ความกระอักกระอวนนี้มันอะไรกัน?
การที่เจ้าได้เตือนใครบางคนให้ระวังแต่เขาสามารถรับมือมันอย่างง่ายดาย มันเป็นสิ่งที่น่าอับอายเป็นอย่างยิ่ง
แน่นอนไม่ใช่เซียนสวรรค์พักพิงคนเดียวที่คิดเช่นนี้เมื่อหัวของผู้อาวุโสสองจากเกาะจันทราสีดำตกลงพื้น ทุกคนที่อยู่รอบๆต่างอ้าปากค้าง
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถพูดอะไรได้พวกเขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างจุกแน่นอยู่ในลำคอของพวกเขา
เร็วเกินไป!
การต่อสู้นี้จบเร็วเกินไป!
แม้ว่าหยวนหรงจะได้รับบาดเจ็บมาก่อนแต่มันก็ยังเป็นการต่อสู้แบบสองต่อหนึ่งอยู่ดี ที่สำคัญอีกฝ่ายอยู่ในระดับจุติเท่านั้น
แต่ผลที่ออกมากลับไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนคาดหวัง
ทุกคนไม่สามารถทำความเข้าใจได้แต่มันเป็นเรื่องจริง
สี่!
เซียนสี่คนตายในวันเดียวพวกเขาตายด้วยน้ำมือของ ฟาง เจิ้งจือ ทั้งๆที่ ฟาง เจิ้งจือ ดูไม่ได้ใช้พลังอะไรมากมายด้วยซ้ำ
เขาแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?
กงล้อแห่งการจุติ!มันคือกงล้อแห่งการจุติใช่ไหม?! ผู้อาวุโสสองจับดาบแน่น เขารู้สึกถึงความน่าหวาดกลัวของคำพูดนี้ดี
ที่สำคัญตอนนี้ฟาง เจิ้งจือ เปิดใช้งานมันได้สามเต๋าเท่านั้น ถ้าเขาใช้งานมันได้ทั้งหมดล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น?
ผู้อาวุโสสองไม่กล้าที่จะคิดไกลไปกว่านี้
นี่เป็นเพราะเขารู้ว่าถ้ามันเกิดขึ้นทุกอย่างในแดนศักดิ์สิทธิ์ต้องเปลี่ยนไป
ไม่! มันจะต้องไปเกิดขึ้น!
ก่อนที่นิกายเงาจะแข็งแกร่งไปมากกว่านี้พวกเขาต้องตัดไฟแต่ต้นลม
ถ้าฟาง เจิ้งจือ สามารถเป็นเซียนได้ในสามเดือน ขุมกำลังใหม่ต้องเกิดขึ้นแน่นอน
และมันเป็นขุมอำนาจที่สามารถท้าทายแดนศักดิ์สิทธิ์ได้
เมื่อถึงเวลาทำความผิดที่พวกเขาทำกับฟาง เจิ้งจือ จะถูกส่งคืนมาที่พวกเขาไม่รู้กี่ร้อยเท่า
ไม่!ข้าไม่ยอมให้เรื่องนั้นเกิดขึ้น! ผู้อาวุโสสองตะโกนด้วยความโกรธ จากนั้นทั้งร่างของเขาก็กลายเป็นเงาพุ่งไปหา ฟาง เจิ้งจือ
อยากฆ่าฟาง เจิ้งจือ งั้นรึ?! ต้องผ่านข้าไปให้ได้ก่อน! เหยียน เฉียนหลี่ เห็นการกระทำของผู้อาวุโสสอง เขารีบตรงไปขวางในทันที
อย่างไรก็ตามขณะที่เขาพยายามจะขวางเงานั้นเองเขาพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ เพราะเงานั้นหายวับไปทันที
อยู่ดีๆมันก็หายไป
ไม่มันเป็นภาพลวงตา! เหยียน เฉียนหลี่ รู้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามมันสายเกินไปที่จะหลบ นั้นเป็นเพราะพลังอันรุนแรงอยู่ด้านหลังเขาแล้ว
เหยียนเฉียนหลี่ กัดฟันก่อนที่บาเรียสีแดงเลือดจะปรากฎขึ้นด้านหลังเขาทันที อย่างไรก็ตามพลังนั้นแข็งแกร่งเกินไป
หรือพูดให้ถูกมันเป็นดาบ!
ตูม! แรงระเบิดขนาดใหญ่เกิดขึ้น มันทำให้ เหยียน เฉียนหลี่ รู้ว่าบาเรียที่ด้านหลังของเขาพึ่งฉีกขาด จากนั้นพลังอันรุนแรงก็ปะทะกับหลังเขา ส่งตัวเขากระเด็นไปด้านหน้า หน้าของเขาซีดขาวก่อนที่จะกระอักเลือดออกมา
อั้ก! เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว
ท่านปู่! เสียงของ เหยียน ซิว ดังขึ้น จากนั้นเขาก็พุ่งไปหา เหยียน เฉียนหลี่ โดยไม่คิด
อย่างไรก็ตามมือหนึ่งได้รั้งเขาเอาไว้เป็น หยาน ฉิง
เหยียนซิว อย่าไป! หยาน ฉิง ไม่เข้าใจความรู้สึกของ เหยียน ซิว ทั้งหมด อย่างไรก็ตามเขารู้ว่า เหยียน ซิว ให้ความสำคัญกับ เหยียน เฉียนหลี่ มาก
มันเป็นความรักในครอบครัว?
ขณะที่หยาน ฉิง กำลังคิดนั้นเอง
เงาดำหนึงได้แวบผ่านสายตาของเขาไปมันเร็วมากจนทำให้ใครเห็นต่างหวั่นใจ
หืม?! หยาน ฉิง เขาต่อยไปที่เงานั้นโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตามเขากลับสัมผัสได้ถงพลังบางอย่างบริเวณแขนที่เขาจับ เหยียน ซิว ไว้อยู่
จากนั้นแขนข้างนั้นก็ปรากฎลูกไฟสีดำขึ้นในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกถึงแรงปะทะอันรุนแรงที่หน้าอก อั้ก!
ตาของหยาน ฉิง เบิกกว้าง ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเงาที่พุ่งเข้ามานั้น… เป็น ฉือฟ่าน!
บาดแผลของเขาหายดีเกือบหมดแล้วขาที่ถูกตัดออกของเขาถูกแทนที่ด้วยเปลวเพลิงสีดำแทน
สวะ! ฉือฟ่านไม่คิดจะสู้กับ หยาน ฉิง เป้าหมายของเขาคือ เหยียน ซิว เขาเอามือคว้าไปที่ไหล่ เหยียน ซิว ทันที
อ้าก! เหยียน ซิว ร้องด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าของเขาซีดขาว ความเจ็บปวดอันรุนแรงทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน
ไม่ใช่เพราะฉือฟ่านแตะบาดแผลของเขาอันที่จริงฉือฟ่านยังไม่ได้แตะโดนตัวเขาเลย
แต่เป็นเพราะเหยียน ซิว รู้ว่าตอนนี้ตัวเองนั้นไร้ประโยชน์อย่างที่สุด
ไม่เพียงแต่ไม่สามารถช่วยปู่และฟาง เจิ้งจือ ได้ แต่เขากลับเป็นตัวถ่วงและทำให้ทุกคนอยู่ในอันตรายมากกว่าเดิม ตอนที่มือของหยาน ฉิง พุ่งเข้ามา เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบ
ฉือฟ่านเหยียดยิ้มออกมา เพราะเขารู้ว่าถ้าเขาจับเหยียนซิวได้ เขาจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อีกครั้ง
ฟางเจิ้งจือ เจ้าจะทำอะไรได้ ถ้าเหยียน ซิว ตกอยู่ในมือของข้า? ฉือฟ่านหัวเราะ
อย่างไรก็ตามเงาหนึ่งปรากฎขึ้นหน้าฉือฟ่านทันทีทั้งร่างปกคลุมด้วยชุดเกราะและเปลวเพลิงสีดำ
นั่นคือฟาง เจิ้งจือ
ในความเป็นจริงตอนที่ฉือฟ่านตรงมาหา เหยียน ซิว ฟาง เจิ้งจือ เองก็ตอบสนองในทันทีเช่นกัน หลังจากเขาฆ่าสองเซียนจากเกาะจันทราสีดำเสร็จ เขาก็หันไปสนใจฉือฟ่านทันที
อย่างไรก็ตามเขาช้ากว่าหนึ่งก้าว
เขาเชื่อมั่นในดาบของเขา
ดาบเปล่งแสงสีม่วงออกมาขณะแทงไปที่ลำคอของฉือฟ่าน
มันเป็นการกระทำที่เสี่ยงแต่เขามั่นใจว่าตราบใดที่ฉือฟ่านยังคงยื่นมือไปข้างหน้า เขาไม่มีทางหลบพื้นแน่นอน
เจ้าเด็กนี่เร็วขนาดนั้นได้ยังไง?! แน่นอนว่าฉือฟ่านเห็นดาบนี้ รอยยิ้มของเขาแข็งค้างในทันที เขาไม่คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะตามมาเร็วขนาดนี้
ถอยเขาต้องถอยก่อน!
แต่เขาไม่อยากหนีเพราะเขารู้ว่าถ้าเขาหนีการโจมตีครั้งถัดไปของ ฟาง เจิ้งจือ จะมาเร็วขึ้น
สู้!
เขาต้องสู้
เขากัดฟันแน่นและใช้แขนกันที่คอของเขาเขายอมเสียแขนข้างหนึ่งเพื่อแลกกับโอกาสชั้นเยี่ยม
นี่คือการตัดสินใจของฉือฟ่าน
มันทำให้ให้เขามีโอกาสเล็กน้อยและทันใดนั้นเองมีอีกเงาหนึ่งปรากฎขึ้นด้านหลังพวกเขา
ร่างนั้นสวมชุดนักปราชญ์สีขาว
ดาบสีทองส่องประกายมันตรงไปที่หัวของ ฟาง เจิ้งจือ
สวรรค์เป็นใจให้ข้าแล้ว! เมื่อฉือฟ่านเห็นผู้อาวุโสสองจากศาลาเต๋าสวรรค์ เขารู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที
ฟางเจิ้งจือ ต้องหลบแน่นอน นั่นจะทำให้เขารอด!
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้หลบดาบนั้นแม้แต่น้อย
เขาแค่เอียงหัวไปด้านข้างเล็กน้อยเขาไม่ลดความเร็วของดาบในมือลงด้วยซ้ำ แต่มันเร็วกว่าเดิม
ฉึก! เสียงอันคมชัดดังขึ้น
เลือดกระเด็นไปทั่วอากาศ
ดาบของผู้อาวุโสสองฟันลงไปที่ไหล่ของฟาง เจิ้งจือ มันฝังลึกลงไปในเนื้อของเขาและทำลายกระดูกของเขาในทันที
ตึง! ร่างของ ฟาง เจิ้งจือ ทรุดลงกับพื้นอย่างรุนแรง
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับการโจมตีของผู้อาวุโสสองตรงๆ
อย่างไรก็ตามดาบของฟาง เจิ้งจือ ยังไม่หยุด มันมุ่งเป้าไปที่หน้าอกแทนเพื่อหลีกเลี่ยงการป้องกันที่คอของฉือฟ่าน
ดวงตาของฉือฟ่านเบิกกว้าง
เขาไม่สามารถเชื่อได้เขาเชื่อไม่ลง ดาบที่ตอนแรกเล็งไปที่คอของเขากลับตรงมาที่อกของเขาแทน ทั้งๆที่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้เปลี่ยนตำแหน่งดาบแม้แต่น้อย….
……………………………………..
��