ในฐานะผู้นำของเก้าขุนเขาและหนึ่งในผู้ที่เก่งกาจที่สุดในแดนศักดิ์สิทธิ์เขาไม่เชื่อว่าการมาเยือนศาลาเต๋าสวรรค์ครั้งนี้จะเป็นจุดจบของเขา
ศิษย์เก้าขุนเขามาที่นี่ทั้งหมดสามร้อยคน
มีสิบกว่าคนที่อยู่ในระดับเซียน
มันเพียงพอที่จะใช้ต่อกรกับศาลาเต๋าสวรรค์อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาไม่มีทางเลือก เขาทำได้แค่พูดขู่ออกไปแค่นั้น เขาสิ้นหวังอย่างแท้จริง
ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว…
ศิษย์ของเก้าขุนเขาก็อยู่ในสภาพเดียวกันพวกเขาไม่สามารถต้านทานแรงดึงดูดของวิชาสังเวยเลือดได้
”ไม่!!”
”ท่านเทียน!!!”
”ช่วยข้าด้วย…” เสียงของพวกเขาดังก้องอยู่ในหูของเทียนซิง ร่างมากมายลอยผ่านเขาไป
มันเป็นฉากที่น่าตกใจ
หนานกงเฮา ไม่พูดอะไรออกมา เขาไม่ได้ตอบกลับคำพูดของเทียนซิง ราวกับเขาไม่สนใจอะไรในโลกนี้อีกแล้ว
เขาจับเทียนซิงไว้อย่างแน่นหนาขณะที่พวกเขาลอยเข้าไปในเครื่องสังเวยเลือด
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างตกตะลึงในขณะเดียวกันพวกเขาก็รู้สึกสงสัยเช่นกัน
พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมหนานกง เฮา ถึงทำเช่นนี้
ตอนที่หนานกง เฮา กระอักเลือดออกมา พวกเขาคิดว่า หนานกง เฮา จะหยุดเพราะไม่อยากให้ตัวเองเป็นอันตราย
อย่างไรก็ตามความจริงก็คือ…
หนานกงเฮา ไม่คิดจะหยุด เขายังพยายามดิ้นรนลากเทียนซิงไปด้วย
ฆ่าตัวตาย? เขาจะฆาตัวตายไปเพื่ออะไร?
ไม่มีใครรู้
ฟางเจิ้งจือ เองก็ไม่รู้เหมือนกัน หลังจากเทียนซิงถูก หนานกง เฮา แทง ทุกอย่างนั้นก็ดูสับสนไปหมด
ด้วยความสามารถของหนานกง เฮา เขาไม่มีทางให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น
หรือเขาตั้งใจจะตายแต่แรกอยู่แล้ว?
เป็นไปไม่ได้!
ฟางเจิ้งจือ รู้ว่า หนานกง เฮา ทำทุกอย่างด้วยความรอบคอบ ดังนั้นเขาน่าจะมีแผนรับมือถ้าตัวเองบาดเจ็บ
ดังนั้นถ้าเขาไม่ได้คิดจะตายแต่แรก…
ทำไมเขาต้องลากเทียนซิงไปที่เครื่องสังเวยเลือดด้วย?แล้วตัวเขาเองจะหนีออกมายังไง?
แต่ถ้าหนานกง เฮา สามารถหนีออกจากมันมาได้ เทียนซิง ก็ต้องสามารถทำได้เช่นกัน
มีคำถามอยู่ในหัวของเขามากเกินไป จุดประสงค์ของหนานกง เฮา ที่ลากเทียนซิง เข้าไปในเครื่องสังเวยเลือดคืออะไรกันแน่? มีความลับอะไรซ่อนอยู่กัน?
