ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะตรงมาที่นี่หลังจากโดนพวกเราซุ่มโจมตีดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสินะ การจับ เหยียน ซิว เป็นตัวประกัน! ทันใดนั้นชายในชุดดำอีกคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านข้างโต็ะหิน
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงมองไปที่ใบหน้าอันซีดขาวของ เหยียน ซิว มันทำให้ ฟาง เจิ้งจือ เกิดความรู้สึกใครสักคนจนบ้าคลั่ง
หมัดของเขากำแน่นแทนที่จะวิ่งไปข้างหน้าเขากลับยืนนิ่ง ไม่สนใจคนนับร้อยที่ตามมาด้านหลัง
เจ้าโกรธมากงั้นรึ? ชายที่อยู่ด้านข้าง เหยียน ซิว ยิ้มเยาะ
ตามข่าวลือ…เหยียนซิว และ ฟาง เจิ้งจือ สนิทกันมาก แน่นอนสำหรับพวกเขามิตรภาพพวกนี้มันเป็นแค่เรื่องตลกในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หืม?! ชายคนนั้นกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่มีบางสิ่งที่ทำให้เขาต้องหยุดพูด
เพราะเขาเห็นความปั่นป่วนที่ด้านหลัง
คนของเหล่าจำนวนมากของศาลาเต๋าสวรรค์ปรากฎขึ้นอีกครั้ง
มันทำให้พวกเขาแปลกประหลาดใจเล็กน้อย
ด้านผู้อาวุโสและศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ก็ตกใจเช่นกัน
เขาตกใจที่ฟาง เจิ้งจือ หยุดวิ่ง เพราะนี่ไม่ใช่โอกาสดีที่จะหนีงั้นหรือ?
อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ได้รับคำตอบในทันที่เมื่อเห็นร่างของเหยียน ซิว
เหยียนซิว? พวกเจ้า.. ผู้อาวุโสสองและสี่มองหน้ากัน
ผู้อาวุโสหกก็หยุดเคลื่อนไหวเช่นกัน
พวกเขาต้องการจับตัวฟาง เจิ้งจือ แต่ไม่สามารถเพิกเฉิยต่อชายทั้งห้าที่ปรากฎตัวขึ้นได้ มันถือเป็นเรื่องที่จริงจังมาก
พวกเจ้าเป็นใครกัน?ทำไมต้องทำร้าย เหยียน ซิว ด้วย? เขาเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น! ผู้อาวุโสหกถามขึ้นมาด้วยความโกรธเกรี้ยว
แค่เซียนถึงสี่คนร่วมมือกันเพื่อจับตัวฟาง เจิ้งจือ มันก็ทำให้พวกเขาแปลกใจแล้ว แต่นี่ถึงกับจับ เหยียน ซิว เป็นตัวประกัน?
โดยปกติผู้ที่เก่งกาจมักจะไม่ทำเช่นนี้ยกเว้นพวกเขาได้รับภารกิจที่พวกเขาต้องทำให้สำเร็จให้ได้
พี่ใหญ่! ชายสองคนที่อยู่ด้านหลังก้มหัวเคารพให้ชานชุดดำที่อยู่ข้าง เหยียน ซิว ในทันที
ไม่เป็นไร เขาโบกมือให้ชายทั้งสองคนก่อนจะหันไปหา เหยียน ซิว แล้วยิ้มเยาะออกมา เหยียน ซิว เห็นไหมข้าไม่ได้โกหกเจ้า หากเจ้ารีบตายไป เจ้าจะรู้ไหมว่าเพื่อนจะทิ้งเจ้าหรือเปล่า? อ้ากก!!! เหยียน ซิว คำราม ท่าทีของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง เขาขมวดคิ้ว ก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้น
ชายที่ยืนอยู่ด้านข้างไม่สนใจเขาเอามือฟันไปที่งไหล่ของ เหยียน ซิว ในทันที
แกรก! เสียงกระดูกหักสามารถได้ยินอย่างชัดเจน แต่ เหยียน ซิว ยังไม่ได้ล้มลงไปอย่างสมบูรณ์ เขายืนตัวสั่นเทากัดฟันแน่น เขาไม่คิดจะร้องขอความช่วยเหลือจาก ฟาง เจิ้งจือ แม้แต่น้อย
เหยียนซิว อย่าขยับ! เชื่อใจ…เชื่อใจข้า!! ดวงตาของ ฟาง เจิ้งจือ แดงก่ำทันทีเมื่อรู้ว่า เหยียน ซิว กำลังจะทำอะไร
หากเขาอยู่ในสถานการณ์เดียวกันเขาก็คงจะเลือกความตายเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเขาจะปล่อยให้เหยียน ซิว ตายได้ยังไง?
