Gate of God – ตอนที่ 713 แต่ละด้าน


สุสานถูกซ่อนอยู่ในหิมะหนาที่ปกคลุม
ประตูสุสานหนานกงค่อยๆเปิดออกมีชายวันกลางคนเดินออกมาจากด้านใน คบเพลิงส่องสว่างไปตามผนังทางเดิน
ภาพโบราณมากมายถูกจารึกอยู่บนผนัง
เป็นภาพของการต่อสู้ในสงครามมันเป็นภาพที่มีเพียงสามสี คือเขียว ฟ้า และแดง
ชายวัยกลางคนไม่ได้สนใจภาพจารึกนักเขาเดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว และเข้าไปยังโถงกว้าง
สุสานหนานกงอยู่ลึกลงไปห้ากิโลเมตร
ถึงอย่างนั้นตัวห้องโถงมีความสูงถึงสามสิบเมตร และกว้างใหญ่เป็นอย่างมาก
”นายท่าน!”เสียงดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
ชายวัยกลางคนพยักหน้ารับเล็กน้อยในขณะที่หันมองทางเข้าที่ตั้งอยู่ใจกลางห้องโถง มันทำมาจากหินสีเขียว
มันเป็นทางเข้าที่ไม่มีประตู
ราวกับซุ้มขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางโถงเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่ามันถูกทำขึ้นจากหินพิเศษมันมีรอยร้าวมากมาย และมีรูปปั้นคล้ายมนุษย์ตั้งขนาบข้างทั้งสองฝั่ง
ที่ตรงกลางมีสัตว์ร้ายขนาดยักษ์และมีเขี้ยวที่แหลมคม ดวงตาของมันเป็นอัญมณีสองเม็ดที่ส่องแสงสีเขียว
เมื่อชายวัยกลางคนเดินไปถึงประตูชายสวมชุดขนสัตว์กว่าแปดคนที่นั่งอยู่ก็ลุกยืนขึ้น
”มาเริ่มกันเถอะ!”ชายวัยกลางคนพูดกับชายทั้งแปดและเดินไปด้านหน้าของช่องประตู
”รับทราบ!”พวกเขาพยักหน้าในทันที
ในขณะที่ถอดชุดคลุมออกบนร่างของพวกเขาก็เต็มไปด้วยภาพจารึกโบราณแบบเดียวกับบนผนังสุสาน
แต่…   ภาพบนร่างของพวกเขามีภาพสีทองที่ต่างไปจากบนผนังเมื่อชายทั้งแปดนั่งลง ภาพสีทองพวกนั้นก็เริ่มส่องสว่างและเคลื่อนไหว

ณเมืองเงาเลือด ใจกลางแดนปีศาจ
บรรยากาศของเมืองเงาเลือดในวันนี้ต่างไปจากเดิมมาก
ทหารปีศาจนับไม่ถ้วนยืนล้อมหอคอยปีศาจออยู่สีหน้าของพวกเขาตึงเครียด ราวกับว่ากำลังรอบางสิ่งบางอย่าง
ในเวลาต่อมามีร่างสีขาวโผล่ออกมาที่ด้านหน้าหอปีศาจ นางสวมชุดสีขาว มีเส้นผมสีดำเงา หน้าตางดงามเป็นอย่างยิ่ง
”นายน้อย!”เมื่อเขาก้าวออกมาเหล่าปีศาจต่างก็พากันทักทาย
ในฐานะนายน้อยปีศาจ…
เป็นเรื่องปกติที่จะเห็นหยุน ชิงวู ในดินแดนปีศาจ
แต่ตอนนี้หยุน ชิงวู มีสีหน้าที่กังวลเล็กน้อยดวงตาของนางวิตก ไม่สมกับเป็นนางเท่าไหร่
นางไม่ได้ตอบรับเหล่าปีศาจกลับกัน หยุน ชิงวู ค่อยๆเดินไปตรงกลางของหอปีศาจ
ที่ทางเข้าหอปีศาจนอกจากทหารนับไม่ถ้วนยังมีอีกสิบร่างยืนอยู่ด้วย พวกเขาสวมหน้ากากสีดำปกปิดใบหน้า
”หยุนชิงวู ขอแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโสจากสิบดินแดน” หยุน ชิงวู โค้งคำนับชายสวมหน้ากากทั้งสิบ
”อย่ามากพิธีเลยนายน้อย!”ร่างตรงกลางเอื้อมมืออกมา จากนั้นเขาก็มองไปบนท้องฟ้า “จากคำพยากรณ์ ผู้ถูกเลือกปรากฎตัวขึ้นแล้ว หนานกง เทียน คงจะเคลื่อนไหวเร็วๆนี้ นี่เป็นโอกาสที่เราไม่ควรพลาด!”
”ข้ารู้ดี”หยุน ชิงวู พยักหน้ารับ
”พ่อของท่านรออยู่ที่หอแล้วตามข้ามา” จากนั้นร่างหนึ่งก็ค่อยๆหันไปแล้วเดินตรงไปที่หอปีศาจ
”ได้”หยุน ชิงวู พยักหน้ารับอีกครั้งและตามเขาไป
ชายสวมหน้ากากอีกเก้าคนหันกลับและเดินตามหลังหยุน ชิงวู ไปเช่นกัน
พวกเขาไปถึงประตูสีดำที่มีชายทั้งแปดยืนรออยู่อย่างรวดเร็ว
”ยินดีที่ได้พบเหล่าผู้อาวุโสแห่งดินแดนปีศาจ และนายน้อย!”ชายทั้งแปดทักทายด้วยความเคารพ
”เปีดประตู!”ร่างๆหนึ่งพูดขึ้นมา
”รับทราบ!”ชายทั้งแปดหันเข้าหาประตูในทันทีพวกเขาทั้งแปดต่างหยิบกุญแจขึ้นมาและเสียบเข้าไปพร้อมกัน
”แกรก!”ประตูค่อยๆเปิดออก
มีแสงสลัวเริ่มส่องออกมาจากด้านในเมื่อประตูเปิดออก ผู้อาวุโสทั้งสิบและ หยุน ชิงวู ก็เดินเข้าไปอย่างช้าๆ ไอรีนโนเวล
ด้านในเป็นเพียงห้อง
ห้องภายในหอปีศาจ  ห้องที่สูงประมาณสามสิบเมตรกลางห้องมีชายคนหนึ่งสวมชุดสีดำขนาดใหญ่ สวมมงกุฎสีทองบนหัวของเขา
จากที่เห็นเขามีความวิกตกเหมือนกันกับ หยุน ชิงวู คิ้วของเขาทั้งคมและหนา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา
ที่ด้านหลังของชายคนนี้มีประตูหินยักษ์สีดำตั้งตระหง่านเหมือนที่สุสานหนานกง
ต่างกันเพียงแค่…
ประตูนี้เป็นสีดำทั้งหมดราวกับว่ามันจมอยู่ในน้ำหมึกสีดำมันถูกสร้างขึ้นด้วยหินสีดำทั้งหมด และด้านบนของประตูมีดวงตาสีแดงคู่หนึ่งอยู่
”หยุนตี้!” ผู้อาวุโสจากทั้งสิบดินแดนก้มหัวให้ชายวัยกลางคนที่สวมผ้าคลุมสีดำทันทีที่เห็นเขาเข้ามา
”ท่านพ่อ”หยุน ชิงวู ก้าวเท้าไปข้างหน้า และทักทายชายวัยกลางคนที่ตอนนี้ท่าทีของเขาดูกังวลเล็กน้อย  ”ทุกคนอยู่ที่นี่แล้วมาเริ่มกันเถอะ!” ชายวัยกลางคนที่ชื่อ หยุน ตี้ พยักหน้า ก่อนที่เขาจะหันไปมอง หยุน ชิงวู จากท่าทีที่เยือกเย็นของเขากลายเป็นอบอุ่นขึ้นมาในทันที
”ท่านพ่อพวกเราจะทำเรื่องนี้จริงๆงั้นหรือ?”เสียงที่ไม่ได้ดังมากของ หยุน ชิงวู ดังขึ้น
”ทำไม?”สีหน้าของ หยุน ตี้ ไม่ได้เปลี่ยนไป ราวกับเขาคาดเดาคำถามของ หยุน ชิงวู แม้แต่น้อย
”ตอนนี้เผ่าปีศาจเป็นปึกแผ่นกันมากตราบใดที่พวกเราพัฒนาอย่างยั่งยืน พวกเราต้องเป็นเผ่าพันธ์ุอันดับหนึ่ง พวกเราไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้” หยุน ชิงวู กัดริมฝีปากเบาๆ
”ชิงวูข้าเข้าใจว่าเจ้ารู้สึกยังไง แต่พวกเรารอมานานเกินไปแล้ว?” หยุน ตี้ ตอบพร้อมถอนหายใจเบาๆ
”ท่านพ่อจริงๆแล้ว…ข้าได้เตรียมการ… ” หยุน ชิงวู ไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา
”เตรียม?อะไร…?” หยุน ตี้แสดงความสับสนออกมาเล็กน้อย
”ข้าได้ปลูกเมล็ดพันธ์ุไว้แล้ว”
”เมล็ดพันธุ์?เจ้าปลูกมันที่ไหน?”
”กับคนๆหนึ่ง”
”ใครกัน?”
”ฟางเจิ้งจือ”
”เขาเป็นมนุษย์งั้นหรือ?”
”ใช”
”เจ้าปลูกเมล็ดพันธุ์ให้มนุษย์…เจ้ามั่นใจแค่ไหนกัน?”หยุน ตี้ แปลกใจเล็กน้อย แต่เขาก็รีบกลับสู่ความสงบอย่างรวดเร็ว
”ห้าสิบเปอร์เซนต์!”หยุน ชิงวู พูดเบาๆ

บนยอดเขาศาลาเต๋าสวรรค์
ม่านแสงสีทองกวัดแกว่างไปทั่วท้องฟ้า
มันเป็นภาพที่งดงามอย่างมาก
ขณะนั้นชายในชุดสีขาวคนหนึ่งกำลังพุ่งมาที่ลำแสงสีทอง
ฟางเจิ้งจือ เคยคิดว่าคงมีคนใช้โอกาสนี้ในการโจมตีเขาอยู่แล้ว แต่เขาไม่คิดว่าจะเป็น หนานกง เฮา…
ไม่ใช่ฟาง เจิ้งจือ เท่านั้นที่ไม่ได้คาดคิด…
แม้แต่ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์และศิษย์เก้าขุนเขาก็จับจ้องไปที่ร่างสีขาวนั้น…
”เกิดอะไรขึ้นกัน?”
