ห๊ะ?ไหนล่ะการแลกเปลี่ยนตัวประกันอย่างสันติที่ท่านพูดถึง? ทำไมถึงเปลี่ยนความคิดเร็วจัง… ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้แปลกใจกับท่าทีของเฉียนยี่
เพราะการที่นางโกรธนั่นหมายความว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นใกล้เคียงกับความเป็นจริง
ความจริงแล้วฟาง เจิ้งจือ ไม่มีทางเลือก นอกจากใช้วิธีนี่เพื่อยั่วยุเฉียนยี่ให้นางไม่สามารถรักษาความสงบได้อีกต่อไป
ซึ่งมันก็มีคาวมเสี่ยงอยู่เหมือนกัน
เขาดึงปิง หยาง ไปด้านหลังและดึงตัวคังเยว่ขึ้นมาขวางไว้ด้านหน้าทันที
ครืด!!!
เฉียนยี่บังคับตัวเองให้หยุดต่อหน้าคังเยว่ทันทีใบหน้าของนางดำทมึน เห็นได้ชัดว่านางกำลังโกรธจริงๆ
แต่นางกังวลเรื่องชีวิตของคังเยว่มากกว่า ท่านคงเป็นคนที่ฆ่าผู้คุมหอคอยหลันและขังยู่เอ๋อร์เอาไว้ใช่ไหมล่ะ?
ฟางเจิ้งจือ เจ้าคิดว่าจะคุกคามข้าได้เหมือนกับคังเยว่งั้นรึ? เฉียนยี่มองคังเยว่ก่อนจะหันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ ดวงสีทองสองลูกยังคงหมุนวนอยู่ในมือของนาง
ในเวลาเดียวกันศิษย์ในชุดสีขาวสองคนก็พุ่งเข้าหาหลินมู่ไป่อย่างรวดเร็ว
หลินมู่ไป่พยายามจะสู้กลับแต่เพราะอาการบาดเจ็บทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรได้
ฟางเจิ้งจือ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับข้า ข้ารู้ว่าเจ้าทำดีที่สุดแล้วรีบพาปิงหยางหนีไป! หลินมู่ไป่ตะโกน
ฟางเจิ้งจือ ไม่สนใจหลินมู่ไป่
อย่างแรกคือเขาไม่สามารถหนีได้อย่างที่สองคือปิงหยางไม่มีทางหนีไปโดยปล่อยหลินมู่ไป่ทิ้งไว้
ดูเผินๆทุกอย่างเหมือนจะกลับไปอยู่ในจุดเดิมแต่ความจริงแล้วหอคอยหลิงหยุนไม่สามารถทำอันตรายหลินมู่ไป่หรือ ฟาง เจิ้งจือ ได้
ถ้าเฉียนยี่ต้องการให้หลินมู่ไปตายเขาคงตายไปนานแล้ว นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือ…ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่พ้
กล่าวอีกนัยหนึ่งการดำรงอยู่ของฟาง เจิ้งจือ ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อหอคอยหลิงหยุน ซึ่งมันสามารถรับประกันความปลอดภัยของหลินมู่ไปได้ชั่วคราว
ข้าไม่ได้คิดจะข่มขู่ท่านด้วยตัวประกันแต่เป็นท่านเองที่ทำลายการแลกตัวประกันนั้นด้วยตัวเอง ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหน้า
ได้งั้นก็ปล่อยคังเยว่ซะ!
อืมการแลกเปลียนนั้นสิ้นสุดลงตั้งแต่ท่านพยายามจะฆ่าข้าเพราะกลัวว่าข้าจะเปิดเผยความจริงที่ท่านฆ่าผู้คุมหอคอยหลัน ฟาง เจิ้งจือ ตอบด้วยความสงบ
ฟางเจิ้งจือ ข้าต้องยอมรับว่าเจ้าเป็นนักพูดที่ดี อย่างไรก็ตามข้อกล่าวหาอันไร้สาระของเจ้าไม่มีทางได้ผล!
แล้วทำไมไม่ปล่อยให้ข้าพูดให้จบ?ข้าคิดว่า…
ปัง!
หลินมู่ไป่กระเด็นมาอยู่ข้างหน้าฟาง เจิ้งจือ
เป็นเฉียนยี่ที่โยนเขามา
เขาต้องยอมรับว่านางจริงใจมาก
ฟางเจิ้งจือ ไม่เคยเห็นคำตอบที่จริงใจเช่นนี้มาก่อน นางไม่รอให้เขาพูดจบประโยคแต่โยนตัวประกันมาทันที
แบบนี้เขาก็ควรตอบนางด้วยความจริงใจเช่นกัน
โดยไม่ลังเลฟาง เจิ้งจือ เตะก้นของคังเยว่ไปหาเฉียนยี่ในทันที
ตูม! ใบหน้าของนางกระแทกพื้น
นางอารมณ์เสียมากแต่ก็รีบนั่งตัวตรงทันที
ฟางเจิ้งจือ ข้าจะฆ่าเจ้า!
คนรับใช้เช่นเจ้าเมื่อรู้ความจริงแล้วกลับยังรับใช้ศัตรูอยู่เจ้าไม่มีคุณสมบัติพอที่จะฆ่าข้าหรอก! ฟาง เจิ้งจือ เหลือบตามองคังเยว่
เจ้า… คังเยว่โกรธมากจนไม่สามารถตอบกลับได้
ฆ่าฟางเจิ้งจือ! เห็นได้ชัดว่าเฉียนยี่ไม่สนใจการคาดเดาของ ฟาง เจิ้งจือ อีกต่อไป ดวงตาของนางกลายเป็นสีทองในชั่วพริบตา
ดวงดาวสีทองเก้าดวงที่ลอยอยู่เหนือหัวก็ยิ่งสว่างมากกว่าเดิมร่างของนางปกคลุมด้วยแสงสีทองนับไม่ถ้วน
รับทราบ! ศิษย์ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นตอบรับพร้อมกับปล่อยพลังออกมาจากร่างกายทันที
พวกเขาล้อมรอบฟาง เจิ้งจือ, หลินมู่ไป่ รวมถึง ปิงหยางเอาไว้เกือบจะในทันที
โอ้นี่คงเป็นการจ่อสู้ครั้งสุดท้ายใช่หรือไม่? ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่าเฉียนยี่ตั้งใจที่จะใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบเรื่องจำนวนเพื่อเอาชนะฟาง เจิ้งจือ
หอคอยหลิงหยุนนั้นต่างออกไปจากเก้าขุนเขา
แม้ว่าหอคอยหลิงหยุนจะมีศิษย์น้อยกว่าแต่พวกนางแข็งแกร่งกว่าสำนักอื่นๆเป็นอย่างมาก
ยังมีศิษย์ร้อยกว่าคนอยู่รอบๆพวกเขารวมถึงศิษย์อีกร้อยกว่าคนที่บาดเจ็บล้มอยู่บนพื้น พวกนางแทบทุกคนอยู่ในระดับจุติ และอีกยี่สิบกว่าคนที่อยู่ในระดับเซียน
ที่สำคัญที่สุดคือเฉียนยี่ก็อยู่ที่นี่เช่นกันไม่มีใครรู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของนาง
เฉียนยี่ระวังฟาง เจิ้งจือ เพราะนางเองก็ไม่รู้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของ ฟาง เจิ้งจือ เช่นกัน
เขาไม่มั่นใจ100% ว่าเขาจะชนะ
เขาควรทำยังไงดี? ฟางเจิ้งจือ มีทางออกง่ายๆถึงสถานการณ์ในตอนนี้
อย่ากลัวและลงมือทำมัน!
หากเอาชนะไม่ได้ก็แค่หนี!
ตาย! ฟางเจิ้งจือ พุ่งไปข้างหน้าชุดเกราะสีดำปรากฎขึ้นบนร่างกายของเขาในทันที
แสงสีม่วงที่ปรากฎขึ้นมาบนดาบไร้ร่องรอยสว่างจ้าขึ้นกว่าเดิมมังกรสีม่วงพุ่งเข้าไปที่หัวของเฉียนยี่
… คังเยว่เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ นางสามารถสัมผัสถึงจิตสังหารอันรุนแรงของ ฟาง เจิ้งจือ แต่นางไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนเริ่มโจมตีก่อน
ศิษย์คนอื่นๆต่างเริ่มจัดกระบวนท่าป้องกัน
คนปกติมักจะดูกำลังของตัวเองแล้วเลือกที่จะหนี
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ดูเหมือนจะไม่คิดจะทำเช่นนั้น
เขาโจมตีเฉียนยี่ทันที
เขากำลังคิดอะไรอยู่?!
เขาเอาจริงงั้นหรือ?
ศิษย์หอคอยหลิงหยุนต่างตกใจอย่างแท้จริงหากพวกเขาไม่รู้จัก ฟาง เจิ้งจือ คงมองว่า ฟาง เจิ้งจือ เป็นเพียงคนโง่คนหนึ่งเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม…ฟางเจิ้งจือ ไม่ใช่คนเดียวที่เลือกจะโจมตี
ปิงหยาง เองก็เคลื่อนไหวในเวลาเดียวกัน ชุดเกราะสีแดงของนางลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิง นางใส่พลังจำนวนมากเข้าไปในหอกฉีหลิน
พวกศิษย์ไม่แปลกใจที่ฟาง เจิ้งจือ โจมตี เฉียนยี่แต่พวกนางแปลกใจที่ปิงหยางที่พึ่งกลายเป็นเซียนก็ร่วมโจมตีด้วยเช่นกัน
ตาย! ปิงหยางไม่สนใจความคิดคนอื่น นางเล็งหอกไปที่ลำคอของเฉียนยี่ เฉียนยี่ยิ้ม
อย่างไรก็ตามมันเป็นรอยยิ้มที่เยือกเย็นตอนแรกนางรู้สึกว่ตัวเองเหมือนถูกรังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในฐานะผู้คุมหอคอยหลิงหยุนนางไม่มีทางยอมรับเรื่องพวกนี้ได้
นางไม่อยมรับการดูหมิ่นอีกต่อไป
แครก!
ดวงแสงทรงกลมในมือของนางระเบิดออกในทันทีแสงสีเขียวกระจายไปทั่ว
ฟางเจิ้งจือ สัมผัสได้ถึงพลังอันน่าหวาดกลัว มันมีพลังมากจนเขาไม่สามารถหยุดมันได้
ครืน!
พื้นดินเริ่มแตกออกต้นไม่ต้นเล็กๆเริ่มงอกเงยออกมา ในชั่วพริบตามันก็กลายเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่
ภูเขาน้ำตก ทะเลสาบและต้นไม้ใหญ่… ฟางเจิ้งจือ เห็นพวกมันทั้งหมดขณะที่หอคอยหลิงหยุนหายไปจากสายตา แน่นอนว่านอกจากฉากเหล่านั้นยังมีอีกคนยืนอยู่ข้างๆนาง
เป็นปิงหยาง
ห๊ะ?เฉียนยี่อยู่ที่ไหน?! ปิงหยางถาม ฟาง เจิ้งจือ ดูเหมือนว่านางจะตกใจเช่นกัน
นี่เป็นภาพลวงตางั้นหรือ? ฟาง เจิ้งจือ ไม่ตอบคำถามของปิงหยาง เขามองไปรอบๆด้วยความรู้สึกอันแปลกประหลาด
ดูเหมือนว่าเขาถูกส่งมายังพื้นที่นี้แบบสุ่มโดยปกติแล้วพื้นที่นี่ควรเป็นภาพลวงตา
เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะถูกเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วแต่ทุกสิ่งที่อยู่รอบๆเขาให้ความรู้สึกเหมือนจริงมาก
นี่ไม่ใช่ภาพลวงตางั้นหรือ?ฟางเจิ้งจือ มองไปรอบๆ ทำไมที่นี่ดูเหมือนภาพภูเขาและแม่น้ำที่อยู่บนพัดของเหยียนซิว? หรือเหยียนเฉียนหลี่จะมีความเกี่ยวข้องกับเฉียนยี่มาก่อน?!
……………………………………..