Gate of God – ตอนที่ 670 ข้าก็ด้วย

…
เฉียนวู่ รู้สึกโกรธและหดหู่ในเวลาเดียวกัน
การที่อยู่ในระดับจุติเขาไม่มีทางตกลงไปด้านล่างแต่ด่านนี้นั้นเป็นการทดสอบด้านพลังกาย
ต่อให้เขาจะมีพลังที่ยิ่งใหญ่แค่ไหนแต่ถ้าร่างกายของเขาไม่แข็งแรงพอ เขาไม่มีทางผ่านด่านนี้แน่นอน
แต่นี่ไม่ใช่เพราะเฉียน วู่ ไม่แข็งแรงพอ
เขาไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาในวังไม่ได้ถูกปรนเปรือมา เขาจึงไม่ได้หยิ่งยโสแบบคนอื่นถึงแม้เขาจะมีพลังมากก็ตาม
แต่เขาก็ยังแพ้ผู้เข้าสอบอีกสองคน
หนึ่งในนั้นคือเด็กหนุ่มในชุดเขียวและ หนานกง มู่
เขาไม่ได้สนใจอะไรมากนักกับเด็กหนุ่มที่นำอยู่
เพราะเขาอยู่ในระดับจุติขั้นสูงสุดเช่นกันและท่าทีของเขาก็ป่าเถื่อนเป็นอย่างมาก
จักรวรรดินักรบสูงสุด
อาณาจักรที่สนับสนุนความแข็งแกร่งของร่างกาย
มันแตกต่างจากดินแดนอื่นทั้งสาม
และเด็กหนุ่มนันก็แสดงถึงตัวตนของอาณาจักรนักรบสูงสุดได้ดี
อัจฉริยะอันดับหนึ่งจากจักรวรรดินักรบศักดิ์สิทธิ์
หยานฉิง
มนุษย์ที่ถูกเลี้ยงดูโดยฝูงสัตว์ป่ามาตั้งแต่เด็กเขามีชื่อเสียงด้านความแข็งแกร่งของร่างกายที่ไม่มีสิ้นสุด
แต่เขาไม่คิดว่าคนที่อยู่ด้านหน้าเขาอีกคนหนานกง มู่…
นี่มันเป็นไปได้ยังไง?
เฉียนวู่ รู้สึกหดหู่เล็กน้อย
เขาพยายามไม่สนใจอะไรและพยายามมุ่งมั่นกับการปีนเขา
แต่ความหมายของหินที่ร่วงหล่นคืออะไร?
ในฐานะที่อยู่ในระดับจุติเขาจะโดนก้อนหินสองก้อนนั้นง่ายๆได้ยังไง?แต่ เฉียน วู่ ไม่ได้สนใจมันจนกระทั่งมันอยู่เหนือหัวเขาแล้ว
เขาพึ่งรู้ตัวในตอนสุดท้าย
”เชี่ยเอ้ย!”..เฉียน วู่ สบถ ก่อนที่เขาจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขาใช้มือจับที่ก้อนหินและพลิกตัวขึ้นไปบนพินทันที
น่าเสียดาย…..
ที่มีหินอีกก้อน!
เฉียนวู่ พลิกตัวครั้งแรกได้ แต่สำหรับก้อนที่สองนั้น
”…..” เฉียน วู่ พูดไม่ออก
ก้อนหินจะชนเข้ากับใบหน้าของเขา?ไม่นานมันก็เป็นจริง หินก้อนนั้นชนเข้ากับใบหน้าของเขาทันที จมูกของเขาแทบหัก น้ำหูน้ำตาไหลทันที
”โกงนี่มันโกงชัดๆ!” เฉียน วู่ กรีดร้องขณะที่ตกลงไป
”ผู้เข้าสอบคนอื่นๆต่างมองเฉียน วู่ ที่ตกลงไปพร้อมกับคิดในใจ “การทดสอบด่านที่สองไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ใครจะไปคาดคิดว่าจะเป็นก้อนหิน โดยไม่คาดคิดพวกเขาเป็นหิน?”