”ศิษย์พี่หนานกงกำลังทำอะไรอยู่?!”
”ทำไมเขาถึงโจมตีล่ะ?”
ไม่มีใครเข้าใจเรื่องนี้ได้
แต่เรื่องนี้เห็นชัดว่ามันไม่ได้ทำให้ฟาง เจิ้งจือ หวาดกลัว
แน่นอนว่าเขาไม่ได้หมายความว่าหนานกง เฮา นั้นไร้พลังด้วย
ก็แค่…
เขามีพลังไม่พอ!
”เขาจะทำอะไรได้?”ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มเยาะอย่างเมินเฉย แม้ว่า ฉือ กูเหยียน จะไม่ได้อยู่ข้างๆเขา เขาก็ไม่กลัว
และนั่นคือความจริง
ฉือกูเหยียน ยกดาบขึ้นทันทีที่เห็น หนานกง เฮา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเย็นชา
ไม่มีใครรู้ว่านางคิดอะไรอยู่
และไม่มีใครรู้ว่าทำไมหนานกง เฮา ถึงโจมตี
แต่ทำไมกัน…
มีหลายครั้งที่คนเราดูเหมือนจะได้เปรียบแต่ในพริบตาสถานการณ์กลับตาลปัตร
”ข้าจะป้องกันเขาเจ้าไปกันสายฟ้าแรก!” เสียงของ ฉือ กูเหยียน ดังขึ้น ก่อนที่ดาบในมือนางจะเคลื่อนไหว
ดาบที่ลักษณะราวกับดวงจันทร์
มันมีส่วนโค้งของจันทร์เสี้ยวและส่องแสงระยิบระยับราวกับถูกรายล้อมไปด้วยดาวนับพันดวงมันพุ่งไปหา หนานกง เฮา และกระแทกเข้าอย่างแรงโดยไม่คิดจะเมตตา  ในขณะนั้นฟาง เจิ้งจือ สับสนเล็กน้อย
”สายฟ้า?สายฟ้าอะไร?” ฟาง เจิ้งจือ กำลังจะถาม แต่ทันใดนั้นดวงตาของเขาต้องเบิกกว้าง ในที่สุดเขาก็รู้
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าเขาก็สายฟ้าจำนวนมากพาดผ่านไปทั่วท้องฟ้าและทีสำคัญมันเป็นสายฟ้าที่มีขนาดใหญ่มาก
”…”ฟาง เจิ้งจือ อยากสลับที่กับนางจริงๆ แต่เขาไม่สามารถทำได้
เพราะสายฟ้าได้ฟาดลงมาแล้ว
และฉือ กูเหยียน ก็หลบมันได้ทัน
”ตูม!”แสงสีทองของสายฟ้าผ่าลงมาอย่างไม่หยุดยั้งไปที่หัวของฟาง เจิ้งจือ ไปจนถึงปลายเท้า
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกชาไปทั้งตัว ก่อนที่เขาจะกระอักเลือดออกมา
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไมหนานกง เฮา ถึงเลือกโจมตีตอนนี้
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเขา  แต่ทำไมหนานกง เฮา ถึงเลือกโจมตีตอนนี้ ปกติ หนานกง เฮา ไม่ใช่คนที่จะฉวยโอกาสโจมตีตอนที่คนอื่นลำบาก
ฟางเจิ้งจือ งงงวย
แต่เขาไม่ได้คิดอะไรเพิ่มเติมเพราะมันเป็นเรื่องจริงที่ หนานกง เฮา โจมตีพวกเขา
”หนานกงเฮา เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? ท้าทายข้าอย่างเปิดเผยแบบนี้?!” ฟาง เจิ้งจือ ตะโกนออกมา
”อย่าออกไปจากแสงสีทองนะ!”ฉือ กเหยียน รีบเตือนทันที
”หา?ข้าเดินออกไปไม่ได้งั้นหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ ที่เตรียมจะก้าวออกไป หยุดนิ่งในทันที
”ใช่ถ้าเจ้าก้าวท้าวออกไป เมื่อสายฟ้าฟาดลงมาใส่ เจ้าต้องตายแน่นอน!” ฉือ กูเหยียน พยักหน้า
”ว้าวมันทรงพลังขนาดนั้นเลยหรือ? ข้าเข้าใจแล้ว!” ฟาง เจิ้งจือ แสดงความแปลกใจออกมา  ”ข้าจะป้องกันการโจมตีจากหนานกง เฮา ต่อ เจ้าไปกันสายฟ้าที่เหลือ!”
……………………………………..

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset