Gate of God – ตอนที่ 626 ดาบผ่ามังกร

”ข้า…ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะ …” วู่ จวี้เอ่ฮ พูดติดขัด นางรู้ว่ามันสายเกินไปแล้ว
เห็นได้ชัดว่ามีมากกว่าสองเม็ดในขวดความจริงแล้ว นางพกมามากกว่าสองเม็ดและคิดจะหลอก ฟาง เจิ้งจือ
ตอนแรกนางคิดจะเทจากขวดให้เขาแค่สองเม็ดแต่นางไม่คิดเลยว่า ฟาง เจิ้งจือ จะคว้าขวดไปแล้วกรอกปากทั้งหมด
เมื่อฟาง เจิ้งจือ มาสัมผัสร่างของนางมันทำให้นางตื่นเต้นจนเสียสมาธิไปครู่หนึ่ง ทันทีที่เขาคว้าขวดยาไป
มันก็สายเกินไปแล้ว
”มีกี่เม็ด?”ฟางเจิ้งจือ ไม่มีเวลามาต่อว่านางแล้ว เขาแค่อยากจะรู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน
”สิบสอง!”วู่จี้เอ๋อ ตอบกลับ
”เชี่ย!ทำไมเจ้ามีเยอะขนาดนั้น!”ฟาง เจิ้งจือ จ้องไปที่ วู่ จวี้เอ๋อ พร้มกับอ้าปากค้าง สิบสองเม็ดเป็นจำนวนที่เยอะมาก
หนึ่งปีที่ผ่านมาตาเซียนเฒ่าบอกกับเขาว่ายาสวรรค์พักพิงสามารถยืดชีวิตของเขาออกไปได้สองถึงสามปี
ผ่านมาหนึ่งปีแล้วนั่นหมายความว่าเขาจะมีชีวิตได้อีกไม่ถึงสองปี นอกจากนี้เขากินเข้าไปแล้วสามเม็ด
และตอนนี้เขากินเข้าไปอีกสิบสองเม็ด?
หลังจากคำนวนร่าวๆแล้วก็เหลือเวลาน้อยกว่าครึ่งปีเสียอีก
นั่นหมายความว่า…
เขาอาจจะตายเดือนหน้าหรือไม่ก็พรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ
เหงื่อไหลออกมาเต็มหน้าผากยาสองเม็ดอาจจะไม่ทำให้ต้องกังวลมากนัก แต่สิบสองเม็ดนี่ราวกับการฆ่าตัวตาย!
แต่เขาจะพูดอะไรได้?
เขากbนเข้าไปแล้วนอกจากนี้เขายังเป็นคนที่คว้ามากินเองด้วยซ้ำ แม้ วู่ จี้เอ๋อ จะหลอกเขามันก็ไม่สำคัญ
วู่จวี้เอ๋อ พูดไม่ออก ขณะที่น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากดวงตาของนาง แน่นอนว่านางกำลังเศ้รา
ฟางเจิ้งจือ ถอนหายใจแล้วหันมอง วู่ จวี้เอ๋อ และมองไปที่ราชาอสูร จิตสังหารพวยพุ่งจากร่างกายของเขา “เจ้าคือคนที่ทำให้ข้ากินยาผิด!”
”กินยาผิด?”
”เขาหมายถึงอะไร?”
กองทัพทลายภูผาและกองทหารเมฆาต่างสับสนในคำพูดของฟาง เจิ้งจือ
ราชาอสูรเองก็ตกใจเช่นกัน
เกี่ยวอะไรกับยา?
เขาแทบจะโจมตีไม่โดนฟาง เจิ้งจือ เลยแม้แต่น้อย
แต่เขารู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่อันตรายจากร่างกายของฟาง เจิ้งจือ
ถ้าเป็นครึ่งชั่วโมงก่อนราชาอสูรไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้มันต่างไป
หลังจากใช้พลังทั้งหมดไปในการต่อสู้กับปิง หยางเขาต้องฟื้นฟูร่างกายตัวเองเสียก่อน
เสียงฟ้าผ่าดังกึกก้องสายฟ้าส่องสว่างภายในก้อนเมฆ
จากนั้นสายฟ้านับไม่ถ้วนก็ผ่าลงมาจากท้องฟ้า สายฝนร่วงหล่นราวกับท้องฟ้ากำลังร่ำไห้
”ฟาง เจิ้งจือ เจ้าทำอะไร?”ราชาอสูรอ้าปากแข็งค้าง พร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นสายฟ้ามากมายผ่าลงมาที่ร่างกายของ ฟาง เจิ้งจือ
มันผ่าลงมาที่ดาบของเขา
ตูม!
ดาบสีม่วงส่องประกายสว่างขึ้นเรื่อยๆราวกับว่ากำลังกลืนกินท้องฟ้า
ในตอนนั้นทุกคนต่างหันมองที่ ฟาง เจิ้งจือ
”แข็งแกร่งมาก!”
”เขาแข็งแกร่งแค่ไหนกัน?”
”เขาอยู่ในระดบอภินิหารเขามีพลังขนาดนี้ได้ยังไง?”
กองทัพทลายภูผาและกองทหารเมฆาต่างสั่นกลัวอย่างไม่อาจห้ามได้พวกเขารู้สึกได้ถึงพลังของสวรรค์และโลก
ราวกับว่ามันรวมเข้าด้วยกัน
ความหวาดกลัวแผ่กระจายออกมาจากร่างกายของพวกเขา
พวกเขาจะควบคุมสติได้อย่างไร?
วู่จวี้เอ๋อ เองก็ตกใจมากเช่นกัน นางรู้ถึงผลข้างเคียงของยาสวรรค์พักพิงแต่สิ่งที่เห็นมันต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง.ไอรีนโนเวล.
ตูม!
หลังจากที่สายฟ้าผ่าลงมาที่ร่างของฟาง เจิ้งจือ อย่างต่อเนื่อง ดาบไร้ร่องรอยก็ขยายใหญ่ขึ้นจนบดบังท้องฟ้า
กลายเป็นดาบขนาดมหึมาที่มองเห็นด้วยตาเปล่าสายฟ้าหมุนวนรอบตัวดาบอย่างน่าสะพรึงกลัวแสงม่วงที่ส่องประกายย้อมสีของท้องฟ้า
”ราชาอสูรตายซะ!”ฟาง เจิ้งจือ พุ่งลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็วความเร็วที่น่ากลัวอย่างที่เกินจะหยั่งถึง
มังกรและสายฟ้าหมุนวนรอบตัวดาบยักษ์สะกดทุกสายตายของทุกคนด้วยความน่ากลัว
เวลาดูเหมือนจะหยุดลง
สิ่งเดียวที่เคลื่อนไหวคือฝนที่ตกหนัก
”ไม่!”ราชาอสูรตะโกนร้องในที่สุดสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาใช้พลังจนหมดแล้ว เขาต้องหนี
เขาพยายามที่จะหลบหนีออกไปจากสนามรบอย่างรวดเร็ว
แม้จะเป็นราชาอสูรเขาก็ไม่คิดจะรักษาศักดิ์ศรีเพื่อแลกกับความตายหลบหนีเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้
อย่างไรก็ตามแสงสีม่วงได้มาถึงแล้ว
ดาบขนาดใหญ่จ่ออยู่ที่หัวของเขา
”มังกร!”ฟางเจิ้งจือ พึมพัมขณะจ้องมองราชาอสูร
ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาได้ร่วมร่างเข้ากับดาบไร้ร่องรอยอย่างสมบูรณ์
เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เขาควบคุมดาบอยู่หรือกลายเป็นส่วนหนึ่งของดาบไปแล้วเขาเห็นเพียงแค่รูปร่างหนึ่งภายในหัวเท่านั้น
ร่างที่ยกดาบขนาดยักษ์ขึ้นมา
พลังอันยิ่งใหญ่ทะลักออกมาจากตัวของฟาง เจิ้งจือ เขาราวกับเป็นมังกรอันยิ่งใหญ่ที่ทุกสิ่งอย่างต้องให้ความเคารพ
”ฆ่า!”คำหนึ่งดังออกมาจากปากของเขา
ขณะเดียวกันแสงสีม่วงณ ขอบฟ้าก็ค่อยๆพุ่งลงมา มันเป็นเส้นสีม่วงลากยาวแบ่งท้องฟ้าออกเป็นสองส่วน
”ฉับ!”
มันพุ่งลงมาด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อก่อนที่จะหายไป “ตาย!” พร้อมกำคับพูดสุดท้ายที่เปล่งออกมาจากปากของ ฟาง เจิ้งจือ
ทั้งโลกตกอยู่ภายใต้ความมืดอีกครั้ง
ไม่มีใครพูดไม่มีแม้แต่เสียงหายใจให้ได้ยิน
ทุกคนสามารถได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเองได้ขณะที่มองไปยังดาบในมือของ ฟาง เจิ้งจือ
ดาบของเขาหล่นอยู่ที่พื้น
มันตกอยู่ที่เท้าของราชาอสูรแสงสีม่วงอันน่ากลัวได้หายไปแล้วเช่นกัน
ราชาอสูรยืนอยู่ที่เดิมจ้องมองฟาง เจิ้งจือ ด้วยสายตาอันเยือกเย็น
หลังจากนั้นสักครู่…
แสงสีม่วงก็โผล่ขึ้นมาที่หัวของราชาอสูรก่อนที่จะขยายตัวไปเรื่อยๆ จากบนลงล่าง ทั่วร่างกายของราชาอสูร
จากนั้นพื้นก็เริ่มสั่นสะเทือน
แสงสีม่วงเปล่งประกายขึ้นมาจากพื้นดิน
ตูม!เสียงระเบิดอันดังก้องปะทุขึ้น
มันเกิดขึ้นจากบนพื้นดินเศษดินฝุ่นกระจายไปทั่วบรรยากาศ
จากนั้นพื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือนพรอมกับที่พื้นค่อยๆพังทลาย
กรึก!รอยแตกกระจายออกจากจุดที่ดาบไร้ร่องรอยสัมผัสกับพื้นดิน
เสาสีม่วงนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากรอยแตกเหล่านั้นราวกับมังกรนับไม่ถ้วนบินขึ้นไปสู่สวรรค์
ทั้งท้องฟ้าถูกย้อมได้วยสีม่วง
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างมองดูฉากที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์
กองทัพทลายภูผากองทัพเมฆาและกองทัพคนเถื่อน ต่างยืนนิ่ง ไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
เสียงพื้นดินแตกยังคงดังออกไปไกลเรื่อยๆ
ในที่สุดทุกอย่างก็หยุด
แม้แต่เสียงพื้นดินก็หยุดลง
อย่างไรก็ตามทุกคนจ้องมองดาบในมือของฟาง เจิ้งจือ ด้วยความเงียบเชียบ จ้องมองรอยแตกที่ทอดยาวไปยังขอบฟ้า
มีตำนานหนึ่งของอาณาจักรเซี่ยมันเป็นเรื่องที่นานมากแล้ว
เทพเซียนสงครามเมิ่ง เทียน ได้บุกไปที่เมืองเงาเลือดคนเดียว
จากนั้นเขาก็ทำลายทั้งเมืองและจัดการาชาปีศาจ
มีคนไม่มากนักที่เห็นการโจมตีนั้นแต่มันก็ถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ของอาณาจักรเซี่ยในฐานะสิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุด
และตอนนี้…
ดาบเล่มนั้นอยู่ตรงหน้าพวกเขา
ดาบเปลี่ยนจากดาบธรรมดากลายเป็นดาบสีม่วงเมื่อดาบเล่มนั้นฟันลงมาที่พื้นดินก็เกิดรอยแยกทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา
ดาบผ่ามังกร!
ชื่อวิชาที่ไม่เคยมีบันทึกอยู่ในประวัตศาสตร์เล่มไหนไม่มีใครรู้ว่าชื่อนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรเช่นกัน อย่างไรก็ตามตอนนี้ทุกคนราวกับได้เห็นฉากที่เกิดขึ้นที่เมืองเงาเลือดที่เมืองเหยียนแทน
วิชาที่สามารถทำลายทั้งเมืองได้เพียงโจมตีครั้งเดียว
ตอนนี้ทุกคนรู้
วิชานี้ชื่อว่าดาบผ่ามังกร!