Gate of God – ตอนที่ 783 เตรียมการเป็นอย่างดี

　　เต๋าฮุน…

　　เต๋าฮุนเป็นผู้หญิงงั้นหรือ?!

　　ความคิดนี้ผุดเข้ามาในใจของฟาง เจิ้งจือ ผู้นำศาลาหยินหยาง หนึ่งในผู้ที่ทรงพลังที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะเป็นผู้หญิงได้งั้นหรือ? และยังเยาว์วัยขนาดนี้?

　　ขณะที่ฟาง เจิ้งจือ กำลังคิด ทันใดนั้นหญิงสาวด้านหน้าก็หันหลังมามองเขา

　　แน่นอน…

　　นางมองไปที่แท่งเหล็กที่ฟาง เจิ้งจือ ยกอยู่เหนือหัว จากนั้นท่าทีอันสง่างดงามของนางก็หายไป แทนที่ด้วยความตกใจ

　　 ตุบ! เสียงดังขึ้นมาอีก

　　นางเบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัวก่อนที่จะล้มลงและหมดสติทันที

　　 จบแล้ว? ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังร่างที่ล้มลงกับพื้น นี่มันไม่ง่ายเกินไปงั้นหรือ? 　　แปลก

　　อย่างไรก็ตามมันเป็นความแปลกที่น่ายินดี

　　นั่นเป็นสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ คิด

　　เขาพร้อมที่จะสู้อย่างดุเดือดแต่ตอนนี้เขากลับแก้ปัญหาได้ด้วยแท่งเหล็กแท่งเดียว มันทำให้เขาสงสัยในตัวของหญิงสาวไม่น้อย

　　หรือเขาจะทำพลาด?

　　นี่ไม่ใช่ที่ที่เต๋าฮุนอยู่?

　　แต่มันมีป้ายคำว่า’เต๋า’แปะอยู่นี้?ศิษย์ปกติและคนทั่วไปไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้

　　เดี๋ยวก่อนนะ

　　หรือนางจะเป็นคนรับใช้?

　　 โอ้ไม่นะ..ข้าไม่คิดว่าจะเป็นคนรับใช้ที่ออกมา  ฟาง เจิ้งจือ คาดไม่ถึงจริงๆ มันเป็นเรื่องปกติมากที่ผู้นำศาลาต้องมีเด็กรับใช้ส่วนตัว

　　นางเองก็ไม่ได้ดูเหมือนเด็กรับใชทั่วไปซึ่งมันก็เหมาะสมที่นางเป็นคนรับใช้ของผู้นำศาลา

　　ใครๆก็อยากมีเด็กรับใช้เป็นหญิงสาวแสนสวย…แม้แต่ตัวเขาเองก็ตาม

　　แน่นอนว่าเขาชนะการเดิมพันกับฉือ กูเหยียน อย่างไรก็ตามนางยังไม่เคยรับใช้เขาแม้แต่ครั้งเดียว

　　 พวกนั้นต้องรู้แล้วแน่ๆว่าข้าเข้ามาแล้ว! ฟาง เจิ้งจือ คาดการณ์ว่าหลังจากที่เขาฟาดหัวเด็กรับใช้ไป…

　　เต๋าฮุนต้องเดินออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างสุดขีด

　　นี่คือสิ่งที่เขาคิดเขาเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับเต๋าฮุนอย่างเต็มที่

　　อย่างไรก็ตาม…

　　เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรแม้แต่น้อย

　　หรือเต๋าฮุนจะไม่อยู่?ฟาง เจิ้งจือ กระพริบตา แล้วเขาจะอยู่ไหนถ้าเขาไม่ได้อยู่ในนี้? 　　แน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เขาควรคิดในตอนนี้โดยไม่เสียเวลาเขาลากผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในห้อง เขาพบว่าข้างในนั้นปราศจากผู้คนอย่างสิ้นเชิง

　　มีเพียงเขาและหญิงสาวที่หมดสติ?

　　หรือเขาควรที่จะทำในสิ่งที่ผู้ชายทุกคนควรจะทำ?

　　รอยยิ้มปรากฎขึ้นมาบนใบหน้าของฟาง เจิ้งจือ ก่อนที่เขาจะรีบหยุดความคิดนั้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีนัก ถ้าเต๋าฮุนกลับมาทันล่ะ?

　　เขาเดินออกไปข้างนอกประตูอีกครั้งก่อนจะนำตัว เหยียน ซิว เข้ามา จากนั้นเขาก็ถอนหายใจและปิดประตูด้วยความโล่งอก

　　ยังไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ในนี้!

　　ตอนนี้เขาสามารถเล็ดรอดเข้ามาในที่พักของเต๋าฮุนได้แล้ว

　　สิ่งต่อไปที่เขาต้องทำคือให้นางพูดหวังว่าเขาจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่นเต๋าฮุนจะกลับมาตอนไหน ตอนนี้เขาทำอะไรอยู่?

　　รู้ศัตรูร้อยครั้งก็รบชนะร้อยครั้งเขาไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวศัตรูอีกต่อไป

　　แต่ที่สำคัญเขาต้องทำให้นางเปิดปากให้ได้ก่อนดังนั้นเขาไม่ได้มัดนางด้วยเชือกธรรมดา ก่อนที่เขาจะมายังศาลาหยินหยาง ฟาง เจิ้งจือ ได้เตรียมการมาเป็นอย่างดี

　　โซ่สีเงินปรากฎขึ้นในมือของฟาง เจิ้งจือ มันเหมาะมากที่จะใช้ผูกคน แม้แต่เซียนก็ไม่สามารถหลุดจากไปโซ่นี้ได้

　　โดยไม่ลังเลเขาผูกนางไว้ทันที ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในลึกขึ้น มันถูกแบ่งออกเป็นหลายๆห้อง ขณะที่เขาเดินผ่านห้องหนึ่งเขาได้กลิ่นยาสมุนไพรลอยคลุ้งออกมา

　　จากนั้นฟาง เจิ้งจือ เห็นหม้อขนาดใหญ่สีม่วงตรงกลางห้อง ด้านล่างมีกองไฟ เห็นได้ชัดว่ามีคนกำลังหลอมอยู่

　　 มันเป็น…หม้อที่ทรงพลังมาก! ฟาง เจิ้งจือ มองหม้อข้างหน้าด้วยตาลุกวาว แต่ละมุมของหมอมีหัวสัตว์สลักไว้อยู่ เขามั่นใจว่าคุณภาพของหม้อนี้ต้องอยู่ในระดับที่สูงสุดอย่างแน่นอน เปรียบเทียบกับหม้อของเซียนสวรรค์พักพิง ของที่นี่ก็ยังดีกว่า

　　รวมถึงยาจากการประเมิณของเขาพวกมันก็มีสภาพดีมากเช่นกัน

　　ห้องที่เงียบสงบพร้อมกับหม้อหลอมยาคุณภาพสูง ยาที่อยู่ด้านในก็มีคุณภาพชั้นเยี่ยม…

　　ถ้ามีใครพูดว่าเต๋าฮุนไม่ได้อยู่ที่นี่ใครจะเชื่อ!

　　ฟางเจิ้งจือ รู้วาการคาดเดาของเขานั้นถูกต้อง อย่างไรก็ตามหลังเดินผ่านห้องปรุงยาไป เขาปีนขึ้นไปบนชั้นสอง จากนั้นเขาก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ

　　นี่เป็นเพราะห้องนี้ตกแต่งด้วยสีชมพูและม่วง

　　หรือเต๋าฮุนจะมีรสนิยมแบบนี้?

　　มันเป็นเพียงแค่การคาดเดาเท่านั้นแต่มันก็ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

　　อย่างไรก็ตามเขายังมีเรื่องที่สงสัยอีกบนชั้นสองมีห้องอยู่ห้องเดียว

　　คนรับใช้หญิงอยู่ที่ไหน?

　　เป็นไปได้ไหมว่าเต๋าฮุนจะนอนกับหญิงรับใช้ที่หมดสตินั่น?

　　ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่าราวกับตัวเองได้พบความลับที่ยิ่งใหญ่ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ก็เป็นเพียงแค่การคาดเดา

　　ความลับที่แท้จริง….

　　เขาต้องปลุกหญิงรับใช้คนนั้นขึ้นมาให้ได้ก่อน

　　…

　　ขณะที่ฟาง เจิ้งจือ กำลังเดินเล่นอยู่ในห้องของเต๋าฮุนอยู่นั้น บรรยากาศรอบๆสวนสมุนไพรต่างเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้้ยว

　　 ผู้อาวุโสหกผู้อาวุโสเจ็ด ได้โปรด! พวกเราไม่มีทางกล้าขโมยสมุนไพรจากที่นี่ไปหรอก เป็น ฟาง เจิ้งจือ! เขาขโมยสมุนไพรทั้งหมดไป!  ศิษย์สี่คนนั่งคกเข่าอยู่บนพื้นก่อนจะโขกหัวเพื่อขอโทษผู้อาวุโสทั้งสองอย่างไม่หยุดยั้ง

　　 พื้นที่สวนกว่าสิบกิโลเมตร…เขาทำจริงๆงั้นรึ?! หนึ่งในผู้อาวุโสที่มีผมสีขาวกัดฟันแน่น

　　 สิบปีที่พวกเราพยายามอย่างหนักเขากลับทำลายมันได้ในชั่วข้ามคืน!  ชายชราที่ยืนข้างๆอีกคนพูดออกมาด้วยความไม่พอใจเช่นกัน ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความโกรธ

　　 น่ารังเกียจ! 

　　 เราต้องจับเขา! 

　　 เราจะทุบตีเขาเพื่อล้างแค้นให้ผู้อาวุโสเก้าและดินแดนของพวกเรา! 

　　ศิษย์ที่อยู่ด้านหลังผู้อาวุโสทั้งสองก็พูดออกมาเช่นกันพวกเขาอดใจรอที่จะฆ่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ไหวแล้ว พวกเขาต้องการที่จะล้างแค้น

　　 ล้างแค้นใช่ พวกเราต้องแก้แค้น แต่ศาลาหยินหยางตั้งอยู่ในภูเขา เราจะหาเขาเจอได้ยังไง? ศิษ์อีกคนกล่าวขึ้นมา

　　 อืมพวกเราเดาไม่ได้เลยว่าเขาจะโผล่ไปที่ไหนอีก พวกเราจะปกป้องสวนสมุนไพรที่เหลือของพวกเราได้ยังไงฦ. ศิษย์อีกคนกล่าวด้วยความกังวล

　　 ระวังให้ดีจัดเวรยามอย่างแน่นหนา! เราจะใช้ศิษย์ทั้งสองร้อยคนเพื่อจัดการเขา พวกเราไม่ยอมให้ ฟาง เจิ้งจือ มาทำลายสวนสมุนไพรแน่นอน! ผู้อาวุโสที่มีผมขาวพูดขึ้น

　　 รับทราบผู้อาวุโสหก! ข้าจะจัดการเอง! หนึ่งในศิษย์ศาลาหยินหยางยืนขึ้น

　　 ไม่จำเป็น! ในตอนนั้นมีอีกเสียงดังขึ้นจากที่ไกลๆ จากนั้นมีร่างปรากฎต่อหน้าผู้อาวุโสหก

　　มันเป็นเวลาเพียงชั่วพริบตาหลังจากที่เสียงดังขึ้น

　　 สวัสดีอาจารย์! เมื่อศิษย์สองคนด้านหลังผู้อาวุโสได้ยินเสียงนั้นพวกเขาก็โค้งคำนับทันที

　　 ผู้นำศาลา! ผู้อาวุโสทั้งสองหันกลับมาและโค้งคำนับเช่นกัน

　　 ข้าไม่คิดว่าฟาง เจิ้งจือ จะมาปรากฎตัวที่สวนสมุนไพร บอกมา ตอนที่เขาปรากฎตัวครั้งแรก เขาพูดอะไรบ้าง? ร่างนั้นชี้ไปทางศิษย์ทั้งสี่คนที่คุกเข่าอยู่

　　 เอ่อ…เขาเริ่มถาม …ถามว่าประตูหลักไปทางไหน? จากนั้นเขาก็ต้องการให้เราพาไปหาอาจารย์ อย่างไรก็ตาม พวกเราจะทำได้ยังไง? จากนั้นเราก็วิ่ง …ไม่พวกเราก็รีบไปรายงานเรื่องนี้ทันที! หนึ่งในศิษย์ตอบด้วยเสียงที่สั่นเทา

　　 ประตูหลัก?หาข้า? เมื่อร่างนั้นได้ยิน เขาก็คิดเล็กน้อยจากนั้น เขาก็พยักหน้าและพูดว่า  ไม่จำเป็นต้องปกป้องสวนสมุนไพร ในเมื่อยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ทำทุกอย่างให้เป็นปกติ 

　　 ผู้นำศาลา… พวกเราควรลดการป้องกันลงหรือ? เมื่อผู้อาวุโสได้ยิน เขาก็มองไปที่ศิษย์ด้วยใบหน้าที่สับสน

　　 ใช่ฟาง เจิ้งจือ นั้นเป็นคนเจ้าเล่ห์ ที่เขามาอยู่ที่นี่ เพราะเขาเตรียมตัวมาแล้ว ถ้าข้าเดาถูก เขามาที่นี่เพื่อมาหาข้า! 

　　 มาหาท่านผู้นำ? 

　　 ใช่เขาไม่สามารถทำลายศาลาหยินหยางด้วยตัวคนเดียวได้ ดังนั้นเขาคงจะสร้างความวุ่นวายก่อน  ชายคนนั้นตอบกลับ

　　 เราควรจะวางกับดักเขาไหม? 

　　 ไม่จำเป็นให้เขามาหาข้า ถ่ายทอดคำสั่งของข้า บอกเขาไปว่าข้าอยู่ที่ไหน เขาจะมาหาข้าเอง 

　　 รับทราบ! เมื่อเหล่าศิษย์ศาลาหยินหยางได้ยินพวกเขาก็เข้าใจทันที

　　ในการจับหัวขโมยเราต้องจับหัวหน้าของพวกมันก่อน

　　หลักการนี้เรียบง่ายนี่เป็นเรื่องง่ายๆอย่างไรก็ตาม ถ้าเขาไม่สามารถจับตัวหัวหน้าได้ ก็เท่ากับว่า ฟาง เจิ้งจือ ส่งตัวเองไปตาย　　…

　　ศาลาหยินหยางณ ห้องหนึ่งที่เงียบสงบ

　　ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้รออยู่ที่ห้องปรุงยา กลับกัน เขาเลือกไปรออยู่บนห้องชั้นสองแทน นั่นทำให้เขาได้มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นโดยรอบได้

　　ที่สำคัญมีเตียงอยู่ที่นั่นเหยียน ซิว สามารถนอนพักได้

　　 เจ้าตื่นหรือยัง? ฟางเจิ้งจือ มองผู้หญิงที่ค่อยๆลืมตาขึ้น เขาหยิบยาขึ้นมาเม็ดนึง แล้วเอาเข้าปากกลืนลงไป

　　 อืมมมม… ปากของหญิงสาวถูกมัดด้วยผ้าปกติแล้วนางจะไม่สามารถส่งเสียงร้องได้เลย สิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่พยายามดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์ นางมองไปรอบๆ

　　 ไม่มีประโยชน์ที่จะดิ้นรนเจ้าไม่สามารถหลุดจากโซ่พวกนี้ได้ ถ้าเจ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ ก็ตอบคำถามของข้า แต่ถ้าไม่ ข้าก็ไม่คิดจะฆ่าเจ้าหรอก  ฟาง เจิ้งจือ พูดในขณะที่เคี้ยวเม็ดยา　　อย่างไรก็ตามในตอนที่เขาพูด เขาสังเกตุบางอย่างในดวงตาของนาง เขารู้สึกได้ชัดเจนว่านางไม่รู้สึกอะไรเลยเมื่อได้ยินคำว่า ฆ่า นางมองเขาอย่างสงบ

　　ราวกับว่า…

　　นางเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์อย่างแท้จริง!

　　รอยยิ้มเผยบนใบหน้าของฟาง เจิ้งจือ ในขณะที่พูดว่า  ถ้าเจ้าไม่กลัวความตาย งั้นเรามาคุยเรื่องอื่นกัน เอ…ถ้าข้าล่วงเกินเจ้าจะเป็นยังไงนะ?