Gate of God – ตอนที่ 723 หุบเขาแห่งความลึกลับ

นอกจากนี้มันยังเป็นการโอ้อวด ไม่มีใครเห็นว่านางโกงเลยงั้นหรือ?
ฟางเจิ้งจือ เหลือบมองผู้อาวุโสหกและศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ พวกเขามองกลับมาที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยแววตาที่สงบ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้แต่น้อย
”….” ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็เข้าใจถึงคำว่าเจ้าบ้านย่อมได้เปรียบ
เขาควรจะเรียกร้องดีไหม?คงเสียเวลาเปล่า
ฟางเจิ้งจือ ไม่ใช่คนโง่ทีจะจมอยู่กับสิ่งที่ไร้ความหมายเช่นนั้น ตั้งแต่ตอนที่ ฉือ กูเหยียน กระโดดออกไป เขาก็ต้องใช้ทุกวินาทีที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่า
ฟางเจิ้งจือ กระโดดเข้าไปอย่างไม่ลังเล โดยเลียนแบบท่าทีของ ฉือ กูเหยียน แล้วกระโดดลงไปในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในตอนที่เขากระโดลงไป เหล่าศิษย์ต่างก็หันมามองด้วยสายตาที่เบิกกว้าง
”…”
”เจ้าสารเลวนั้นกระโดดลงไปที่บึงน้ำสีฟ้าที่นั่นมันป่าแห่งความลึกลับไม่ใช่รึ?!”
”ชะ.. ใช่ หรือว่าเขาจะไม่รู้เรื่องที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แบ่งออกเป็นห้าสาย? ถ้าเขาอยากเห็นภาพเซียนสวรรค์ทั้งเก้า เขาควรจะกระโดดลงไปที่บ่อสีแดงสิ”
”เขากระโดดลงไปที่บึงน้ำสีฟ้าซึ่งเป็นทางของป่าแห่งความลึกลับแต่ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ศิษย์พี่ ฉือ กูเหยียน ไม่ได้บอกเขาเรื่องบ่อน้ำศักดิ์ทั้งห้าสายงั้นหรือ?”
ในขณะที่เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์กำลังสับสนวุ่นวายดูเหมือนพวกเขาจะนึกอะไรบางอย่างได้ และหันมองไปที่ผู้อาวุโสหกที่ยืนอยู่ริมบ่อ
”แค่กแค่ก แน่นอว่าข้าในฐานะผู้อาวุโส ไม่มีทางที่ข้า…”ผู้อาวุโสหกกระแอมออกมา ใบหน้าของเขาเป็นสีแดงเล็กน้อย ก่อนจะหยุดพูดไปชั่วครู่
”จากคำสั่งของท่านผู้นำศาลาเด็กนั่นได้รับอนุญาติให้เข้าไปยังบึงน้ำศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าเขาจะบังเอิญ … ใช่แม้ว่าเขาจะกระโดดลงไปที่ป่าแห่งความลึกลับ เขาก็ไม่น่าจะเจออะไรที่เป็นอันตรายมาก มันเป็นแค่ที่ฝึกฝนของศิษย์ที่อยู่ในระดับจุติแค่นั้นเอง เขาสามารถไปถึงชั้นเก้าได้หลังจากที่ฝ่าฟันผ่านป่าแห่งความลึกลับไปได้ ในความเป็นจริงการสำรวจป่าลึกลับก็เป็นเรื่องที่ดีต่อเขาไม่น้อย ถือว่าเขานั้นโชคดีแล้ว!” ไอลีนโนเวล
ผู้อาวุโสหกพยายามเน้นคำว่า’บังเอิญ’ และ ‘โชคดี’ อย่างเห็นได้ชัด
เมื่อได้ยินศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างที่ผู้อาวุโสหกกล่าว มู่ ฉิงเฟิง เพียงบอกว่าให้ ฟาง เจิ้งจือ เขามาในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้เท่านั้น สำหรับเส้นทางข้างใน มู่ ฉิงเฟิง ไม่ได้พูดเจาะจงอะไร พวกเขาเอออกับไปกับผู้อาวุโสหกทันที
”เขาช่างโชคดีอะไรเช่นนี้!”
”ใช่แล้ว!การที่ปล่อยให้เขาสามารถเข้าไปที่ป่าแห่งความลึกลับนั่นก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อแล้ว!”
”อืมตามปกติแล้ว พวกเราต้องสร้างความดีความชอบก่อนที่จะไปฝึกในป่าแห่งความลึกลับได้ เจ้าเด็กนั่นโชคดีมาก!”
