หนึ่งก้าวสองก้าว …
เหล่าศิษย์ค่อยๆเดินเข้าหาชายวัยกลางคนที่คุกเข่าผ่านไปไม่นานก็ไปยืนอยู่ด้านหลังเขา
ศิษย์พี่หวังศิษย์พี่หวัง เกิดอะไรขึ้น? เหล่าศิษย์ตะโกนถาม พร้อมกับจับดาบในมือแน่น
อย่างไรก็ตามชายวัยกลางคนนั้นไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อยเขาเพียงแค่ก้มหัวและพึมพำบางอย่าง
เหล่าศิษย์ประหลาดใจที่เห็นเช่นนี้
ชายวัยกลางคนทำตัวแปลกๆ
พี่หวังข้าเอง ลู่เซี่ยวฉวน… ศิษย์ก้าวเข้าไปใกล้อีก พร้อมกับวางมือบนไหล่ชายวัยกลางคนแล้วพูดขึ้น
อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาทำเช่นนั้น เขาได้ยินเสียงกระดูกร้าว แครก!
หลังจากนั้นชายวัยกลางคนก็ล้มลงกับพื้น
ร่างของเขาค่อยๆทรุดลง
ฉากนี้ทำให้ลู่เซี่ยวฉวนตัวแข็งทื่อ
แม้เขาจะเคยฆ่าคนมาก่อนแต่การตายแบบนี้น่ากลัวเกินกว่าที่จะรับไหว
อย่างไรก็ตามลู่เซี่ยวฉวนไม่ได้วิ่งหนี มันยังแสดงให้เห็นว่าเขามีจิตใจที่แข็งแกร่ง ขณะที่เขากำลังมองดูร่างศพอยู่นั้น ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น
พี่ลู่หนีเร็ว!
หนี?! ลู่เซี่ยวฉวนตัวสั่นเล็กน้อยเขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่น่ากลัวในขณะที่กำลังจะก้าวขาออก
หลังจากนั้นเขาก็คุกเข่าลงกับพื้นอย่างควบคุมไม่ได้
ที่สำคัญที่สุดคือความกดดันอัดแน่นในอกของเขา อะอ … อ … ลู่เซี่ยวฉวนพึมพัมเบาๆ ก่อนที่จะเอามือทั้งสองข้างประกบไว้ด้วยกัน
นี่เป็นฉากที่แปลกมากโดยเฉพาะกับศิษย์ที่ยืนอยู่ข้างเขา
คำเดียวที่สามารถอธิบายได้คือ’ถูกครอบงำ’
ชายวัยกลางคนศิษย์พี่หวัง คุกเข่าลงตรงหน้าประตูสวรรค์
ลู่เซี่ยวฉวนที่เดินเข้าไปดูและสัมผัสเขาหลังจากนั้นก็คุกเข่าล้มลงไป
มันต้องเป็นผีแน่นอน! ศิษย์ที่เห็นหน้าขาวซีดและวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่เกิดขึ้นที่ประตูสวรรค์น่ากลัวเกินไป
ศิษย์อีกสองคนหน้าซีดขาวเช่นกันเมื่อเห็นสิ่งนี้
ผู้คนมากมายล้มตายเพียงชั่วพริบตาพื้นดินถูกย้อมไปด้วยสีแดงของเลือด
เดี๋ยวก่อนเลือดบนพื้นดิน?! ศิษย์สองคนอ้าปากแข็งค้างเมื่อพวกเขามองไปที่เลือดบนพื้น นั่นเพราะมันดูแปลกๆ
ราวกับ…วิชาบางอย่าง!
ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นวงกลมขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนมาก
มีสัญลักษณ์อยู่แปดจุด!
เลือด…พิธีสังเวยเลือด! ในที่สุดหนึ่งในเหล่าศิษย์ก็เริ่มสั่นเทาหลังจากที่เห็นฉากตรงหน้า
มีสิ่งหนึ่งทีต่างออกไปพิธีสังเวยเลือดที่เขาเห็นครั้งแรกมันอยู่บนฟ้า แต่คราวนี้มันอยู่บนพื้นดิน
ที่สำคัญไปกว่านั้นสัญลักษณ์ทั้งแปดบนพิธีสังเวยเลือดค่อยๆแข็งตัวและส่องสว่างด้วยสีของเลือด
มีบางอย่างผิดปกติแปด… ศพของคนแปดคน …นี่มันอะไรกัน!
เหล่าศิษย์มองไปที่ร่างบนพื้นก่อนจะตกตะลึงที่ได้เห็นบางสิ่ง ศิษย์ทั้งแปดคนตายไปแล้ว
พวกเขาปกป้องประตูสวรรค์หกคนตายทันที ศิษย์พี่หวังและศิษย์ที่เหลือตายในสภาพคุกเข่าอยู่หน้าประตู
ตูม!
ทันใดนั้นท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำสายฟ้าขนาดมหึมาฟาดลงมาที่พื้นดิน
แกรก!
