หยุนชิงวู ดูสงบนิ่งเป็นอย่างมากนางยืนอย่างสง่างาม จ้องมองมาที่ ฟาง เจิ้งจือ แต่ไม่พูดอะไรแม้แต่น้อย
มันทำให้ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกอึดอัด
ฟางเจิ้งจือ คิดจะยืนอยู่แล้วให้นางเกิดรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเอง
แต่หลังจากผ่านไปสักพัก…
เขาก็เลิกคิดเพราะดูเหมือนว่าหยุน ชิงวู ไม่คิดจะคุยกับเขาต่อแม้แต่น้อย นางแค่มองเขาอยู่เงียบๆเท่านั้น
มันทำให้รู้สึกได้ว่านางเองก็กำลังรออยู่เช่นกัน
ทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างรอต้องมีหนึ่งคนที่ยอมเริ่มก่อน
”เจ้ามาหาข้าที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนืองั้นหรือ?”ฟางเจิ้งจือ อดทนไม่ไหวอีกต่อไป เขานั่งลงบนพื้นหญ้าก่อนจะเริ่มพูดออกมา
”ใช่”หยุน ชิงวู พยักหน้า นางชี้ไปทางกองผลไม้ “ข้าเก็บมาจากภูเขาและทำความสะอาดแล้ว”
”นายน้อยของเหล่าปีศาจมาเก็บผลไม้บนภูเขา?”ฟางเจิ้งจือ พูดพร้อมหยิบผลไม้เข้าปาก มันทั้งมีรสหวานให้ความรู้สึกสดชื่น ก่อนจะถามว่า “มาหาข้าทำไม?”
”แน่นอนว่าเพื่อแก้แค้นเรื่องที่เกิดขึ้นในดินแดนทางใต้”หยุน ชิงวู ตอบเกือบจะทันทีหลังสิ้นเสียงของ ฟาง เจิ้งจือ
”หึหึ…งั้นเจ้าก็มาที่นี้เพื่อแก้แค้นข้างั้นสิ?”ฟาง เจิ้งจือ เผยยิ้มอย่างผ่อนคลาย
นางพยายามล้อเล่นอะไรอยู่?หยุน ชิงวู มาที่นี่เพื่อแก้แค้นด้วยตัวคนเดียวงั้นหรือ?มันจะเป็นไปได้ยังไง?
”ข้าได้ยินว่าเจ้ามีเวลาเหลือไม่มาก” หยุน ชิงวู ไม่ได้ตอบเขาในทันที นางหยิบผลไม้ขึ้นมาก่อนจะเอาเข้าปาก
การเคี้ยวของนางยังดูสง่างามเลยไม่ว่าจะทำอะไรนางก็ดูงดงามเสมอ
”อาจจะ”ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่นางพูด
”เจ้าจะใช้เวลาครึ่งปีเพื่อเข้าสู่ระดับเซียนฟังดูเป็นไปได้ยากจริงๆ”
”ก็ถูกของเจ้า”
”เจ้าอยากฟังเพลงไหม?”
”เจ้าจะเล่นได้งั้นรึ?”
”ไม่”
”ข้าอยากฟัง’ภูเขาและน้ำตก’ ”
”แน่นอน”
เสียงของเครื่องสายเริ่มบรรเลงเสียงดังกังวาลไปทั่วป่า
มันเป็นช่วงเวลาที่แปลก
ทั้งสองรู้ดีว่าต่างก็เป็นศัตรูต่อกัน
อย่างแรกที่น่าสงสัยคือนางไม่กลัวถูกฆ่าเลยหรือ?
แต่นางกลับตอบว่ามาเพื่อแก้แค้น
แต่ตอนนี้นางกำลังบรรเลงเพลงท่ามกลางแสงจันทร์ที่งดงาม
เมื่อเพลงจบลง
ดวงตาของฟาง เจิ้งจือ ค่อยๆหรี่ลงในขณะที่เอนตัวลงนอนเอามือรองหัว จากนั้นก็หยิบของกินเข้าปาก
เขาลิ้มรสความอร่อย
”เจ้าบรรเลงเพลง’นักดาบ’ ได้หรือไม่?”
