ไม่มีศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์คนไหนที่โง่มันเป็นชัดเจนว่าทุกคนกำลังไล่ตาม ฟาง เจิ้งจือ อยู่
งั้นมันไม่น่าเป็นไปได้ที่ศิษย์ที่ชื่อหลี่จะถูกล่อลวงโดยฟาง เจิ้งจือ
ศิษย์ที่ชื่อหลี่ยังไม่เชื่อฟาง เจิ้งจือ ในตอนแรก แต่เขากลับผงะไปเล็กน้อย เมื่อได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ พูดถึง ‘หนานกง มู่’ และ ‘ประตูสวรรค์’
ประตูสวรรค์นั้นสำคัญเกินไปสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นมันน่ากลัวเกินไปสำหรับเขา
ดังนั้นแม้เขาจะไม่เชื่อฟาง เจิ้งจือ แต่เขาก็มองไปทางขวาโดยไม่รู้ตัว
ไม่มีอะไร?! ศิษย์ที่ชื่อหลี่หันหน้ากลับมาทันทีเมื่อรู้วาตัวเองถูกหลอก
นั่นเป็นเพราะมีหมัดกำลังมาถึงหน้าเขาแล้ว ตูม!
เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่จมูกอย่างไรก็ตามในฐานะศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ เขาจะยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆได้ยังไง
ยิ่งกว่านั้นเขากำลังเดือดดาลด้วยความโกรธหลังจากถูกหลอกดังนั้นเขาจึงทนต่อแรงกระแทกและความเจ็บปวดอย่างมาก แล้วหยุดตัวเองจากการก้าวถอยหลัง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้สินหวังยิ่งกว่าก็มาถึงเขารู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณจุดสงวนของเขามาก มันรุนแรงพอที่จะทำให้เขาล้มลงไปนอนกับพื้น
… ดวงตาของศิษย์ที่ชื่อหลี่เบิกกว้าง ก่อนจะทรุดลงบนพื้นอย่างไม่เต็มใจ
…
ศิษย์ที่กำลังไล่ตามฟาง เจิ้งจือ ต่างมองไปยังศิษย์ที่ชื่อหลี่ด้วยความเห็นใจ
อา…ช่างน่าเศร้าเหลือเกิน! แน่นอนว่าพวกเขาโกรธแค้นเพราะวิธีการที่ไร้ยางอายของฟาง เจิ้งจือ
ไม่ต้องห่วงพี่หลี่พวกเราจะเอาคืนให้ท่านเอง!
ฟางเจิ้งจือ อย่าคิดว่าเจ้าจะหนีไปได้ง่ายๆ!
เจ้าหนีไปไม่พ้นหรอกยอมแพ้ซะ!
แน่นอน…ฟางเจิ้งจือ ไม่ฟังพวกเขาอยู่แล้ว
หรือพูดตามตรงเขาไม่มีทางเลือกอื่นเขาใช้ หนานกง มู่ และประตูสวรรค์ เบี่ยงเบนความสนใจ ทำให้เขาโจมตีได้
หากเขาแสดงความเมตตาออกมาเขาคงไม่รอดแน่
หนี!
ข้าต้องหนี!
…
ขณะเดียวกันด้านนอกบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์น้ำเอ่อนองไปทั่ว บ่อน้ำซึ่งถูกสร้างขึ้น จากหยกขาวได้ถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์แล้ว
ผู้อาวุโสหกตะลึง
เขายืนอึ้งด้วยความทำอะไรไม่ถูกในความเป็นจริงเขายังไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้
เกิดอะไรขึ้นในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์? หวังว่าจะมีคนบอกเขาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาหวังว่าคนอื่นจะสามารถออกมาจากบ่อน้ำได้
ในขณะที่เขากำลังคิดเรื่องนั้นน้ำในบ่อก็เริ่มสั่นไหวอีกครั้ง
ผู้คนค่อยๆทยอยออกมาจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ทุกคนมีท่าทีมึนงงเป็นอย่างมาก
ถูกต้องแล้วเก้าสวรรค์นั้นถูกทำลายไปพร้อมกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพวกเขารู้เพียงว่าโลกข้างในนั้นค่อยๆพังทลายลง ถ้าประตูไม่ได้เปิดขึ้นทันเวลา พวกเขาคงตายอยู่ด้านในแล้ว บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลาย!
ใครที่ทำแบบนี้?
เกิดอะไรขึ้นในโลกนี้?
พวกเขาต่างมองหน้ากันด้วยความมึนงงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ผู้อาวุโสหกขมวดคิ้วเมื่อเห็นเรื่องนี้เขาสามารถบอกได้ว่าศิษย์เหล่านี้ไม่รู้เรื่องเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม…ผู้อาวุโสหกได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลาย!
ใครกัน?ใครเป็นคนทำลายบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์!
ฟางเจิ้งจือ! ทันใดนั้นเสียงอันสงบก็ดังขึ้น พร้อมกับร่างในชุดสีชมพูได้ปรากฎออกมาจากบ่อน้ำ ฉือ กูเหยียน ขอแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโสหก
ด่วนบอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น? ดวงตาของผู้อาวุโสหกเบิกกว้างทันทีเมื่อได้ยิน ฉือ กูเหยียน พูด ฟางเจิ้งจือ และข้าได้เข้าสู่สวรรค์ชั้นเก้า อย่างไรก็ตามเขาจับตาสมบัติในสวรรค์ชั้นเก้าอยู่ จากนั้นก็โจมตีข้าตอนที่ไม่ทันตั้งตัว ข้าไม่รู้จุดประสงค์ของเขามาก่อนและมันสายเกินไปตอนที่เขาลงมือ จากนั้นเขากลัวว่าสิ่งที่เขาทำจะถูกคนอื่นล่วงรู้ เขาจึงได้ทำลายบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ลง ถ้าประตูเปิดไม่ทันเวลา ข้าคงตายอยู่ด้านในแล้ว! ฉือ กูเหยียน พูดออกมาด้วยความอ้างว้าง ท่าทีของนางดูเศร้าศร้อยอย่างยิ่ง
บ้าเอ้ย!
เจ้าหมอนั่นมันสารเลวจริงๆ!
ใช่แล้ว!ฉือ กูเหยียน อุตส่าห์ดีกับเขามาก แต่เขากับเนรคุณกับนาง!
เหล่าศิษย์ต่างตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว
ข้าเป็นคนขอท่านอาจารย์ให้เขาเข้าไปในบ่อน้ำแต่ตอนนี้มันกลับพัง…
กูเหยียนเจ้าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า! ผู้อาวุโสหกโกรธแค้นอย่างมาก ตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ หนีไปที่ตีนเขาแล้ว กูเหยียน เจ้าไปพักก่อนเถอะ เจ้าได้รับบาดเจ็บมามากแล้ว ที่เหลือจะตามจับ ฟาง เจิ้งจือ เอง! ผู้อาวุโสหกพูดพร้อมประกายอันเย็นชาในดวงตา
รับทราบ! เหล่าศิษย์ต่างตอบรับในเวลาเดียวกัน
พวกเราสาบานว่าจะตามจับเจ้าสารเลวนั่นให้ได้!
จับเขา! ไอลีนโนเวล
ใช่จับเขาฉีกเป็นชิ้นๆ!
เสียงคำรามด้วยความโกรธดังไปทั่วด้านนอกบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
…
ระหว่างทางไปตีนเขาฟาง เจิ้งจือ วิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ศิษย์ก็ตามเขาไปอย่างเร่งรีบเช่นกัน
ในความเป็นจริงเขาได้เตรียมใจไว้อยู่แล้วว่าฉือ กูเหยียน ต้องขายเขาทิ้งแน่นอน แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวของผู้อาวุโสหก เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ฉือ กูเหยียน พูดอะไรกับผู้อาวุโสหกไปบ้าง
หนานกงมู่ อยู่ที่นี่แล้ว เขาจะทำลายประตูสวรรค์ หยุดเขาเดี๋ยวนี้! ฟาง เจิ้งจือ ตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเห็นศิษย์อีกหกคนยืนอยู่ด้านหน้า
อย่างไรก็ตาม… เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ผลอีกแล้ว
นี่เป็นเพราะเหล่าศิษย์ที่ตามเขามารีบตะโกนตามในทันที ไม่มี หนานกง มู่ อะไรทั้งนั้น เร็วเข้าจับ ฟาง เจิ้งจือ!
อย่าปล่อยให้ฟาง เจิ้งจือ หนีไป!
หยุดเขาเร็ว!
… ฟาง เจิ้งจือ พูดไม่ออกทันที เขาอยากจะสาปแช่งคนพวกนี้เหลือเกิน ทำไมพวกเจ้าต้องไร้เมตตาขนาดนี้?!
แน่นอนว่าเขาไม่ได้ถามออกมาแต่เขากลับดึงดาบออกมาแทน
เขาใกล้จะถึงตีนเขาแล้วเขาต้องฝ่าออกไปให้ได้
เขากล้าดึงดาบออกมาได้ยังไงกัน?
เขาคิดว่าเขาจะสู้กับพวกเราทั้งหกได้งั้นหรือ?
เขาคงมั่นใจในตัวเองเกินไป!
ศิษย์ทั้งหกดึงดาบออกมาเช่นกัน
การที่พวกเขาได้รับหน้าที่ให้ปกป้องศาลาเต๋าสวรรค์นั้นหมายความว่าพวกเขานั้นไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน
พวกเขาท้งหมดอยู่ในระดับจุติ
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถเอาชนะฟาง เจิ้งจือ ด้วยตัวคนเดียวได้
อย่างไรก็ตามตอนนี้มีพวกเขาอยู่จำนวนมากต้องกลัวอะไรกัน?
หรือก็คือพวกเขาไม่ได้ต้องทำอะไรมากมายทั้งหมดที่เขาต้องทำคือโจมตีและถ่วงเวลา ฟาง เจิ้งจือ เท่านั้น
หากฟาง เจิ้งจือ ยังคงสามารถหลบหนีจากมือของพวกเขาไปได้อีก พวกเขาคงยอมแพ้แล้ว
ทำตามรูปแบบที่ฝึกไว้!
รับทราบ!
ศิษย์ทั้งหกคนที่ตอนแรกยืนในแนวนอนเปลี่ยนที่ยืนทันทีเมื่อได้ยินคำสั่ง
สามคนยืนอยู่ข้างหน้าขณะที่อีกสามคนอยู่ด้านหลัง
นอกจากนี้ดาบของพวกเขาทุกคนชี้ไปที่มือของฟาง เจิ้งจือ ก่อนที่จะเปล่างแสงออกมา
มองจากไกลๆมันดูเป็นเหมือนตาข่ายยักษ์
พวกเขาทั้งหกคนอยู่ในระดับจุติและพวกเขายังกล้าโจมตีข้า?!
พวกเขารังแกคนอ่อนแอแบบข้าเช่นนี้ได้ยังไง ฟางเจิ้งจือ รู้สึกขมขื่น แม้ว่าพวกเขาไม่รู้ค่ายกลที่ทั้งสามคนใช้ ‘ตาข่าย’ แต่ดูเหมือนมันจะเป็นค่ายกลที่บังคับให้เขาต่อสู้กับคนสามคนพร้อมกันและสู้อย่างต่อเนื่อง
พูดง่ายๆ …พวกเขาจะต่อสู้กับ ฟาง เจิ้งจือ พร้อมกันสามคน ขณะที่อีกสามคนรอสับเปลี่ยนตัวกับคนที่เหนื่อยอีกที
กล่าวอีกนัยคือเป็นค่ายกลที่สมบูรณ์แบบอย่างน้อยมันก็ถ่วงเวลาเขาได้ห้านาที
เขาจะออกไปจากที่นี่แบบมีชีวิตได้ไหม?
……………………………………..
