสามารถทำลายหรือสร้างอนาคตให้ผู้เข้าสอบได้จากคำพูดเพียงประโยคเดียว
”มันต้องเป็นภาพลวงตาแน่ๆ!”
”ฟางเจิ้งจือ จะเป็นหัวหน้าผู้คุมสอบได้ยังไง? เขาอายุยังไม่ถึง 18 ปีด้วยซ้ำ!”
”นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่หัวหน้าผู้คุมสอบอายุน้อยขนาดนี้!”
ผู้เข้าสอบมองไปยังฟาง เจิ้งจือ ที่ยืนอยู่ตรงกลางของเหล่าผู้คุมสอบ… มันเป็นเรื่องเหลวไหลที่สุดที่พวกเขาเคยเห็น
”ท่านฟางพวกเราจะเริ่มได้เลยหรือไม่?” ขณะที่ผู้เข้าสอบกำลังพูดคุยกันนั้นเอง เสียงของผู้คุมสอบก็ดังขึ้น
”ได้เจ้าเริ่มได้เลย” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
”รับทราบ!”ผู้คุมสอบรับกระดาษสีทองจากมือ ฟาง เจิ้งจือ ไป ก่อนที่เขาจะกระแอมเบาๆ “จากคำสั่งของฝ่าบาท ฟาง เจิ้งจือ นั้นได้รับหน้าที่เป็นผู้ส่งสารหลวงรวมถึงหัวหน้าผู้คุมสอบเช่นกัน นอกจากนี้เขายังได้ถูกแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสองแล้ว!”
”เจ้าหน้าที่ระดับสอง!”
”โอ้เหลือเชื่อเขาเป็นหัวหน้าผู้คุมสอบจริงๆ!”
”ทั้งๆที่อายุน้อยกว่าสิบแปดปีนอกจากนี้ยังได้ถูกแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสอง! มันแทบจะเทียบเท่ากับรัฐมนตรีทั้งหกแล้ว!”
ผู้คนต่างตกตะลึงมันเป็นเรื่องที่พวกเขาไม่ได้คาดหมายแม้แต่น้อย
นั่นเป็นเพราะ…
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา…
ฟางเจิ้งจือ ยังเป็นแค่อาชญากร แต่วันนี้ทุกอย่างกลับพลิกผัน
มันจะให้พวกเขาทำใจได้ยังไง?
แต่ความจริงก็อยู่ตรงหน้าของพวกเขา
ทุกคนมองไปที่ฟาง เจิ้งจือ ที่ตอนนี้เป็นผู้กุมชะตาของพวกเขา
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจของพวกเขา
ผู้ชนะทั้งสองด้านของการทดสอบระดับจักรพรรดิรวมถึงระดับสภามันเป็นความสำเร็จสูงสุดที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของอาณาจักรเซี่ย
นอกจากนี้เขายังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาณาจักรเซี่ยชนะในสงครามแดนใต้
เหล่าผู้เข้าสอบต่างมองหน้ากันถ้าพวกเขาผ่านการทดสอบนี้พวกเขาก็ต้องขอบคุณ ฟาง เจิ้งจือ…
แค่คิดว่าต้องปรึกษาหรือขอบคุณคนที่มีอายุน้อยกว่า…
เหล่าผู้เข้าสอบต่างรู้สึกหดหู่และรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าขึ้นมาทันที
”พวกเรามีเวลาไม่มากเริ่มการทดสอบเลยเถอะ!”
ความจริงแล้วเขาไม่คิดที่จะเป็นหัวหน้าผู้คุมสอบเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม…
มันเป็นคำขอร้องขององค์จักรพรรดิ
เขาได้ยอมรับของขวัญที่องค์จักรพรรดิมอบให้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับมัน
”รับทราบ!”ผู้คุมสอบพยักหน้าก่อนจะตีระฆังเพื่อเป็นสัญญานว่าการทดสอบได้เริ่มขึ้นแล้ว
ก้อง!
เสียงดังไปทั่วโรงเรียนหลวง
ทุกคนจ้องเขม็งไปที่ฟาง เจิ้งจือ อีกครั้ง แต่ยังไงมันก็เป็นความจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เขามีความสามารถพอที่จะได้รับตำแหน่งนี้
นั่นเพราะเขาเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้คะแนนเต็มในหกการทดสอบ
แค่เรื่องนี้อย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว
หาคนเช่นนี้ไม่สามารถเป็นหัวหน้าผู้คุมสอบได้แล้วใครละที่จะเหมาะสม?
ทันทีที่เสียงระฆังดังขึ้นเหล่าผู้คุมสอบก็แยกออกเป็นสองแถวโดยมีฟาง เจิ้งจือ อยู่ตรงกลาง
ตามกฎแล้วผู้เข้าสอบจะต้องแสดงบัตรเข้าสอบก่อนเข้าไปด้านใน
ผู้เข้าสอบเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบยืนบัตรให้ผู้คุมสอบก่อนที่พวกเขาจะก้มหัวให้ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความเคารพ ฟาง เจิ้งจือ พยายามทำท่าทีขึงขังและเข้มงวด
”อืม…”
”ดีมาก!”
”ดีมาก!ขอให้เจ้าได้คะแนนดีๆ!”
จากคำอวยพรของฟาง เจิ้งจือ มันทำให้พวกเขามีความมั่นใจขึ้นเล็กน้อย
จนมาถึงหนานกง มู่ เขาเองก็ก้มหัวเคารพ ฟาง เจิ้งจือ เหมือนคนอื่น
หลังจากนั้นเขาก็รอคอยคำพูดให้กำลังใจจากฟาง เจิ้งจือ
เขารออยู่…
ไม่นานเสียงก็ดังขึ้นข้างๆหูของเขา
”เจ้าอยากจะเป็นที่หนึ่งหรือไม่?แค่วางวงกลมสามวงไว้บนกระดาษของเจ้า!”
หนานกงมู่ แทบล้มหน้าทิ่มพื้น เขามองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ที่กำลังยิ้มร่าอยู่
มันหมายความว่าอะไรกันหัวหน้าผู้คุมสอบกลับจะช่วยผู้เข้าสอบโกง หนานกง มู่ หมดคำพูด
ชายผู้นี้ไร้ยางอายอย่างแท้จริง
ไม่นานเขาก็พูดออกมา..Aileen-novel
”ข้าต้องการพิสูจน์ด้วยความสามารถของตัวเอง”หนานกง มู่ กัดฟันพูด
”อืมน่ายกย่องอย่ามาโทษข้าที่หลังละว่าข้าจำกระดาษข้อสอบของเจ้าไม่ได้และให้เจ้าไม่ผ่าน ฮ่าฮ่า” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหน้า
หนานกงมู่ ไม่ตอบกลับเขาเดินเข้าไปด้านในด้วยใบหน้าที่มืดมน
ผู้เข้าสอบที่ได้ยินทั้งสองคนพูดก็เช่นกันพวกเขาต่างมีสีหน้าอันมืดมน พวกเขาจะได้อันดับหนึ่งจากการวาดรูปวงกลมจริงๆงั้นหรือ?
ไม่มีใครสามารถตอบคำถามนี้ได้
อย่างไรก็ตามข่าวนี้กระจายไปทั่วโรงเรียนหลวงและไปถึงหูของเหล่าเจ้าหน้าที่อย่างรวดเร็ว
”ไร้ยางอาย!เหตุใดองค์จักรพรรดิจึงเลือกเขาเป็นหัวหน้าผู้คุมสอบ? มันเป็นการดูหมิ่นการทดสอบระดับจักรพรรดิที่ถูกจัดมาเนิ่นนานชัดๆ!” หนึ่งในเจ้าหน้าที่พูดขึ้นมาด้วยความโกรธ
โดยเฉพาะหลังจากข่าวการวาดวงกลมถึงหูพวกเขาพวกเขารู้สึกถึงความอับอาย
”แต่ต่อให้เขาจะไร้ยางอายแค่ไหนแต่ความเข้าใจในกฎแห่งเต๋าของเขาต้องบอกว่าลึกซึ้งเป็นอย่างมากกว่าที่จะหาใครเทียบได้” เจ้าหน้าที่อีกคนพูดขึ้นมา
”ฮึ่มก็จริงถ้าหากดูที่ความเข้าใจในกฎแห่งเต๋า ข้าก็คิดว่าแม้แต่ หนานกง เฮา หรือ ฉือ กูเหยียน ก็ยังสู้ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้!”
เจ้าหน้าที่ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
แม้เขาจะหน้าด้านไร้ยางอายแค่ไหน
ความสามารถของเขาก็เป็นของจริง
การทำข้อสอบเสร็จทั้งหกฉบับในเวลาสี่ชั่วโมงนั้นเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจนไม่น่าจะเกิดขึ้นการที่จะบอกว่าเขาเก่งในด้านนี้ที่สุดจึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกแต่อย่างใด
”แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาเป็นผู้คุมสอบที่ดีนี่?นิสัย ความจริงจัง ชื่อเสียง ก็เป็นสิ่งสำคัญของหัวหน้าผู้คุมสอบ!” เจ้าหน้าที่บางคนยังไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
”ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไปตลอดเวลามันอาจจะไม่แย่ก็ได้ที่องค์จักรพรรดิจะลองอะไรใหม่ๆ มันก็นานแล้วที่สภาไม่ได้รับคนรุ่นใหม่เข้ามา” เจ้าหน้าที่อีกคนปลอบใจ
”ใช่แล้วฟาง เจิ้งจือ เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสองและได้รับมอบหมายตำแหน่งหัวหน้าผู้คุมสอบโดยตรงจากองค์จักรพรรดิ นี่มันเทียบได้กับรัฐมนตรีทั้งหกในสภา!”