”นักดาบ?”หยุน ชิงวู พึมพำเบาๆและจ้องไปทาง ฟาง เจิ้งจือ
รอคำตอบของฟาง เจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ตอบกลับ เขากลับฮัมเพลงขึ้นด้วยเสียงเบา
”ความลุ่มหลงในความรักมันยังแน่นอยู่ในอก ชีวิตนี้…”
”นั่นคือเพลงนักดาบ งั้นหรือ?”
หยุนชิงวู อ้าปากค้างด้วยความสับสน
”ไม่ใช่นั่นคือเพลง ดินแดนโลกีย์ ต่างหาก”
”ดินแดนโลกีย์?ไม่ใช่เพลงนักดาบหรอกหรือ?”
”ข้ารู้จักเรื่องราวของทั้งเพลงนักดาบ และ ดินแดนโลกีย์ ทั้งยังรู้จักอีกเพลงหนึ่งที่มีท่วงทำนองที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน”
”เพลงอะไร?”
”เสียงหัวเราะจากทะเล!”
”เสียงหัวเราะจากทะเล?หืม เป็นชื่อที่ดีไม่น้อย ร้องให้ข้าฟังได้ไหม?”
”ถ้าเจ้ายอมเต้นรำไปด้วยล่ะก็นะ!”
”แน่นอน!”หยุนชิงวู ตอบตกลงอย่างไม่ลังเล นางยกเครื่องดนตรีออก
เสียงร้องดังขึ้น
นางสวมชุดสีขาวบริสุทธิ์เต้นรำไปอย่างงดงามพร้อมกับเพลงที่ ฟาง เจิ้งจือ ร้อง
มันเป็นฉากที่สวยงามมาก
ฟางเจิ้งจือ ค่อยๆลืมตาขึ้น และชื่นชมการเต้นรำของ หยุน ชิงวู
”ผู้หญิงคนนี้…ทำได้ดีทีเดียว!”!
…
เวลาผ่านไปเมื่อดวงจันทร์ลอยขึ้นสูงและดวงดาวยังคงส่องแสง
”เจ้าเล่าเรื่องราวของเพลงนักดาบ ให้ฟังได้หรือไม่?”
”โอ้ะไม่ได้หรอก มันมีลิขสิทธิ์”
”ลิขสิทธิ์?”
”พูดง่ายๆก็คือเราไม่สามารถพูดออกมาได้ถ้ายังไม่ได้รับอนุญาต”
”เข้าใจแล้วงั้นข้ามีเรื่องมาเล่าให้ฟัง”
”เรื่องอะไร?”
”จุดกำเนิดเผ่าปีศาจ”
”ได้แต่ข้าอยากถามอะไรหน่อย เจ้าเรียกตัวเองว่าเป็นป๊ศาจงั้นหรือ?”
”เป็นปีศาจมันไม่ดีงั้นหรือ?”
”มันฟังดูไม่ดีนักเมื่อเทียบกับเซียนหรือพระเจ้า”
”นั่นคือสิ่งที่มนุษย์คิดกับเราอยู่เสมอเราไม่คิดว่าปีศาจนั้นเลวร้าย ความจริงแล้วเราคิดว่าพวกมนุษย์นั้นเลวร้ายกว่าอีก”
”ข้ารู้ข้าเองก็ทำเพื่อผลประโยชน์” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
”ผลประโยชน์?จึงต้องทำตัวไร้ยางอายหรือ?”หยุน ชืงวู ถอนหายใจออกมา
”เอ่อออ…ข้าแค่พยายามแสดงความคิดเห็นของตัวเอง” ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับด้วยสีหน้าเขินอายเล็กน้อย เขารู้สึกเหมือนถูกจับได้ซะแล้ว
อย่างไรก็ตามนางเดาถึงเรื่องการทำเพื่อผลประโยชน์?
ผู้หญิงคนนี้ฉลาดเกินไปแล้ว.ไอรีนโนเวล.
