Gate of God – ตอนที่ 731 ข้าเป็นศิษย์พี่…

แน่นอนว่าการเยาะเย้ยฟาง เจิ้งจือ เพียงเล็กน้อยก็ทำให้เขามีความสุขเป็นอย่างมากแล้ว
ที่สำคัญเขามั่นใจว่าฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้หยุดอยู่ที่เพื่อรอขวดน้ำแห่งดวงดาวจากเขา
เหตุผลนั้นง่ายมากฟาง เจิ้งจือ มีเรื่องสำคัญมากกว่าที่ต้องทำ
เขาพนันกับฉือ กูเหยียน เอาไว้
ดังนั้นเขาจึงสรุปได้ว่าฟาง เจิ้งจือ ยังไม่สามารถทำความเข้าใจภาพเซียนสวรรค์ได้
มันทำให้เขาเกิดความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
เขากำลังรอคำตอบของฟาง เจิ้งจือ ..
แต่ฟาง เจิ้งจือ กลับไม่ตอบอะไรเขาแม้แต่น้อย สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ภาพนั้น
ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปทันที　　”เจ้า….. ” เขารู้สึกสะใจเล็กน้อย ฟาง เจิ้งจือ คงทนโดนดูถูกไม่ได้ เลยไม่ตอบกลับมา
เขารู้สึกอยากเดิมพันกับฟาง เจิ้งจือ อีกเล็กน้อย โดยเสนอของมีค่าอื่นๆ
แต่เมื่อเขาก้าวไปครึ่งก้าวก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างๆหูเขา
”หุบปาก!”มันเป็นคำสั่งตรงๆที่ไม่ได้แสดงถึงความเกรงใจแต่อย่างใด
และคนที่พูดไม่ใช่ ฟาง เจิ้งจือ แต่เป็น หยาน ฉิง
”หยานฉิง เจ้าพูดอะไร ข้าเป็นศิษย์พี่เจ้านะ…” เขายังพูดไม่ทันจบ หยาน ฉิง ก็มาถึงด้านหน้าของเขา
ด้วยความรวดเร็ว…
เขาไม่มีเวลาแม้แต่ตอบสนอง
แววตาที่ดุร้ายและน่าหวาดกลัวของหยาน ฉิง ทำให้เขาตัวสั่นจนหยุดไม่ได้ เขาก้าวถอยหลังไปอย่างไม่ตั้งใจ　　มันเป็นเพียงก้าวเล็กๆเท่านั้น
ใบหน้าของเขาแดงขึ้นด้วยความอึกอัก
ในฐานะศิษย์พี่แต่เขากลับหวาดกลัวเด็กที่พึ่งเข้าศาลาเต๋าสวรรค์มาไม่ถึงเดือน?
เขาจะยอมรับมันได้ยังไง?
ขณะที่เขาเตรียมจะเปิดปากก็มีหมัดพุ่งมาด้านหน้าเขา เขารู้สึกมึนงงและสับสน
”โจมตี?หยาน ฉิง กล้าโจมตีข้า?!”
เขาตกใจมาก
แต่เขาก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกันเมื่อเห็นหมัดที่กำแน่น เขาถอยหลังออกไปสามก้าวทันที ที่ใต้เท้าของเขาปรากฎรอยน้ำแข็งขึ้นมา
มันเป็นวิชาน้ำแข็ง
เขาใช้ประโยชน์จากความลื่นของน้ำแข็งเพื่อไถลตัวออกมาด้วยความรวดเร็วถึงกระนั้นที่ชายเสื้อของเขาก็ปรากฎรอยฉีกขาดเล็กน้อย มันเกิดขึ้นจากแรงกระแทกจากหมัดของ หยาน ฉิง　　มันทำให้เขาตกใจมากยิ่งขึ้น
”มันเป็นพลังกายล้วนๆไม่ได้ใช้วิชาอะไรเสริมแม้แต่น้อย?!” ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
ตัวเขานั้นอยู่ในระดับจุติขั้นต้นเท่านั้นเมื่อเทียบกับ หยาน ฉิง ที่อยู่ในระดับจุติขั้นสูงสุด
มันเห็นได้ชัดว่าเขาอ่อนแอกว่ามาก
แม้ว่าเขาจะอยู่ในศาลาเต๋าสวรรค์มาเป็นสี่ปี
หยานฉิง ไม่ได้เปิดปากและโจมตีเขาอีกต่อไป
หลังจากเขาชกออกมาหนึ่งหมัด
หยานฉิง ค่อยๆกลับไปยืนที่เดิมและให้ความสนใจกับภาเซียนสวรรค์แทน
ศิษย์คนที่พนันกับฟาง เจิ้งจือ ไหวก้มหน้าลง เหงื่อไหลเต็มหน้าผากของเขา ความยโสของเขาบอกให้ตัวเองบอกกับ หยาน ฉิง ว่าเจ้าควรเคารพรุ่นพี่　　แต่… ไอลีนโนเวล
เมื่อเจอกับสัตว์ร้ายที่น่าหวาดกลัวเขากลับไม่กล้าพอที่จะทำเช่นนั้น
”หึ!ในเมื่อข้าเป็นศิษย์พี่ ข้าไม่จำเป็นต้องไปสนใจสุงสิงกับเจ้า!” เขาพึมพัมกับตัวเองก่อนหันไปมองที่ภาพเช่นกัน
ความสงบเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่
แต่มันไม่ได้นานนัก
”ฉือกูเหยียน เข้าสู่สวรรค์ชั้นที่เจ็ด!”
”ฉือกูเหยียน เข้า … ”
”สวรรค์ชั้นที่เจ็ด?ฮ่าฮ่า ศิษย์พี่ ฉือ กูเหยียน เข้าสู่ชั้นที่เจ็ดแล้ว!” ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเมื่อได้ยินเสียง เขาไม่สามารถระงับความตื่นเต้นได้จนตะโกนออกมา
”หืม?”แน่นอนว่า หยาน ฉิง ย่อมได้ยินเสียงของเขา
”…..” ตอนแรกเขาเตรียมจะเยาะเย้ย ฟาง เจิ้งจือ อีกเล็กน้อย เพราะโอกาสเช่นนี้หาได้ยากจริงๆ
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นดวงตาที่เยือกเย็นของหยาน ฉิง เขาก็กลืนคำพูดกลับไปทันที
และทันใดนั้นเสียงประกาศก็ดังขึ้นอีกครั้ง
”หลี่ซู่จิน เข้าสู่สวรรค์ชั้นสี่!”
”…”
จากนั้นก็มีร่างๆหนึ่งปรากฎตัวขึ้นข้างๆเขา
”หืม?พี่เฮ่อ ทำไมชุดของพี่ถึงขาดรุ่ยเช่นนั้น?” หลี่ ซู่จิน เอ่ยถาม
”…..” สีหน้าของเขาเริ่มเป็นสีแดงก่ำ
เขาจะตอบได้ยังไง?
เป็นเพราะหมัดของหยาน ฉิง งั้นหรือ?
แต่เขาก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ดังนั้นเขาจึงได้ยืนเจ็บใจอยู่เงียบๆเท่านั้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงด้วยความอดกลั้น
… 　　บรรยากาศที่สวรรค์ชั้นสี่ไม่ได้ตึงเครียดเหมือนข้างนอกบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายกว่ามาก
ด้านนอกบ่อน้ำนั้นเสียงพูดคุยถกเถียงกันสามารถได้ยินอย่างชัดเจน
สีหน้าของผู้อาวุโสหกสนชื่นเป็นอย่างมากตอนนี้เขารู้สึกสบายใจมากพอที่จะนั่งดื่มชาเงียบๆ
ด้านหลังของเขาเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรค์ยังคงตื่นเต้นอยู่เหมือนเดิม
”พี่หญิงฉือ กูเหยียน แข็งแกร่งเกินไป!”
”นางไปถึงสวรรค์ชั้นที่เจ็ดแล้ว!ความเร็วขนาดนั้นไม่มีเคยมีใครทำได้มาก่อน!”
”ใช่ด้วยความเร็วของนาง การที่นางจะไปถึงสวรรค์ชั้นที่แปดก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น!”
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างยินดีปรีดาถ้าผู้อาวุโสหกและศิษย์ที่กำลังกังวลใจได้ยินเรื่องนี้ คงจะไม่รู้สึกเช่นนั้นอีกต่อไป　　คนที่ไม่แม้แต่จะเข้าถึงสวรรค์ชั้นที่สี่จะสามารถ…..
เอาชนะนางได้ยังไง?
เว้นเสียว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น!
ไม่…
แม้จะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นมันก็ยังเป็นไปไม่ได้!
”พวกเจ้าคิดว่าพี่หญิงจะเข้าถึงสวรรค์ชั้นเก้าได้ไหม?”
”สวรรค์ชั้นเก้า?นั่นมัน… ในประวัติศาสตร์ของศาลาเต๋าสวรรค์มีเพียงคนเดียวทีทำได้ ข้าคิดว่าความเป็นไปได้ยังคงเป็น…”
”ใช่แล้วการจะเข้าถึงสวรรค์ชั้นเก้ามันยากเกินไป!”
เมื่อเห็นชัดว่าผู้ชนะเป็นใครเหล่าศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ต่างก็คิดว่าอาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามอย่างที่พวกเขาพูดสวรรค์ชั้นเก้านั้นยากเกินไป
ไม่สำคัญว่าฉือ กูเหยียน จะเข้าถึงสวรรค์ชั้นเก้าได้หรือไม่ นี่เป็นแค่การถกเถียงของพวกเขาเท่านั้น
เวลาค่อยๆผ่านไป
หลังจากนั้นไม่นานเสียงประกาศก็ดังขึ้นอีกครั้ง
หยานฉิง ได้เข้าสู่สวรรค์ชั้นที่ห้าแล้ว
”เขาผ่านไปแล้วจริงๆงั้นหรือ?”
”เขาเก่งกาจถึงขนาดนี้?!”
”แน่นอนเขาเป็นผู้ที่เก่งกาจที่สุดในจักรวรรดินักรบศักดิ์สิทธิ์มันไม่แปลกหรอกที่เขาจะมีความสามารถขนาดนี้!”
ข่าวของหยาน ฉิง สร้างความตกใจให้กับผู้อาวุโสหกและเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสรรค์เป็นอย่างมาก เพราะตามความคิดของพวกเขา แม้ ฟาง เจิ้งจือ จะติดอยู่ชั้นสี่
แต่เขาก็น่าจะไปถึงชั้นห้าได้ก่อนหยาน ฉิง　　แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น
”หยานฉิง ไม่เลวเลย!” ผู้อาวุโสหกกล่าวชื่นชม พร้อมกับคิดแผนเพื่อดึง หยาน ฉิง มาเป็นศิษย์ของตัวเอง
ด้านศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์พวกเขาต่างถกเถียงกัน
ไม่นานข่าวของหลี่ ซูจิน เข้าสู่สวรรค์ชั้นที่ห้าก็มาถึงเช่นกัน
”นี่เป็นเรื่องที่ไม่ได้คาดคิดแม้แต่น้อย!”
”คงไม่มีใครคิดว่าหลี่ ซูจิน จะสามารถเอาชนะ ฟาง เจิ้งจือ ได้!”
…
เวลาผ่านไปข่าวของศิษย์ที่เข้าสู่ชั้นที่ห้าได้ก็มีมาเรื่อยๆ
”ฟางเจิ้งจือ อยู่ที่สวรรค์ชั้ที่ห้าเกือบชั่วโมงแล้วงั้นหรือ?”
”ดูเหมือนชั้นสี่จะเป็นขีดสุดความสามารถของเขาแล้ว!” 　　”ฮ่าฮ่าแต่สำหรับสามชั้นแรกเขาเร็วมากจริงๆ ข้าเกือบคิดว่าเขาจะชนะแล้วจริงๆ!”
”ฮ่าฮ่าแต่ตอนนี้เขาคงนั่งน้ำตาตกอยู่แน่ๆ!”
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างหัวเราะเยาะอย่างสนุกสนาน
……………………………………..