ศิษย์พี่ตอนนี้อยู่ในช่วงเวลาไหนของปีแล้ว? หนานกงเฮาถามขึ้นมา
อะไรนะ…! ศิษย์ทั้งสองคนตกใจ พวกเขามองหน้ากันด้วยความสับสน
หนานกงเฮาไม่ได้แปลกใจอะไรนักเขาพยักหน้าและพูดต่อ ค่อนข้างร้อนแบบนี้ น่าจะเป็นฤดูร้อนแล้วใช่ไหม?
ช…ใช่แล้ว! ศิษย์คนหนึ่งตอบโดยไม่ต้องคิด
งั้นหรือ… หนานกงเฮาตอบรับก่อนจะแสดงความเคารพศิษย์ทั้งสอง จากนั้นเขาก็หันกลับไปและวางมือลงบนประตูสวรรค์
แอ้ดด!
ประตูสั่นสะเทือนอีกครั้งก่อนจะปิดลง
มัน…มันปิดแล้ว!
เกิดอะไรขึ้น? พวกเขาตกใจมากเพราะครั้งสุดท้าย มู่ฉิงเฟิง ฟางเจิ้งจือ และฉือกูเหยียน ต้องร่วมมือกันถึงปิดประตูลงได้
แต่…หนานกงเฮากลับปิดมันได้อย่างง่ายดายด้วยการแตะเบาๆ
ความทรงจำถึงสิ่งที่หนานกงเฮาทำทั้งพิธีสังเวยเลือด โจมตีเทียนซิง ปรากฎขึ้นมาในใจของพวกเขาอีกครั้ง
ไม่มีใครรู้ว่าหนานกงเฮาทำแบบนั้นทำไม
แต่พวกเขามั่นใจว่ามันไม่ใช่คำสั่งของศาลาเต๋าสวรรค์แน่นอน
ครืน!!!
ขณะที่พวกเขากำลังยืนนิ่งพื้นดินเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ก่อนที่ประตูสวรรรค์จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
หายไปแล้ว?
หนานกงเฮา…ควบคุมประตูสวรรค์?
เหล่าศิษย์ใช้เวลาไม่นานก็เข้าใจพวกเขาดูหวาดกลัวเมื่อได้เห็นหนานกงเฮาอีกครั้ง หนานกงเฮาหันมองและเดินเข้ามาหาพวกเขา
หนึ่งก้าวสองก้าว…
หนานกงเฮาไม่ได้เดินเร็วมากแต่ก็ไม่ได้ช้านัก
ไม่ช้าเขาก็เดินมาถึงศิษย์ทั้งสองก่อนที่จะเดินผ่านพวกเขาไป เขาเดินตรงไปที่หน้าผา
ตอนนี้เหงื่อไหล่วมร่างของเหล่าศิษย์
พวกเขาตัวแข็งทื่อด้วยความกลัว
หนานกงเฮาเจ้าออกไปไม่ได้! เมื่อหนานกงเฮาอยู่ห่างพวกเขาไปห้าก้าว ศิษย์คนหนึ่งก็พูดขึ้น
ไม่ใช่ว่าเขาเอาชนะความกลัวได้แต่ด้วยหน้าที่ มันเตือนเขาว่าหนานกงเฮาไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้
เจตนาที่หนานกงเฮาโจมตีเทียนซิงยังคงเป็นปริศนา
ที่สำคัญหนานกงเฮาถือครองประตูสวรรค์อยู่ เนื่องจากพวกเขาได้รับหน้าที่ปกป้องประตูสวรรค์ พวกเขาจะปล่อยให้หนานกงเฮาเอาประตูสวรรค์ไปได้ยังไง
ศิษย์น้องหนานกงผู้อาวุโสหกจะมาถึงในไม่ช้า เจ้าควรอธิบายให้เขาฟัง อย่างน้อยก็เล่าให้เราฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าในประตูสวรรค์? ศิษย์อีกคนกัดฟันพูดขึ้น
เขาดึงดาบออกมาชี้ไปที่ลำคอของหนานกงเฮา
ใช่แล้วน้องหนานกง พวกเราต่างเป็นศิษย์ร่วมสำนัก เจ้าบอกได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น …อาจารย์และผู้อาวุโสหกไม่เอาเรื่องเจ้าอย่างแน่นอน! ศิษย์อีกคนพูดเพิ่ม
หนานกงเฮาหยุดเดินเขาค่อยๆหันกลับมองศิษย์ทั้งสอง เขาแค่มองดูอย่างเงียบๆและไม่ได้เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามในแววตาของศิษย์ หนานกงเฮากลายเป็นคนแปลกหน้าไปแล้ว
เขาทั้งเย็นชาและชวนขนลุก แสงของเลือดยังคงส่องสว่างในดวงตาของเขาพวกเขากระจายตัวปิดล้อมหนานกงเฮา
จากนั้น…แสงสีแดงก็ส่องสว่าง
มันเร็วมากดูเหมือนว่าเขาจะหายไปต่อหน้าพวกเขา พวกเขาเห็นแค่ดาบที่โปร่งใส่ราวกับหิมะขาวท่ามกลางแสงสีแดง
มันใสราวกับหินหยก
ดาบนั้นเคลื่อนไหว!
อย่างไรก็ตามทุกอย่างยังเงียบสงบ!
สิ่งเดียวที่มองเห็นได้มีเพียงแสงสีม่วงของสายฟ้าที่ส่องสะท้อนลงมาเท่านั้นมันรวดเร็วราวกับพวกเขากำลังมองดูภาพลวงตาอยู่
จากนั้นพวกเขาค่อยๆกลับมามองเห็นอีกครั้ง โลกใบนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โลกทั้งใบตกอยู่ในความมืด
หนานกงเฮาปรากฎขึ้นด้านหลังศิษย์ทั้งสองคนพวกเขาไม่ได้ทันขยับตัวแม้แต่น้อย เพียงชั่วพริบตามีหัวคนสองหัวหล่นอยู่บนพื้น
หนานกงเฮา?!
อะไรกัน?!ประตูสวรรค์หายไปไหน…ทำไมหนานกงเฮาถึงมาอยู่ที่นี่?
บนพื้น…เกิดอะไรขึ้นที่นี่?!
เสียงหวาดวิตกดังขึ้นพร้อมกับคนจำนวนมากที่กำลังวิ่งเข้ามา
อย่างไรก็ตามบริเวณแท่นบูชาที่ตั้งประตูสวรรค์ไว้ถูกย้อมไปด้วยเลือด
แม้แตอากาศก็มีกลื่นเลือดลอยคลุ้ง
ในบรรดาผู้ที่วิ่งเข้ามาหนึ่งในนั้นเป็นผู้อาวุโสหก คิ้วของเขาขมวดแน่นมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
เขาได้รับหมอบหมายให้รับผิดชอบดูแลทุกอย่างขณะที่ทุกคนเดินทางไปยังภูเขาสวรรค์
ผู้อาวุโสหก…ข้าเห็นเพียงประตูสวรรค์เปิดออก…ข้าไม่รู้ว่าหนานกงเฮา…จะออกมา… ศิษย์ที่วิ่งหนีออกมาทันได้รายงานให้ผู้อาวุโสหกทราบทันที
ข้าเข้าใจแล้ว! ผู้อาวุโสหกพยักหน้า
เขาไม่ได้พูดอะไรอีกแม้แต่ตำหนิหนานกงเฮาก็ตาม เขาเพียงแค่มองสภาพรอบๆ ก่อนจะมองไปที่หนานกงเฮาอีกครั้ง
หนานกงเฮาเองก็ยืนเงียบเขายืนนิ่งราวกับไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
ศิษย์คนอื่นๆไม่อยากเชื่อในสิ่งที่หนานกงเฮาทำอย่างไรก็ตามรอยเลือดที่ปลายดาบของหนานกงเฮา ทำให้พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธความจริงข้อนี้
หนานกงเฮามีเหตุผลที่เจ้าทำเช่นนี้ไหม? ในที่สุดผู้อาวุโสหกก็ก้าวไปข้างหน้า น้ำเสียงของเขาเย็นชามาก
โลกคงจะเปลี่ยนไปแล้วใช่ไหม? หนานกงเฮาไม่ต้อบคำถามของผู้อาวุโสหก เขาเงยหน้าขึ้นราวกับกำลังบ่นกับตัวเอง โลก?เปลี่ยนไป? ผู้อาวุโสหกตื่นตระหนก เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็รู้เรื่องที่มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นทั่วโลก
แต่หนานกงเฮาไม่ควรจะรู้เรื่องนี้
ดังนั้นหนานกงเฮาหมายความว่าอะไร?
