”เพราะดาบของผู้อาวุโสสอง?!ฟาง เจิ้งจือ เจ้า…เจ้า…มันชั่วช้า…” ฉือฟ่านมองเข้าไปในตาของ ฟาง เจิ้งจือ ก่อนจะก้มลงมองดาบไร้ร่องรอยที่ปักอยู่ที่หน้าอกเขา ในที่สุดเขาก็เข้าใจ
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้คิดจะหลบดาบของผู้อาวุโสสองแต่แรก กล่าวอีกนัยคือ ฟาง เจิ้งจือ เดาไว้แต่แรกแล้วว่าผู้อาวุโสสองต้องมาตรงนี้
ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา
นับตั้งแต่ตัวเขาเองรีบเร่งมายังจุดนี้เขาคำนวณทุกอย่างไว้แล้ว เขาใช้ดาบของผู้อาวุโสสองเป็นแรงกตัวเองลงไป
ความจริงที่ฉือฟ่านไม่ทันสังเกตุเรื่องนี้เพราะเขามัวแต่มองดาบของผู้อาวุโสสอง
หวาดกลัว!
นี่เป็นความสามารถในการคำนวณที่น่าหวาดกลัวมาก เพื่อฆ่าศัตรูเขายอมบาดเจ็บ!
ฉือฟ่านไม่อยากยอมรับความจริงเรื่องนี้แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ เขารู้ว่าเขาต้องเป็นเซียนคนที่ห้าที่ต้องตายด้วยดาบไร้ร่องรอย
นอกจากนี้เขาเป็นผู้อาวุโสของศาลาหยินหยาง
เขาเกือบจะมองเห็นเรื่องที่จะเกิดต่อไปได้เลยหลังจากนี้ชื่อ’ฟาง เจิ้งจือ’ ต้องดังกระฉ่อนไปทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์
และทั้งหมดนั่น…
เป็นเพราะพวกเขา
เซียนห้าคนที่เดินทางนับพันกิโลเพื่อมาลอบฆ่าฟาง เจิ้งจือ ที่ตีนเขาของศาลาเต๋าสวรรค์
แต่…
สุดท้ายมันกลับเป็นการส่งตัวเองมาตาย!
เป็นพวกเขาเองที่ทำให้ฟาง เจิ้งจือ มีชื่อเสียงขึ้นมา มือของฉือฟ่านจับอยู่ที่ไหล่ของเหยียน ซิว แต่มันไร้ความหมาย เป็นเพราะทันทีที่เขาจับไหล่ เหยียน ซิว สายตาของผู้อาวุโสสองก็มองมาที่เขาอย่างเย็นชา
ถูกต้องแล้ว!
ผู้อาวุโสสองเป็นผู้ชนะที่แท้จริง
ผู้อาวุโสสองไม่จำเป็นต้องร่วมมือกับเขาเพื่อชิงตัวเหยียน ซิว แม้แต่น้อย
เพียงรอให้เขาตายจากนั้นผู้อาวุโสสองต้องทำเพียงแค่ดึงดาบออกมาและฆ่า ฟาง เจิ้งจือ ทุกอย่างก็จะได้รับการแก้ไข
ฉือฟ่านรู้ว่าผู้อาวุโสสองคิดอะไรอยู่
เขานั้นเป็นเหมือนของขวัญชั้นยอดสำหรับผู้อาวุโสสอง
ฟางเจิ้งจือ ฆ่าพวกเขาทั้งห้าคน ผู้อาวุโสสองเพียงฆ่า ฟาง เจิ้งจือ…
ผลลัพธ์นั้นชัดเจนความดีความชอบทุกอย่างต้องตกไปอยู่ในมือของผู้อาวุโสสอง
ฉือฟ่านหลับตาลงช้าๆ เขารู้สึกว่าพลังงานทั้งหมดค่อยๆไหลออกไปจากร่างกาย เขากำลังรอความตายที่กำลังใกล้จะมาถึง เขาคิดถึงอดีตที่ผ่านมา
เขาเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้
ก่อนที่เขาจะก้าวเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ชื่อของเขานั้นเป็นที่หวาดกลัวต่อผู้คน และชื่อเสียงของเขายิ่งมากขึ้นเมื่อเข้ามา
”ไม่!ข้ายังไม่อยากตาย!”ความคิดนี้เกิดขึ้นในใจของเขา แม้เขาจะไม่มีทางเลือกนอกจากตาย
แต่ทันใดนั้น…
พลังอันรุนแรงได้กระทบเข้าที่ฝ่ามือเขาพลังที่เต็มไปด้วยความต้องการฆ่า พร้อมเจตนาอันชั่วร้าย
มันรุนแรงมาก!
