Gate of God – ตอนที่ 802 ไฟที่มอดดับ

  ฟางเจิ้งจือ รู้ดีว่า ฉือ กูเหยียน และหญิงสาวในชุดขาวพยายามจะบอกอะไรเขา ต่อมา มันเป็นธรรมดาที่เขาจะคิดเกี่ยวกับมันเพื่อที่จะสามารถใช้ในสถานการณ์จริงดูเงียบ ๆ …

  มันหมายถึงการทำจิตใจสงบและเข้าถึงระดับจิตวิญญานที่สูงส่ง

  มันง่ายมากที่จะเข้าใจเรื่องนั้นและนั่นหมายความว่าเขาต้องทำให้ใจของเขาสงบลง

  อย่างไรก็ตามการเข้าใจนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายแต่การจะทำได้นั้นเป็นเรื่องที่ยาก

  ว่างเปล่า!

  เขาจะทำให้ทุกอย่างว่างเปล่าได้ยังไง?

  ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่าเขาไม่สามารถสงบใจลงได้ในทันที เขากำลังปวดชาไปทั้งตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสงบใจลงได้

  ยากมันยากเกินไป!

  ถ้าเขาสามารถทำจิตใจให้ตั้งมั่นกับอะไรบางสิ่งได้เขาก็จะสามารถเข้าใจเปลวไฟรอบๆตัว และไม่ต้องทนเจ็บปวดอีกต่อไป

  เดี๋ยวก่อน!

  น่านน้ำที่อุดมสมบูรณ์ภูเขาเขียวชะอุ่ม!

  เขาไม่สามารถจินตานาการถึงภาพเหล่านั้นแต่ดูเหมือนจะมองเห็นพวกมันได้

  ศิลาเซียนเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมจริงๆมีทุกสิ่งอย่างอยู่ภายใน ตั้งแต่แม่น้ำไปจนถึงภูเขา

  นอกจากนั้นที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ฟาง เจิ้งจือ มีศิลาเซียนมากมาย

  ใช่แล้วศิลาเซียนมีเต๋าที่แตกต่างกันไป เขาตระหนักได้จากสิ่งที่เกิดขึ้นในสวรรค์ชั้นเก้า

  ในตอนนั้นฟาง เจิ้งจือ คิดจะหยิบศิลาเซียนออกมาทั้งหมดเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด

  อย่างไรก็ตามเขาต้องรีบหนีออกจากศาลาเต๋าสวรรค์รวมทั้งปัญหามากมายที่เกิดขึ้นและนั่นทำให้เขาไม่ได้ตรวจสอบศิลาเซียน  แต่ตอนนี้…

  เนื่องจากเขาไม่สามารถออกไปได้เขาจะพยายามตรวจสอบพวกมัน นอกจากนี้ เมื่อเขามองไปที่ศิลาเซียน มันทำให้จิตใจของเขาสงบ

  ตาของฟาง เจิ้งจือ เปล่งประกาย มองดูอย่างเงียบๆและพยายามเข้าถึงเต๋า

  ไม่มีอะไรขัดขวางเขาได้ถ้ามันเป็นทางเดียวที่จะทำให้เขารอด…

  กล่องดำที่เต็มไปศิลาเซียนลอยออกมาจากกลืนกินโลกและมาอยู่ในมือของ ฟาง เจิ้งจือ

  แม้แขนขาจะถูกตรึงเอาไว้มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเปิดกล่องนัก แค่พลิกมือเล็กน้อย ปากกล่องก็เปิดออก

  ทันใดนั้นเองฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่ารอบตัวเขาเปลี่ยนไป มีแม่น้ำที่ไหลนิ่งปรากฎขึ้นตรงหน้า ท้องฟ้าเงียบสงบและสดใส ให้ความรู้สึกราวกับว่าได้กระโดดออกมาจากหม้อหลอมได้เป็นอิสระ

  ตรวจสอบตรวจสอบ… ..

  ตอนนี้เขาต้องสงบใจลงเพื่อตรวจสอบศิลาเซียน!

  ฟางเจิ้งจือ พยายามเต็มที่ เขาจ้องมองไปยังแม่น้ำ ภูเขา และท้องฟ้าที่สดใส

  สงบ!

  ใจของฟาง เจิ้งจือ พูดซ้ำอยู่อย่างนั้น แต่ผ่านไปสักพัก ก็ตระหนักว่าเขาทำไม่ได้

  แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายเขาก็ไม่สามารถสงบใจลงได้เลย ไฟสองชนิดตรงกลางหม้อยังคงลุกโชน ความเจ็บปวดที่สาหัสมันดูดพลังงานจากร่างกายของเขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เขาไม่สามารถสงบใจลงได้เลย

  ไม่มีทาง!

  เขาทนอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้!

  เขาต้องคิดหนทางอื่นที่จะทำให้ใจของเขาสงบลงได้  ใช่แล้ว!

  เนื่องจากเปลวไฟทั้งสองมีเพื่อหลอมเม็ดยาเขาน่าจะลองใช้ประโยชน์จากมันดู ไม่ควรปล่อยให้ความพิเศษของมันต้องศูนย์เปล่าไป

  อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่ค่อยรู้เรื่องการหลอมยาและการแปรธาตุเท่าไหร่นัก

  แม้ได้เป็นผู้ช่วยของเซียนสวรรค์พักพิงถึงหนึ่งปีเขาก็ยังเข้าใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

  เขามีความรู้ด้านยาสมุนไพร น้อยมาก

  พูดถึงสมุนไพร

  ฟางเจิ้งจือ มีสมุนไพรมากเป็นสิบไร่

   จงเผาไหม้! ฟางเจิ้งจือ เรียกสมุนไพรออกมาจากกลืนกินโลกและปล่อยให้มันลอยไปยังเปลวไฟทั้งสอง

   ฟู่! เปลวไฟทั้งสองมีสิ่งใหม่ให้หล่อหลอมมันค่อยๆเผาสมุนไพรทีละน้อย จนเปลวไฟอ่อนลง

  แน่นอนว่าฟาง เจิ้งจือ รู้ดีว่าวิธีนี้ช่วยดับไฟได้ชั่วคราวเท่านั้น เหมือนกับกระดาษที่ถูกโยนเข้ากองไฟมันช่วยดับไฟได้ชั่วขณะ แต่หลังจากที่เผากระดาษจนหมด เปลวไฟก็จะลุกไหม้อีกครั้ง

  อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่สนใจนัก เขาต้องการเพียงแค่เวลาสั้นๆ เพื่อสงบใจลง

  เนื่องจากเปลวไฟดับมอดความเจ็บปวดของเขาก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เขาผ่อนคลายลงมากในขณะนี้ และเขามองไปรอบๆอย่างต่อเนื่อง แม่น้ำ ภูเขา….

  มันรู้สึกต่างไปอย่างสิ้นเชิง!

  ดวงตาของฟาง เจิ้งจือ ส่องประกาย เขามองไปยังศิลาเซียนทั้งยี่สิบสามก้อน เขาเห็นอักขระสีทองส่องสว่างบนอากาศ

  ใช่แล้วอักขระสีทอง นั่นคือเต๋า!

  ฟางเจิ้งจือ เริ่มแก้ปริศนา อักขระเริ่มปรากฎขึ้นในตาของเขา ก่อนจะค่อยๆผสานกับร่างกายของเขา

  มันเป็นความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากๆ และรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาถูกชำระล้างด้วยน้ำอุ่น

   ฟู่ว! เปลวไฟรอบข้างเริ่มลุกไหม้อีกครั้งและดูเหมือนจะลุกโชนกว่าเดิม ราวกับเปลวไฟพยายามกลืนกินหม้อหลอม

  อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้สึกถึงความร้อนเลย ในขณะที่อักขระสีทองไหลเวียนอยู่บนร่างกาย มันช่วยต้านความร้อนจากเปลวไฟให้เขา

  ดูเหมือนใช้คำว่ากลืนกิน จะเหมาะกว่า

  เพราะเปลวไฟดูเหมือนกำลังปฏิสัมพันธ์กำลังอักขระสีทองในอักขระแต่ตัวละตัวทำปฏิกิริยากับเปลวไฟหนึ่งดวง

  มันสบายมากจน ฟาง เจิ้งจือ เกือบจะลืมไปว่าเขาอยู่ท่ามกลางเปลวไฟที่ลุกไหม้ทั้งสอง

  เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ….

  ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่าไฟทั้งสองลูกอ่อนแอลง ดูเหมือนจวนจะดับมอดไป

  เมื่อฟาง เจิ้งจือ คิดเรื่องนี้ ผู้อาวุโสหกที่ยืนอยู่นอกหม้อหลอม ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ เขามองไปที่หม้อหลอมด้วยความสับสน

  ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนและพวกเขาจะเริ่มสกัดสมุนไพรในตอนเช้า อย่างไรก็ตามนั้นไม่ได้หมายความว่าการแปรธาตุจะเสร็จสิ้น

  จากประสบการณ์ที่ผ่านมาไฟจะเริ่มอ่อนลงหลังจากผ่านไปแล้วเจ็ดวัน อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้มันยังไม่ถึงหนึ่งวัน แต่ไฟที่หม้อหลอมกลับอ่อนลงจนเกือบจะดับมอดไป

   เกิดอะไรขึ้น?เป็นเพราะหม้อหลอมสายธารงั้นหรือ? หรือเพราะเพลิงพันปีในตัว ฟาง เจิ้งจือ มีพลังที่รุนแรงเกินไป? ผู้อาวุโสหกขมวดคิ้วในขณะที่ไม่เข้าใจสถานการณ์แม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามความสับสนของเขาหายไปอย่างรวดเร็ว

  ไฟที่อ่อนลงไม่ใช่ปัญหาใหญ่นักนอกจากนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ใช้หม้อสายธารในการสกัดยาจากคนตัวเป็นๆ  ดังนั้นมันแก้ไขได้ง่ายมาก

  เมื่อไฟอ่อนลงก็แค่เพิ่มไฟเข้าไปเท่านั้น

   ไปตามผู้อาวุโสหยิงมาเร็วเข้า! 

   รับทราบ! ศิษย์คนหนึ่งตอบรับในทันทีและวิ่งออกจากบ้านหินไป

  ครู่ต่อมาผู้อาวุโสหยิงยู่สวมชุดคลุมสีดำยาว เดินเข้ามา ท่าทีของเขาแสดงให้เห็นถึงความสับสนเช่นกัน

   ผู้อาวุโสหกเรียกข้ามาในตอนนี้… เกิดอะไรขึ้นรึ? ผู้อาวุโสหยิงยู่เอ่ยถาม

   ฮึ่มดูเหมือนไฟในหม้อกำลังจะดับมอดไป ข้าเดาว่าเป็นเพราะพลังของเพลิงพันปีในร่างกายของ ฟาง เจิ้งจือ ข้าจึงเรียกท่านมาเพิ่มไฟเสียหน่อย! ผู้อาวุโสหกชี้ไปทางหม้อหลอมสายธาร และพูดความคิดของเขาออกมา

   เข้าใจแล้ว ผู้อาวุโสพยักหน้า เขารู้สึกสงสัย แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา

  นอกจากนี้ผู้อาวุโสหกเป็นคนพูดเองว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ตั้งแต่เลือกใช้หม้อหลอมสายธาร

  เขาไม่ได้คิดอะไรมากนักเพราะมันเป็นแค่การเพิ่มไฟ

  เขาโบกมือเล็กน้อยเปลวไฟก็ลุกโชนอีกครั้ง ต่อมาเขาเดินเข้าไปที่หม้อหลอมสายธาร และในตอนนั้นเอง ผู้อาวุโสหกก็ยกมือขึ้นเช่นกัน เปลวไฟสีม่วงลุกโชนขึ้นอีกครั้ง

  เปลวไฟที่ดับมอดไปในตอนแรกกลับมาลุกไหม้อีกครั้งในทันที

   ขอบคุณผู้อาวุโสหยิงยู่! 

   ผู้อาวุโสที่หกทำได้ดีมาก! 

  หลังจากเพิ่มไฟพวกเขาก็รออยู่สักพักหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเปลวไฟลุกไหม้อย่างปกติแล้ว ผู้อาวุโสหยิงยู่จึงออกไป

  ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นปกติอีกครั้ง

  อย่างไรก็ตามมันเป็นเช่นนั้นต่อไปได้ไม่นาน ในตอนบ่าย เปลวไฟที่หม้อหลอมสายธารเริ่มดับมอดไปอีกครั้ง  มันก็ยังไม่ใช่ปัญใหญ่นักผู้อาวุโสหยิงยู่ถูกเรียกตัวมาอีกครั้ง

  …

  เวลาเจ็ดวันผ่านพ้นไปในช่วงเวลานั้นผู้อาวุโสหยิงยู่กลับมาเติมไฟอยู่บ่อยครั้ง ในแต่ละครั้งไม่มีท่าทีสงสัยอะไรแม้แต่น้อย

   ผู้อาวุโสหกจากประสบการณ์ของท่าน นี่ถือเป็นเรื่องปกติใช่ไหม? ผู้อาวุโสหยิงยู่ ไม่ได้แคลงใจในวิชาแปรธาตุของผู้อาวุโสหก นั่นเพราะการแปรธาตุของศาลาหยินหยางนั้นถือเป็นที่สุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรก็ตาม มันยากที่จะยอมรับว่าจะไม่สงสัยในเรื่องนี้

   มันดูผิดปกติจริงๆ! ผู้อาวุโสหกพยักหน้าในขณะที่มองไปยังหม้อหลอมสายธาร  แต่ถ้าข้าเปิดหม้อตอนนี้ ข้ากลัวว่าความพยายามที่ผ่านมาจะล้มเหลว … 

   ก็จริงของท่าน ผู้อาวุโสหยิงยู่พยักหน้าเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดเขามองไปที่หม้อหลอม  ในสองสามวันมานี้ ผู้อาวุโสหกได้ยินอะไรเคลื่อนไหวภายในหม้อหรือไม่? 

   ไม่ทุกอย่างเป็นปกติ ไม่มีเสียงอะไรเลย  ผู้อาวุโสหกส่ายหัว เพราะมันเป็นความจริง

   ถ้าทุกอย่างปกติดีก็ไม่จำเป็นต้องเปิดหม้อ พวกเราจะคอยเพิ่มไฟต่อไป คงเป็นอย่างที่ผู้อาวุโสหกคิด พลังของเพลิงพันปีแข็งแกร่งเกินไป นี่คงเป็นเรื่องปกติ! ผู้อาวุโสหยิงยู่ตอบกลับ

   ใช่เพราะว่าเพลิงพันปีเองก็ถูกสร้างขึ้นจากธาตุไฟเช่นกัน เป็นธรรมดาที่จะดูดซับเปลวไฟ ผู้อาวุโสหยิงยู่พูดได้สมเหตุสมผล! ดวงตาของผู้อาวุโสหกเบิกกว้างและพยักหน้าเห็นด้วย

   งั้นข้าต้องขอบคุณที่ผู้อาวุโสหกคอยสังเกตุการดูดซับของมัน! 

   ขอบคุณผู้อาวุโสหยิงยู่เช่นกัน! 

   ข้อขอตัวก่อน! 

  หลังจากจบการสนทนาของพวกเขาพวกเขาไม่ได้พูดคุยเรื่องอื่นเลยนอกจากการเพิ่มไฟ

  แน่นอนว่าผู้อาวุโสหยิงยู่มีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องคิด

  เมื่อคืนก่อนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่พรมแดนระหว่างศาลาเต๋าสวรรค์และศาลาหยินหยาง มีภูเขาลูกหนึ่งยกตัวสูงขึ้นกว่าเดิมถึงสามเท่าในชั่วข้ามคืน

  นั่นเป็นปรากฏการณ์ที่ลึกลับอย่างยิ่งและยิ่งไปกว่านั้นคือที่ยอดเขามีแสงสีแดงส่องสว่างออกมาราวกับเป็นแสงจากดวงอาทิตย์

  ขอบฟ้าครึ่งหนึ่งถูกย้อมด้วยแสงสีแดง

  เหตุการณ์เป็นที่พูดถึงไปทั่วทั้งห้าสำนักทุกคนต่างคาดเดาว่านั่นอาจเป็นสมบัติทรงพลังที่ปรากฎขึ้น

   ตอนนี้มันเป็นยังไงบ้าง? ผู้อาวุโสหยิงยู่เอ่ยถามศิษย์หลังจากออกมาจากห้องหลอม

   ศาลาหยินหยางตอบรับแล้วพวกเขาเชิญเก้าขุนเขาเข้าร่วมกับพวกเขา ศิษย์ตอบกลับ

   เอาล่ะข้าไปที่นั่นไม่ได้ชั่วคราว ช่วยข้าส่งข้อความไปให้ผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสสี่ ให้พวกเขาพาศิษย์หนึ่งร้อยคนไปด้วย และออกเดินทางทันที! ผู้อาวุโสหยิงยู่พยักหน้า

   รับทราบ! ศิษย์รับคำสั่งก่อนจะวิ่งไปไกล

  ผู้อาวุโสหยิงยู่มองไปที่ขอบฟ้าดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่าง ไม่นานเขาก็ละสายตาก่อนจะถอนหายใจ  แสงสีแดงในท้องฟ้า มันจะเป็นเรื่องโชคดีหรือเปล่าน่ะ? 

  เขาได้แต่พึมพำกับตัวเองไม่มีใครสามารถตอบเขาได้เพราะไม่มีใครยืนอยู่กับเขา

  แน่นอนผู้อาวุโสหยิงยู่ไม่ได้ต้องการคำตอบ

  เพราะว่าเขาอาจจะได้เป็นผู้นำคนต่อไปของเก้าขุนเขา

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset