เมื่อก่อนภายในใจของหลิน มู่ไป่ นั้นเห็น ปิง หยาง เป็นเพียงแค่เด็ก นางดื้อรั้นและเอาแต่ใจ
แน่นอนว่าที่เขามองนางเช่นนี้มันทำให้นางดูน่ารัก ดังนั้น หลิน มู่ไป่ ไม่เคยต่อว่า ปิง หยาง มาก่อน
แต่ตอนนี้…
เด็กนั้นเติบโตขึ้นแล้วจริงๆ
หลินมู่ไป่ เศร้าเล็กน้อย
ไม่มีพ่อคนไหนอยากเห็นฉากนี้แม้ว่าเขาจะเป็นจักรพรรดิก็ตาม แต่เขาก็ยังเป็นพ่อของ ปิง หยาง
แข็งแกร่งจริงๆ ฟาง เจิ้งจือ คิด
อย่างไรก็ตามเขาสงสัยเล็กน้อย การเติบโตของ ปิง หยาง อยู่เหนือความคาดหมายของเขา
เป็นเพราะไข่มุกอสูรจริงหรือ? ฟางเจิ้งจือ ไม่คิดแบบนั้นเพราะ เขารู้ว่ามันเป็นเพียงสิ่งที่มากระตุ้นพลังเท่านั้น มันต้องไม่ใช่เรื่องง่ายๆแบบนี้ แค่กินไข่มุกอสูรเข้าไปพลังก็เพิ่มขึ้นมหาศาล
ถ้าเขาเดาถูกปิง หยาง ไม่ได้ท้อแท้ต่อการฝึกฝน แต่นางพยายามอย่างหนัก นางได้รับความช่วยเหลือหรือได้พบกับปาฏิหาริย์บางอย่าง
แน่นอนว่านั้นไม่ได้สำคัญ
ที่สำคัญที่สุดคือปิง หยาง แข็งแกร่งในฐานะเซียนมือใหม่ แม้พลังจะดูไม่เสถียรเล็กน้อย แต่ก็เป็นพลังที่น่าตกใจ
ตูม! หลังจากศิษย์สองคนถูกแทงด้วยหอกเพลิงศิษย์อีกสามคนที่เหลือก็ตระหนักว่าการต่อสู้ของพวกเขาลำบากขึ้นมาก เกือบจะในทันที ศิษย์อีกคนถูกแทงด้วยหอก ร่างของเขาลอยข้ามรั้วไม้ออกไปถึงหน้าหอคอยหลิงหยุน
ปิงหยาง ตื่นเต้นมาก สีหน้าของหน้าเปล่งประกาย ดวงตาลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงหอกฉีหลินยังคงพุ่งแทงอย่างต่อเนื่อง
ฮ่าฮ่าฮ่า… นางหัวเราะออกมาราวกับว่าไม่สนใจอะไรอีกแล้ว นางกำลังสนุกกับพลังใหม่
เจ้ากล้าดียังไง! ในตอนนั้นเสียงแปลกๆที่เต็มไปด้วยความโกรธก็ดังออกมาจากหอคอยหลิงหยุน จากนั้น หญิงสาวในชุดกระโปรงขาวที่ปักคำว่า หลิงหยุน ก็เดินออกมา ด้านหลังมีหญิงสาวในชุดกระโปรงสีเขียวอีกแปดคน
หืม?หอคอยหลิงหยุนมีแต่ศิษย์ผู้หญิงงั้นหรือ? เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เห็นพวกเขา ก็พึมพำออกมาเงียบๆ
ฉากตรงหน้าทำให้พวกเขาไม่อยากเชื่อหาได้ยากมากที่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นในหอคอยหลิงหยุน
ในฐานะหนึ่งในห้าสำนักของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หอคอยหลิงหยุนเป็นที่เคารพนับถือของผู้คน ตอนนี้กลับมีผู้บุกรุกเข้ามาถึงภายใน หญิงสาวในชุดกระโปรงสีขาวจ้องมองไปที่พวกเขา นางมองไปที่ ปิง หยาง และ หลิน มู่ไป่ พร้อมขมวดคิ้ว
นางไม่ตกใจที่พบหลิน มู่ไป่
นางรู้สึกตกใจที่เห็นทาสที่ถูกล่ามด้วยตรวนเหล็กพันปีต่อสู้กับเหล่าศิษย์ นอกจากนี้ นางยังสามารถเอาชนะพวกเขาทั้งห้าคนได้
จับนาง! หญิงสาวในชุดกระโปรงขาวจ้องมองอย่างเย็นชานางไม่ได้มองที่ หลิน มู่ไป่ ในขณะที่ออกคำสั่ง
รับทราบ! หญิงสาวทั้งแปดตอบรับอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย ร่างทั้งแปดปิดล้อม ปิง หยาง ในทันที
ในตอนนั้นเองแสงสีเขียวก็ส่องสว่างขึ้นบนร่างพวกนาง มันพุ่งสูงกลายเป็นไผ่หยก
เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้มันเป็นเขตแดนใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย
ฟุบ!ฟูุบ! ฟุบ! ไม้ไผ่ปรากฎขึ้นทั่วทุกที่
ราวกับฝนดาบไม่ไผ่กำลังก่อตัวจนกลายเป็นพายุดาบ
ตูม! ร่างของปิง หยาง สั่นไหวเล็กน้อย
ดาบไม่ไผ่เล่มหนึ่งกระทบร่างของนาง แม้แต่วิชาของนางก็ไม่สามารถหลบพวกมันได้เหมือนครั้งก่อน เปลวเพลิงลุกไหมจากด้านหลัง
ปิงหยาง! เมื่อ หลิน มู่ไป่ เห็นฝนดาบ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาร่วมสู้อย่างไม่ลังเล
แสงสีทองเริ่มส่องสว่างมังกรสีทองโผบินขึ้นท้องฟ้า ดวงตาของมันเป็นสีแดงทั้งสองข้าง กลิ่นอายของมันแผ่กระจายไปทั่วเขตแดนไม้ไผ่
ดวงตามังกรมรกต? หญิงสาวในชุดกระโปรงขาวจ้องมังกรที่อยู่เหนือหัวของ หลิน มู่ไป่ นางตกใจกับสิ่งที่เห็น
ฟางเจิ้งจือ ก็ประหลาดใจเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ประหลาดใจกับดวงตามังกรมรกต หรือที่ ปิง หยาง ถูกฝนดาบไผ่โจมตี เขาสนใจเขตแดนไม้ไผ่อันใหม่นี้
ถ้าห้าคนสร้างเขตดินไม้ไผ่ได้และ ปิง หยาง เอาชนะได้สามคน และหลังจากนั้นหญิงสาวอีกแปดคนก็เข้าร่วมการต่อสู้ นั่นหมายความว่าต้องใช้สิบคนในการสร้างเขตแดนนี้? ฟาง เจิ้งจือ ตกใจมาก
มันอาจเป็นเรื่องบังเอิญที่ห้าคนจะเชี่ยวชาญเต๋าเดียวกันแต่เมื่อเป็นสิบคนที่เชี่ยวชาญเต๋าเดียวกัน …
นี่มันบ้าบอที่สุด!
ไม่ใช่!
สิบสามคนที่เชี่ยวชาญเต๋าเดียวกัน!
ฟางเจิ้งจือ อยากจะพูดว่านี่เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ แต่มันก็ไม่น่าเป็นไปได้
หรือเขาอาจจะคิดผิด?
มันอาจจะเป็นค่ายกล?
เป็นไปไม่ได้! นั่นเพราะค่ายกลต้องใช้การเปลี่ยนแปลงและความแตกต่าง นอกจานี้ ค่ายกลจะต้องใช้เต๋าที่ต่างกันเพื่อนำมารวมกัน แทนที่จะใช้เต๋าชนิดเดียวทำให้มันแข็งแกร่ง
เห็นได้ชัดว่าเขตแดนไม้ไผ่อันใหม่นี้เกิดจากคนสิบคน ซึ่งมันต่างกับค่ายกล ความแข็งแกร่งของมันคงเพิ่มขึ้นมหาศาล
มันน่าเหลือเชื่อ
นอกจากนี้ที่สำคัญกว่านั้น หลังจากที่ทุกคนเข้าร่วมสู้ พวกเขาจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเขตแดนไม้ไผ่งั้นเหรอ? พวกเขาควบคุมมันได้ไหม?
ศิษย์พี่ลู่เขาคือจักรพรรดิของอาณาจักรเซี่ย! ศิษย์หอคอยหลิงหยุนพูดขึ้น
จักรพรรดิของอาณาจักรเซี่ย!?เป็นเขาจริงๆด้วย! เมื่อหญิงในชุดกระโปรงขาวได้ยิน นางก็พยักหน้า
ส่วนทาสคนนั้นคือปิง หยาง! และ …ฟาง เจิ้งจือ เขาอยู่ที่นี่! เหล่าศิษย์ของหอคหยหลิงหยุนพูดอย่างตื่นตระหนก
นางคือปิง หยาง? เดี๋ยวก่อน ฟาง เจิ้งจือ? เขายังไม่ตายเหรอ?! หญิงในชุดกระโปรงขาวตกตะลึง จากนั้น ในที่สุดนางก็สังเกตุเห็น ฟาง เจิ้งจือ เขาสวมชุดสีน้ำเงินยืนอยู่ไม่ไกล ท่าทีของนางเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดในทันที
นางได้ยินว่าฟาง เจิ้งจือ ถูกจับตัวที่ศาลาหยินหยาง จากนั้นก็ถูกพาไปที่เก้าขุนเขาเพื่อสกัดยา มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยังมีชีวิตอยู่
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น…
นางรู้แล้วว่านั่นคือปิง หยาง และ หลิน มู่ไป่ ดังนั้นชายคนนั้นคือ ฟาง เจิ้งจือ อย่างแน่นอน
นางจะทำอะไรได้?
นางกำมือแน่นจากนั้น นางก็มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ท่ามกลางเขตแดนไม้ไผ่
เป็นแบบนี้นี่เอง! หญิงสาวจ้องมองด้วยความเย็นชา และเริ่มเคลื่อนไหว นางพลิกมือขึ้นและกริชสั้นก็ปรากฎออกมา
จากนั้นนางก็เริ่มเคลื่อนไหว
นางโบกกริชในมือมันส่องแสงสีเขียว แต่นางไม่ได้พุ่งไปหา ฟาง เจิ้งจือ เพียงคนเดียว ในเวลาเดียวกัน นางก็รีบวิ่งไปทางศิษย์ทั้งสิบคนที่กำลังต่อสู้กับ ปิง หยาง
ลอบโจมตีฟาง เจิ้งจือ?
ไม่!
นางไม่มั่นใจในตัวเองภายในวันเดียว ฟาง เจิ้งจือ ฆ่าเซียนไปถึงห้าคนที่ศาลาเต๋าสวรรค์ เขาบุกเข้าศาลาหยินหยางด้วยตัวคนเดียวและเกือบจะทำสำเร็จ ไม่สำคัญว่านางจะโง่เขลาแค่ไหน นางรู้ดีว่ามันแทบจะไม่มีโอกาสเอาชนะเขาได้เลย
อย่างไรก็ตามถ้านางพยายามจับ ปิง หยาง พร้อมกับลอบโจมตี ฟาง เจิ้งจือ ผลลัพธ์อาจต่างออกไปเล็กน้อย
เมื่อปิง หยาง อยู่ในมือของนาง ฟาง เจิ้งจือ ต้องไม่กล้าทำอะไรแน่นอน! หญิงในชุดขาวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและปรากฎขึ้นที่ด้านหลังของ ปิง หยาง เกือบจะในทันที แสงหยกสีเขียวส่องสว่างบนร่างกายของนาง
ในฐานะเซียนเมื่อนางร่วมการต่อสู้มันทำให้เขตแดนไม้ไผ่เปลี่ยนไปอีกครั้ง เมื่อเทียบกับศิษย์ทั้งแปดที่อยู่ในระดับจุติแล้ว มันทรงพลังกว่ามากในตอนที่นางปรากฎตัวต่อหน้า ปิง หยาง ตาข่ายไผ่ยักษ์ก็ปรากฎขึ้น
กริชสีเขียวเกือบจะอยู่ตรงหน้าของฟาง เจิ้งจือ พุ่งผ่านอากาศตรงยังลำคอของ ฟาง เจิ้งจือ
แต่ฟาง เจิ้งจือ กลับยิ้มออกมา
ตูม!
ฟางเจิ้งจือ ยืนอยู่ตรงกลาง พื้นดินสวนด้านหน้าหอคอยหลิงหยุนก็เริ่มยุบลง มันยุบลงไปเกือบสามนิ้ว
ในเวลาเดียวกันลูกบอลไฟแปดลูกก็ส่องสว่างขึ้นบนท้องฟ้า มันแผดเผาไม้ไผ่หยกจนมอดไหม้
เต๋านรก!
มันเกิดขึ้นเร็วมากแรงกดดันมหาศาลทำให้พวกเขาไม่สามารถตอบโต้ได้ พวกเขาทรุดตัวลงกับพื้นในทันที
ลูกไฟสีดำทั้งแปดแผดเผาเขตแดนไผ่หยกโดยรอบ
กรี๊ดดด!!! หญิงสาวทั้งสิบคนร้องลั่นออกมา พวกนางมีสีหน้าที่ตกใจและหวาดกลัว
อย่างไรก็ตามมันไม่ส่งผลต่อหญิงสาวในชุดขาว
แม้ว่ามันจะไม่ส่งผลต่อนางแต่เมื่อเต๋านรกปรากฎออกมา นางก็กัดริมฝีปากแน่น นางยังพยายามเหวี่ยงตาข่ายไผ่เพื่อจับกุม ปิง หยาง
ปิงหยาง หลบเร็ว! หลิน มู่ไป่ รู้ดีว่านางต้องการทำอะไร และรีบพุ่งเข้าไปในทันที ในเวลาเดียวกัน มังกรยักษ์ก็พุ่งเข้าไปหาหญิงสาวในชุดขาวจากด้านหลัง ป้องกัน! หญิงสาวในชุดขาวไม่ได้มองไปด้านหลังอย่างไรก็ตาม นางรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่พุ่งมาจากด้านหลัง ฝ่ามือของนางเคลื่อนไหวอีกครั้ง และกางบาเรียขึ้นมา ไผ่หยกนับสิบปรากฎขึ้นด้านหลังของนาง
เห็นได้ชัดว่านางกำลังหมดหนทาง!
ด้วยความสามารถของนางนางต้องใช้ ปิง หยาง เป็นตัวประกัน
อีกนิดเดียว!
เมื่อนางเห็นว่าตาข่ายใกล้จะคลุมร่างกว่าครึ่งของปิง หยาง แล้ว นางก็กัดริมฝีปากเบาลงอย่างโล่งใจ จากนั้น รอยยิ้มที่เย็นชาก็เผยขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาว
จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นว่า
ล้อข้าเล่นหรือเปล่า? นั่นเป็น้ำเสียงที่ใจเย็นและเมื่อเสียงดังขึ้น ความกดดันที่น่าสะพรึงก็กดลงบนศรีษะของหญิงสาว
ตูม! เสียงระเบิดดังขึ้น
หญิงสาวในชุดขาวกระเด็นออกไปบนท้องฟ้าราวกับดาวตก หัวของนางกระแทกกับประตูหอคอยหลิงหยุน
ตูม! ประตูสั่นสะเทือน
ตาข่ายสีเขียวพุ่งไปที่หัวของปิง หยาง มันถูกทำลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนจะหายไปในอากาศ
เงียบ
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ!
ปิงหยาง มอง ฟาง เจิ้งจือ ที่ยืนอยู่ด้านหลังพร้อมอ้าปากค้าง
หลินมู่ไป่ เองก็ยืนแข็งค้างเช่นกัน
เจ้าเด็กนี่…กลายเป็นปีศาจไปแล้วงั้นรึ?! หลิน มู่ไป่ กลืนน้ำลาย
หมัดเดียว?!
เขาสามารถทำลายเขตแดนไผ่หยกและเอาชนะศิษย์ของหอคอยหลิงหยุนได้
หลินมู่ไป่ มองไปยังหญิงชุดขาวที่นอนสลบอยู่ และหันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี
ไม่ต้องห่วงฝ่าบาทข้าจะปกป้อง ปิง หยาง เอง! ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มออกมา
……………………………………..