ยิ่งไปกว่านั้นมันเหมือนกำลังพยายามออกมาให้ได้อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่าง มีพลังงานอันรุนแรงอีกอย่างกดมันเอาไว้
”ผนึก?!”ดวงตาของฉือฟ่านเบิกกว้าง จากนั้นเขาก็มองไปยังใบหน้าของ เหยียน ซิว ที่กำลังแสดงความเจ็บปวดออกมา เขาเข้าใจได้ในทันที่ว่าทำไม เหยียน ซิว ถึงไม่สามารถต่อต้านได้ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไม เหยียน ซิว ถึงกลายเป็นเหมือนคนธรรมดา
เวลาใครก็ตามที่กำลังจะตายแต่เขาไม่อยากยอมรับความตายนั้นเขาย่อมอยากลากคนอื่นไปกับเขาด้วย แน่นอนว่าฉือฟ่านไม่สามารถลาก ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ แต่เขาสามารถใช้พลังเฮือกสุดท้ายเพื่อคลายผนึก เหยียน ซิว ได้
นี่เป็นเพราะเขารู้ว่าพลังอันชั่วร้ายในตัวของเหยียน ซิว ไม่ได้มาจากโลกนี้
ในเมื่อข้าฆ่าเจ้าไม่ได้ข้าก็จะทำให้เจ้าทรมาน ฟาง เจิ้งจือ!
”คลายผนึก!”ฉือฟ่าน ตะโกนครั้งสุดท้าย จากนันสัญลักษณ์อันแปลกประหลาดก็ปรากฎขึ้นที่มือเขา มันเป็นสัญลักษณ์ของนรก ดวงตาของฉือฟ่านเต็มไปด้วยเลือดราวกับว่าเขาใช้พลังงานทั้งหมดเพื่อสร้างสัญลักษณ์นี้ขึ้นมา
เมื่อสัญลักษณ์นี้ปรากฎขึ้นราวกับมีแรงดึงดูดอันรุนแรงออกมาจากฝ่ามือ มันกำลังดึงพลังงานจากภายในตัว เหยียน ซิว ออกมา
”อะไรกัน?!”ผู้อาวุโสสองพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่มันสายเกินไปแล้ว
”ตูม!เสียงระเบิดอันรุนแรงดังขึ้น
พลังอันยิ่งใหญ่และชั่วร้ายไหลทะลักออกมาจากร่างของเหยียน ซิว
มันปะทะเข้ากับมือของฉือฟ่านส่งผลให้มือของนั้นแตกระจายกลายเป็นเลือดกระเด็นไปทั่ว
ฉือฟ่านไม่ใช่เหยื่อเพียงคนเดียวเท่านั้นผู้อาวุโสสองและ ฟาง เจิ้งจือ ที่อยู่ใกล้ๆก็ไม่สามารถหลบได้เช่นกัน พวกเขาถูกแรงกระแทกกระเด็นออกไปเช่นกัน ”อั้ก!”ร่างของฉือฟ่านกระเด็นออกไปกระแทกกับพื้นเช่นกัน เขากระอักเลือดออกมา พร้อมกับนอนขดตัวอยู่บนพื้น
อย่างไรก็ตามฉือฟ่านกลับเพื้อออกมาด้วยความยินดีเขาหัวเราะเพราะตอนนี้เขามีความสุขมาก เขาเห็นพลังงานที่ออกมาจากร่างของ เหยียน ซิว “อาชูร่าคลั่ง ฮ่าฮ่าฮ่า…เยี่ยม…เยี่ยมมาก!!”
