”ผูอ้าวุโสห้าเจ้า…” ผู้อาวุโสสามดูเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัดในขณะที่พูด สีหน้าของเขาบิดเกร็งในขณะที่พยายามดิ้นให้หลุดจากเถาวัลย์
จากนั้นเขาก็ตกลงไปบนพื้น
”พี่สามข้ารู้ว่าท่านจะพูดอะไร อย่างไรก็ตาม ข้าไม่สามารถทนดูได้ เมื่อเห็นเจ้าเด็กนั่นนำความอัปยศมาสู่ท่าน แม้ว่าจะต้องเสียเกียรติ อย่างน้อยมันจะต้องตาย!”ผู้อาวุโสห้าจ้องมองผู้อาวุโสสามที่ตกลงไป
หลังจากพูดจบเขาก็จ้องไปทางมู่ ฉิงเฟิง ที่แท่นบูชา จากนั้นเขาก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง
เสียงถอนหายใจดังก้องไปทั่ว
มู่ฉิงเฟิง มองไปที่จักรพรรดิทั้งสี่และศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ก่อนที่จะมองไปที่ผู้อาวุโสห้า
”ผู้อาวุโสห้าจะทำแบบนี้จริงๆงั้นหรือ?”
”โปรดยอมรับในการตัดสินใจของข้า!”ผู้อาวุโสห้าพยักหน้าในขณะที่พูด ”เอาล่ะต่อจากนี้เจ้าถูกปลดจากตำแหน่งผู้อาวุโสห้า และมีสถานะเป็นศิษย์ธรรมดา เจ้าจะต้องคอยพิทักษ์ศิลาเซียนเป็นเวลาสิบปีเพื่อเป็นการลงโทษ!”มู่ ฉิงเฟิง กล่าวหลังจากจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสห้า
”ขอบคุณท่านผู้นำศาลาสำหรับความเมตตา ข้า หลี่ หลิงยู่ จะทำตามที่ท่านสั่ง!”ผู้อาวุโสห้าคำนับเล็กน้อยต่อ มู่ ฉิง เฟิง ก่อนจะยืนขึ้น
ศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์รอบข้างและเหล่าจักรพรรดิต่างก็จ้องมองเขาอย่างไม่พูดอะไร
ลอบโจมตี…
ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับการตัดสินใจของมู่ ฉิงเฟิง แต่การทำโทษโดยการให้พิทักษ์ศิลาเซียนและปลดจากการเป็นอาวุโสก็เป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว
เมื่อผู้อาวุโสห้าลุกขึ้นยืนสายตาของเขาก็จ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ อีกครั้ง ชุดคลุมสีขาวพริ้วไหวไปตามสายลมอย่างน่าสะพรึง ดวงตาของเขาเปล่งประกาย ”เจ้าเด็กเหลือขอเจ้าควรรู้สึกเป็นเกียรติที่ข้าต้องสละชื่อตัวเองเพื่อแลกกับชีวิตของเจ้า!”ผู้อาวุโสห้าค่อยๆเดินเข้าไปหา ฟาง เจิ้งจือ หลังจากที่พูด
”เกียรติ?”ฟางเจิ้งจือ จ้องไปที่ผู้อาวุโสห้าที่กำลังเดินเข้ามา
ชื่อผู้อาวุโสของศาลาเต๋าสวรรค์จะมีค่าเท่าไหร่กัน?
ผู้อาวุโสห้าลอบโจมตีนอกจากนี้ ฟาง เจิ้งจือ เป็นคนที่ไม่มีภูมิหลังและความสำคัญใดๆ
การถูกปลดจากตำแหน่งจนกลายเป็นศิษย์แสดงให้เห็นว่าที่นี่เข้มงวดแค่ไหน
ฟางเจิ้งจือ ครจะรู้สึกเป็นเกียรติงั้นหรือ?
ทันใดนั้นเองฟาง เจิ้งจือ ก็เริ่มหัวเราะออกมา เขาเหลือบมองไปยังเหล่าศิษย์ของศาลาที่ไม่ค่อยพอใจ นอกจากนี้เขายังจ้องไปที่ใบหน้าสงบของ มู่ ฉิงเฟิง และ จักรพรรดิทั้งสี่
ความเหมาะสม?
