อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านั่นไม่สามารถหยุดคนกลุ่มใหญ่ที่ยืนอยู่บริเวณเชิงเขาได้ทหารนับแสนจากสี่อาณาจักรกำลังยืนอยู่ พวกเขาสวมชุดเกราะสีที่แตกต่างกันออกไป
ทั้งผู้อาวุโสหรือผู้เยาว์ต่างยืนเรียงรายไปทั่ว
การประชุมพันธมิตรสวรรค์
แม้ว่าจะจัดขึ้นโดยศาลาเต๋าสวรรค์สำนักหนึ่งในแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่ทุกสำนัก ทุกขุมกำลังบนโลกต่างได้รับเชิญ
แม้แต่นิกายเงาก็ด้วย
ทัพของอาราจักรเซี่ยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของภูเขาสวรรค์
’ราชาเซี่ยนหลินหยุน’ผู้สวมชุดเกราะสีขาวกำลังตรงไปที่ทางเข้าค่าย ชุดคลุมสีฟ้าอ่อนของเขายาวลากพื้นดิน
เหยียนเฉียนหลี่! ราชาเซี่ยนแสดงความเคารพต่อเหยียนเฉียนยี่
ราชาเซี่ยนท่านไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนี้ ข้าไม่ใช่ราชาเหยียนอีกต่อไปแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องยกย่องข้า เหยียนเฉียนหลี่กล่าวชึ้นมา ก่อนที่เขาจะมองไปรอบๆด้วยความสงสัย ฝ่าบาทอยู่ไหนงั้นรึ?
เอ่อ..ท่านพ่อไปที่…
หอคอยหลิงหยุน?
ใช่เขายังไม่กลับมา
ไม่เป็นไรแม้หอคอยหลิงหยุนจะไม่ให้คนนอกเข้า แต่เฉียนยี่คงไม่ข้าพระองค์แน่นอน แล้วตอนนี้สถานการณ์ในอาณาจักรเซี่ยเป็นยังไงบ้าง? เหยียนเฉียนหลี่พยักหน้า
ไม่ดีเท่าไรนักมีการเปลี่ยนแปลงเกิดไปทั่ว สิ่งผิดปกติล้วนนำไปสู่ความโกลาหล โชคดีที่สถานการณ์ยังพอควบคุมได้ แต่ที่ภูเขาคังหลิง… ราชาเซี่ยนส่ายหัว
อืมภูเขาคังหลินเป็นชายแดนระหว่างอาณาจักรของเรากับแดนปีศาจรวมถึงสัตว์ร้ายที่ชุกชุม ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะควบคุมสถานการณ์ที่นั่น เจ้ามีแผนยังไงบ้าง?
เดิมที่ข้าตั้งใจจะให้ชาวบ้านทั้งหมดในบริเวณนั้นย้ายไปที่เมืองฉวายอันแต่พวกเขาบอกว่าพวกเขาไม่ยอมย้ายไปจากที่ที่บรรพบุรุษของพวกเขาเคยอยู่ ข้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากปิดทางเข้าออกภูเขาคังหลิง ข้าได้ส่งหน่วยเกราะมังกรไปปกป้องครอบครัวขององค์ชายคัง
ด้วยความเมตตาของท่านฟางเจิ้งจือคงตายอย่างหมดห่วง…
ตาย?!ฟางเจิ้งจือ…
เห้อ…. เหยียนเฉียนหลี่ถอนหายใจ
ฟางเจิ้งจือไม่มีทางตาย! ทันใดนั้นเสียงหญิงสาวคนหนึ่งก็ดังขึ้น
ใช่แล้วเจ้าเด็กไร้ยางอายนั่นไม่มีทางตาย ไม่นานเสียงอีกคนหนึ่งก็ดังขึ้น ชายคนนั้นยืนขึ้นและมองไปที่เหยียนเฉียนหลี่ ตาเฒ่าเหยียนท่านช่วยพูดอะไรให้เป็นมงคลหน่อยได้ไหม?