”ตูม!”พื้นบริเวณที่ เหยียน ซิว ยืนอยู่เริ่มทรุดตัวลง คลื่นพลังปะทุออกมาจากตัวเขาเรื่อยๆ
พลังที่มาจากนรก
ทั้งชั่วร้ายและโหดเหี้ย
ในเวลาเดียวกันเหยียน ซิว ค่อยๆลุกยืนขึ้น ดวงตาของเขากลายเป็นสีดำสนิท
”อ้าก!!!”เหยียน ซิว ร้องคำราม ในเวลาเดียวกันกระดูกในร่างของเขาได้แตกหักไปเรื่อยๆอย่างไม่หยุดหย่อน
”แกรกแกรก แกรก…” มันเป็นฉากที่น่ากลัวมากพลังงานพุ่งออกมาจากร่างเขาไม่หยุดหย่อน
”เหยียนซิว!” ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดว่าอยู่ดีๆ เหยียน ซิว จะคลายผนึกในตอนนี้่ การต่อสู้ยังไม่จบลงด้วยซ้ำ
ไม่ไม่ใช่!
ไม่ใช่เหยียน ซิว!
มันคือฉือฟ่าน!
ฟางเจิ้งจือ หันไปมอง ฉือฟ่านทันที บนใบหนาของฉือฟ่าน ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันบ้าคลั่ง
”เคี้ยกเคี้ยก…ฟาง เจิ้งจือ ตอนนี้เจ้าจะทำยังไงล่ะ?!” เสียงของฉือฟ่าน เต็มไปด้วยความสุข นี่เป็นเพราะเขารู้ว่าเมื่อ เหยียน ซิว กลายเป็นอาชูร่าคลั่งแล้วนั่นเท่ากับเขาเป็นเครื่องจักรสังหารที่ไร้ความคิด
”ฉือฟ่านตาย!” ฟาง เจิ้งจือ เคลื่อนไหวอีกครั้ง แม้ว่าไหล่ของเขาจะเลือดออก แต่ความโกรธของเขาทำให้เขาเร็วพอๆกับสายฟ้า เขาฟันฉือฟ่านด้วยดาบของเขา
แสงสีม่วงสาดส่องออกมาจากใบดาบ
”ตูม!เสียงระเบิดอันรุนแรงดังขึ้น
ร่างกายของฉือฟ่านถูกตัดออกเป็นสองส่วนทันทีอย่างไรก็ตามบนใบหน้าของฉือฟ่านกลับยังมีรอยยิ้มอยู่
ช่วงเวลาที่ฉือฟ่านตายเหยียน ซิว ค่อยๆยกแขนทั้งสองข้างขึ้น พร้อมกับค่อยๆกำมือทั้งสองข้าง
ฟื้นฟูเสร็จสมบูรณ์!
”ตาย!”เขาตะโกน
แสงสีดำนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากร่างเหยียน ซิว พวกมันราวกับเป็นกรงเล็บสีดำขนาดใหญ่
”เหยียนซิว!” เมื่อ เหยียน เฉียนหลี่ เห็น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เขารู้ว่าอาชูร่าคลั่งคืออะไร เพราะเขารู้เขาเลยตกใจมาก
สภาพปัจจุบันของเหยียน ซิว ไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว เหยียนซิว ผู้สาปแช่งตัวเองที่ไร้ประโยชน์ ไร้พลัง เขาต้องการพลัง ความปรารถนานี้ทำให้เขาถูกควบคุมโดยอาชูร่าคลั่ง
”ตูม!”เมฆสีดำปรากฎที่ใต้เท้าของ เหยียน ซิว ท้องฟ้าทั้งหมดมืดลงทันที
จากนั้นเขาก็เคลื่อนไหว
เขารีบตรงไปหาผู้อาวุโสสองโดยไม่ลังเลพัดสีแดงเลือดถูกกางออก
สีหน้าของผู้อาวุโสสองเปลี่ยนไปทันทีเขาไม่คิดว่าทุกอย่างจะกลายเป็นแบบนี้
ที่สำคัญเหยียน ซิว ได้กลายเป็นอาชูร่าคลั่งจริงๆแล้ว มันสมบูรณ์กว่าครั้งก่อนที่เกิดขึ้นที่แท่นบูชาในศาลาเต๋าสวรรค์
ภายใต้สถานการณ์นี้เช่นนี้…
แม้ว่าจะมีฉือ กูเหยียน อยู่ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหยุด เหยียน ซิว ที่กลายเป็นอาชูร่าคลั่งอย่างสมบูรณ์
เขาทำได้แค่ฆ่าอย่างเดียวเท่านั้น! ”ในเมื่อเขากลายเป็นอาชูร่าคลั่งไปแล้วพวกเราไม่สามารถเก็บเขาไว้ได้อีกแล้ว!” ผู้อาวุโสสองกำดาบแน่น ร่างของเขาส่องแสงสีทองสว่าง ในเวลาเดียวกันเงาบางอย่างที่คล้ายกับระฆังทองขนาดใหญ่ก็ปรากฎบนร่างเขา บนระฆังมีดาบสีทองเก้าเล่ม
”จงตื่นขึ้น!”ผู้อาวุโสสองพูด
ดาบทั้งเก้าดูกับราวมีชีวิตขึ้นมาทันทีพวกมันบินออกมาจากบนระฆังและล้อมรอบ เหยียน ซิว ในทันที
เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นเหนือกว่าหยวนหรงอย่างสิ้นเชิง
เมื่อดาบทั้งเก้าบินออกมาคลื่นพลังอันรุนแรงก็ปะทุออกมาจากตัวของผู้อาวุโสสอง พื้นที่ทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
……………………………………..
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้คิดจะหลบดาบของผู้อาวุโสสองแต่แรก กล่าวอีกนัยคือ ฟาง เจิ้งจือ เดาไว้แต่แรกแล้วว่าผู้อาวุโสสองต้องมาตรงนี้
ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา
นับตั้งแต่ตัวเขาเองรีบเร่งมายังจุดนี้เขาคำนวณทุกอย่างไว้แล้ว เขาใช้ดาบของผู้อาวุโสสองเป็นแรงกตัวเองลงไป
ความจริงที่ฉือฟ่านไม่ทันสังเกตุเรื่องนี้เพราะเขามัวแต่มองดาบของผู้อาวุโสสอง
หวาดกลัว!
นี่เป็นความสามารถในการคำนวณที่น่าหวาดกลัวมาก เพื่อฆ่าศัตรูเขายอมบาดเจ็บ!
ฉือฟ่านไม่อยากยอมรับความจริงเรื่องนี้แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ เขารู้ว่าเขาต้องเป็นเซียนคนที่ห้าที่ต้องตายด้วยดาบไร้ร่องรอย
นอกจากนี้เขาเป็นผู้อาวุโสของศาลาหยินหยาง
เขาเกือบจะมองเห็นเรื่องที่จะเกิดต่อไปได้เลยหลังจากนี้ชื่อ’ฟาง เจิ้งจือ’ ต้องดังกระฉ่อนไปทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์
และทั้งหมดนั่น…
เป็นเพราะพวกเขา
เซียนห้าคนที่เดินทางนับพันกิโลเพื่อมาลอบฆ่าฟาง เจิ้งจือ ที่ตีนเขาของศาลาเต๋าสวรรค์
แต่…
สุดท้ายมันกลับเป็นการส่งตัวเองมาตาย!
เป็นพวกเขาเองที่ทำให้ฟาง เจิ้งจือ มีชื่อเสียงขึ้นมา มือของฉือฟ่านจับอยู่ที่ไหล่ของเหยียน ซิว แต่มันไร้ความหมาย เป็นเพราะทันทีที่เขาจับไหล่ เหยียน ซิว สายตาของผู้อาวุโสสองก็มองมาที่เขาอย่างเย็นชา
ถูกต้องแล้ว!
ผู้อาวุโสสองเป็นผู้ชนะที่แท้จริง
ผู้อาวุโสสองไม่จำเป็นต้องร่วมมือกับเขาเพื่อชิงตัวเหยียน ซิว แม้แต่น้อย
เพียงรอให้เขาตายจากนั้นผู้อาวุโสสองต้องทำเพียงแค่ดึงดาบออกมาและฆ่า ฟาง เจิ้งจือ ทุกอย่างก็จะได้รับการแก้ไข
ฉือฟ่านรู้ว่าผู้อาวุโสสองคิดอะไรอยู่
เขานั้นเป็นเหมือนของขวัญชั้นยอดสำหรับผู้อาวุโสสอง
ฟางเจิ้งจือ ฆ่าพวกเขาทั้งห้าคน ผู้อาวุโสสองเพียงฆ่า ฟาง เจิ้งจือ…
ผลลัพธ์นั้นชัดเจนความดีความชอบทุกอย่างต้องตกไปอยู่ในมือของผู้อาวุโสสอง
ฉือฟ่านหลับตาลงช้าๆ เขารู้สึกว่าพลังงานทั้งหมดค่อยๆไหลออกไปจากร่างกาย เขากำลังรอความตายที่กำลังใกล้จะมาถึง เขาคิดถึงอดีตที่ผ่านมา
เขาเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้
ก่อนที่เขาจะก้าวเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ชื่อของเขานั้นเป็นที่หวาดกลัวต่อผู้คน และชื่อเสียงของเขายิ่งมากขึ้นเมื่อเข้ามา
”ไม่!ข้ายังไม่อยากตาย!”ความคิดนี้เกิดขึ้นในใจของเขา แม้เขาจะไม่มีทางเลือกนอกจากตาย
แต่ทันใดนั้น…
พลังอันรุนแรงได้กระทบเข้าที่ฝ่ามือเขาพลังที่เต็มไปด้วยความต้องการฆ่า พร้อมเจตนาอันชั่วร้าย
มันรุนแรงมาก!
ยิ่งไปกว่านั้นมันเหมือนกำลังพยายามออกมาให้ได้อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่าง มีพลังงานอันรุนแรงอีกอย่างกดมันเอาไว้
”ผนึก?!”ดวงตาของฉือฟ่านเบิกกว้าง จากนั้นเขาก็มองไปยังใบหน้าของ เหยียน ซิว ที่กำลังแสดงความเจ็บปวดออกมา เขาเข้าใจได้ในทันที่ว่าทำไม เหยียน ซิว ถึงไม่สามารถต่อต้านได้ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไม เหยียน ซิว ถึงกลายเป็นเหมือนคนธรรมดา
เวลาใครก็ตามที่กำลังจะตายแต่เขาไม่อยากยอมรับความตายนั้นเขาย่อมอยากลากคนอื่นไปกับเขาด้วย แน่นอนว่าฉือฟ่านไม่สามารถลาก ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ แต่เขาสามารถใช้พลังเฮือกสุดท้ายเพื่อคลายผนึก เหยียน ซิว ได้
นี่เป็นเพราะเขารู้ว่าพลังอันชั่วร้ายในตัวของเหยียน ซิว ไม่ได้มาจากโลกนี้
ในเมื่อข้าฆ่าเจ้าไม่ได้ข้าก็จะทำให้เจ้าทรมาน ฟาง เจิ้งจือ!
”คลายผนึก!”ฉือฟ่าน ตะโกนครั้งสุดท้าย จากนันสัญลักษณ์อันแปลกประหลาดก็ปรากฎขึ้นที่มือเขา มันเป็นสัญลักษณ์ของนรก ดวงตาของฉือฟ่านเต็มไปด้วยเลือดราวกับว่าเขาใช้พลังงานทั้งหมดเพื่อสร้างสัญลักษณ์นี้ขึ้นมา
เมื่อสัญลักษณ์นี้ปรากฎขึ้นราวกับมีแรงดึงดูดอันรุนแรงออกมาจากฝ่ามือ มันกำลังดึงพลังงานจากภายในตัว เหยียน ซิว ออกมา
”อะไรกัน?!”ผู้อาวุโสสองพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่มันสายเกินไปแล้ว
”ตูม!เสียงระเบิดอันรุนแรงดังขึ้น
พลังอันยิ่งใหญ่และชั่วร้ายไหลทะลักออกมาจากร่างของเหยียน ซิว
มันปะทะเข้ากับมือของฉือฟ่านส่งผลให้มือของนั้นแตกระจายกลายเป็นเลือดกระเด็นไปทั่ว
ฉือฟ่านไม่ใช่เหยื่อเพียงคนเดียวเท่านั้นผู้อาวุโสสองและ ฟาง เจิ้งจือ ที่อยู่ใกล้ๆก็ไม่สามารถหลบได้เช่นกัน พวกเขาถูกแรงกระแทกกระเด็นออกไปเช่นกัน ”อั้ก!”ร่างของฉือฟ่านกระเด็นออกไปกระแทกกับพื้นเช่นกัน เขากระอักเลือดออกมา พร้อมกับนอนขดตัวอยู่บนพื้น
อย่างไรก็ตามฉือฟ่านกลับเพื้อออกมาด้วยความยินดีเขาหัวเราะเพราะตอนนี้เขามีความสุขมาก เขาเห็นพลังงานที่ออกมาจากร่างของ เหยียน ซิว “อาชูร่าคลั่ง ฮ่าฮ่าฮ่า…เยี่ยม…เยี่ยมมาก!!”
”ตูม!”พื้นบริเวณที่ เหยียน ซิว ยืนอยู่เริ่มทรุดตัวลง คลื่นพลังปะทุออกมาจากตัวเขาเรื่อยๆ
พลังที่มาจากนรก
ทั้งชั่วร้ายและโหดเหี้ย
ในเวลาเดียวกันเหยียน ซิว ค่อยๆลุกยืนขึ้น ดวงตาของเขากลายเป็นสีดำสนิท
”อ้าก!!!”เหยียน ซิว ร้องคำราม ในเวลาเดียวกันกระดูกในร่างของเขาได้แตกหักไปเรื่อยๆอย่างไม่หยุดหย่อน
”แกรกแกรก แกรก…” มันเป็นฉากที่น่ากลัวมากพลังงานพุ่งออกมาจากร่างเขาไม่หยุดหย่อน
”เหยียนซิว!” ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดว่าอยู่ดีๆ เหยียน ซิว จะคลายผนึกในตอนนี้่ การต่อสู้ยังไม่จบลงด้วยซ้ำ
ไม่ไม่ใช่!
ไม่ใช่เหยียน ซิว!
มันคือฉือฟ่าน!
ฟางเจิ้งจือ หันไปมอง ฉือฟ่านทันที บนใบหนาของฉือฟ่าน ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันบ้าคลั่ง
”เคี้ยกเคี้ยก…ฟาง เจิ้งจือ ตอนนี้เจ้าจะทำยังไงล่ะ?!” เสียงของฉือฟ่าน เต็มไปด้วยความสุข นี่เป็นเพราะเขารู้ว่าเมื่อ เหยียน ซิว กลายเป็นอาชูร่าคลั่งแล้วนั่นเท่ากับเขาเป็นเครื่องจักรสังหารที่ไร้ความคิด
”ฉือฟ่านตาย!” ฟาง เจิ้งจือ เคลื่อนไหวอีกครั้ง แม้ว่าไหล่ของเขาจะเลือดออก แต่ความโกรธของเขาทำให้เขาเร็วพอๆกับสายฟ้า เขาฟันฉือฟ่านด้วยดาบของเขา
แสงสีม่วงสาดส่องออกมาจากใบดาบ
”ตูม!เสียงระเบิดอันรุนแรงดังขึ้น
ร่างกายของฉือฟ่านถูกตัดออกเป็นสองส่วนทันทีอย่างไรก็ตามบนใบหน้าของฉือฟ่านกลับยังมีรอยยิ้มอยู่
ช่วงเวลาที่ฉือฟ่านตายเหยียน ซิว ค่อยๆยกแขนทั้งสองข้างขึ้น พร้อมกับค่อยๆกำมือทั้งสองข้าง
ฟื้นฟูเสร็จสมบูรณ์!
”ตาย!”เขาตะโกน
แสงสีดำนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากร่างเหยียน ซิว พวกมันราวกับเป็นกรงเล็บสีดำขนาดใหญ่
”เหยียนซิว!” เมื่อ เหยียน เฉียนหลี่ เห็น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เขารู้ว่าอาชูร่าคลั่งคืออะไร เพราะเขารู้เขาเลยตกใจมาก
สภาพปัจจุบันของเหยียน ซิว ไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว เหยียนซิว ผู้สาปแช่งตัวเองที่ไร้ประโยชน์ ไร้พลัง เขาต้องการพลัง ความปรารถนานี้ทำให้เขาถูกควบคุมโดยอาชูร่าคลั่ง
”ตูม!”เมฆสีดำปรากฎที่ใต้เท้าของ เหยียน ซิว ท้องฟ้าทั้งหมดมืดลงทันที
จากนั้นเขาก็เคลื่อนไหว
เขารีบตรงไปหาผู้อาวุโสสองโดยไม่ลังเลพัดสีแดงเลือดถูกกางออก
สีหน้าของผู้อาวุโสสองเปลี่ยนไปทันทีเขาไม่คิดว่าทุกอย่างจะกลายเป็นแบบนี้
ที่สำคัญเหยียน ซิว ได้กลายเป็นอาชูร่าคลั่งจริงๆแล้ว มันสมบูรณ์กว่าครั้งก่อนที่เกิดขึ้นที่แท่นบูชาในศาลาเต๋าสวรรค์
ภายใต้สถานการณ์นี้เช่นนี้…
แม้ว่าจะมีฉือ กูเหยียน อยู่ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหยุด เหยียน ซิว ที่กลายเป็นอาชูร่าคลั่งอย่างสมบูรณ์
เขาทำได้แค่ฆ่าอย่างเดียวเท่านั้น! ”ในเมื่อเขากลายเป็นอาชูร่าคลั่งไปแล้วพวกเราไม่สามารถเก็บเขาไว้ได้อีกแล้ว!” ผู้อาวุโสสองกำดาบแน่น ร่างของเขาส่องแสงสีทองสว่าง ในเวลาเดียวกันเงาบางอย่างที่คล้ายกับระฆังทองขนาดใหญ่ก็ปรากฎบนร่างเขา บนระฆังมีดาบสีทองเก้าเล่ม
”จงตื่นขึ้น!”ผู้อาวุโสสองพูด
ดาบทั้งเก้าดูกับราวมีชีวิตขึ้นมาทันทีพวกมันบินออกมาจากบนระฆังและล้อมรอบ เหยียน ซิว ในทันที
เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นเหนือกว่าหยวนหรงอย่างสิ้นเชิง
เมื่อดาบทั้งเก้าบินออกมาคลื่นพลังอันรุนแรงก็ปะทุออกมาจากตัวของผู้อาวุโสสอง พื้นที่ทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
……………………………………..