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างกล่าวสัญสรรญกับโชคของฟาง เจิ้งจือ ในขณะสายตาของพวกเขาแฝงไปด้วยความเยาะเย้ย
หลังจากได้ยินสิ่งที่เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรค์พูดผู้อาวุโสหกก็เงยหน้าขึ้นมาช้าๆ “เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าจะโทษข้าเรื่องนี้ไม่ได้ เจ้ากล้าทำให้ผู้อาวุโสสามและห้าต้องอยู่ในสภาพแบบนั้นเอง ข้าคงต้องสั่งสอนบทเรียนให้เจ้าสักเล็กน้อย!”
”ผู้อาวุโสหกพวกเราจะเข้าไปแล้วนะ!” ศิษย์ทุกคนพูดขึ้นมา
”เอาล่ะๆเข้าไปได้แล้ว คอยดูภาพเก้าเซียนสวรรค์ให้ดี จำไว้พวกเจ้าต้องมีสติอยู่เสมอ!” ผู้อาวุโสหกพยักหน้าให้เหล่าศิษย์ที่ยืนอยู่ริมบ่อน้ำ
”พวกเราจะทำตามคำสั่งสอนของท่าน!”พวกเขาตอบอย่างพร้อมเพรียง
จากนั้นศิษย์สามสิบกว่าคนก็กระโดดลงไปทันที
”หยานฉิง เจ้าต้องการจะไปด้วยหรือไม่?” ผู้อาวุโสหกมองไปที่ หยาน ฉิง ด้วยแววตาอันเปล่งประกาย
เขาหวังกับหยาน ฉิง เอาไว้สูง เพราะในการทดสอบครั้งนี้ตอนแรกศาลาเต๋าสวรรค์ให้จับตาอัจฉริยะไว้สามคน แต่สุดท้าย เฉียน วู่ ได้ตายไป เหยียน ซิว ก็ปฎิเสธ เหลือแค่ หยาน ฉิง เท่านั้น
แม้เขาจะค่อนข้างเก็บตัวแต่แลกมาด้วยกับความสามารถของเขานิสัยส่วนตัวของเขาก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร
”อืม!”หยาน ฉิง พยักหน้า
”อืมเจ้านั้นอยู่ในระดับจุติขั้นสูงสุดแล้ว ตามกฎของศาลาเต๋าสวรรค์เจ้าสามารถตรงไปเพื่อดูภาพเก้าเซียนสวรรค์ได้เลย เจ้าคิดว่ายังไง?”!
”ข้าจะทำตามคำแนะนำของผู้อาวุโส”หยาน ฉิง พยักหน้าอีกครั้ง
”ฮ่าฮ่าดีมากเจ้ากระโดดลงไปในบ่อน้ำสีแดงได้เลย!” หลังได้ยิน ใบหน้าของผู้อาวุโสหกเต็มไปด้วยความพอใจ
”รับทราบ!””หยาน ฉิง พยักหน้า ก่อนที่จะกระโดดลงไปในบ่อน้ำสีฟ้าทันที
ศิษย์ที่ยืนอยู่ไกลต่างมองฉากนี้ด้วยความประหลาดใจ
”ทำไมเขาถึงไปที่บ่อน้ำสีแดง?นั่นมันทางไปป่าแห่งความลึกลับไม่ใช่หรอ?”
”ผู้อาวุโสหกไม่ได้อธิบายให้ชัดเจนงั้นหรือ?”
”เป็นไปได้ยังไง?ข้าได้ยินผู้อาวุโสพูดอย่างชัดเจน หรือว่า…เขาจะตาบอดสีงั้นหรือ?”
ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างสับสน
รอยยิ้มของผู้อาวุโสหกแข็งค้างทันทีก่อนที่ใบหน้าของเขาจะกลายเป็นสีแดงก่ำ
…
สวรรค์ชั้นแรก
มันทั้งสดใสและอบุ่นทุ่งหญ้าเขียวขจีกระจายไปทั่ว แต่ทั่วท้องฟ้ากลับเต็มไปด้วยหยาดฝนที่ตกลงมา
ฉือกูเหยียน ยืนอยู่ในชุดสีชมพูด สายตาของนางจับจ้องไปที่ท้องฟ้า นางยกมือขึ้นจับสายหมอกเบาๆ
นางราวกับเทพธิดาที่แสนบริสุทธิ์องค์หนึ่ง
และที่ยืนอยู่ข้างๆนางคือศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์กว่าสามสิบคนพวกเขาต่างอ้าปากค้าง เอามือสัมผัสหยดน้ำที่ตกลงมาจากท้องฟ้า
หยดน้ำเหล่านี้ไม่ใช่ฝนธรรมดามันมีประโยชน์ต่อร่างกายและสามารถทำให้จิตใจของผู้คนสดชื่นขึ้นได้ ซึ่งมันเป็นที่เหนื่อยมากกว่าเหล่าผู้อาวุโสจะสร้างสถานที่นี้ขึ้นมาได้
ขณะที่ฉือ กูเหยียน กำลังรอคอย และศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์คนอื่นๆกำลังชื่นชมกับบรรยากาศอยู่นั้น ทันใดนั้นคัมภีร์บางอย่างได้ปรากฎขึ้นที่ขอบฟ้า
”มันปรากฏตัวแล้ว!”
”นั่นเป็นภาพแรกของเซียนสวรรค์ทั้งเก้า!”
ดวงตาของเหล่าศิษย์ต่างเต็มไปด้วยความคาดหวัง
ม้วนคัมภีร์ค่อยๆเปิดออกแสงส่องออกมา เส้นๆหนึ่งที่เขียนจากหมึกปรากฎขึ้นช้าๆไปจนสุดขอบคัมภีร์ มันมีเพียงแค่เส้นเดียวเท่านั้น
เหมือนกับดาบ,ค้อน, สายฟ้า, แผลเป็น … มันเป็นภาพที่สามารถตีความได้มากมาย…
…
ฟางเจิ้งจือ รู้ดีว่าเขาไม่มีทางเงยหน้าขึ้นแล้วเจอภาพเซียนสวรรค์ได้ง่ายๆแบบ ฉือ กูเหยียน
ในความเป็นจริงเขาเงยหน้าขึ้นแต่…ทั้งหมดที่เขาเห็นคือเมฆหมอกหนา หนาจนเขาแทบมองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น
”หมอกเชี่ยอะไรกันเนี่ย?”ฟาง เจิ้งจือ กระพริบตาด้วยความงงงวยว่าทำไมอยู่ดีๆเขาถึงมาปรากฎตัวขึ้นในที่แห่งนี้
แล้วฉือ กูเหยียน นางหายหัวไปไหนกัน? พวกศิษย์ด้วยล่ะ? ทำไมพวกเขาถึงหายไปหมด?
”ข้ามาผิดทางงั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ พยายามอ้าปากเพื่อรับละอองฝนที่ตกลงมา มันหวานเล็กน้อยและทำให้เขารู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าขึ้นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ ฉือ กูเหยียน บอกเกี่ยวกับหยดน้ำเหล่านี้เป็นความจริง
ในเมื่อมันเป็นไปตามที่ฉือ กูเหยียนบอก
มันก็ควรจะถูกใช่ไหม?
เขากระโดดลงมาในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จริงๆ
แต่มันต่างจากที่เขาจินตนาการเอาไว้จริงๆ
ขณะที่ฟาง เจิ้งจือ กำลังหมกหมุ้นกับความคิดตัวเอง หมอกที่เขาเห็นก็เริ่มกลายเป็นสีดำราวกับมีเงาขนาดใหญ่เกิดขึ้น
”หือ?ภาพนั่นอยู่ที่นี่งั้นหรือ?” ตาของ ฟาง เจิ้งจือ สว่างขึ้นทันที ความเศร้ากลายเป็นความตื่นเต้นและคาดหวังทันที
เขาไม่รู้ว่าภาพเซียนสวรรค์ทั้งเก้าเป็นเช่นไร
มันเป็นตัวอักษร?ภาพวาด? หรือคัมภีร์?
ความคิดของฟาง เจิ้งจือ ล่องลอยไปไกล อย่างน้อยเขาก็เป็นคนที่เคยเห็นศิลาเซียนมาก่อน
ซึ่งถ้าอาศัยหลักการนั้นศิลาเซียนนั้นมีอยู๋หลายรูปแบบทั้ง อาวุธ ต้นไม้ ภาพเซียนสวรรค์ก็อาจจะเป็นเช่นเดียวกัน?
”โฮก!”ทันใดนั้นเสียงของอสูรร้ายร้องคำรามก็ดังขึ้นด้านหลังเมฆหมอก
ตูม!
สัตว์ร้ายขนาดมหึมารูปร่างเหมือนวัวพุ่งออกมาจากหมอก
มันสูงเกือบสามเมตรร่างทั้งร่างของมันปกคลุมด้วยเกล็ดสีดำ บนหัวของมันมีเขาที่แหลมคมสองเขา ดวงตาของมันเป็นสีน้ำเงินนัยตาราวกับมีเปลวไฟลุกโชนอยู่
”ภาพเซียนสวรรค์เป็นสัตว์อสูรงั้นหรือ?!”ฟาง เจิ้งจือ จ้องสัตว์ยักษ์ที่พุ่งมาหาเขาด้วยท่าทีตกใจเล็กน้อย