…
หยานฉิง หลบก้อนหินสองก้อนได้
อย่างไรก็ตามเวลาที่เขาใช้หลบหินในชั่วพริบตาหนานกง มู่ ก็แซงเขาไปในทันที
”ข้าหยาน ฉิง ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยก้มหัวให้ใคร อย่าหวังว่าข้าจะยอมง่ายๆ!”มองไปที่ หนานกง มู่ ที่แซงไปใกล้เขาเอามือทั้งสองข้างจับไว้ที่หน้าผาก่อนจะเอาเท้าทั้งสองข้างกดลึกลงไปในหน้าผาเช่นกัน
จากนั้นข้าของเขาคล้ายสปริงที่เด้งออกไปอย่างรุนแรง
”ตูม!”เสียงระเบิดอันรุนแรงดังขึ้น
ร่างของหยาน ฉิง พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
วิธีที่หยาน ฉิง ใช้นั้น ถ้าใครเห็น สามารถได้คำเดียวสั้นๆ…
บ้า
”ตึ้ง!”หยาน ฉิง คว้าจับกำแพงหน้าผาด้านหน้าเอาไว้ก่อนที่จะใช้สี่ขาตะกายขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
หินแตกกระจาย
”…..” ฟาง เจิ้งจือ เริ่มคิดที่จะใช้หินอีกสองก้อนเพื่อหยุดเขา แต่มันไม่ทัน
หยานฉิง นั้นเร็วเกินไป
ภายในไม่กี่ลมหายใจเขาได้เข้ามาใกล้กับหนานกง มู่ อีกครั้ง
หนานกงมู่ ก็สังเกตุเห็นเช่นกัน ดวงตาของเปล่งแสงอันเยือกเย็นและสับสนออกมา
ด้วยวิธีเดียวกันเขาใช้ทั้งขาและมือปีนตะกายขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็วเช่นกน
”เยี่ยม!”ฟาง เจิ้งจือ เข้าใจสิ่งที่ หนานกง มู่ คิด
หากหยาน ฉิง นั้นเป็นเหมือนเสือที่ดุร้าย หนานกง มู่ ก็เป็นเหมือนกับปลาคาร์พที่แหวกว่ายอยู่ในแม่น้ำ
ช่วงเวลาสองปี?
ปลาคาร์พจะกลายเป็นมังกรได้หรือไม่?
”ดีมากพวกเจ้าเป็นที่หนึ่งทั้งคู่!” เมื่อ หยาน ฉิง และ หนานกง มู่ เอามือแตะที่หน้าผาพร้อมกัน ฟาง เจิ้งจือ ก็ประกาศผล
”ที่หนึ่งทั้งคู่?”” หยาน ฉิง ตัวสั่นเมื่อได้ยิน บรรยากาศสัตว์ป่าเริ่มหายไปจากร่างกายของเขา ด้วยความรวดเร็วเขาพยักหน้าและพลิกตัวขึ้นมาบนหน้าผา
”เจ้าชื่ออะไร?”ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”หยานฉิง จากอาณาจักนักรบชั้นสูง มาถึงแล้ว!”หยาน ฉิง โค้งตัวลงเล็กน้อย เพื่อแสดงความเคารพต่อ ฟาง เจิ้งจือ
”หืมไม่เลว!”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้ามองไปที่ หนานกง มู่ “ทั้งคู่ผ่านการทดสอบรอบที่สองแล้ว”
”ขอบคุณท่าน!”หยานฉิง และ หนานกง มู่ เปล่งเสียงตอบทันทีที่ได้ยิน
หลังจากขอบคุณฟาง เจิ้งจือ หยาน ฉิง ก็หันไปทาง หนานกง มู่ ผิวสีแทนคล้ำของเขาเปล่งประกาย
”เจ้าคือหนานกง มู่?”
”ถูกต้อง”หนานกง มู่ ตอบอย่างใจเย็น
”มีไม่กี่คนเท่านั้นที่จะปลุกไฟในการต่อสู้ของข้าได้หวังว่าเราจะมีโอกาสได้เจอกันในรอบต่อไป!”เสียงของ หยาน ฉิง ดูจะมีความตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย
”ได้เสมอ!”หนานกงมู่ พยักหน้าอย่างเย็นชา
หยานฉิง ไม่ได้พูดอะไรอีก ในขณะที่เขาเดินไปข้างๆและนั่งลง
หนานกงมู่ จ้องไปทั่วร่างกายของ ฟาง เจิ้งจือ ก่อนจะเคลื่อนไหวเล็กน้อย
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้สังเกตุการกระทำของ หนานกง มู่ และยิ้มออกมา เขารู้ว่า หนานกง มู่ ไม่ได้โง่ แต่ก็รู้ว่าเขายังไม่มั่นใจมากนัก
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไรในขณะที่มองลงไปที่หน้าผาอีกครั้ง
ด้วยความรวดเร็ว…
เหยียนซิว ก็พุ่งขึ้นมา
เขาแสดงความเคารพต่อฟาง เจิ้งจือ เช่นกัน ก่อนจะเดินไปทาง หนานกง มู่ เขายืนอยู่ที่เดิมโดยไม่พูดอะไรแม้แต่น้อย Aileen-novel
”อันดับที่สามเหยียน ซิว ผู้นำเหลียงตะวันตกแห่งอาณาจักรเซี่ย!”
”อันดับที่สี่….. ”
”อันดับห้า….. ”
”…”
”อันดับที่เก้าเฉียน วู่ แห่งจักรวรรดินักรบศักดิ์สิทธิ์?”ฟาง เจิ้งจือ มองดู เฉียน วู่ เขาถอนหายใจเล็กน้อย
เขาทำได้จริงหรือ?
เห็นได้ชัดว่าเขาหล่นลงไปแล้ว
แต่ก็ปีนขึ้นมาได้อีกครั้งปาฏิหาริย์? แต่ถึงอย่างนั้น เฉียน วู่ ก็มาถึงในอันดับที่เก้าเท่านั้น
”อันดับที่สิบคัดออก!”
”คัดออก?!ทำไมกัน ควรจะมีสักยี่สิบคนในการทดสอบรอบที่สอง?”หนึ่งในเด็กหนุ่มไม่อยากจะเชื่อหลังจากใช้ความพยายามอย่างมากในการปีนเขา
เพราะตอนอยู่ด้านล่างมันถูกประกาศไว้อย่างชัดเจน
ในรอบที่สองจะมีผู้เข้าทดสอบเพียงสิบคนแรกเท่านั้น!
”สิบคนเท่านั้น!”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
”งั้น….ทำไมข้า….”
”เพราะมีตำแหน่งของข้าด้วยไงล่ะ!”ฟางเจิ้งจือ ยิ้มอย่างเฉยเมย
”ตำแหน่งของศิษย์พี่กงฉิง?!”
”หา?ศิษย์พี่กงฉิง เข้าร่วมการทดสอบในรอบที่สามด้วย?!”
”ศิษย์พี่กงฉิงไม่ได้เป็นศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์อยู่แล้วหรอกหรือ? ทำไมถึงต้องเข้าร่วมการทดสอบอีก? เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ พูด ผู้เข้าร่วมต่างก็พูดไม่ออก ศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์เป็นผู้เข้าร่วมการทดสอบ?
ไม่เคยได้ยินมาก่อน!
ที่สำคัญก็คือมันไม่ยุติธรรมใช่ไหม?
”เราจะเทียบขั้นกับศิษย์พี่กงฉิงได้ยังไง?”
”ถูกต้อง!”
”การแข่งกับศิษย์พี่กงฉิง?นี่… ข้ายังคงเฝ้ารอที่จะได้เข้าศาลาเต๋าสวรรค์เพื่อได้เรียนรู้จากศิษย์พี่กงฉิง!”
คนส่วนมากไม่เข้าใจแม้แต่น้อยเพราะมันแปลกมาก
เข้าร่วมการทดสอบในรอบที่สามพร้อมกับผู้เข้าร่วมคนอื่นๆเพื่อะไรกัน?
”เพราะเขาไม่ใช่กงฉิงเขาเป็นตัวปลอม!”ในตอนนั้นเสียงดังก้องมาจากด้านล่าง
”ตัวปลอม?!”
”ใครกล่าวหาศิษย์พี่กงฉิงอีกกัน?”
”ไม่ใช่ว่าเขาพิสูจน์ตัวตนแล้วหรือว่าเป็นตัวจริง?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นผู้เข้าร่วมต่างก็ไม่เชื่อหูตัวเอง
มีอีกคนที่รนหาตายเหมือนกับซี่หม่า เฟิง อีกหรือ?
นั่นคือสิ่งที่ทุกคนกำลังคิด
อย่างไรก็ตามเงาใหญ่ยักษ์ก็บินขึ้นมาบนยอดเขา ในตอนนั้นเองทุกคนต่างหันมองด้วยความไม่เชื่อ
เพลิงเขียว?
แน่นอนนี่ยังไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่สำคัญมีคนยืนอยู่บนเจ้าเพลิงเขียว ผมของเขาดูยุ่งเหยิงและสวมชั้นในเพียงตัวเดียว
เมื่อสายลมพัดผ่านชั้นในที่ขาดรุ่งริ่งของเขาก็เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
เขาดูน่าสมเพชเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามเมื่อทุกคนเห็นหน้าตาของเขาชัดขึ้น พวกเขาก็อ้าปากกว้าง ราวกับพวกเขามองเห็นผี