Gate of God – ตอนที่ 692 หยุดยั้งเขา

พลังงานอันทรงพลังทำให้ดวงตาของผู้อาวุโสกลายเป็นสีเขียวหยก
อย่างไรก็ตามใครที่เห็นภาพนี้ล้วนเข้าใจ
ทำไมผู้ที่อยู่ในระดับเซียนถึงทรงพลัง?นั่นเพราะพวกเขาสามารถปลดปล่อยแหล่งพลังงานสุดท้ายในร่างกายออกมาใช้ได้ ซึ่งมันมีราคาที่จะต้องจ่าย…
อายุขัย
ถ้าพวกเขาไม่จนมุมจริงๆพวกเขาจะไม่ทำแบบนี้เด็ดขาด
เมื่อเขานำเถาวัลย์สวรรค์ออกมานั่นหมายความว่าทุกอย่างไม่มีทางย้อนกลับได้อีกแล้ว
ผู้อาวุโสห้าเคลื่อนไหวเขาพุ่งเข้าไปหา เหยียน ซิว ทันที แสงสีเขียวสว่างขึ้นมาจากเถาวัลย์สวรรค์ในมือเขาทันที
แสงที่พวยพุ่งออกมาค่อยๆรวมตัวกันกลายเป็นบางดาบอันแหลมคมพุ่งไปที่หัวใจของ เหยียน ซิว
”ตูม!”เสียงระเบิดดังขึ้น
ร่างของทั้งคู่แยกออกจากกันเหยียน ซิว ถูกแรงระเบิดกระแทกอย่างรุนแรง ร่างของเขาปะทะเข้ากับพื้นหยกสีขาวจนมันยุบลงไป
”พวกเราชนะแล้ว?”
”ผู้อาวุโสห้าใช้แก่นพลังแห่งเต๋าแม้ เหยียน ซิว จะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ไม่มีทางรับมือได้!”
”ไม่เขากำลังลุกขึ้นยืน!”
เหล่าศิษย์เต๋าสวรรค์ที่กำลังดีใจกลับต้องตกตะลึงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามทุกคนเห็นว่าร่างของเหยียน ซิว นั้นเต็มไปด้วยบาดแผลที่น่ากลัว ราวกับถูกหนามจำนวนมากเจาะเข้าทั่วร่าง
อย่างไรก็ตามบาดแผลนั้นกลับฟื้นฟูอย่างรวดเร็วพลังงานสีดำรอบๆตัว เหยียน ซิว ค่อยๆหนาขึ้นเรื่อยๆ
”หยานฉิง การต่อสู้ของพวกเราต้องเลื่อนออกไปก่อน!” หนานกง มู่ พูดกับ หยาน ฉิง ท่าทีของเขากังวลอย่างมาก
”เพราะเพื่อนงั้นรึ?”หยาน ฉิง หยุดนิ่ง
”ใช่!”หนานกง มู่ ตอบออกมาอย่างหนักแน่น
”อย่างไรก็ตามเจ้าควรรู้ไว้ว่าเมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะหยุดมันถ้าไม่มีฝ่ายใดแพ้ !” หยาน ฉิง พูดขึ้นมาราวกับเขาไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ เหยียน ซิว
จิตสังหารรอบๆตัวเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ราวกับนักล่าที่พร้อมจะล่าเหยื่อ
หนานกงมู่ ไม่ได้พูดอะไร แต่มือของเขากลับจับดาบแน่น
”เจ้าจะจัดการข้าและไปช่วยเพื่อนหรือจะพ่ายแพ้แก่ข้า และข้าจะไปช่วยเพื่อนเจ้าด้วย!” หยาน ฉิง กล่าว
”งั้นเจ้าก็จงพ่ายแพ้ไปซะ!”หนานกง มู่ พยักหน้า และละทิ้งความคิดอื่นๆไปทันที
มือข้างหนึ่งของเขาจับดาบสีฟ้าอีกข้างจับออกไปก่อน!” หนานกง มู่ พูดกับ หยาน ฉิง ท่าทีของเขากังวลอย่างมาก
”เพราะเพื่อนงั้นรึ?”หยาน ฉิง หยุดนิ่ง
”ใช่!”หนานกง มู่ ตอบออกมาอย่างหนักแน่น
”อย่างไรก็ตามเจ้าควรรู้ไว้ว่าเมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะหยุดมันถ้าไม่มีฝ่ายใดแพ้ !” หยาน ฉิง พูดขึ้นมาราวกับเขาไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ เหยียน ซิว
จิตสังหารรอบๆตัวเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ราวกับนักล่าที่พร้อมจะล่าเหยื่อ
หนานกงมู่ ไม่ได้พูดอะไร แต่มือของเขากลับจับดาบแน่น
”เจ้าจะจัดการข้าและไปช่วยเพื่อนหรือจะพ่ายแพ้แก่ข้า และข้าจะไปช่วยเพื่อนเจ้าด้วย!” หยาน ฉิง กล่าว
”งั้นเจ้าก็จงพ่ายแพ้ไปซะ!”หนานกง มู่ พยักหน้า และละทิ้งความคิดอื่นๆไปทันที
มือข้างหนึ่งของเขาจับดาบสีฟ้าอีกข้างจับดาบสีเขียว เขาพุ่งไปด้านหน้า
”ดาบคู่!!”
ลำแสงสีเขียวและฟ้าปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าก่อนที่จะค่อยๆกลายเป็นรูปร่างของดาบสองเล่ม
ดาบทีลงมาจากสวรรค์หนึ่งสีฟ้าและอีกหนึ่งสีเขียว
”ไปเลย!”
ดาบของหนานกง มู่ ฟันลงไปที่หมัดของ หยาน ฉิง เลือดสาดกระเซ็นออกมาทันที
กระดูกแตกละเอียด
เห็นได้ชัดว่าดาบของหนานกง มู่ นั้นคมเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามช่วงเวลาที่ดาบแตะเข้ากับหมัดของหยาน ฉิง หมัดอีกข้างของ หยาน ฉิง ก็เคลื่อนไหวเช่นกัน มันพุ่งเข้าใส่ท้องของ หนานกง มู่
”อั้ก!”
จากนั้นร่างของหนานกง มู่ ก็กระเด็นออกไปในทันที
หยานฉิง ถอยออกมา อย่างไรก็ตามมือของเขาที่ถูกฟันไปเมื่อกี้
ยังคงมีเลือดไหลออกมา
อย่างไรก็ตาม…
กระดูกที่แตกอยู่ข้างในนั้นหายสนิท
”คงกระพัน….วิชาคงกระพัน!” หนานกง มู่ มองไปที่มือนั้น เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
”มันเป็นวิชาทรงพลังแต่มันก็ไร้ประโยชน์กับข้า” หยาน ฉิง กำหมัดที่พึ่งถูกฟันอีกครั้ง มีชิ้นเนื้อและเลือดตกค้างอยู่บนนั้น จากนั้นเขาก็อ้าปากแล้วพูดว่า “เจ้ารู้ไหม? ข้าไม่มีเพื่อน ยิ่งไปกว่านั้นข้าเชื่อว่าข้าไม่จำเป็นต้องมีเพื่อน!”
”ในอดีตข้าก็คิดแบบนั้นเช่นกัน” สายตาของ หนานกง มู่ เต็มไปด้วยความล้ำลึก “จนเมื่อข้ามาเจอ เหยียน ซิว และ ฟาง เจิ้งจือ!”
”ฮ๋าฮ่า…”หยาน ฉิง หัวเราะออกมาทันที “เพื่อน? แม้แต่ญาติแท้ๆยังไร้ประโยชน์ เพื่อนนั้นจะสามารถทำอะไรได้บ้าง?”   ”ถ้าไม่มีพ่อแม่ ญาติมิตร แล้วเจ้าจะเติบโตขึ้นมาได้ยังไง?” หนานกง มู่ ถามกลับ
”ข้านั้นถูกโยนทิ้งตั้งแต่วินาทีแรกที่ข้าเกิด?”สายตาของ หยาน ฉิง เต็มไปด้วยความดุร้าย “หลังจานั้นข้าพบว่าข้าไม่สามารถรวบรวมพลังได้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาทิ้งเขาในจุดที่ลึกที่สุดในป่า!”