”ข้าเชื่อว่าตำแหน่งรัฐมนตรีทั้งหกคงอยู่ไม่ไกลจากฟาง เจิ้งจือ”
”ถ้าเป็นแบบนั้นมันคงแย่มากเป็นรัฐมนตรีรวมถึงเป็นหัวหน้าผู้คุมสอบที่ทำหน้าที่เฟ้นหาเจ้าหน้าที่เข้าไปทำงานในสภา นอกจากนี้เขายังเป็นที่โปรดปรานของทั้งองค์จักรพรรดิและองค์หญิง ปิง หยาง… จะมีใครสู้เขาได้อีกไหมในสภา?”
”พวกเราควรเลือกข้างให้ดีก่อนไหม?”
”ข้า…”
”ข้าขอโทษข้านึกได้ว่า ข้านึกได้ว่าลืมของบางอย่างไว้ที่บ้าน!”
”ข้าเองก็มีธุระที่ต้องรีบไปทำ!”
”ข้าเองก็ต้องไปแล้ว!”
”หมายความว่า…ไม่มีใครคิดจะจ่ายเงินเลยงั้นรึ?!”เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธดังขึ้น โต๊ะของเจ้าหน้าที่คนนั้นเต็มไปด้วยจานอาหารที่ว่างเปล่า ก่อนที่เขาจะลูบกระเป๋าเงินตัวเองด้วยใบหน้าที่ซีดขาว
…..ณ เมืองเหยียน วังหลวง
ขณะที่ทุกคนกำลังสนใจแต่การทดสอบระดับจักรพรรดิในวังกลับเงียบสงบอย่างไม่น่าเชื่อ
ทหารองครักษ์ในชุดสีทองต่างยืนอย่างเป็นระเบียบ
การประชุมสภาในตอนเช้าได้จบลงแล้วเจ้าหน้าที่ต่างกลับไปตั้งแต่ตอนก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น
สำหรับวังซึ่งมักจะเต็มไปด้วยผู้คน….
มันเป็นวันที่สงบสุขอย่างแท้จริง
”ในที่สุดเราก็สามารถพักได้หนึ่งวัน!”
”ตามปกติพวกเราจะต้องไปรับพวกเจ้าหน้าที่ที่ออกมาจากวังแม้แต่หนึ่งนาทีพวกเราก็ไม่ได้พัก! เห้อ!”
”โชคดีที่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาของการทดสอบระดับจักรพรรดิหลังจากวันนี้ การตรวจสอบกระดาษคำตอบพร้อมกับรายงานผลเป็นงานหนักที่รอพวกเราอยู่”
ขันทีที่รับผิดชอบคอยส่งสารในวังพูดคุยกันด้วยความเหนื่อยล้า
เหล่าคนหญิงรับใช้ก็ต่างยืนพักอยู่บริเวณที่มีแดดอุ่นๆไม่ร้อนเกินไป
”สบายเหลือเกิน!”
”เหล่านางสนมที่ล้วนกังวลแต่เรื่องการทดสอบระดับจักรพรรดิอย่างน้อยก็ทำให้พวกเรามีเวลาพัก!”
ตามปกติแล้วนั้นเหล่านางสนมนั้นใช้งานพวกนางหนักเป็นอย่างมากแต่วันนี้ต่างออกไป ดูเหมือนพวกนางจะละเว้นการกระทำเช่นนั้นไปวันหนึ่ง
พวกนางให้ความสนใจในการทดสอบระดับจักรพรรดิเป็นอย่างมาก
ส่วนใหญ่สมาชิกครอบครัวชั้นสูงของพวกนานงจะมีส่วนร่วมในการทดสอบถ้าพวกเขาผ่านการทดสอบแล้วได้กลายมาเป็นเจ้าหน้าที่ในสภามันก็เป็นประโยชน์สำหรับตัวพวกนางเอง
วังในวันนี้ดูสงบสุขมาก
ทุกอย่างดูสงบสุขเป็นพิเศษ
แต่ด้านบนของกำแพงวันนั้นมีร่างหนึ่งยืนอยู่นางมีท่าทีจริงจังแตกต่างจากเหล่าหญิงรับใช้และขันทีอย่างสิ้นเชิง
เกราะสีทองช่วยขับให้รูปร่างของนางโดดเด่นยิ่งขึ้น
ชื่อของนางสามารถทำให้ทุกคนหวาดกลัวได้
นางเป็นหัวหน้าองครักษ์หลวงเฉิน เฟยฮัว
นอกจากนี้นางยังเป็นสนมเอกขององค์จักรพรรดิ
”รายงานท่านแม่ทัพได้เวลาพักของท่านแล้ว!” ทันใดนั้นเองได้มีทหารคนหนึ่งรายงานนาง
เมื่อนางสวมชุดเกราะแล้วนั้นไม่ว่าใครก็ต้องเรียกนางว่าแม่ทัพแม้แต่องค์จักรพรรดิก็ตาม
”ข้าเข้าใจแล้ว”เฉิน เฟยฮัว พยักหน้ามองทหารคนนั้นด้วยใบหน้าอันนิ่งเฉย