เป็นไปได้ไหม…เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น?!
ผู้อาวุโสหกตัวสั่นเพราะถ้ามันเป็นเรื่องจริง มันหมายความว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมนุษย์
เป็นฝีมือของมนุษย์!
ถ้านั้นเป็นเรื่องจริงทุกสิ่ง
ใช่แล้วมันผ่านมาหลายปี บางอย่างควรจะเปลี่ยนไป หนานกงเฮาละสายตาจากท้องฟ้าและปักดาบลงบนพื้น
เปลี่ยน?เจ้าต้องการเปลี่ยนอะไร? ผู้อาวุโสหกหยุดเหล่าศิษย์ไม่ให้พูด ท่าทีของเขาตึงเครียดอย่างไม่น่าเชื่อ
นั่นเพราะเขารู้ว่าถ้าการที่โลกเปลี่ยนไปนั้นเกี่ยวข้องกับหนานกงเฮามันจะซับซ้อนอย่างน่าเหลือเชื่อ
หนานกงเฮาตระกูลหนานกง …
พวกเขาเป็นตระกูลเก่าแก่แม้แต่ศาลาเต๋าสวรรค์ก็ไม่รู้เรื่องมากนัก
รู้สึกว่าตระกูลหนานกงจะมีมาตั้งแต่เริ่มแรกของโลกพวกเขามีชีวิตรอดมาจนถึงปัจจุบัน
ผู้อาวุโสหกไม่รู้เกี่ยวกับตระกูลหนานกงนักแต่เขารู้ว่าหนานกงเฮาเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขกระจ่างเรื่องทั้งหมด
ทุกสรรพสิ่งล้วนวุ่นวายตั้งแต่กำเนิดสวรรค์และโลกผานกู่(สิ่งมีชีวิตแรกของโลกที่กำเนิดขึ้นจากความวุ่นวายตามตำนานจีน) เกิดขึ้นจากความสับสนวุ่นวาย แบ่งแยกสวรรค์และโลกออกจากกันตลอดไป นั่นเป็นความจริงแท้ของโลก หนานกงเฮาพูดอย่างสงบ
แบ่งแยกสวรรค์และโลกออกจากกันตลอดไป?หมายความว่ายังไง? ผู้อาวุโสหกขมวดคิ้วอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเขารู้ถึงความหมายของสิ่งที่หนานกงเฮาพูด มันเป็นคำพรรณาในคัมภีร์โบราณ
อย่างไรก็ตามเขาไม่เข้าใจว่า ทำไมจู่ๆหนานกงเฮาถึงพูดข้อความนั้นขึ้นมา
ถ้าคนเกิดขึ้นบนสวรรค์แล้วเขาจะลงมาอยู่บนโลกได้ยังไง? หนานกงเฮายังคงอธิบายต่อไป
สวรรค์…โลก? หนานกงเฮา …เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร? ผู้อาวุโสหกไม่เข้าใจ แต่รู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้น
……………………………………..