เหล่าอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ให้ความสำคัญกับภูมิหลัง ความสำคัญของบุคคล ในขณะที่ดินแดนเซียนเห็นคุณค่าในตัวคน
”ดูเหมือนว่าวันนี้ข้าจะไม่ได้เดินออกจากศาลาเต๋าสวรรค์เป็นแน่?”ฟาง เจิ้งจือ ลุกขึ้นและเช็ดเลือดที่มุมปากของเขา แล้วเผยรอยยิ้มที่สดใสออกมา
”ถูกแล้ว!”ผู้อาวุโสห้าพยักหน้าและจ้องไปทีฟาง เจิ้งจือ ในขณะที่อักขระบนหน้าผากของเขาส่องสว่างขึ้น
”เริ่มได้!”ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาไม่สนใจผู้ที่จ้องมองเขา ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไปแล้ว
”ตาย!”ผู้อาวุโสห้าเคลื่อนไหวอย่างที่เขาพูด
แสงมรกตส่องประกายออกจากร่างของเขากลายเป็นเถาวัลย์ยักษ์นับไม่ถ้วน มันพุ่งไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามตอนที่ผู้อาวุโสห้าโจมตี …
แสงสีแดงเข้มก็ปรากฎขึ้นที่ด้านหลังของเขามันเต็มไปด้วยจิตสังหาร ที่ทำให้บรรยากาศเยือกเย็น
”หืม?ผู้อาวุโสห้าหยุดกลางคันเขาประหลาดใจกับสิ่งที่เห็น อย่างไรก็ตาม เขาตอบสนองในทันทีแล้วส่งฝ่ามือไปในทิศทางนั้น
ตูม!เสียงระเบิดดังขึ้น
มีร่างลอยไปด้านหลังบางอย่างที่เหมือนกับผลึกแก้วสีแดงเข้มแตกกระจายอยู่กลางอากาศ
”เหยียนซิว?”
”ทำไมเขาถึงโจมตีผู้อาวุโสห้า?”
”เกิดอะไรขึ้น?”
ถ้าผู้อาวุโสห้าโจมตีฟาง เจิ้งจือ ศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ก็เข้าใจการกระทำของ เหยียน ซิว อย่างไรก็ตาม เหยียน ซิว โจมตีผู้อาวุโสห้าอย่างไม่มีเหตุ มันผิดปกติ
เพราะอะไรกัน?
ทำไมเหยียน ซิว ทำเช่นนี้?
ศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ไม่เพียงแต่ไม่เข้าใจเรื่องนี้แม้แต่ผู้เข้าร่วมเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน พวกเขาจ้องไปที่ เหยียน ซิว
”เหยียนซิว เจ้าทำอะไร?”หลิน มู่ไป่ ยืนขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะที่เขาพูด สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสน
ในฐานะจักรพรรดิขออาณาจักรเซี่ย
เขารู้ว่าเหยียน ซิว ไม่ใช่คนแบบนั้น ถ้าบอกว่า เหยียน ซิว ทำเพื่อความยุติธรรม เรื่องมันคงจะยืดเยื้อไปอีกแน่ ที่แห่งนี้คือศาลาเต๋าสวรรค์
และเหยียน ซิว เองก็กำลังเข้าร่วมการสอบ
”เหยียนซิว?”ผู้อาวุโสห้าหันมาจ้องร่างที่อยู่ด้านหลัง ในขณะที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดขึ้น “มันไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า!”
”ข้าต้องช่วยเขา!”ใบหน้าของเหยียน ซิว ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แม้เขาจะกำลังตั้งใจอย่างมากก็ตาม หลังจากนั้นเขาก็เดินไปหาผู้อาวุโสห้าอีกครั้ง
”ช่วยเขา?!”ผู้อาวุโสห้าขมวดคิ้วในขณะที่จ้อง ฟาง เจิ้งจือ โดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นก็จ้องไปที่ เหยียน ซิว และพูดว่า “เจ้ารู้ตัวจริงของมันงั้นหรือ?”
”ข้าไม่รู้”เหยียน ซิว ส่ายหัวของเขาในขณะที่ตอบ
”เจ้าปกป้องเขาแม้จะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร?”ผู้อาวุโสห้าตกใจกับคำตอบของ เหยียน ซิว เขาไม่สามารถเข้าใจการกระทำเช่นนี้ได้
”ถูกต้อง”เหยียน ซิว พยักหน้า
”ขอเหตุผลดีๆสักข้อ”ผู้อาวุโสห้าจ้องไปที่ เหยียน ซิว ด้วยสายตาที่เย็นชา
”เขาคล้ายกับเพื่อนข้าคนหนึ่ง”
”คล้ายกัน?คล้ายยังไง?”
”จากด้านหลังของเขา”
”ด้านหลัง?เหยียน ซิว ตอนนี้เจ้าเป็นถึงองค์ชายของอาณาจักรเซี่ย เจ้าควรจะเรียนรู้ถึงความสำคัญในสถานการณ์เช่นนี้ บนโลกนี้หลายคนนักที่พอมองจากด้านหลังแล้วจะมีความคล้ายกัน เจ้าจะยอมทิ้งโอกาสที่จะเข้าเป็นศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ด้วยเหตุผลเท่านี้งั้นหรือ?”ผู้อาวุโสห้าพูดด้วยน้ำเสียงที่ตกตะลึง ”ใช่!”เหยียนซิว พยักหน้าอีกครั้ง ไอรีนโนเวล
”เหยียนซิว เจ้าคิดให้ดีๆ ถ้าเจ้าถอยไป ข้าจะทำเป็นมองไม่เห็นการกระทำของเจ้าและยังอนุญาติให้เข้าร่วมการทดสอบในรอบที่สาม!”
”ข้าตัดสินใจแล้วแม้จะมีความเป็นไปได้เพียงน้อยนิด แต่ข้าก็ต้องช่วยเขา นั่นเป็นเพราะเขาคือเพื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตข้า!”เหยียน ซิว ยืนนิ่งพร้อมกับดวงตาสีแดงก่ำ
คลื่นพลังสีแดงเข้มเพิ่มมากขึ้นห่อหุ้มร่างกายของเขาเอาไว้
”นั่นคือเต๋าแห่งอาชูร่า!”
”ดูเหมือนว่าเหยียน ซิว เข้าใกล้มันแล้ว เขาเหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะประสบความสำเร็จ!”
”แม้เขาจะยังทำไม่สำเร็จแต่ความแข็งแกร่งของเขาก็อยู่ในระดับจุติขั้นกลาง และเขาอายุเพียงสิบแปดปีเท่านั้น!”
เหล่าศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์จ้องไปที่ฉากนี้ด้วยความหวาดกลัวอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไม เหยียน ซิว ถึงเข้าไปขัดขวางผู้อาวุโสห้าด้วยเหตุผลที่ไร้สาระเช่นนั้น
นอกจากนั้นเขายังโจมตีผู้อาวุโสห้า
เขาจะยังพอมีโอกาสได้เข้าศาลาเต๋าสวรรค์อีกหรือไม่?
เพื่อน?เพื่อนแบบนั้นมีอยู่จริงในโลกด้วยงั้นหรือ?
