เมื่อฟาง เจิ้งจือ ได้ยินเสียงตะโกนบอกของศิษย์คอยหลิงหยุนให้เงียบ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
สมาธิ
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดและเริ่มร้องเพลงก็ทำให้เหล่าศิษย์หอคอยหลิงหยุนวอกแวก มันทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บ
ไม่ใช่!พวกเขาไม่ได้ทำตัวเองบาดเจ็บ…พวกเขาบาดเจ็บเพราะว่าศิษย์คนอื่นๆ!
ดวงตาของฟาง เจิ้งจือ ส่องประกายเมื่อตระหนักเรื่องนี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อมองไปยังเหล่าศิษย์บนพื้นดิน
พวกเขาผสานวิชาเต๋าเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของคนทั้งหมด
อย่างไรก็ตามเพื่อให้มันสำเร็จ พวกเขาต้องใช้สมาธิอย่างมากและจำเป็นต้องทำตามเงื่อนไขบางอย่าง หรือก็คือหากพวกเขาไม่สามารถผสานเต๋าได้สำเร็จพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บจากเต๋าที่ศิษย์อีกคนใช้
นั่นอธิบายได้ว่าทำไมการร้องเพลงของ ฟาง เจิ้งจือ จึงทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บ
เข้าใจแล้ว! ปากของฟาง เจิ้งจือ เผยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว มันทำให้เขานึกถึงการทดลองวิชาฟิสิกส์ในโลกก่อนหน้า
มันเป็นการทดลองง่ายๆคือนำนาฬิกาที่มีลูกตุ้มจำนวนมากมาวางไว้ด้วยกันตอนแรกลูกตุ้มจะแกว่งไปในทิศทางและมีจังหวะที่ต่างกัน
อย่างไรก็ตามหลังจากช่วงระยะเวลาหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นลูกตุ้มจะค่อยๆกลายเป็นจังหวะเดียวกัน แกว่งไปทางเดียวกันที่ความถี่เดียวกัน
คำอธิบายทางทฤษฎีสำหรับปรากฏการณ์นี้คือลูกตุ้มแต่ละตัวจะปล่อย’พัลส์เสียง’ พิเศษที่จะส่งผลกระทบต่อลูกตุ้มโดยรอบ ซึ่งเมื่อนำไปเทียบกับศิษย์แต่ละคนที่เปรียบเสมือนนาฬิกาลูกตุ้มเมื่อพวกนางใช้เต๋าศิษย์คนอื่นก็จะเปรียบได้กับลูกตุ้มอื่นๆ
หลังจากที่พวกนางใช้เทคนิกพิเศษเพื่อผสานพลังของตัวเองเข้ากับพลังของศิษย์คนแรกและกลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน หลังจากนั้นพลังของศิษย์คนแรกจะปรากฎขึ้นราวกับพวกนางใช้เต๋าแบบเดียวกัน มันน่าประทับใจมาก!
ฟางเจิ้งจือ ไม่คิดว่าคนในโลกนี้จะสามารถนำเทคนิกแบบนี้มาใช้ได้ด้วย
มันอดไม่ได้ที่เขาจะนึกถึงห้องเรียนในโลกก่อนของเขาที่ทุกอย่างน่าเบื่อหน่าย…แต่ตอนนี้มันกลับมีประโยชน์กับเขาอย่างน่าเหลือเชื่อ
ฟางเจิ้งจือ ถอนหายใจ ในเมื่อเขาค้นพบเรื่องนี้แล้ว ทุกอย่างก็กลายเป็นง่ายดาย
เขามั่นใจในชัยชนะของตัวเองมาก!
ในเมื่อเขารู้แล้วว่าทำไมพวกนางถึงสามารถใช้เต๋าออกมาแบบเดียวกันได้ขั้นต่อไปเขาก็พร้อมจะทำการทดลองแล้ว
ถ้าศัตรูไม่เคลื่อนไหวเขาก็จะไม่เคลื่อนไหวถ้าศัตรูเคลื่อนไหวเขาก็จะเคลื่อนไหวแบบสุ่ม
เปลี่ยน!
เปลี่ยน!
เมื่อศิษย์หอคอยหลิงหยุนตะโกนคำว่า’เปลี่ยน’ฟาง เจิ้งจือ ก็เปลี่ยนแทบจะพร้อมๆกัน
ที่สำคัญเมื่อฟาง เจิ้งจือ ตะโกน แสงสีเขียวก็ปรากฎขึ้นบนร่างกายของเขา
แน่นอนว่าร่างของศิษย์ที่ตะโกน’เปลี่ยน’ ก็มีแสงปรากฎขึ้นมาเช่นกัน แต่มันเป็นแสงสีฟ้าที่ต่างจากบนร่างของ ฟาง เจิ้งจือ
แสงทั้งสองปรากฎขึ้นเกือบพร้อมๆกันจากนั้นเรื่องแปลกๆก็เกิดขึ้น
แสงสีฟ้ากระจายไปรอบด้านจากศิษย์คนแรกมันไม่ได้แปลกอะไร อย่างไรก็ตามสิ่งที่แปลกคือแสงสีเขียวก็กระจายออกไปรอบๆฟาง เจิ้งจือ เช่นกัน แม้ว่ามันจะไม่ได้ครอบคลุมพื้นที่มากนัก แต่มันก็ตัดกับแสงสีฟ้าอย่างคมชัด ไม่นานแสงทั้งสองก็ปะทะกัน ตูม!
แสงสีฟ้ามีพลังมากกว่าชัดเจนและสามารถเอาชนะแสงสีเขียวได้แน่นอนว่ามันทำให้ศิษย์คนที่ใช้แสงสีเขียวกระอักเลือดออกมาในทันที
อ่า…
เกิดอะไรขึ้น?!
แค่กแค่ก
ศิษย์จำนวนหนึ่งกรีดร้องขึ้นมา
เลือดไหลออกมาจากมุมปากของพวกนาง
แน่นอนว่าฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้รับผลกระทบอะไร
นี่เพราะเขาเปลี่ยนแสงบนตัวเขาเป็นสีฟ้าทันทีเมื่อแสงสีฟ้าเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและกระทันหันอย่างน้อยที่สุดศิษย์หอคอยหลิงหยุน และคังเยว่ ต่างพูดไม่ออก
เป็น…เป็นไปได้ยังไง? คังเยว่คมอยู่กับความไม่เชื่อ สายตาของนางมองไปยังศิษย์ที่ล้มอยู่บนพื้น นางไม่เคยสูญเสียความเยือกเย็นแบบนี้มาก่อน
ปิงหยาง และ หลิน มู่ไป่ ต่างตกตะลึงอย่างเท่าเทียมกัน แม้แต่การแสดงของเฉียนยี่ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์
ตอนแรกทุกคนตกตะลึงกับการร้องเพลงของฟาง เจิ้งจือ …แต่ตอนนี้เมื่อเห็นแสงทะสองสีปะทะกัน พวกเขาต้องเบิกตากว้าง
ฟางเจิ้งจือ ทำแบบนั้นได้ยังไง? คำถามนี้ปรากฎอยู่ในใจของทุกคน
พวกเขาคิดว่าฟาง เจิ้งจือ คงโชคดีที่บังเอิญการร้องเพลงของเขาทำให้ศิษย์จำนวนหนึ่งเสียสมาธิและบาดเจ็บ พวกเขาเชื่อว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ อย่างไรก็ตามเมื่อฟาง เจิ้งจือ พูดว่า เปลี่ยน และทำให้ศิษย์ยี่สิบคนใช้เต๋าแบบเดียวกับเขา มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีกต่อไป
เหลือเชื่อ!
เขาน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
เป็นไปไม่ได้!เขาทำมันได้ยังไง?!
จากความประหลาดใจกลายเป็นความกลัวเหล่าศิษย์ต่างเกรงกลัว ฟาง เจิ้งจือ อย่างแท้จริง
แต่ฟาง เจิ้งจือ ไม่สนใจสิ่งที่พวกเขาคิด หลังจากการทดลองครั้งแรกของเขาสำเร็จ เขาต้องการจะเริ่มเกมอีกครั้ง
เขาต้องการเปลี่ยนจากเฉื่อยชาเป็นความรุนแรง
เขาเป็นผู้ชายเขาไม่คิดจะอยู่เฉยๆเมื่อผู้หญิงนับร้อยกำลังขมขู่เขา
เขาต้องการเปลี่ยนเป็นฝ่ายรุกพวกนางแทน ตอนนี้เขาพุ่งเข้าไปหาศิษย์หคอยหลิงหยุนจริงๆ
เขาพยายามจะทำอะไร?!
เขาเข้ามาหาพวกเรา!
หยุดเขาหยุดเขาเดี๋ยวนี้!
เปลี่ยน!
เปลี่ยน!
ขณะที่เหล่าศิษย์กำลังกังวลพวกนางได้ยินคำว่าเปลี่ยนพร้อมกันถึงสองครั้ง จากนั้นเรื่องแบบเดิมก็เกิดขึ้น
แสงสองสีปรากฎขึ้นและกระจายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
ในฐานะผู้เริ่มฟาง เจิ้งจือ สามารถเปลี่ยนเต๋าให้สอดคล้องกับเต๋าที่ปะทะเข้ามาได้โดยไม่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตามศิษย์หอคอยหลิงหยุนไม่สามารถเปลี่ยนได้เร็วแบบฟาง เจิ้งจือ ศิษย์อีกจำนวนหนึ่งล้มลงทันที ฟางเจิ้งจือ ยิ้มอย่างสดใส
ไม่มีใครพูดว่าเขาสามารถป้องกันตัวเองจากการโจมตีได้เท่านั้นเขาตัดสินใจเคลื่อนไหวไปรอบๆราวกับหิ่งห้อย
มาเลยเปลี่ยนต่อไปเรื่อยๆ!
ข้าไม่สนใจหรอกว่าพวกเจ้าจะเปลี่ยนเร็วแค่ไหนพวกเจ้าไม่มีลูกเล่นอะไรอีกแล้ว!
นี่มันช้ามากเลยดูสิพวกเจ้าตามจังหวะของข้าไม่ทันแล้ว!
ความสามัคคีคือความแข็งแกร่งเมื่อพวกเจ้าร่วมมือกันมันจะเป็นเรื่องยากที่ข้าจะทำลายได้
…
ในขณะที่ฟาง เจิ้งจือ กำลังเคลื่อนไหว เขาไม่ลืมที่จะพูดอะไรเหลวไหลออกไปเรื่อยๆ เขามีความสนุกสานในการกระโดดโลดเต้นไปรอบๆศิษย์หอคอยหลิงหยุน
ในขณะเดียวกันปิง หยาง และ หลิน มู่ไป่ ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ เขา… หลิน มู่ไป่ ต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาไม่สามารถสรรหาคำพูดที่เหมาะสมได้ มันเป็นการทดสอบที่ไม่มีทางผ่าน ต่อให้ ฟาง เจิ้งจือ จะแข็งแกร่งขนาดไหน แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับจบลงแบบนี้ คำว่าเหลือเชื่อยังไม่เพียงพอจะอธิบายด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันอีกครั้ง
ไม่มีใครรู้ว่าฟาง เจิ้งจือ โชคดีเกินไป หรือเขากระโดดไปรอบๆมากเกินไป
ตอนนี้ศิษย์หอคอยหลิงหยุนต่างตกอยู่ในความวุ่นวาย
ดังนั้น…เต๋าของ ฟาง เจิ้งจือ จึงสามารถเอาชนะเต๋าของศิษย์ได้ทั้งหมด ในความเป็นจริงกว่าแปดสิบเปอร์เซนต์ของเต๋าที่ศิษย์ใช้เหมือนเต๋าที่ ฟาง เจิ้งจือ ใช้
ฟางเจิ้งจือ อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจและมองไปที่เฉียนยี่โดยไม่รู้ตัว
นางจะทำแบบนี้ทำไม?หรือเพื่อความสนุกเฉยๆ? ฟาง เจิ้งจือ ไม่เข้าใจว่าเฉียนยี่ทนดูศิษย์ของตัวเองพ่ายแพ้อยู่เฉยๆได้ยังไง
ผลลัพธ์ของการทดสอบนี้ชัดเจนอยู่แล้วแต่เฉียนยี่ไม่ได้พูดอะไรเลย
ฟางเจิ้งจือ ไม่เข้าใจว่านางคิดอะไรอยู่
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดจะให้นางยืนชมการแสดงของเขาอยู่เฉยๆแน่นอน
มาเลยไปกันเถอะ! ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มแล้วชกไปที่เฉียนยี่
แสงสีแดงพุ่งเข้าไปหาเฉียนยี่ทันทีด้วยความเร็วอันแน่อันเหลือเชื่อ
อะไรกัน?!ท่านผู้คุมหอคอยระวัง! ท่าทีของคังเยว่เปลี่ยนไป นางไม่สามารถตอบสนองการโจมตีของ ฟาง เจิ้งจือ ได้ทัน
เฉียนยี่ก็เช่นกันนางไม่คาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น นางไม่สามารถจินตนาการได้ว่า ฟาง เจิ้งจือ สามารถควบคุมศิษย์หอคอยหลิงหยุนได้ยังไง
เกิดอะไรขึ้น?! เขาควบคุมพวกนางได้ยังไง?
ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ฟางเจิ้งจือ ยิ้ม เขาทำตัวราวกับเป็นลูกตุ้มหลักที่ลูกตุ้มอื่นต้องเคลื่อนไหวตามเขา
นั่นคือความแตกต่างระหว่างผู้นำและผู้ตาม!
ฟางเจิ้งจือ!!! ในที่สุดเฉียนยี่ก็พูดบางอย่าง เห็นได้ชัดว่านางโกรธมาก
ไม่มีใครสามารถอยู่ในความสงบได้ถ้าอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับนางในฐานะผู้คุมหอคอยหลิงหยุน แต่นางกลับถูกโจมตีโดยศิษย์ใต้บังคับบัญชาของนาง และพวกนางอยู่ภายใต้คำสั่งของคนนอก!
มันเป็นความอัปยศอย่างหาสิ่งใดเปรียบไม่ได้แต่ที่ยิ่งกว่านั้นนางต้องทำตามการเปลี่ยนแปลงของ ฟาง เจิ้งจือ
แสงสีทองจางๆในดวงตาของนางถูกแทนที่ด้วยแสงสีแดงซึ่งเหมือนกับแสงบนตัวของ ฟาง เจิ้งจือ และศิษย์คนอื่นๆ …
…
ทั้งห้องต่างอยู่ภายใต้ความเงียบทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบ ไม่ว่าจะเป็นศิษย์ คังเยว่, ปิง หยาง, หลิน มู่ไป่
……………………………………..