ภาพแห่งการสรรค์สร้างและศิลาเซียนนั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ผู้ที่สร้างพวกมันมักจะใช้สัญลักษณ์ที่ตนเองเข้าใจแทนสิ่งต่างๆเช่นใช้วงกลมเส้นตรง หรือสามเหลี่ยมเพื่อสื่อถึงความหมายต่างๆ
มันเป็นแนวคิดที่เรียบง่าย
แน่นอนว่าภาพที่เขาเห็นในชั้นที่สี่ถึงชั้นที่หกนั้นพูดได้ว่าเป็นภาพส่วนหนึ่งจากศิลาเซียน
เมื่อเข้าใจเรื่องนี้แล้วฟาง เจิ้งจือ ก็สามารถแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น
การไขปริศนาภาพทั้งหมดนั้นกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาในทันที
เขาแค่คิดนอกกรอบเล็กน้อยและพยายามจัดเรียงรูปภาพภายในใจให้เป็นรูปภาพที่แตกต่างออกไปเพื่อให้ภาพนั้นไม่ซับซ้อนเหมือนเดิม
นั่นคือเป้าหมายของฟาง เจิ้งจือ อย่างไรก็ตามหลังจากแก้ปริศนาไปสักพัก เขาได้พบบางอย่างเข้า
การพัฒนาของภาพนั้นหมายถึงเต๋า!
ทุกพัฒนาการนั้นอ้างอิงถึงรูปแบบของเต๋าภาพแห่งการสรรค์สร้างแต่ละภาพนั้นหมายถึงเต๋าแบบต่างๆ
ตอนนี้ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกอยากตบหน้าตัวเองขึ้นมาทันที เพราะตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองมีสมบัติล้ำค่าอยู่แต่กลับทิ้งมันอยู่เฉยๆอย่างเสียเปล่า!
แม้เขาจะไม่มีภาพแห่งการสรรค์สร้างอยู่กับตัวแต่เขามีศิลาเซียน!
แล้วเขามีถึง14 ชิ้น!
ที่ภูเขาคังหลิงเขาได้มาหนึ่งจากนั้น หยุน ชิงวู ก็ให้เขาอีก 13
ในโลกมีเพียง36 ชิ้นเท่านั้น แต่เขากลับมีมันถึง 14 ชิ้น เขาสามารถพูดได้โดยไม่อายว่าไม่มีใครในโลกนี้มากกว่าเขาอีกแล้ว
ตอนแรกฟาง เจิ้งจือ คิดจะทิ้งพวกมันไว้ในกลืนกินโลก แต่ในเมื่อพวกมันเป็นสมบัติคงไม่ดีที่เขาจะทำเช่นนั้น
แต่ตอนนี้…
เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนถ้าเขานำแนวคิดเกี่ยวกับภาพสรรค์สร้างมาใช้กับศิลาเซียน งั้นการรวมศิลาเซียนเข้าด้วยกันน่าจะทำให้เห็นภาพมากขึ้น
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกตัวลอยขึ้นมาทันที
ด้วยเหตุนี้เมื่อเขาพบฉือ กูเหยียน เขาจึงถามนางทันทีว่าทำไมนางถึงไม่ให้ข้อมูลสำคัญกับเขา
อย่างไรก็ตามด้วยนิสัยของฉือ กูเหยียน นางไม่มีทางยอมรับแน่นอน เขาจึงทำได้แค่ทำลายความมั่นใจของนาง
ตัวอย่างเช่นประโยค”เจ้าก็รู้ ตั้งแต่เด็กข้านั้นเก่งกว่าเจ้าในเรื่องการไขปริศนาภาพแห่งการสรรค์สร้าง!”” หรือการเรียกนางว่าหัวหน้าคนรับใช้ มันจะทำให้นางสูญเสียความมั่นใจและยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวเอง
ซึ่งตามจริงแล้ว…
วิธีที่ฟาง เจิ้งจือ ใช้ดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพ
เมื่อฉือ กูเหยียน ได้ยิน สีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันที ราวกับนางตกใจจริงๆ
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาคิดว่า ฉือ กูเหยียน ควรจะพูดตอกกลับอะไรเขาบ้าง
แต่นางกลับไม่ได้ทำ
นางไม่คิดแม้แต่จะลบล้างคำพูดของฟาง เจิ้งจือ หรือว่านางยอมแพ้แล้วจริงๆ?
”เป็นไปไม่ได้นางยอมแพ้เพราะคำพูดของข้าจริงๆงั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังใบหน้าอันสงบของ ฉือ กูเหยียน ดูเหมือนว่านางกำลังคิดถึงคำพูดของเขาอย่างจริงจัง
ยิ่งกว่านั้นนางไม่แม้แต่คิดที่จะตอบกลับเขา จากนั้นฟาง เจิ้งจือ ก็เห็นว่าสายตาของนางค่อยๆเลื่อนไปที่ภาพบนท้องฟ้า ก่อนที่ดวงตาของนางจะเป็นประกายสีทอง!
”หือ?ประกายสีทอง?นางทำอะไรอยู่?” ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกสงสัยในสิ่งที่นางทำ แต่ทันใดนั้นเสียงอันทรงพลังก็ดังขึ้นมาทันที
”ฉือกูเหยียน เข้าสู่สวรรค์ชั้นที่แปด!”
”ฉือกูเหยียน เข้าสู่…” Aileen-novel
”…”
ฟางเจิ้งจือ ที่ตอนแรกกำลังรอให้ ฉือ กูเหยียน ตอบอะไรกลับมาบ้าง ตอนนี้เขากลับตัวสั่น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไปทันที
เข้าสู่สวรรค์ชั้นที่แปด?!
มัน…หมายความว่ายังไง?!
นี่มันไม่ถูกต้อง?
โดยปกติหลังจากความมั่นใจของฉือ กูเหยียน ถูกทำลาย นางต้องล้มลงกับพื้นด้วยความสิ้นหวัง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มสิิ? หรือนางอาจจะดิ้นรนเล็กน้อยก่อนที่จะหาทางเอาคืนเขา
แต่ตอนนี้นางกลับได้ขึ้นไปยังชั้นที่แปด?
มันหมายความว่าอะไรกัน?
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่าลมที่พัดเขามาปะทะตัวของเขานั้นหนาวเย็นมากกว่าเดิมหลายเท่า
”เชี่ย…ข้าพึ่งช่วยนางไป?!”ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็ได้สติ
แล้วดูเหมือนเขาจะสามารถเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที
ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมฉือ กูเหยียน ถึงไม่ปฏิเสธคำพูดของเขา และเลือกที่จะยืนเงียบๆเหมือนเดิม
ฉือกูเหยียน …
จริงๆแล้วนางไม่รู้ว่าภาพในเก้าสวรรค์ทั้งหมดนั้นเป็นภาพแห่งการสรรค์สร้าง?
”…..” ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าความคิดเกี่ยวกับโลกใบนี้ของตัวเองนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาคิดอยู่เสมอว่าความรู้ของ ฉือ กูเหยียน นั้นลึกล้ำราวกับมหาสมุทร
ไม่มีอะไรที่นางไม่รู้หรือไม่มีอะไรที่นางแก้ไม่ได้
เขาคิดอย่างนี้มาตลอด
อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดจริงๆว่าฉือ กูเหยียน จะไม่รู้เรื่องนี้
แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น….
เป็นเขาเองที่บอกเรื่องสำคัญนี้กับนาง
จากนั้น…
นางก็ไปยังสวรรค์ชั้นแปดในทันที?
ทิ้งเขาไว้ที่สวรรค์ชั้นเจ็ดคนเดียว
ฟางเจิ้งจือ อยากจะถามหาความยุติธรรมกับ ฉือ กูเหยียน
แต่แน่นอนตอนนี้เขาไม่สามารถพูดอะไรได้แล้ว
เพราะตอนนี้นางไม่อยูแล้ว…
”ไม่ดีแล้วนางไปที่ชั้นแปดแล้ว!” ฟาง เจิ้งจือ พบปัญหาของเขาตอนนี้ทันที การบอกนางเกี่ยวกับภาพแห่งการสรรค์สร้างไม่ใช่เรื่องสำคัญเรื่องที่สำคัญกว่าคือนางเอาสิ่งที่เขาบอกไปต่อยอดในการไขปริศนาภาพเซียนสวรรค์
เมื่อคิดถึงตรงนี้ฟาง เจิ้งจือ ก็หยุดคิดทันที
เพราะมันไม่สำคัญอีกต่อไป
เขาต้องตั้งสติ
และตั้งใจดูภาพ!
ขณะที่เขาค่อยๆเงยหน้ามองดูภาพนั้นเอง
ฟางเจิ้งจือ ตัวแข็งไปในทันที
”หือ?ทำไมรูปนี้… มันแตกต่างจากสามชั้นล่างเป็นอย่างมาก?!” ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่ได้ดูรูปทันทีตอนที่เขามาถึงชั้นเจ็ด
เหตุผลง่ายๆเพราะเขามั่นใจในตัวเองมาก
ราวตัวเองนั้นเป็นภูเขาสูงที่ตั้งตระหง่านมองเหล่าภูเขาลูกเล็กๆด้านล่างที่ทอดยาวไปสุดสายตา
เขาทั้งโดดเดี่ยวและเย่อหยิ่ง
เขาไม่เห็นเหล่าภูเขาลูกเล็กๆอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
ที่สำคัญกว่านั้น…
เห็นได้ชัดว่าฉือ กูเหยียน สามารถทำความเข้าใจภาพในชั้นที่เจ็ดได้เพราะฟังแนวคิดจากเขาไป
แล้วปัญหามันอยู่ตรงไหนกัน?
ไม่มีทางที่จะมีปัญหา
แต่ทำไมภาพในชั้นที่เจ็ดถึงต่างกับภาพในชั้นที่หก?
ท่าทีของฟาง เจิ้งจือ แข็งค้างไปทันที
เขารู้สึกเหมือนตัวเองได้ขุดน้ำให้คนอื่นดื่มแต่สุดท้ายเขากลับไม่ได้รับน้ำแม้แต่น้อย แต่กลับได้ยาพิษแทนด้วยซ้ำ?
Gate of God – ตอนที่ 735 ทำลายความมั่นใจ
Posted by , ? Views, Released on September 29, 2022
Gate of God
GoG, 神门Adventure Comedy Fantasy Harem Martial Arts Xianxia กำลังภายใน นิยาย จีน นิยาย ผจญภัย นิยาย ศิลปะการต่อสู้ นิยาย แฟนตาซี นิยาย แอคชั่น
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง
Recommended Series
Comment
Facebook Comment