แกรก
หัวสัตว์ที่อยู่ด้านบนของประตูเริ่มขยับดวงตาเพชรทั้งของด้านเปล่งแสงออกมา
ในเวลาเดียวกันประตูที่ควรจะปิดก็เปิดออกโดยไม่มีการแจ้งเตือน
มันเปิดกว้างพอที่จะให้คนหนึ่งผ่านมาได้
เปิดแล้ว…มันเปิดแล้วจริงๆ! ศิษย์ทั้งสองคนต้องการจะหนี แต่ด้วยหน้าที่พวกเขาเลือกที่จะรอ ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มตะโกนเรียกความสนใจ ทันใดนั้นเงาได้ปรากฎขึ้นด้านในประตู
เป็นผู้ชายที่มีร่างกายผอมบาง
หนึ่งก้าวสองก้าว…
เงานั้นดูเหมือนเดินทางมาไกลและกำลังเดินออกมาจากประตูช้า หน้าตาของเขาชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ใครกำลังออกมา?! พวกเขาถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว พวกเขาเริ่มคิดที่จะวิ่งหนีเพราะฉากตรงหน้านั้นน่ากลัวเกินไป แต่พวกเขาเป็นศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ พวกเขาไม่สามารถหนีได้
ขณะที่พวกเขากำลังลังเลร่างนั้นก็เดินออกมาจากประตูแล้ว เขาสวมชุดนักปราชญ์สีขาว บนหลังเขาสะพายดาบอยู่เล่มหนึ่ง บริเวณใบดาบโปร่งแสงราวกับแก้ว
หนาน…หนานกงเฮา?!
ศิษย์พี่?ศิษย์พี่หนานกง พี่ …พี่ยังไม่ตาย? ศิษย์สองคนไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกออกมายังไง พวกเขาเต็มไปด้วยความสับสนความกลัว และความประหลาดใจ
หนานกงเฮาปรากฎตัวออกมา!
เขาออกมาจากประตูสวรรค์?!
พวกเขาจะเชื่อเรื่องนี้ได้ยังไง?
ที่สำคัญหนานกงเฮาดูต่างไปจากที่พวกเขารู้จัก โดยเฉพาะใบหน้า
เดิมทีหนานกงเฮาไม่ได้หล่อเหลานักแต่เขาทั้งสดใสและมองโลกในแง่บวก
อย่างไรก็ตามหนานกงเฮาที่ออกมาจากประตูสวรรค์ …ไม่ดูเป็นแบบนั้นเลย เขาทั้งเย็นชาและน่าขนลุก
ใบหน้าของเขามีสัญลักษณ์สีแดงของเลือด
ศิษย์พี่ข้าดีใจที่ได้พบท่านอีก หนานกงเฮาดูเหมือนว่าจะไม่ได้สังเกตุท่าทีของพวกเขาแม้แต่น้อย
จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองท้องฟ้า ในตอนนั้นเอง กลุ่มเมฆก่อตัวขึ้นแสงสีม่วงกระพริบอยู่ภายใน ดูเหมือนว่าพายุกำลังใกล้เข้ามา ศิษย์สองคนมองหน้ากัน
เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีสีหน้าที่ไม่ดีนักเพราะท่าทีที่เปลี่ยนไปของหนานกงเฮา แม้ว่าหนานกงเฮาจะเดินออกมาจากประตูสวรรค์ พวกเขาก็รู้สึกว่านั้นไม่ใช่หนานกงเฮาที่เคยรู้จัก
พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหนานกงเฮาตรงหน้านี้ยังเป็นศิษย์พี่ของพวกเขาอยู่อีกหรือไม่
ศิษย์พี่หนานกงท่าน…ท่านออกมาจากประตูสวรรค์ได้ยังไง? หนึ่งในศิษย์ถามขึ้นเบาๆ
ศิษย์อีกคนจับดาบแน่นสีหน้าตื่นตระหนกและระวังตัวอย่างมาก
ทั้งสองเหมือนกำลังรอบางอย่างหรือไม่ก็กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่จนตรอก
อย่างไรก็ตามหนานกงเฮาดูเหมือนจะไม่เคลื่อนไหว และไม่ตอบคำถามเช่นกัน เขากำลังจ้องมองท้องฟ้าอย่างเงียบ ๆ
จากนั้นไม่นานเขาก็ละสายตาออกมา จากนั้นเขาก็มองไปยังลู่เซี่ยวฉวนที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ก่อนจะใช้นิ้วแตะที่หน้าผาก
แกรก!แกรก! แกรก!
ลู่เซี่ยวฉวนล้มลงราวกับกระดูกทั้งหมดแตกสลายเหมือนกับศิษย์พี่หวัง
เสียงแตกร้าวที่ดังขึ้นพร้อมกับฉากที่น่าขนลุก
ไม่นานร่างของลู่เซี่ยวฉวนก็นอนจมกับพื้นอย่างสมบูรณ์เขาตายแล้ว เช่นเดียวกับพี่หวัง
ศิษย์ทั้งสองอ้าปากค้างแม้จะเป็นฤดูร้อน แต่พวกเขากลับรู้สึกถึงความหนาวเหน็บที่เกาะกินไปถึงหัวใจ
……………………………………..
��