นางรู้ว่าเขาคงไม่พูดจริงจังมากนัก
”ที่จริงแล้วปีศาจมีมาก่อนพวกมนุษย์…”
”ทุกๆเผ่าพันธุ์มักจะอ้างตนว่าเกิดมาก่อน”ฟาง เจิ้งจือ พูดขึ้น เขาพยายามปฏิเสธสิ่งที่ หยุน ชิงวู พูด
นางไม่ได้ต่อว่าอะไร”ในตอนแรกมีแค่พวกเราเผ่าปีศาจ แต่แล้วมนุษย์ก็ปรากฎตัวขึ้น …”
”มนุษย์ตัวเล็กจ้อยที่ทำตัวโอหังต่อหน้าปีศาจที่แข็งแกร่งดังนั้นพวกมันจึงถูกจับมาเป็นทาสของเหล่าปีศาจ … ”
”…”
แสงบนท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นเป็นสัญญาณว่าค่ำคืนใกล้จะผ่านพ้นไป
หยุนชิงวู เล่าเรื่องราวมาสักพักแล้ว แต่ทั้งคู่ยังคงนอนอยู่บนพื้นหญ้า พร้อมกับค่อยๆลืมตาขึ้นสายลมอ่อนๆ ค่อยพัดผ่าน
ดวงอาทิตย์ค่อยๆขึ้นที่ละน้อยแสงของดวงดาวเริ่มเลือนหายไป
จนในที่สุดตาของฟาง เจิ้งจือ ก็เปิดกว้าง
เมื่อเขามองแสงอาทิตย์และหันมองเมฆหมอกด้านหลังภูเขาคังหลิงจนเขารู้สึกตัวว่า หยุน ชิงวู นอนหายใจเบาๆอยู่ด้านข้าง มีความคิดและความคิดมากมายในใจของเขา
แต่ไม่นานนัก…
เขาก็สลัดความคิดเหล่านั้นออกไป
”ข้าต้องไปแล้วเจ้าควรกลับไปที่เมืองเงาเลือด ที่นี่มีทหารองครักษ์มากมาย ทั้งยังองค์ชายหลิน หยุน” ฟาง เจิ้งจือ ค่อยๆลุกขึ้น มองดูใบหน้าที่งดงามของนางเป็นครั้งสุดท้าย
”จะไปแล้วงั้นหรือ”หยุน ชิงวู ยังคงหลับตาอยู่ในขณะที่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเบาๆ
”ถ้าข้ายังไม่ตายข้าจะหาโอกาสไปฟังเจ้าบรรเลงเพลงอีกครั้ง” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า ในขณะที่เขาลุกขึ้น
เขามองดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆด้วยความสดชื่น
หยุนชิงวู ไม่ได้พูดอีก
ฟางเจิ้งจือ ไม่คิดจะรอให้นางตอบ เขาหันหลังเดินไปทางหมู่บ้าน
เขาไม่ได้ฆ่าหยุน ชิงวู และนางเองก็เช่นกัน
พวกเขาทั้งคู่ควรจะเป็นศัตรูกันแต่พวกเขาใช้เวลาช่วงข้ามคืนอยู่บนพื้นหญ้าเดียวกัน ไม่มีการต่อสู้กันแม้แต่น้อย มีเพียงการพูดคุยอย่างผ่อนคลาย
ฟางเจิ้งจือ ฟังเมื่อนางบรรเลง
และหยุน ชิงวู ชื่นชมเมื่อเขาร้องเพลง
ฟางเจิ้งจือ ได้ฟังเรื่องราวของเผ่าปีศาจจาก หยุน ชิงวู
ทุกอย่างเรียบง่ายราวกับทั้งคู่พูดถึงเรื่องราวในอดีตของตน
ฟางเจิ้งจือ ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หันหลังลับ
หยุนชิงวู เองก็ไม่คิดจะเดินตามเขาไป นางค่อยๆลืมตาลุกจากพื้นหญ้า
อย่างไรก็ตาม…
ฟางเจิ้งจือ เดินกลับมาหานาง
เขามองหยุน ชิงวู ที่พื้นหญ้า และเหลือบมองกองผลไม้
”เชี่ยเอ้ย!”ฟางเจิ้งจือ สบถออกมา
หยุนชิงวู ไม่ได้พูดอะไร
นางไม่ได้ส่งเสียงแต่ได้ยินสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พุด
ราวกับว่า…
ราวกับว่าดอกบัวหิมะกำลังเบ่งบานอย่างไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งได้
เมื่อครู่ก่อนฟาง เจิ้งจือ ยังคงหลงไหลในความงามของนาง แต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์มาทำเช่นนั้น
เขาไม่คิดจะหันหลังกลับตั้งแต่เดินจากไปแต่ความจริงเขากลับมา
เพราะอะไรกัน?