”ไม่สามารถรวบรวมพลังได้?”หนานกง มู่ จ้องมองไปที่ หยาน ฉิง ก่อนที่เขาจะนึกบางอย่างได้ จนถึงตอนนี้ หยาน ฉิง ไม่ได้ใช้พลังออกมาเลย เขาใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายล้วนๆ
หยานฉิง ไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อ เขาลดหัวลงก่อนจะพูดออกมา “สำหรับมนุษย์ที่อยู่กับสัตว์ มีเพียงสองเงื่อนไขเท่านั้น หนึ่งคือต้องแข็งแกร่งพอ สองเจ้าต้องรู้ภาษาที่สัตว์ใช้สื่อสารกัน อย่างไรก็ตามด้วยอายุเท่านั้น ข้าขาดทั้งสองอย่าง!” Aileen-novel
”แล้วเจ้ารอดมาได้ยังไง?”หนานกง มู่ ถามออกมาด้วยความสงสัย
”จริงๆแล้วข้าไม่ได้รอดความจริงแล้วข้าถูกเสือดำกลืนเข้าไปในท้องครั้งหนึ่ง!” รอยยิ้มที่โหดร้ายปรากฎบนใบหน้าของ หยาน ฉิง
”กลืนเข้าไปในท้องของมัน?!”การแสดงออกของ หนานกง มู่ เต็มไปด้วยความตกใจ
”หลังจากนั้นข้าก็แหวกท้องมันออกจากด้านในแล้วคลานออกมา นี่คือวิธีที่ทำให้ข้ากลายเป็นหนึ่งในพวกมัน” หยาน ฉิง พยักหน้า
”…”หนานกง มู่ ไม่ได้พูดอะไร
เขารู้ว่าหยาน ฉิง นั้นถูกเลี้ยงดูมาจากสัตว์ แต่เขาไม่รู้ว่ามันเกิดจากเงื่อนไขเหล่านี้
”เมื่อข้ากลับออกมาจากป่าพวกเขาเรียกข้าว่า ‘ชายผู้มาจากป่า’ จนกระทั่งข้าเอาชนะพวกเขาทั้งหมดทีละคนด้วยกำปั้นของข้า!”
”เจ้านั้นช่างโดดเดี่ยว!”หนานกง มู่ พูดออกมาทันที
”เจ้าผิดแล้วข้าไม่รู้สึกโดดเดี่ยวแม้แต่น้อย ข้าต้องการบอกให้ทุกคนได้รู้ว่าต่อให้ไม่มีพลัง ข้าก็แข็งแกร่งได้ เจ้าทำได้ดี แต่เจ้ายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!” หยาน ฉิง พูดพร้อมกับเดินไปหาหนานกง มู่ ทีละก้าว
หนานกงมู่ ลุกขึ้นจากพื้นเช่นกัน เขาจับดาบทั้งสองข้างในมือแน่น ดวงตาของเขาส่องสว่างเป็นสีฟ้าและเขียว
สีหน้าของเขาดูโหดร้ายขึ้นเล็กน้อย
”ไม่มีทางรู้จนกว่าจะได้ลอง!”หนานกง มู่ เคลื่อนไหวอีกครั้ง “ความสามารถของเจ้านั้นคือความแข็งแกร่งของร่างกาย แต่วิชาของข้านั้นมีไว้เพียงอย่างเดียวคือการทำลาย!”
”‘การทำลาย?ยอดเยี่ยม!” เมื่อ หยาน ฉิง ได้ยิน เขาก็ยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้น

อีกด้านเหยียน ซิว ได้พุ่งเข้าไปหาผู้อาวุโสห้าอีกครั้ง
แสงสีแดงบนร่างกายของเขาเริ่มมืดมิดขึ้นเรื่อยๆมันเกือบดำสนิท
จิตสังหารอันชั่วร้ายรอบๆตัวเขาทวีคุณขึ้นเรื่อยๆ
ความเร็วของเขานั้นน่ากลัวมาก  ”อาชูร่าคลั่งเป็นเหมือนที่ตำนานได้กล่าวไว้!” ผู้อาวุโสห้ามองไปที่ เหยียน ซิว ก่อนจะแทงเถาวัลย์สวรรค์ไปด้านหน้าอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามในตอนที่เขาฟาดเถาวัลย์ จู่ๆก็มีก๊าซสีดำปรากฏขึ้นที่พื้นดิน จากนั้นมันก็ลอยขึ้นมาคลุมมือของเขา
นั่นทำให้เถาวัลย์สวรรค์ขยับไปด้านหน้าเพียงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามนั่นก็เพียงพอที่ เหยียน ซิว สามารถหลบการโจมตีได้ จากนั้นเขาก็โบกพัดสีเงินไปที่หน้าอกของผู้อาวุโสห้า
”ฟุบ!”
รอยแผลปรากฏขึ้นที่หน้าอกของผู้อาวุโสห้ามันบาดลึกถึงกระดูกจนสามารถมองเห็นได้ เลือดสีแดงเข้มไหลออกมาจากปากแผล
มีเสียงเบาๆดังขึ้นจากบาดแผล
สีหน้าของผู้อาวุโสห้าซีดขาวเขาพยายามจะถอยหนี แต่ร่างของ เหยียน ซิว ก็หายวับไป
มันเป็นฉากที่ประหลาด  ราวกับเหยียน ซิว กำลังกลายเป็นปีศาจ
จากนั้นผู้อาวุโสห้าก็รู้สึกถึงพลังบางอย่างด้านหลังมีแรงตบด้วยฝ่ามือเกิดขึ้นที่แผ่นหลังของผู้อาวุโสห้า
”อั้ก!”ร่างของผู้อาวุโสห้าพุ่งไปด้านหน้าเขาก็กระอักเลือดออกมาในเวลาเดียวกัน เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วพื้นดิน
”แข็งแกร่ง!”
