ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีทรัพยากรที่สมบูรณ์แต่การแข่งขันนั้นก็สูงมากเช่นกัน หลายครั้งที่ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวได้นำไปสู่ความตาย
พวกเขาต้องหาทางหยุดฟาง เจิ้งจือ รวมทั้งช่วย เหยียน ซิว…
พวกเขาไม่สามารถให้อภัยฟาง เจิ้งจือ ได้ง่ายๆ เขาจะตอบคำถามของเหล่าศิษย์ได้ยังไง? แล้วถ้าในอนาคตแข็งแกร่งกว่านี้ แล้วหันดาบเข้าใส่ศาลาเต๋าสวรรค์อีกล่ะ? ตอนนั้นพวกเขาจะดิ้นรนอะไรได้อีกไหม?
ไม่มีใครรู้
แต่ในความคิดของผู้อาวุโสสองต่อให้พวกเขาให้อภัยฟาง เจิ้งจือ ในครั้งนี้ ก็ใช่ว่า ฟาง เจิ้งจื จะไม่ทำผิดอีก
ฉือฟ่านตาย! ขณะที่ผู้อาวุโสสองกำลังคิด เสียงของ ฟาง เจิ้งจือ ดังขึ้นอีกครั้ง จากนั้นดาบไร้ร่องรอยในมือของเขาก็เคลื่อนไหว
ดาบแทงไปข้างหน้าราวกับมังกรที่พุ่งไปยังหัวใจของฉือฟ่าน
กล้าดียังไง?! ในที่สุดฉือฟ่านก็ตอบสนอง เมื่อมองไปที่ผู้อาวุโสสามจาเกาะจันทราสีดำ ดวงตาของเขายิ่งเย็นชาพร้อมกับจิตสังหารที่มากขึ้นเรื่อยๆ
ในฐานะผู้อาวุโสของศาลาหยินหยางเขามีความสุขุมกว่าคนอื่นมาก อย่างไรก็ตามการที่ ฟาง เจิ้งจือ ใช้เต๋านรกออกมาอย่างง่ายดาย มันก็ทำให้เขาไขว้เขวไปชั่วเวลาหนึ่ง…
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาสามารถกลับมาเยือกเย็นได้ดั่งเดิมร่างของเขาปกคลุมด้วยเปลวไฟสีดำ ในเวลาเดียวกันเขาก็ดึงศพของผู้อาวุโสสามจากเกาะจันทราสีดำมาบังดาบของ ฟาง เจิ้งจือ
หยุด! เสียงของหยวนหรงดังขึ้น เขารู้สึกเจ็บปวดมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้พวกเขาทั้งสามคนจะไม่ใช่พี่น้องที่แท้จริงแต่พวกเขาก็สนิทกันมากราวกับเป็นพี่น้องจริงๆ
อย่างไรก็ตามตอนนี้…
น้องสามของเขาได้ตายไปแล้วเขาตายเพราะพยายามปกป้องฉือฟ่าน แต่ตอนนี้ฉือฟ่านกลับเอาร่างน้องสามของเขามาเป็นเกราะป้องกัน เขาจะทนได้ยังไง?
ดาบของฟาง เจิ้งจือ หยุดลง
เพราะเขาเห็นว่าตอนนี้มือของหยวนหรงนั้นโอบอยู่ที่คอของเหยียน ซิว
ไปลงนรกซะเจ้าเด็กเหลือขอ! ฟาง เจิ้งจือ หยุด แต่ ฉือฟ่านไม่หยุด เมื่อเขาเห็นดาบ ฟาง เจิ้งจือ หยุดเขาเตะเท้าไปข้างหน้าทันที
ตูม! ขาของเขาที่ปกคลุมไปด้วยไฟสีดำ ปะทะเข้ากับหน้าอกของ ฟาง เจิ้งจือ ทันที ก่อนที่ร่างของเขาจะกระเด็นออกไปกระแทกพื้น ผู้อาวุโสสองจากศาลาเต๋าสวรรค์ที่เตรียมจะโจมตียืนเงียบทันที เขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ฟางเจิ้งจือ เจ้าจะทนดู เหยียน ซิว ตายได้งั้นหรือ? เสียงของหยวนหรงดังขึ้น ในเวลาเดียวกันเขาก็เอามืออีกข้างกดไปที่ไหล่ของ เหยียน ซิว
แกรก! เสียงอะไรบางอย่างแตกดังขึ้น
เห็นได้ว่าสีหน้าของเหยียน ซิว เปลี่ยนไป เขาดูเจ็บปวดมาก อย่างไรก็ตามเขากัดฟันแน่นและไม่พูดอะไรออกมา
นี่ทำให้ผู้อาวุโสคนสี่ส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจและพูดออกมา เหยียน ซิว…เขาช่างเป็นคนที่มีความอดทนเหลือเกิน!
ถูกต้อง ผู้อาวุโสสองรู้สิ่งที่ผู้อาวุโสสี่คิด แต่สถานการณ์บังคับให้เขาเงียบ เขาไม่มีทางเลือก
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างขมวดคิ้วแม้พวกเขาไม่ชอบ ฟาง เจิ้งจือ แต่พวกเขาไม่ต้องการณ์เห็นฉากแบบนี้
วิธีนี้ไร้ศีลธรรมเกินไป
น่ารังเกียจ!
อัปยศ!
เขาเป็นเซียนแบบไหนกัน?น่ารังเกียจมาก!
เหล่าศิษย์ต่างวิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้นแต่พวกเขาไม่กล้าเข้าไปแทรกแซงอะไร ท้ายที่สุดผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสี่ยังคงนิ่งเงียบ
หุบปาก!ฟาง เจิ้งจือ วันนี้ไม่เจ้าก็ เหยียน ซิว เท่านั้นที่จะมีชีวิตรอด เลือกซะ! เสียงของหยวนหรงเต็มไปด้วยความเย็นชา เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าการกระทำของเขามันน่าเกลียดแค่ไหน?
อย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์นี้ที่เซียนฝั่งเขาตายไปสองคนเขาจะมีทางเลือกอะไรอีก?
ตอนนี้เขาไม่คิดจะสนใจเรื่องเกียรติยศอะไรอีกแล้ว! เขาต้องการแก้แค้นให้น้องสาม
อย่างไรก็ตามฉือฟ่าน ไม่ใช่คนที่น่าเชื่อถือนัก ถ้าเขาปล่อยให้น้องสองกับฉือฟ่านสู้กับ ฟาง เจิ้งจือ ใครจะรู้ว่าถ้าเกิดอันตรายอะไรขึ้นมา ฉือฟ่านจะไม่ทำอะไรอีก?
อย่างไรก็ตามถ้าเขาร่วมด้วยพวกเขาก็จะเสียการควบคุมเหยียน ซิว
เขาไม่มีทางเลือก
น้องสี่…เจ้าคิดว่าพวกเราควร… ผู้อาวุโสสองกล่าวขึ้น เขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง
พี่สองข้าเข้าใจ ถ้าพวกเราไม่กล้ำกลืนความอัปยศแล้วลงมือ มันอาจจะส่งผลเสียกับพวกเราในระยะยาวได้ ถ้าเราปล่อยให้หยวนหรง ฆ่า ฟาง เจิ้งจือ นั่นน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเรา ผู้อาวุโสสี่พูดขึ้นมา เขารู้ว่าผู้อาวุโสสองต้องการจะพูดอะไร
น้องหก?
อืม…ข้าเข้าใจอย่ากังวลไปเลยพี่สองข้ารู้ว่าต้องทำอะไร… ผู้อาวุโสหกถอนหายใจ
อืม ผู้อาวุโสสองพยักหน้า เขาไม่ได้พูดอะไรอีก
ขณทะที่พวกเขาคุยกันฉือฟ่านได้ลุกขึ้นอีกครั้ง เขาเดินไปหา ฟาง เจิ้งจือ ทีละก้าว
เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา
ก่อนที่จะเอาเท้าเตะส่งฟาง เจิ้งจือ กระเด็นออกไปอีกครั้ง
ตูม!
ร่างของฟาง เจิ้งจือ ปะทะเข้ากับต้นไม้อย่างรุนแรง
แค่ก…แค่ก… ฟาง เจิ้งจือ ไอออกมาเป็นเลือด แต่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา
ข้าอยากจะเห็นว่าเจ้าจะทนรับความเจ็บปวดได้มากน้อยแค่ไหน ดวงตาของ ฉือฟ่าน เย็นชามากยิ่งขึ้น จิตใจของเขาปกคลุมไปด้วยความเกลีดชัง
เขาต้องการที่จะแก้แค้นความอัปยศที่เขาได้รับจากฟาง เจิ้งจือ ฉือฟ่านรีบฆ่าเขา อย่าเล่นกับไฟ! หยวนหรงมองไปที่ฉือฟ่าน ที่กำลังยกขาขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะรีบพูดเตือนออกมา
เขาเกลียดความเย่อหยิ่งของฉือฟ่าน
เจ้าคิดว่าคนที่เป็นแค่ศิษย์ธรรมดาๆอย่างเจ้าควรจะเรียกข้าด้วยชื่อเปล่าๆงั้นรึ? ขาของฉือฟ่านหยุดลงกลางอากาศ เขามองไปที่หยวนหรงพร้อมกับจิตสังหารที่ปล่อยออกมา
เจ้า… ท่าทีของหยวนหรงเปลี่ยนไปทันทีหน้าของเขากลายเป็นสีแดงก่ำ อย่างไรก็ตามเขาพยายามอดทนก่อนจะพูดออกมา ข้อขอโทษข้าเร่งรีบไปหน่อย ผู้อาวุโสฉือ ที่ข้าต้องการจะบอก…
ไม่จำเป็นต้องพูดเจ้าสนใจเรื่องของตัวเองไปเถอะ! ฉือฟ่าน โบกมือ จากนั้นเขาก็เตะ ฟาง เจิ้งจือ อีกครั้ง
อั้ก!
ครั้งนี้ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้กระเด็นไปในอากาศ เขาขดตัวขึ้นและเกาะแขนของ ฉือฟ่าน เอาไว้
หือ? ฉือฟ่าน ตกตะลึง เขาไม่คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะต่อต้าน
ฉือฟ่านไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
ในฐานะผู้อาวุโสของศาลาหยินหยางเขาไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่หยวนหรงคิด เขาไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาเห็นด้วยกับการกระทำของเขา
สิ่งที่เขาต้องทำคือเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างศาลาหยินหยางและเก้าขุนเขาให้มั่นคง
อย่างไรก็ตามครั้งนี้มันเป็นเพียงพันธมิตรปลอมๆเท่านั้นมันไม่ใช่สิ่งที่ศาลาหยินหยางต้องการจริงๆ
ศาลาหยินหยางต้องการอำนาจเหนือเก้าขุนเขาอย่างไรก็ตามเก้าขุนเขาจะยอมง่ายๆได้ยังไง…
……………………………………..