ในเวลากลางคืน
ความสงบค่อยๆกลับคืนสู่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือ
ดวงดาวที่ส่องแสงในท้องฟ้าและแสงจันทร์สีเงินที่ส่องสว่างอยู่เหนือหมู่บ้าน
ฟางเจิ้งจือ กำลังนั่งพักอยู่ที่เก้าอี้ริมระเบียง เขาจ้องมองแสงของดวงดาวที่ระยิบระยับ
หลินหยุน เข้านอนแล้ว
วู่จวี้เอ๋อ พยายามให้เขาเข้านอน แต่คำพูดของ หลิน หยุน ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเขา
”ผู้ชนะบนทำเนียบมังกรคู่จะนำพาความสงบสุขมาสู่โลก!”
”ความหมายของมันมีส่วนเกี่ยวข้องกับหนานกง เฮา!”
ฉือกูเหยียน เป็นผู้ชนะบนทำเนียบมังกรซ่อน และทำเนียบมังกรดาวรุ่งในปีที่ผ่านมา
เป็นเรื่องที่รู้กันทั่วอาณาจักรเซี่ย
หลินมู่ไป่ บอกว่าเขาจะรอจนกว่าคนที่เหมาะสมตามคำพยากรณ์ของสวรรค์จะปรากฎตัวออกมา และประกาศให้เขาเป็นแม่ทัพสวรรค์
ไม่มีใครโต้แย้งสิ่งที่เขาพูดได้!
ฟางเจิ้งจือ เองก็รู้เรื่องนี้มาหลายปีแล้ว
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เข้าใจถึงความสำคัญของเรื่องนี้มากนัก
ทำไมหลิน มู่ไป่ ถึงยอมมอบตำแหน่งแม่ทัพสวรรค์ให้กับเด็กหนุ่มที่มีอายุไม่ถึงสิบแปด เพียงเพราะคำพยากรณ์?
ณตอนนั้น…..
ฟางเจิ้งจือ คิดว่ามันเป็นแค่ความเชื่อ เหมือนกับศาสนา
เขาเชื่อเพราะความศรัทธา
หลินมู่ไป่ เองก็เชื่อในคำพยากรณ์
แต่สิ่งที่หลิน หยุน พูดกับเขาก่อนหน้านี้ ทำให้เขาเข้าใจถึงบางสิ่ง
”องค์ชายคังพูดกันตามตรง มันไม่สำคัญว่าผู้ชนะบนทำเนียบมังกรคู่จะทำให้โลกตกตะลึง เพียงแต่มันจะนำพาความสงบสุขมาสู่โลก!”
”ความสงบสุข?”
”ใช่แล้ว!”
ฟางเจิ้งจือ เริ่มหลับตาลงพร้อมกับเอนหัวลงบนเก้าอี้ใต้แสงจันทร์ที่สาดส่อง
ความสงบสุข!
แน่นอนว่ามันตีความหมายได้หลายแบบ
ความสงบความมั่นคง ความปลอดภัย ล้วนแต่อยู่ในความว่าสงบสุข และอาจจะหมายถึงประเทศที่มีความสามัคคี
หลินหยุน กล่าวถึงส่วนสำคัญของคำพยากรณ์จากสวรรค์
แต่เขาก็พลาดเรื่อง’ความสงบสุข’ เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากนัก หรือพูดให้ถูกก็คือ ไม่มีใครรู้ถึงความหมายที่แท้จริงของมันเลย
เนื่องจากมันเป็นคำพยากรณ์
ดังนั้น…
มันก็เป็นแค่การคาดเดา
หลินมู่ไป่ เดาว่ามันหมายถึงความมั่นคง เขาจึงตัดสินใจมอบตำแหน่งแม่ทัพสวรรค์ให้กับผู้ชนะบนทำเนียบมังกรคู่ นั่นจะรักษาความมั่นคงของประเทศไว้ได้
แต่นั่นเป็นเพียงการเดา
ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับความจริงที่อยู่เบื้องหลัง
แม้แต่ตระกูลหนานกงเห็นได้ชัดว่า หนานกง เฮา มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างที่ หลิน หยุน พูด และพวกเขาคิดกันเองว่ามันเป็น โชคชะตา
ชะตากรรมของตระกูลหนานกงล้วนเชื่อมโยงกับคำพยากรณ์ของสวรรค์
หรือพูดอีกอย่าง
ตระกูลหนานกงเป็นผู้ที่เข้าใจถึงคำพยากรณ์ทั้งหมด
เรื่องนี้มันเกินความคาดหมายของเขาและเขาคิดว่าควรได้รับคำอธิบายจากศาลาเต๋าสวรรค์
ทำไมถึงเป็นตระกูลหนานกง?
มันไม่สมเหตุสมผล
ที่สำคัญกว่านั้นทำไมตระกูลชั้นสูงอย่างตระกูลหนานกงถึงเชื่อในคำพยากรณ์?
อาณาจักรอื่นๆอย่างจักรวรรดิคนเถื่อน อาณาจักรหมิงเยว่ อาณาจักรวู่จวี้ ล้วนเป็นอาณาจักรที่แข็งแกร่ง และอาณาจักรเซี่ยเองก็ไม่ได้มีข้อขัดแย้งกับพวกเขาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม
ผู้ชนะบนทำเนียบมังกรคู่จะทำให้โลกตกตะลึงและนำความสงบมาสู่โลก!
ตามคำพยากรณ์นั้นพูดถึงทำเนียบมังกรคู่ที่มาจากอาณาจักรเซี่ยผู้ชนะบนทำเนียบเองก็ต้องมาจากอาณาจักรเดียวกัน!
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกสับสน แต่ไม่นานเขาก็คิดว่ามันเป็นไปได้
นั่นเพราะคำพยากรณ์จากสวรรค์มีการพูดถึงภายในอาณาจักรเซี่ยเท่านั้น
อย่างไรก็ตามหลิน หยุน บอก ฟาง เจิ้งจือ ถึงวันที่ในคำพยากรณ์ว่าเป็นวันที่มีการคัดเลือกของศาลาเต๋าสวรรค์ ผู้นำศาลาได้ให้สัญญาไว้ว่าผู้ที่ถูกเลือกจากคำพยากรณ์ เขาจะถ่ายทอดวิชาทั้งหมดที่เคยเรียนรู้มา
นั่นฟังดูเกินจริงเล็กน้อย
ฟางเจิ้งจือ เองก็ไม่ได้รู้จักศาลาเต๋าสวรรค์ดีนัก แต่เขาเข้าใจในทันทีที่มองดวงจันทร์
ทั้งหอคอยหลิงหยุนและศาลาเต๋าสวรรค์ล้วนมีอิทธิพลในอาณาจักรเป็นอย่างมาก
นั่นนำไปสู่คำถาม
ด้วยความที่มีอิทธิพลมากมายทำไมถึงเชื่อในคำพยากรณ์ที่ตระกูลหนานกงเป็นคนตีความหมาย?แม้จะเป็นหัวหน้าศาลาก็ยังดูน่าสงสัย
ฟางเจิ้งจือ เคาะนิ้วไปพรางโดยไม่รู้ตัว
ในตอนนั้นเองเสียง”ติ้ง!” ก็ดังขึ้นในอากาศเช่นกัน
เป็นเสียงของเครื่องดนตรี
ชั่วเวลาหนึ่งทำนองเพลงที่ไพเราะดังก้องในท้องฟ้า
ราวกับแม่น้ำที่ไหลนิ่ง
ในที่สุดเขาก็เลิกมองไปที่ขอบฟ้า
ในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือแตกต่างจากในเมืองหลวง
นั่นเพราะไม่มีใครรู้วิธีการบรรเลงดนตรีพวกเขาถนัดแต่เรื่องทักไหมทอผ้า
แน่นอนว่า…
ถึงแม้ตอนนี้จะไม่ได้มีเพียงแค่ชาวบ้านเหล่าทหารองครักษ์ก็อยู่ที่นี่เช่นกัน แต่พวกเขาจะรู้วิธีบรรเลงงั้นหรือ?
ก็อาจจะ
แต่คงจะเป็นไปไม่ได้
นอกจากนั้นก็มีวู่ จวี้เอ๋อ องค์ชายเก้าหลิน หยุน
พูดถึงความสามารถของวู่ จวี้เอ๋อ
อาจพูดได้ว่าเป็นหนึ่งในความน่ากลัว
ในฐานะผู้นำของนิกายเงาความสามารถของนางยังคงอธิบายได้ยาก
นางพูดว่า”เป้าหมายของข้าก็เพื่อ เงิน เงิน เงิน! เมื่อข้ามีเงิน ก็จะมีคนมาบรรเลงให้ข้าฟัง”
ฟางเจิ้งจือ จึงแนะนำให้รวบรวมเหล่าผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านดนตรีมารวมตัวกัน
จนกระทั่ง…
ก่อตั้งหอเจ็ดดวงดาว!
มันกลายเป็นสถานที่ที่ครึกครื้นที่สุดในเมืองหลวงภายในเวลาอันสั้น
”หลินหยุน เป็นคนบรรเลง?”
ฟางเจิ้งจือ ส่ายหัวทันที
หลินหยุน พักอยู่ใกล้ๆกับหมู่บ้านของ ฟาง เจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามเสียงบรรเลงคงไม่ดังไกลถึงที่นี่
ถ้าไม่ใช่ทั้งทหารองครักษ์วู่จวี้เอ๋อ หรือแม้แต่ หลิน หยุน
แล้วใครเป็นคนบรรเลง?
เขาไม่เข้าใจ!.Aileen-novel.
เขาทำได้เพียงเพลิดเพลินไปกับเสียงบรรเลงและตีความหมายของมัน
ูยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนจะเป็นการบรรเลงจากที่ไกลกว่าที่คิด
ยิ่งทำให้ฟาง เจิ้งจือ คิดไม่ออกว่าใครเป็นผู้บรรเลง
ฟางเจิ้งจือ ชื่นชมในการบรรเลง นี่เป็นความสามารถที่ดีไม่น้อย
”หรือว่าจะเป็นอัจฉริยะของโลก?”แววตาของฟาง เจิ้งจือ เบิกกว้างขึ้นในขณะที่พยายามนึกถึงคนที่บรรเลงเพลงที่เขารู้จักในหลายปีที่ผ่านมา
บ่อยครั้งผู้มีความสามารถสูงที่กำลังเผชิญกับปัญหา มักจะมีฮีโร่ปรากฎตัวขึ้นเพื่อชี้ทางสว่างให้
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์นั้น
อย่างแรกเขาเป็นคนที่มีความสามารถสูง
อย่างที่สองเขากำลังประสบปัญหาที่เกี่ยวพันถึงชีวิตที่จะมีเวลาเหลือไม่มาก
อย่างที่สามเขากำลังสับสน
จริงๆแล้วเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสนมันเป็นเสียงที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ไม่ง่ายเลยที่จะเข้าถึงมัน
ถ้ามีความเป็นไปได้ที่จะเข้าถึง…
เขาคงไม่ได้อยู่ในระดับอภินิหาร
มันยากเกินไป
การเดินทางจากหมู่บ้านภูเขาทางเหนือไปยังเมืองหลวงและเดินทางไปศาลาเต๋าสวรรค์ ใช้เวลาร่วมเดือน
เวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วครึ่งเดือนแล้วหลังจากที่เขาออกจากเมืองหลวงอย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้สึกถึงการเข้าถึงพลังเลยแม้แต่น้อย
ระดับจุติ?
ต้องทำยังไงถึงจะเข้าถึงระดับจุติได้?
จะเข้าถึงระดับเซียนได้ยังไง?
ฟางเจิ้งจือ พยายามอยู่ตอดเวลา แต่ความจริงแล้วเขารู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้เลยราวกับงมเข็มในมหาสมุทร
หรือค้นหาขุมทรัพย์ใต้หน้าผา
ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนเขาจะได้รับคำตอบว่า”มันคือเจ้า ต้องเป็นเจ้า! ข้ากำลังรอเจ้าอยู่!”
ความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรนักเขาเพียงแต่จะทำทุกอย่างเพื่อทำให้สามารถเข้าถึงพลังได้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม
เขาเดินวนไปรอบหมู่บ้านภูเขาทางเหนือตังหลายวันแต่ยังไม่พบอะไรเลย
เขาคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ดี
เขาเติบโตมาจากที่นี้ถ้ามันมีอยู่จริงๆล่ะก็เขาคงหามันเจอไปตั้งแต่ห้าปีก่อน
เขาควรจะขึ้นไปทางเหนือหรือลงไปทางใต้?
หรือเริ่มจากสถานที่รกร้าง?
ฟางเจิ้งจือ เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน เขาเชื่อมาตลอดว่ามันมีความเป็นไปได้ที่ต่ำมากๆ แม้สถานการณ์เช่นนี้จะเคยมีให้เห็นตั้งแต่ สมัยบรรพบุรุษ หรือ สมัยโบราณ
อย่างไรก็ตามคำทั้งสองให้ความรู้สึกที่แตกต่าง
เขาไม่ต้องการที่จะนั่งรออยู่เฉยๆ
นอกจากนี้เขาจะต้องเดินหน้าต่อไปที่ศาลาเต๋าสวรรค์เพื่อทำตามสัญญาที่เขาให้ไว้เมื่อหลายปีก่อน
”ติ้ง!”เสียงบรรเลงที่ไพเราะหยุดลง
ค่ำคืนกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง
ดวงตาของฟาง เจิ้งจือ กระตุกเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าจะมีฮีโร่คนไหนปรากฎตัวขึ้นเพื่อชี้ทางให้แก่เขา
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง
ไม่มีความหวังเลยหรือ?
”ติ้ง!”ในขณะที่ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกผิดหวัง เสียงบรรเลงก็ดังขึ้นอีกครั้ง มันแตกต่างออกไป เสียงในครั้งนี้ราวกับเม็ดฝนที่กระทบพื้น มันสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของเขา
สายฝนและสายลมโหมลงมาพร้อมกัน
”วีรบุรุษจะมาช่วยข้างั้นรึ?”ปากของฟาง เจิ้งจือ กระตุกพร้อมกับแววตาที่ส่องประกาย “ข้าไม่สนใจว่าเจ้าเป็นใคร แม้ว่าจะเป็นปีศาจก็แสดงตัวออกมา!”
”ชู่วว!”
มีเสียงดังขึ้นมา
ฟางเจิ้งจือ ยืนอยู่บนชั้นสองของบ้าน และร่างของเขาก็หายไปในทันทีจากนั้นก็ไปปรากฎตัวขึ้นที่หลังคาของบ้านที่อยู่ห่างไปไม่ไกล
”ซู่ววว!”
เสียงที่เบาบางดังขึ้นอีกครั้ง
สายลมยามค่ำคืนพัดชายเสื้อของฟาง เจิ้งจือ ให้พริ้วไหว แสงจันทร์ส่องที่ใบหน้าของเขา
ฟางเจิ้งจือ เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว
เขาเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆจนถึงพื้นที่ด้านนอกของหมู่บ้าน
เขากวาดสายตามองโดยรอบอย่างระวังตัว
ฟางเจิ้งจือ เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
เขาค่อยๆชะลอตัวในขณะที่พบแล้วว่าต้นเสียงมาจากทิศทางไหนมันอยู่ใกล้ๆ
”ถ้าเป็นฮีโร่จริงๆข้าจะพูดอะไรดี? ข้าต้องแกล้งเป็นคนโง่หรือเป็นชายที่ทรงปัญญา?”ฟาง เจิ้งจือ เริ่มคิดทุกสิ่งในขณะที่เดินเข้าไปตามทิศทางของสียงนั้น เขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
นั่นเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ!
Gate of God – ตอนที่ 641 ชื่อเสียงยามค่ำคืน
Posted by , ? Views, Released on September 29, 2022
Gate of God
GoG, 神门Adventure Comedy Fantasy Harem Martial Arts Xianxia กำลังภายใน นิยาย จีน นิยาย ผจญภัย นิยาย ศิลปะการต่อสู้ นิยาย แฟนตาซี นิยาย แอคชั่น
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง
Recommended Series
Comment
Facebook Comment