… ริมฝีปากของเหยียนเฉียนหลี่กระตุกเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ เจ้าคิดว่ามันจะเป็นไปได้จริงๆงั้นรึ นี่ก็ผ่านมาครึ่งปีแล้ว…
ใช่ข้าเชื่อว่าเขายังไม่ตาย! เสียงอันหนักแน่นของหญิงสาวดังขึ้นอีกครั้ง
เห้อช่างมันเถอะ สถานการร์ตอนนี้บริเวณภูเขาสวรรค์เป็นยังไงบ้าง?
ภูเขาสวรรค์นั้นต่างไปจากเดิมข้าทำได้เพียงสั่งการทัพของอาณาจักรเซี่ย ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสำนักหรืออาณาจักรอื่นๆได้ พวกเขาได้เดินทางมาถึงก่อนท่านเหยียนสักพัก ตอนนี้ศาลาเต๋าสวรรค์ได้เริ่มกำจัดสิ่งกีดขวางเส้นทางขึ้นไปบนยอดเขาแล้ว ราชาเซี่ยนพยักหน้า
อืมดูเหมือนพวกเราคงต้องอยู่ที่นี่สักพัก
ท่านเหยียนเชิญพักในค่ายก่อนข้าได้เตรียมที่พักสำหรับราชาไว้แล้ว เชิญท่าน…
ข้าไม่ต้องการที่พักสำหรับราชาข้าพักกระโจมธรรมดาๆได้ มันจะสะดวกกว่า ช่วยจัดให้ข้าได้พักใกล้ๆตาเฒ่าสวรรค์พักพิงด้วย
ข้าเข้าใจแล้วข้าจะเตรียมการให้เดี๋ยวนี้! ราชาเซี่ยนออกคำสั่งทันที
…
หอคอยหลิงหยุน
การตกแต่งภายในของหอหลิงหยุนไม่ได้ตกแต่งอย่างหรูหราเกินไปแต่มันกลับดูงดงามเป็นพิเศษ แต่ละภาพสื่อถึงเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป
แสงแดดส่องกระทบร่างอันโดดเดี่ยวของหลินมู่ไป่แต่สถาพของเขานั้นดีกว่าก่อนหน้ามาก
เขาพักในศาลาที่สร้างขึ้นมาอาหารจำนวนมากวางอยู่บนโต๊ะ
เขายังคงเลือกที่จะอยู่ที่นี่แม้ยู่เอ๋อร์จะขอให้เขาออกไปก็ตาม
สิ่งสำคัญที่สุดคือทัศนคติของศิษย์หอคอยหลิงหยุนที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เขาได้รับการปฏิบัติอย่างเคารพและสุภาพ
มันทำให้เขารู้สึกดีขึ้นไม่น้อบ
ความพยายามของเขาไม่สูญเปล่า!