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้
อย่างไรก็ตามเขาสามารถเห็นความตื่นตระหนกและความเจ็บปวดในสายตาของหนานกง มู่ ได้
”ไม่!”เสียงของ หนานกง มู่ นั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด มันเป็นความเจ็บปวดที่ออกมาจากเบื้องลึกของหัวใจ
ทันใดนั้นเอง…
ฟางเจิ้งจือ เห็นร่างหนึ่งพุ่งเข้าไปหา หนานกง เฮา ร่างนั้นมีหางงูที่ส่องแสงออกมาสลัวๆ
หางนั้นพันรอบพวกเขาเอาไว้
ร่างของทังคู่ที่กำลังค่อยๆลอยเข้าไปหาเครื่องสังเวยเลือดหยุดลงทันที
”ฉือกูเหยียน… ” ร่างของ หนานกง เฮา สั่นไหว ก่อนจะพูดชื่อนางออกมาอย่างแผ่วเบา
”หนานกงเฮา หยุด มันยังไม่สายเกินไป!”หน้าผากของ ฉือ กูเหยียน เต็มไปด้วยเหงื่อ มันชัดเจนว่านางพยายามฝืนขนาดไหน
”ข้ารู้แต่ข้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้…เพราะนี่คือชะตากรรมของข้า… ” ในขณะที่ หนานกง เฮา พูด เขาก็พยายามดันหางที่พันรอบตัวเอาไว้ออกไป
”ท่านพี่ท่านพ่อไม่ได้บอกว่าต้องเอาชีวิตตัวเองเข้าแลก ชะตากรรมของตระกูลหนานกง สามารถสำเร็จได้ด้วยมือข้าเช่นกัน ท่านพี่…ถอยออกมาเถอะ!” เสียงของ หนานกง มู่ ตะโกนออกมา
”ถอย?มันสายเกินไปแล้ว…ข้าขอโทษเจ้าด้วยจริงๆ! ข้ารู้ว่าเจ้าแข็งแกร่งและอยากเอาชนะข้าเสมอ อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถปล่อยให้เจ้าเอาชนะข้าได้ แม้แต่ครั้งเดียวก็ตาม น้องชาย เจ้าเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง ไม่มีใครในตระกูลหนานกงที่เรียนรู้วิชาลับฟ้าเขียวได้นอกจากเจ้า!” หนานกง เฮา ส่ายหัวเบาๆ จากนั้นเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าและพูดต่อ
”จริงๆแล้วในวันนั้นข้ามีความสุขมาก…ท่านพ่อก็เช่นกัน เขายังบอกด้วยว่าเขาต้องการฝึกเจ้าเป็นพิเศษ เผื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้นในแผนการ แต่ว่าข้าหยุดท่านพ่อเอาไว้ ข้าบอกว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาดทั้งนั้น ข้าให้เขามอบทรัพยากรทุกอย่างให้ข้า เพราะโชคชะตาของตระกูลหนานกง ต้องเป็นข้าที่ทำให้สำเร็จ!”
”ตอนที่เจ้ามอบหนังสือที่เจ้าเขียนวิธีการฝึกวิชาลับฟ้าเขียวให้ท่านพ่อท่านยินดีมาก ข้าเองก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน” เมื่อพูดถึงตรงนี้ดวงตาของ หนานกง เฮา ก็เปล่งประกายอย่างประหลาดออกมา “ข้าบอกท่านพ่อว่าอนาคตของตระกูลหนานกง ขึ้นอยู่กับข้า อยู่กับข้าเท่านั้น!”
”เจ้ารู้ไหม?ไม่ใช่ว่าท่านพ่อไม่อยากสอนวิชาลับนั้นให้คนอื่นในตระกูล แต่เขารู้ว่าถ้าเขาทำเช่นนั้นข้าอาจจะไม่พอใจ!” เมื่อพูดถึงตอนนี้น้ำเสียงของ หนานกง เฮา กลายเป็นเศร้าโศกทันที แต่เขาก็พูดต่ออย่างรวดเร็ว “จริงๆแล้ว การที่ชนะตลอดนั้นก็ใช่ว่าจะทำให้มีความสุข…”
เมื่อหนานกง เฮา สามารถเป็นอิสระจากหางงูได้ เขาได้หันไปมอง หนานกง มู่ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยน้ำตาสีแดงเลือด Aileen-novel
อย่างไรก็ตามการแสดงออกของเขายังคงแน่วแน่
”ข้าข้า…ข้าไม่ได้อยากได้ยินเรื่องเหล่านี้ ข้าสามารถเอาชนะท่านพี่ได้! ได้โปรดถอยออกมา! อย่าไป!!” ร่างของ หนานกง มู่ เริ่มสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ แสงสีแดงเลือดเริ่มเปล่งออกมาจากดวงตาของเขาเช่นกัน
”ข้าเชื่อเจ้าข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถเอาชนะข้าได้!” หลังจาก หนานกง เฮา พูดจบ เขาก็ลอยไปที่เครื่องสังเวยเลือดพร้อมกับเทียนซิง
”หนานกงเฮา!” ฉือ กูเหยียน ตะโกนออกมา
”นายท่าน!”
”ผู้นำมู่!”
”…”
เสียงของศิษย์เก้าขุนเขาดังขึ้น
”ไม่!”เสียงสุดท้ายของเทียนซิง ตะโกนร้องออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหนานกง เฮา แค่มองลงมาด้านล่างเงียบๆ เขามองไปที่ มู่ ฉิงเฟิง ที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วห่างจากเขาไปไม่ถึงห้าก้าว และมอง ฟาง เจิ้งจือ กับ ฉือ กูเหยียน ที่ยืนอยู่ห่างออกไป
”ด้วยเลือดของข้าข้าจะเปิดประตูสวรรค์!” เสียงของ หนานกง เฮา ดังขึ้นมาอีกครั้ง เสียงของเขาดังสะท้อนไปทั่วศาลาเต๋าสวรรค์
หลังจากเสียงของเขาดังขึ้นเครื่องสังเวยเลือดที่เป็นกงล้อทั้งแปดสีก็ค่อยๆหายไป
พวกมันหายกลับเข้าไปในบานประตูสีเขียว
ทันใดนั้นประตูสีเขียวก็กลายเป็นสีดำของหมึกทันที
”ตูม!”เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นจากไหลๆ
สายฟ้าสีแดงเลือดผ่าลงมาจากท้องฟ้าฝุ่นควันสีแดงเลือดลอยคละคลุ้งไปทั่ว
”หายไปแล้ว?!”