เหยียนซิว นั้นจะต้องพบกับความทรมารแค่ไหนกัน ใครจะรู้? เชื่อ… ร่างกายของ เหยียน ซิว สั่นเทาอย่างรุนแรง ใบหน้าอันซีดขาวของเขามองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
พวกเจ้าเป็นใครกัน?ทำไมพวกเจ้าต้องทำร้าย เหยียน ซิว? พวกเจ้าไม่สนใจความสัมพันธ์ของทั้งห้าสำนักแล้วงั้นรึ ไม่สนใจชื่อเสียงของตัวเองแล้วงั้นรึ?! ผู้อาวุโสหกกำมือแน่น
ชื่อเสียง?ถูกต้องแล้ว…ข้าจะสนใจชื่อเสียงไปทำไม? ชายคนหนึ่งเงยหน้าขึ้นและกล่าวออกมา ศาลาเต๋าสวรรค์ได้ทำลายชื่อเสียงของข้าไปแล้ว!
ศาลาเต๋าสวรรค์ทำลายชื่อเสียงของเขา?
นั่นหมายความว่ายังไง?
เขาเป็นใครกัน?
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างเต็มไปด้วยความสงสัย
ดูเหมือนว่าพวกเรา…ไม่จำเป็นที่จะต้องปกปิดตัวตนที่แท้จริงอีกต่อไป!
พี่ใหญ่! ชายอีกสองคนพูดขึ้นมาอย่างเจ็บปวดเช่นกัน
น้องสองน้องสาม ในเมื่อชื่อเสียงของพวกเรานั้นได้ย่อยยับไปแล้ว พวกเราก็ไม่ต้องสนใจอะไรอีกต่อไป
ทั้งสามคนพยักหน้าให้กัน
หยวนหรงหนึ่งในสามเซียนที่ทำหน้าที่ดูแลเกาะจันทราสีดำ ขอแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโส สอง, สี่, หก แห่งศาลาเต๋าสวรรค์! ขณะที่พูด ชายคนนั้นก็ดึงผ้าคลุมหน้าออก
ชายอีกสองคนก็เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาเช่นกัน
เป็นพวกเจ้า?!สามเซียนจากเกาะจันทราสีดำ?! ในที่สุดผู้อาวุโสหกก็เข้าใจถึงสิ่งที่ หยวนหรง กล่าวถึงก่อนหน้านี้
ข้าไม่แปลกใจเลย…
มันเป็นพวกเขา…
เหล่าศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์เข้าใจเรื่องทั้งหมดในทันที
ผู้อาวุโสสี่และสองมองหน้ากันอีกครั้งพวกเขาเองก็เข้าใจในทันทีเช่นกันว่าทำไม ทั้งสามคนถึงต้องจับ เหยียน ซิว เป็นตัวประกันเพื่อฆ่า ฟาง เจิ้งจือ
อย่างที่พวกเขาคิดก่อนหน้านี้นี่เป็นภากิจที่เก้าขุนเขามอบให้พวกเขา
สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ก็คือ…ชายอีกสองคนเป็นใคร?
ก่อนที่พวกเขาจะได้ถามอะไรชายอีกสองคนก็ถอดผ้าคลุมหน้าออกทันที เป็นชายวัยกลางคน และชายชราคนหนึ่ง
ฉือฟ่าน? ท่าทีของผู้อาวุโสสองเปลี่ยนไปทันที เขามองไปที่ชายชราทันที
หรือว่า…
ไม่ต้องสงสัยเลยเขามาจากศาลาหยินหยางแน่นอน…
ใช่แล้วฉือฟ่าน เป็นผู้อาวุโสเก้าของศาลาหยินหยาง! ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างมองไปที่ชายชราด้านหน้าทันที
การปรากฎตัวของฉือฟ่าน นั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคาดคิดแม้แต่น้อย
ฉือฟ่านในฐานะผู้อาวุโสของศาลาหยินหยาง เจ้าทำแบบนี้…
ก่อนอื่นข้าต้องพูดให้พวกเจ้าเข้าใจก่อนว่าข้านั่นไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสของศาลาหยินหยางแต่ข้านั้นเป็นอาจารย์คนแรกของว่านเล่ย! ฉือฟ่าน โบกมือขัดจังหวะผู้อาวุโสหก ก่อนจะพูดต่อ ในเมื่อว่านเล่ยตายที่ศาลาเต๋าสวรรค์ พวกท่านไม่คิดจะมีคำอธิบายอันสมเหตุสมผลให้ข้าหน่อยหรือ? Aileen-novel
เรื่องนี้… ท่าทีของผู้อาวุโสหกเปลี่ยนไปทันที เขาไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างว่านเล่ยและฉือฟ่านมาก่อน
ผู้อาวุโสสองและสี่เองก็ขมวดคิ้วเช่นกันพวกเขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเซียนทั้งสามจากเกาะจันทราสีดำมาก แต่เขากังวลเกี่ยวกับฉือฟ่านมาก พูดง่ายๆตั้งแต่เกิดเรื่องระหว่างศาลาเต๋าสวรรค์และเก้าขุนเขาในคราก่อนมันก็เป็นเรื่องยากมากที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามถ้าศาลาหยินหยางกลายเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งด้วยทุกอย่างจะเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์
ศาลาเต๋าสวรรค์ไม่สามารถรับมือศัตรูพร้อมกันท้องสองด้านได้
อืมในเมื่อข้าเปิดเผยตัวตนแล้วข้าจะพูดง่ายๆ ข้ามาที่นี่เพื่อล้างแค้นให้ว่านเล่ย เช่นนั้น ฟาง เจิ้งจือ ต้องตาย ศาลาเต๋าสวรรค์จะเลือกความสงบหรือสงครามก็อยู่ที่ท่านเลือกแล้ว! ฉือฟ่าน พูดพร้อมมองไปที่ผู้อาวุโสหก
แล้วศาลาหยินหยางล่ะ?พวกเจ้าต้องการความสงบหรือสงคราม? ดวงตาของผู้อาวุโสสองส่องประกายเยือกเย็นออกมา
ฮ่าฮ่า…ผู้อาวุโสสองไม่สามารถบอกได้จากสิ่งที่เกิดขึ้นงั้นหรือ?หากพวกเราต้องการสงครามจะซ่อนตัวตนที่แท้จริงทำไม? ข้าไม่อยากให้ศาลาเต๋าสวรรค์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แลกกับตัว ฟาง เจิ้งจือ เท่านั้น! ฉือฟ่านยิ้ม
พวกเราต้องคุยเรื่องนี้กันก่อน! ผู้อาวุโสสองพยักหน้า แต่ยังไม่ได้ให้คำตอบในทันที
ได้15 นาทีเพียงพอหรือไม่? ฉือฟ่านไม่ได้เร่งรีบอะไรมากนัก หลังจากเขาเปิดเผยตัวตนออกไป ศาลาเต๋าสวรรค์น่าจะสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
อืม ผู้อาวุโสสองพยักหน้าก่อนจะร่อนลงบนพื้นพร้อมกับผู้อาวุโสสี่ และเข้าไปคุยกับผู้อาวุโสหก
ตาเฒ่าหกท่านเป็นคนดูแลบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ช่วยบอกก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น?
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายแล้ว..
อืม… ผู้อาวุโสสองพยักหน้าอย่างจริงจังหลังจากได้ยิน
พี่สองในเมื่อ ฟาง เจิ้งจือ จะต้องถูกฆ่าอยู่แล้วหลังจากถูกพาตัวกลับไปที่ศาลาเต๋าสวรรค์ ทำไมพวกเราไม่ทำตามข้อเสนอของพวกเขาล่ะ? ผู้อาวุโสสี่แสดงความคิดเห็นของตัวเอง
ตาเฒ่าหกคิดยังไง?
เราต้องปกป้องชื่อเสียงของศาลาเต๋าสวรรค์!แม้ว่า ฟาง เจิ้งจือ จะต้องตาย แต่เราจะปล่อยให้ใครมาฆ่าเขาใต้จมูกของพวกเราไม่ได้!
ข้าเข้าใจแล้วข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง ผู้อาวุโสสองพยักหน้า
อืม! ผู้อาวุโสหกและสี่เห็นด้วย
ผู้อาวุโสสองหันหน้ากลับไปมองหยวนหรง และ เหยียน ซิว
เราได้พูดคุยเรื่องนี้กันแล้วพวกเจ้าจะทำอะไรกับ ฟาง เจิ้งจือ ก็ได้แต่ต้องมอบศพของเขาให้กับศาลาเต๋าสวรรค์ รวมถึงพวกเจ้าห้ามทำร้าย เหยียน ซิว รวมถึงต้องรักษาเขาด้วย หลังจากนี้เซียนทั้งสามจากเกาะจันทราสีดำต้องตามพวกเรากลับไปเพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับผู้นำศาลาฟัง! ผู้อาวุโสสองพูดออกมา
เมื่อฉือฟ่านได้ยินเขาก็มองไปที่ หยวนหรง ทันที ก่อนที่จะยิ้มเยาะออกมา เยี่ยม เยี่ยม พวกเราจะทำตามที่ท่านผู้อาวุโสสองกล่าว คนของศาลาเต๋าสวรรค์โปรดถอยออกไป ข้าจะเริ่มการสังหารเดี๋ยวนี้!!
……………………………………..