ปิงหยางเป็นคนเดียวที่ออกมาพูดคุยกับเขาบ่อยครั้งในทางกลับกันเฉียนยู่กลับไม่ออกมาหาเขาเลยตลอดสองวันที่ผ่านมา
ฝ่าบาทตอนนี้…
หยางเอ๋อร์ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่าเรียกข้าแบบนั้น? ข้าไม่ใช่จักรพรรดินีของอาณาจักรเซี่ยอีกต่อไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีเรื่องเข้าใจผิดระหว่างข้ากับพ่อของเจ้า พวกเราไม่ได้มีชะตาเกี่ยวข้องกันแล้ว เจ้าไม่ต้องพยายามหรอก เฉียนยู่โบกมือขัดปิงหยาง ก่อนที่นางจะดึงปิงหยางเข้ามากอดอย่างอบอุ่น แล้วการบาดเจ็บของท่านพ่อล่ะ…
ไม่ต้องกังวล! ข้าได้สั่งให้ศิษย์ใส่ยารักษาผสมลงไปในอาหารแล้ว อาการของเขาคงดีขึ้นในไม่ช้า สื่งที่เจ้าควรกังวลตอนนี้คือเรื่องการแต่งงาน
แต่ข้ายังไม่ต้องการรีบแต่งงาย… ใบหน้าของปิงหยางขึ้นสีพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ
ทำไมล่ะ?เจ้าไม่อยากแต่งงานงั้นหรือ? เฉียนยู่ยิ้มอย่างอ่อนโยน นางเดาความรู้สึกของปิงหยางออก
เจ้าไร้ยางอาย…ข้าไม่อยากแต่งงานกับเขา ปิงหยางกัดปักแล้วพูดออกมา เห็นได้ชัดว่าใจนางไม่ได้คิดอย่างนั้น
ไม่ต้องกังวลข้าจะบังคับให้เจ้าแต่งงานกับเขาเอง แล้วเจ้ามัวกังวลอะไรอยู่ล่ะ? เฉียนยู่รู้ว่าปิงหยางคิดอะไรอยู่
ท่านแม่ในดินแดนหลิงหยุนมันอันตรายหรือเปล่า?
แน่นอนมันอันตรายสิ ถ้าเป็นแบบนั้นทำไมท่านแม่…
ตราบใดที่ข้าไม่ควบคุมมันมันก็จะไม่ทำร้ายเขา มันสามารถขังเขาไว้ได้เท่านั้น เฉียนยู่ลูบหัวปิงหยางด้วยความเอ็นดู
ท่านจะขังเขาไว้นานเท่าไร?
จนกว่าเขาจะยอมรับข้อตกลงของข้า
จะเป็นไปได้งั้นหรือ?เจ้าไร้ยางอายนั่นเก่งเป็นพิเศษ ถ้าเขาสามารถออกมาได้ด้วยตัวเองล่ะ?
ใจเย็นเขาไม่มีทางออกมาได้หรอก แม้แต่ผู้นำของทั้งสี่สำนักถ้าพวกเขาถูกขัง ยังไม่สามารออกมาได้ ไม่ต้องพูดถึงฟางเจิ้งจือ เจ้ารู้ไหมว่าดินแดนหลิงหยุนนั้นพิเศษแค่ไหน มันทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในห้าสำนักได้! เฉียนยู่ยิ้มพร้อมกล่าวอย่างมั่นใจ
ทำไมท่านแม่… ปิงหยางอยากจะพูดบางอย่าง แต่เฉียนยู่ลุกเดินไปที่หน้าต่างแล้ว
ช่วงนี้โลกนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันศาลาเต๋าสวรรค์ได้จัดการประชุมขึ้น ข้าเดาว่าต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ทำไมเจ้าไม่เดินทางไปกับข้าด้วยล่ะ? เฉียนยู่พูดพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย
ภูเขาสวรรค์?แล้วท่านพ่อกับฟางเจิ้งจือ… ปิงหยางหยุดพูด แม้นางจะอยากพดแค่ไหนก็ตาม
พ่อของเจ้าเป็นจักรพรรดิของอาณาจักรเซี่ยเขาย่อมได้รับคำเชิญแน่นอน ถ้าพวกเราไปที่นั่นเขาต้องตามไปแน่นอน สำหรับฟางเจิ้งจือ….หลังจากพวกเรากลับมาก็คงได้เวลาเตรียมงานแต่งพอดี
ท่านแม่ข้าคิดว่าข้าควรอยู่ที่นี่ ข้ายังแข็งแกร่งไม่พอ ข้ายังอยากจะฝึกอยู่ที่นี่…
เจ้าคิดหรือว่าข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่?ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับดินแดนหลิงหยุนเหลืออยู่หรอก ทุกอย่างเกี่ยวกับมันถูกส่งให้ผู้นำหอคอยหลิงหยุนแต่ละรุ่นเท่านั้น แต่ต่อให้เจ้ารู้เจ้าก็ช่วยฟางเจิ้งจือไม่ได้หรอก ตอนนี้เจ้าควรจะไปสร้างชื่อในแดนศักดิ์สิทธิ์ซะก่อน
สร้างชื่อ? แน่นอนลูกสาวของข้าจะไม่เป็นที่รู้จักได้ยังไง?