”อาชูร่าคลั่งสมแล้วที่เป็นพลังของอาชูร่า!”
”ถ้ายังปล่อยไว้แบบนี้ผู้อาวุโสห้าจัดการไม่ได้แน่!”
ในขณะที่เหล่าศิษย์ได้เห็นฉากตรงหน้าความรู้สึกที่เย็นเยือกก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
ความมืดที่คืบคลาน
ไม่มีใครเคยได้ยินหรือได้เห็นการโจมตีเช่นนี้มาก่อน
”อาจารย์!”ศิษย์ทุกนต่างมองไปที่มู่ ฉิงเฟิง แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว  เมื่อมู่ ฉิงเฟิง ได้ยินเสียงของหล่าศิษย์ มือของเขาก็กำแน่นไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม เขาไม่ส่ายหัวอีกต่อไป
”ไม่พวกเราต้องหยุด เหยียน ซิว!”
เมื่อเหล่าศิษย์เห็นว่ามู่ ฉิงเฟิง ไม่ตอบกลับ พวกเขารู้ในทันที
ถ้าการต่อสู้ระหว่างฟาง เจิ้งจือ และผู้อาวุโสห้าเป็นเรื่องระหว่างพวกเขา สถานการณ์ตอนนี้ก็ …
เมื่อเหยียน ซิว กลายเป็นอาชูร่าคลั่ง มันก็ไม่ใช่เรื่องระหว่างเขาสงคนอีกต่อไป แม้ว่า มู่ ฉิงเฟิง จะไม่พูดอะไร พวกเขาก็รู้ดีว่าควรทำอะไร
นั่นเป็นเพราะเหยียน ซิว สูญเสียสติสัมปชัญญะไปแล้ว เขากลายเป็นอาชูร่าคลั่ง ถ้าปล่อยเขาไปต้องมีคนจำนวนมากต้องตายแน่นอน
ศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ไม่รอช้าอีกต่อไปพวกเขาพุ่งเข้าไปโจมตี เหยียน ซิว จากทุกทิศทางด้วยความรวดเร็ว พวกเขาทั้งหมดหันดาบหา เหยียน ซิว
เมื่อมู่ ฉิงเฟิง เห็นฉากนี้ เขาก็ยังคงนิ่งเงียบ
เขาไม่ได้ออกคำสังให้หยุด
”เร็วเข้าหยุดยั้ง เหยียน ซิว พวกเราปล่อยให้เขากลายเป็นอาชูร่าไม่ได้!”
”ถ้าหยุดเขาไม่ได้ก็ฆ่าเขาซะ!”
”ที่นี่คือศาลาเต๋าสวรรค์เราจะปล่อยให้หุ่นเชิดเสียสติก่อความวุ่นวายได้อย่างไร?”
ศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ปิดล้อมเหยียน ซิว ในทันที พวกเขาตะโกนขึ้นพร้อมชักดาบออกมา
ทุกทิศทาง
พวกเขาโจมตีพร้อมกัน
ฟางเจิ้งจือ อยู่ในสภาพที่แย่มากสายตาของเขาพร่ามัว ฟังเสียงได้ไม่ชัด
อย่างไรก็ตามเขาสามารถรับรู้ถึงพลังงานมหาศาลของเหล่าศิษย์ได้
”อ้าก!”ฟางเจิ้งจือ ตะโกนออกมาจากนั้นเขาก็ถ่มน้ำลายลงพื้น หยดเลือดกระทบดาบไร้ร่องรอย
แสงสีม่วงของปิศาจส่องสว่างอีกครั้ง
”โฮก!”เสียงคำรามดังก้องจากนั้นแสงสีม่วงก็พุ่งขึ้นฟ้า มันเป็นมังกรสีม่วงที่ทยานสู่ท้องฟ้า แสงสีแดงเข้มส่องประกายในดวงตาของเขา
สายฝนตกกระหน่ำ
อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ฝนจริงๆแต่มันคือแสงสีม่วงนับไม่ถ้วนที่ร่วงลงมาจากท้องฟ้า ทุกๆเม็ดแสงทั้งหมดคือดาบแสงที่ตกลงมา
.

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset