มีเฉียนยี่สองคน?! นี่คือความคิดแรกของฟางเจิ้งจือ แต่เขาก็รีบปฏิเสธความคิดนั้นทันที
เพราะความแต่งต่างของบรรยากาศและเสียงที่พูดออกมานั้นต่างกันชัดเจน
ส่วนด้านของปิงหยางตัวของนางแข็งทื่อทันทีที่ได้ยินเสียง
หอกฉีหลินที่อยู่ในมือของนางร่วงหล่นโดยไม่รู้ตัว
อย่างไรก็ตามดูนางเหมือนจะไม่สนใจเรื่องเหล่านี้แม้แต่น้อยสายตาของนางจับจ้องไปที่เฉียนยู่
เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่ง
สายตาของทั้งสองคนสบกัน
ปิงหยางไม่ได้พูดอะไรออกมาปากของนางเพียงอ้าค้าง หยาดน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว นางรอคอยมานานเกินไปนางไม่สามารถทนเก็บซ่อนอารมณ์ต่างๆเอาไว้ได้อีก
นางสิ้นหวังหลังจากที่ได้ยินคังเยว่พูดนางไม่กลัวตายแต่ก็ใช่ว่านางจะยอมรับชะตากรรมของตัวเองได้ง่ายๆ นางเพียงแค่อยากเห็นแม่ของนางเพียงสักครั้งหนึ่ง
และตอนนี้คนที่นางต้องการจะพบยืนอยู่ข้างหน้าตัวเองแล้ว
ปิงหยางไม่อยากจะเชื่อในภาพตรงหน้านางกลัวว่าถ้ากระพริบตาเพียงครั้งเดียวทุกอย่างจะหายไป
น้ำตาทำให้สายตาของนางพร่ามัวแค่ไหนนางก็ไม่คิดจะกระพริบตา
ปิงหยางลูกข้า… สายตาของเฉียนยู่ก็มองมาที่ปิงหยางเช่นกัน ท่าทีอันเยือกเย็นของนางได้หายไป แทนทีด้วยความเป็นแม่…
นางตื่นเต้นถึงขีดสุด!
ไม่มีใครพูดอะไรออกมาแต่สายตาของพวกนางสามารถสื่อถึงกันได้ ถูกต้องแล้ว…ลูก!
ลูกที่พรากจากเฉียนยู่ไปสิบหกปี
ตอนนี้ได้ปรากฎต่อหน้านางแล้ว
นางจะสามารถสงบใจได้ยังไง?
หลินมู่ไป่เองก็กำลังมีน้ำตาไหลออกมาเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดอะไรเขารู้ว่ามันไม่จำเป็น ตราบใดที่พวกนางทั้งสองคนเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา พวกนางสามารถเข้าใจกันได้
มันเป็นพลังของสายเลือด!
ศิษย์บางคนเริ่มก้มหัวเพื่อแสดงความเคารพต่อเฉียนยู่
ท่านหญิงเฉียนยู่!
พวกเรายินดีที่ได้พบกับท่านอีกครั้ง!
ท่านเฉียนยู่!
เสียงดังขึ้นมาจากศิษย์กลุ่มหนึ่งที่คุกเข่าอยู่บนพื้น แม้ตอนแรกพวกเขาจะไม่เชื่อและลังเลแต่เมื่อเฉียนยู่ปรากฎตัวขึ้น พวกเขาก็เลือกที่จะทิ้งความกังวลทั้งหมดได้
ประโยคง่ายๆที่แสดงถึงการเปลี่ยนใจของพวกเขา
พวกนางรู้ผลลัพธ์ของการพูดเช่นนั้นดีเพราะผู้หญิงตรงหน้าคือเฉียนยู่ผู้เป็นความภาคภูมิใจของหอคอยหลิงหยุนและพวกนางสาบานว่าจะรับใช้นาง
ด้านฟางเจิ้งจือเขากำลังสับสนเล็กน้อยเมื่อมองไปรอบๆ
เฉียนยู่?
ยู่เอ๋อร์…
นามสกุลของนางคือเฉียนเหมือนกับเฉียนยี่?!
ฟางเจิ้งจือรู้สึกว่าโลกทั้งใบถูกกลับหัวเขาไม่จำเป็นต้องเดาความสัมพันธ์ของทั้งคู่อีกต่อไป
เฉียนยู่ออกมาจากผนึกได้แล้ว! นางออกมาได้ยังไงกัน?
หรือว่าสิ่งที่เขาคาดเดาเอาไว้จะถูกต้อง?
เป็นเลือดของคังเยว่ที่ผนึกเฉียนยู่เอาไว้จริงๆ!
ฟางเจิ้งจือรีบสำรวจรอบๆอย่างรวดเร็วและพบร่างหนึ่งนอนอยู่บนพื้นมีชุดของหลินมู่ไป่คลุมร่างเอาไว้อยู่ เขาไม่สามารถเห็นใบหน้าของนางได้ชัดเจน
คังเยว่ตายแล้ว?ใครฆ่านาง? ฟางเจิ้งจือตกตะลึง ในความเป็นจริงเขาส่งตัวคังเยว่ให้เฉียนยี่ด้วยซ้ำ
นางจะตายได้ยังไง?
หลินมู่ไป่ฆ่านาง?
เป็นไปไม่ได้!
ฟางเจิ้งจือไม่เชื่อว่าหลินมู่ไป่จะสามารถฆ่านางต่อหน้าศิษย์และเฉียนยี่ได้เขาไม่มีพลังมากขนาดนั้น
แล้วใครเป็นคนลงมือ? เฉียนยู่?
นั่นยิ่งเป็นไปไม่ได้ก่อนหน้านี้นางยังติดอยู่ในผนึก
คังเยว่คงไม่ได้ฆ่าตัวตายใช่ไหม?
เดี๋ยวก่อน!
ฆ่าตัวตาย?
คังเยว่ฆ่าตัวตายอย่างนั้นหรือ?!
ตาของฟางเจิ้งจือเบิกกว้างมันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ
แต่ดูเหมือนว่านางจะฆ่าตัวตายจริงๆ
ฆ่าตัวตาย? นึกออกแล้ว! ตอนแรกฟางเจิ้งจือกำลังจะพูดว่าโลกนี้คงบ้าไปแล้วที่คนอย่างคังเยว่จะฆ่าตัวตาย
อย่างไรก็ตามท่าทีของเขากลายเป็นจริงจังเพราะเขารู้สึกยกย่องนางจริงๆ
เขารู้ว่าทำไมคังเยว่ถึงฆ่าตัวตายในฐานะคนรับใช้ นางเลือกที่จะเดิมพันด้วยชีวิตของตัวเองแม้จะรู้ว่าโอกาสน้อยแค่ไหน มันเป็นความภักดี
ไม่ว่าคังเยว่จะตายหรือไม่แต่นางก็ได้พิสูจน์ความภักดีของตัวเองแล้ว
ท่าน…ท่านแม่ ในที่สุดปิงหยางก็พูดออกมา นางดูมีความหวังมาก หวังว่ามันจะไม่ใช่ความฝัน
ปิงหยาง…นี่แม่เอง… เฉียนยู่พยักหน้า นางไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้เช่นกัน
ท่านแม่!
…
การเจอกันอีกครั้งของพวกนางทำให้ศิษย์ที่ไร้หัวใจของหอคอยหลิงหยุนถึงกับน้ำตาไหลออกมา
แต่ทันใดนั้นเอง…แสงสีทองร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้ามันสว้างจ้าและร้อนมาก
มันตรงไปทางปิงหยางราวกับสายฟ้า
ร่างกายของปิงหยางสั่นสะท้านเมื่อสัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึงนางรู้ว่ามันมาจากไหน เฉียนยี่!
ขณะที่นางหันไปหาเฉียนยู่เฉียนยี่ก็ตัดสินใจจะโจมตีนาง
ในที่สุดเฉียนยี่ก็ไม่สามารถรักษาความสงบได้นาตัดสินใจโจมตีใส่ปิงหยาง
ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยฉับพลันแต่ยังมีอีกสองคนที่ตอบโต้ได้ทัน หนึ่งในนั้นคือฟางเจิ้งจือที่อยู่ข้างๆปิงหยาง และอีกคนคือเฉียนยู่ที่ยืนอยู่ตรงข้าม
ปฏิกริยาของฟางเจิ้งจือนั้นเรียบง่ายเขากอดปิงหยางด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ ก่อนจะหลบการโจมตีนั้น
เห็นได้ชัดว่าเขาเร็วพอเพราะเขาไม่ได้อยู่ห่างจากปิงหยางมากนัก
อย่างไรก็ตาม…ด้วยความประหลาดใจเฉียนยู่ปรากฎขึ้นข้างๆปิงหยางทันทีเช่นกันและจับที่เอวของปิงหยางไว้
หืม? ฟางเจิ้งจือตกใจเพราะเขาไม่คิดว่าเฉียนยู่จะเร็วขนาดนี้ เพราะนางอยู่ค่อนข้างไกลจากปิงหยาง
แน่นอนว่าเฉียนยู่ก็ประหลาดใจกับความเร็วของฟางเจิ้งจือไม่แพ้กันนางอุทานออกมาเบาๆ ขณะที่เอามือโอบปิงหยางเอาไว้
ทั้งคู่มองหน้ากันขณะที่ปิงหยางถูกล้อมไว้ตรงกลาง
แน่นอนภายใต้เงื่อนไขดังกล่าวถ้วยจะมีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ตามแสงสีทองกำลังใกล้ขเข้ามาแล้ว
…
…
ฟางเจิ้งจือ ต้องการจะสบถออกมา เขารู้สึกกระอักกระอวนมาก
ฟางเจิ้งจือตัดสินใจที่จะทำตามมารยาท
เขาเลือกที่จะปล่อยปิงหยางออก…
จากนั้นเขาก็พบว่าเฉียนยู่ก็ปล่อยมืออกจากปิงหยางเช่นกัน …
…
ฟางเจิ้งจือสบตากับนางอีกครั้งไม่มีร่องรอยของความโกรธใดๆ ฟางเจิ้งจือแค่ตะโกนออกมา เชี่ยเอ้ย!
ฟางเจิ้งจือตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเขาพุ่งไปด้านหน้าและป้องกันปิงหยางเอาไว้ด้วยตัวของเขา
จากนั้น…
เขาก็เห็นเฉียนยู่กระโจนไปด้านหน้าเช่นกันแต่นางกระโดนขึ้นไปด้านบนเหนือฟางเจิ้งจือ เห็นได้ชัดว่าฟางเจิ้งจือจะไม่โดนแสงสีทองนั้น
อย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญอีกต่อไปสิ่งสำคัญตอนนี้คือฟางเจิ้งจือเห็นเฉียนยี่กำลังถือดวงแสงสีทองอีกลูกที่เหมือนกับโลกของภูเขาและแม่น้ำอยู่ ยกเว้นมันกำลังถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ
มีอีกลูก? ฟางเจิ้งจือรู้ว่าเฉียนยี่ต้องการจัดการปิงหยางก่อนเป็นวิธีเดียวที่นางจะขังพวกขาไว้ในลูกบอลได้
อย่างไรก็ตามใครจะตกหลุมพรางเดิมง่ายๆ?
ฟางเจิ้งจือยิ้มออกมา
เขารู้ว่าการโจมตีนั้นทรงพลังแค่ไหนและต้องมีโชคเท่าไหร่เพื่อหนีจากมันเขารู้ว่ามันยากแค่ไหนที่จะหนีได้ แต่เขาก็มั่นใจมากพอ
เพราะเขาก็สามารถใช้มันได้เช่นกัน!
……………………………………..