… ปิงหยางกระพริบตาด้วยความสับสน
แต่มันก็จริงอย่างที่เฉียนยู่กล่าวไว้ตาอให้นางอยู่ที่นี่ก็ช่วยอะไรฟางเจิ้งจือไม่ได้
…
ด้านในดินแดนหลิงหยุน
ฟางเจิ้งจือ โกรธมาก ในฐานะเหยื่อที่อยู่ฝั่งเดียวกับผู้ชนะ แต่เขาถูกขังเอาไว้แบบนี้ เขาทำใจยอมรับไม่ได้จริงๆ
ข้าถูกขัง?!
มีอะไรที่แย่กว่านี้อีกไหม?
ที่สำคัญกว่านั้นเขาได้ยินกาารสนทนาระหว่างเฉียนยู่และปิงหยางที่อยู่ด้านนอกชัดเจนนอกจากนี้เขายังได้ยินการสนทนาของเหล่าศิษย์หอคอยหลิงหยุนอีกด้วย
เช่น’ข้าเอาผ้าเช็ดตัวไปไว้ที่ไหนเนี่ย? ‘อาดูตรงนั้นขึ้นผื่นได้ยังไงเนี่ย?’ อะไรกันเนี่ย!!
ฟางเจิ้งจือไม่ได้อยากฟังเรื่องเหล่านั้นอย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปสองวัน เขาก็ทนฟังเรื่องเหล่านั้นไม่ไหวอีกต่อไป
อย่างไรก็ตามบทสนาทระหว่างเฉียนยู่และปิงหยางกลับเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
นางจะขังข้าไว้ที่นี่จนกว่าข้าจะยอมตกลง? ตอนแรกฟางเจิ้งจือไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ยินเรื่องทุกอย่าง
แต่ตอนนี้เขามั่นใจแล้วเป็นเฉียนยู่ที่ให้เขาได้ยินการสนทนาทั้งหมดในหอคอย
นางช่างร้ายกาจจริงๆ
และมันก็เป็นเรื่องนยากที่จะรับมือคนแบบนางจริงๆทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด
ตอนแรกเขานึกว่าเขาจะได้รางวัลที่ช่วยนางออกมา
แต่เขาไม่คิดว่านางจะบังคับให้เขาแต่งงานกับปิงหยาง!
นอกจากนี้นางยังฉลาดมากนางไม่คิดจะมีเวลาให้เขาหนี เพราะนางจับเขาคังทันที
ฟางเจิ้งจือรู้สึกสิ้นหวังแม้ดินแดนหลิงหยุนจะไม่ทำร้ายเขา แต่เขาก็ทนอยู่เฉยๆแบบนี้ไปตลอดไม่ได้
หยางเอ๋อร์ไปกันเถอะ!
ได้ท่านแม่
ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองเขาก็ได้ยินเสียงทั้งคู๋ขึ้นอีกครั้ง
ล้อเล่นใช่ไหม?เจ้าจะไปจริงๆงั้นหรือ ท่าทีของ ฟางเจิ้งจือ เปลี่ยนไป เขาได้ยินว่าการเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาเกือบเดือน
พวกเจ้าต้องเดินทางไกล?
อย่างน้อยช่วยเหลืออาหารทิ้งไว้ให้ข้าหน่อยได้ไหม? ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังคิดเงาขนาดใหญ่ก็ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
… ริมฝีปากของฟางเจิ้งจือกระตุกทันที มันเป็นกล่องผักผลไม้ขนาดใหญ่
เขาพูดไม่ออกจริงๆ ……………………………………..