ไม่ใช่เพราะฟาง เจิ้งจือ ทนไม่ได้ที่จะจากนางไป
เหตุผลเพราะเขาติดกับดักของนางตั้งแต่ตอนที่เขามาหาใกล้หยุน ชิงวู
”ใช้วิชาแบบไหนกัน?”ฟางเจิ้งจือ จ้องมองไปที่ หยุน ชิงวู ในที่สุดเขาก็เข้าใจความหมายของการเป็นผู้หญิง
”เจ้าน่าจะเดาได้อยู่แล้ว”หยุน ชิงวู พูดโดยไม่ตอบคำถามของเขาแต่นางก็ไม่ปฏิเสธเขาเช่นกัน
ฟางเจิ้งจือ มองไปรอบๆ
ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมตั้งแต่เมื่อคืนวานเขามองทั้งภูเขาแม้น้ำ ทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
แม้แต่ก้อนหินเล็กๆ ใต้ต้นไม้ก็ไม่เปลี่ยนแปลง
ฟางเจิ้งจือ ไม่เข้าใจสถานการณ์ของเขาในตอนนี้ ถ้าเขารู้ตัวก่อน คงไม่ตกหลุมพรางของนาง
”กระดานแปดทิศ?ไม่น่าใช่!”
”ดวงดาวทั้งเจ็ด?แต่ไม่มีสัญญาณของมันเลยนี่!”
ฟางเจิ้งจือ มองไปรอบๆอีกครั้งจนยอมแพ้ในที่สุด
เขาไม่สามารถเข้าใจได้และคงไม่ได้คำตอบจากนางแน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้น หยุน ชิงวู ไม่โง่พอจะเปิดเผยวิชาของตัวเองหรอก
…
ปัญหาเกิดขึ้นที่นี่?
เขาจะออกไปได้ยังไง?
ไม่มีใครตอบได้อย่างไรก็ตาม จู่ๆเขาก็พบความหวังท่ามกลางความสับสนดวงตาเงา!
ถ้าต้องการทำลายมันมีเพียงแค่สองวิธีเท่านั้นหนึ่งคือการหารูปแบบของมันให้เจอ หรือทำลายมันซะ
แต่การจะทำลายมันคงไม่ใช่เรื่องง่าย
เขาต้องปล่อยพลังงานที่รุนแรงจนพื้นที่รอบๆเกิดความเสียหายจนดวงตาเงาปรากฎขึ้นมาหรืออีกวิธีที่ง่ายกว่านั้น…
จับตัวหยุน ชิงวู!
นั่นเป็นวิธีที่ง่ายและยอดเยี่ยมที่สุด
ผู้หญิงที่เข้าใจในวิชาและรู้ถึงตำแหน่งของดวงตาเงา กำลังนอนอยู่ตรงหน้าเขา
ฟางเจิ้งจือ ไม่ลังเลอีกต่อไปเขากระโจนเข้าไปหา หยุน ชิงวู
ในขณะเดียวกันเขาก็ยิ้มออกมา”หยุน ชิงวู พระอาทิตย์ขึ้นแล้วก็จริง แต่เจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้งั้นหรือ?”
Gate of God – ตอนที่ 643 ความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาด
Posted by ? Views, Released on September 29, 2022
, Gate of God
GoG, 神门Adventure Comedy Fantasy Harem Martial Arts Xianxia กำลังภายใน นิยาย จีน นิยาย ผจญภัย นิยาย ศิลปะการต่อสู้ นิยาย แฟนตาซี นิยาย แอคชั่น
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง
Recommended Series
Comment
Facebook Comment