”เหยียนซิว อย่ารีบร้อนไป เขาไม่ใช่ ฟาง เจิ้งจือ ข้าได้ยินมาว่า ฟาง เจิ้งจือ ยังอยู่ที่หมูบ้านภูเขาทางเหนือเมื่อครึ่งเดือนก่อน เขาไม่สามารถมาถึงที่นี่ได้ทันเวลา นอกจากนี้ ฟาง เจิ้งจือ อยู่ในระดับอภินิหารเท่านั้น เจ้าคงรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าถึงระดับจุติได้ ทั้งยังเชี่ยวชาญการใช้เต๋าสวรรค์ ภายในเวลาแค่สองเดือน!”หลิน มู่ไป่ พูดอย่างกังวล เขารู้ถึงตัวตนของเพื่อนคนนั้นในทันทีที่ เหยียน ซิว พูด
นั่นคือเหตุผลที่เขาไม่ยอมให้เหยียน ซิว เป็นศัตรูกับศาลาเต๋าสวรรค์เพื่อคนที่ไม่มีทางเป็น ฟาง เจิ้งจือ ได้อย่างแน่นอน แม้ว่าผู้อาวุโสห้าจะไม่ใช่ผู้อาวุโสอีกต่อไปแล้วก็ตาม นั่นเป็นเพราะว่าเขาคือจักรพรรดิของอาณาจักรเซี่ยเขารู้เรื่องกฎหมายและอำนาจของศาลาเต๋าสวรรค์ดี การปลดชื่อเป็นเพียงเรื่องชั่วคราวเท่านั้น
”เขาพูดถูกข้าไม่ใช่เพื่อนของเจ้า ข้าไม่ได้รู้จักเจ้าแม้แต่น้อย!” ฟาง เจิ้งจือ ตะโกนออกมา
”ข้าไม่สนใจว่าเจ้าเป็นใครการตัดสินใจองข้าจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง!”ดูเหมือน เหยียน ซิว จะไม่สนใจคำปฏิเสธของ ฟาง เจิ้งจือ แม้แต่น้อย เขาทำราวกับว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พูด
”เจ้าไม่ได้ยินข้าหรือ?”ฟางเจิ้งจือ ตะโกนอย่างแปลกๆ
”ข้าไม่ต้องการที่จะเสียใจเขาเป็นเพื่อนคนแรกของข้า และเป็นเพื่อนที่สำคัญที่สุดของข้า” เหยียน ซิว จ้องมอง ฟาง เจิ้งจือ ในขณะที่คิด จากนั้นเขาก็พูดต่อไปว่า “ท่านปู่บอกว่า จงมีเพื่อนให้มากที่สุดเท่าที่ชีวิตจะหาได้ อย่างไรก็ตาม ข้าคิดว่าแค่มีเขามันก็เพียงพอแล้ว!”
”เพื่อนเพียงคนเดียว?” ”เพื่อนคนเดียวตลอดชีวิต?เหตุผลอะไรกัน?”
เหล่าศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ต่างหันมองกันด้วยความสับสน
เหยียนซิว ไม่สนใจความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในศาลาเต๋าสวรรค์แม้แต่น้อย เขาพูดต่อ “เขาคือเพื่อนที่ข้าพูดถึง ความจริงแล้ว เจ้าทั้งสองคนมีความคล้ายกันมาก เจ้าไม่ค่อยละเอียดอ่อนนักและมักจะหลอกลวงผู้อื่น เจ้าทั้งคู่ดื้อรั้นและชอบสร้างปัญหาเสมอ”
”แต่เขาไม่เคยหลอกข้าแม้แต่ครั้งเดียวแม้เรื่องที่ข้าพูดถึงตอนพบกันครั้งแรก!”
”เขาหลงใหลในเงินมากว่าสิ่งใดแต่ตอนที่พวกเราอยู่หอเจ็ดดวงดาว ข้าวางเดิมพันตามเขาถึง ห้าหมื่นเหรียญเงิน ข้ารู้ว่าถ้าข้าไม่วางเดิมพัน ดวงดาวทั้งเจ็ดคงจะไม่มารวมตัวกันแน่!”
”ครั้งนั้นข้าชนะ”
”ข้าเชื่อว่าเขาจะพาข้าไปสู่ชัยชนะครั้งนี้ข้าก็ขอเดิมพันกับเขา แม้โอกาสจะเป็นหนึ่งในล้านข้าก็จะทำ!”
”ถ้าพูดถึงเพื่อนของข้าข้าสามารถทิ้งใครก็ได้ยกเว้นแต่เขาเพียงคนเดียว!”
.
Gate of God – ตอนที่ 684 เพื่อนคนสำคัญ
Posted by , ? Views, Released on September 29, 2022
Gate of God
GoG, 神门Adventure Comedy Fantasy Harem Martial Arts Xianxia กำลังภายใน นิยาย จีน นิยาย ผจญภัย นิยาย ศิลปะการต่อสู้ นิยาย แฟนตาซี นิยาย แอคชั่น
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง
Recommended Series
Comment
Facebook Comment