”ท่านผู้นำมู่หายไปพร้อมกับ หนานกง เฮา!”
”ประตูนั่น…คืออะไร?” เหล่าศิษย์เก้าขุนเขาต่างมองไปที่ประตูบานนั้นดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
”สังเวยเลือด?มันเป็นเครื่องที่ใช้สำหรับเอาไว้ทำพิธีสังเวยเลือดงั้นหรือ?”
”ศิษย์พี่หนานกงบอกว่า’ข้าจะเปิดประตูสวรรค์’ เขาหมายความว่ายังไงกัน?”
”ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะประตูบานนี้งั้นหรือ?”
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ก็ตกใจเช่นกันพวกเขาไม่คิดว่าทุกอย่างจะจบลงแบบนี้
บนท้องฟ้าประตูสีดำยังคงลอยอยู่พร้อมกับสายฟ้าสีแดงที่ยังคงผ่าลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน
ข้างล่าง…
สายตานับไม่ถ้วนยังคงจับจ้องไปที่ประตูนั่นพวกเขารอราวกับคาดหวังว่าจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามพวกเขารอไม่นาน เพราะในที่สุดประตูเริ่มเปล่งแสงออกมาอีกครั้ง
ดวงแสงคล้ายๆแสงดาวปรากฎขึ้นรอบๆ
”เปิดประตูสวรรค์เปิดประตูสวรรค์ … ” มู่ฉิงเฟิง จ้องไปที่แสงไฟบนประตูอย่างตั้งใจ เขาพึมพัมคำเหล่านั้นออกมาไม่หยุดหย่อน ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น”หรือว่าประตูบานนั้นคือประตูรับสวรรค์?”
”ประตูรับสวรรค์?”ปากของฟาง เจิ้งจือ กระตุกอีกครั้ง เขาไม่รู้ว่า มู่ ฉิงเฟิง หมายถึงอะไร?
อย่างไรก็ตามดวงตาของเขาต้องเบิกกว้างอย่างรวดเร็ว
นั่นเป็นเพราะว่า…
ข้างในประตูเขาเห็นโซ่สีดำจำนวนมากปรากฎอยู่
พวกมันพาดผ่านกันไปมาราวกับใยแมงมุม
อย่างไรก็ตามบนโซ่เหล่านั้นฟาง เจิ้งจือ มองหินสีดำอยู่ รอยแตกมากมายปรากฎอยู่บนหินเหล่านั้น
ฟางเจิ้งจือ ตกใจอย่างแท้จริง
นั่นเป็นเพราะฉากที่เขาเห็นตอนนี้เป็นเหมือนฉากที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ในความฝันไม่มีผิดเขารู้สึกถึงอารมณ์ที่รุนแรงบางอย่างภายในร่างกาย
ท้องฟ้าหลังประตูก็เป็นเหมือนที่เขาเห็นไม่มีผิด….
ตอนที่เขาได้รับคำพยากรณ์สวรรค์และเห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในครั้งแรกแน่นอนว่าเขาเต็มไปด้วยความสงสัย แต่เขาคิดว่าสักวันเขาคงได้คำตอบ เขาเลยไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก แต่เขาไม่คาดคิดว่าคำตอบจะมาเร็วขนาดนี้
ที่สำคัญท้องฟ้านั้นมาปรากฎขึ้นจริงต่อหน้าเขา
สังเวยเลือด…
หรือหนานกง เฮา ใช้พลังลากเทียนซิงเข้าไปในเครื่องสังเวยเลือด เพื่อจะทำให้ประตูบานเชื่อมต่อกับท้องฟ้า อย่างที่เขาเห็นงั้นหรือ?
……………………………………..
Gate of God – ตอนที่ 718 ประตูรับสวรรค์?
Posted by ? Views, Released on September 29, 2022
, Gate of God
GoG, 神门Adventure Comedy Fantasy Harem Martial Arts Xianxia กำลังภายใน นิยาย จีน นิยาย ผจญภัย นิยาย ศิลปะการต่อสู้ นิยาย แฟนตาซี นิยาย แอคชั่น
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง
Recommended Series
Comment
Facebook Comment