การจับฉลากทั้งหมดอยู่บนความเที่ยงธรรมทุกคน ณ ที่แห่งนี้เป็นพยาน มีใครคัดค้านผลการจัดฉลากนี้หรือไม่?
สำนักซวนจีไม่มีข้อคัดค้านอะไร! ซูเหลียงเป็นคนแรกที่กล่าวออกมา
พวกเราก็ไม่มีปัญหาอะไรเช่นกัน
…
ผ่านไปสักพักผู้คนก็เริ่มแสดงความเห็นด้วยกับผลฉลากการแข่งขันมากขึ้น
อืมงั้นมาเริ่มคู่แรกกันได้เลย ศาลาหยินหยางเจอกับเก้าขุนเขา! มู่ฉิงเฟิงพยักหน้าพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ หลังจากเขาพูดจบ ไป่เฟยก็ลุกขึ้นยืนและหันไปมองร่างสีดำที่ยืนอยู่ด้านหลังพร้อมพยักหน้า ร่างนั้นลุกขึ้นและค่อยๆเดินไปด้านหน้าทันที
ผู้นำสำนักอื่นๆรวมถึงโม่ฉานฉือรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยพวกเขาสังเกตุเห็นว่าไป่เฟยเลือกคนโดยไม่ปรึกษาผู้อาวุโสแม้แต่น้อย นั่นหมายความว่าอำนาจการตัดสินใจของเก้าขุนเขาทั้งหมดในตอนนี้อยู่ที่เขา เขาไม่ใช่หุ่นเชิดอย่างที่ใครคิด
เขาเป็นใครกันแน่หรือเขาเป็นศิษย์ที่เทียนซิงเก็บซ่อนไว้จริงๆ? คำถามเดียวกันปรากฎขึ้นในใจของทุกคน แต่ไม่มีใครกล้าถาม ทุกคนรู้ว่าปัญหาใหญ่ที่สุดที่ส่งผลต่อเก้าขุนเขาไม่ใช่นั้นขาดความแข็งแกร่ง แต่เป็นปัญหาชิงตำแหน่งกันภายในมากกว่า แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เก้าขุนเขาสามารถจัดการเรื่องเหล่านี้ลงอย่างง่ายดาย แม้ไม่มีใครรรู้ว่าด้วยวธีไหนก็ตาม
ร่างสีดำเดินออกมาหยุดอยู่กลางลานประลองเขาไม่ได้ถอดหมวกที่สวมออก เขาเพียงดึงมีดสั้นสีแดงปนดำออกมาเท่านั้น ข้ามีดทมิฬจากเก้าขุนเขา อายุยี่สิบแปดปี ร่างสีดำแนะนำตัวเอง
มีดทมิฬ?
ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน? การที่ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อเขาหมายความว่าเขาอาจจะพึ่งเก็บตัวบ่มเพาะพลังสำเร็จหรือเปล่า ดูเหมือนว่าเขาจะแข็งแกร่งมาก!
อืมเป็นไปได้!
ผู้คนต่างวิจารณ์ไปต่างๆนาๆการต่อสู้ครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีในการสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกหน้าใหม่จะเข้าร่วมการแข่งขัน
เต๋าฮุนหันไปมองชายสวมหน้ากากหยินหยางที่นั่งอยู่ด้านหลังก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองศิษย์คนอื่นที่นั่งอยู่ด้านหลังผู้อาวุโส ก่อนจะพยักหน้าให้ศิษย์คนนั้นเล็กน้อย ศิษย์คนนั้นก้าวเท้าขึ้นมาด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยุดยืนอยู่หน้ามีดทมิฬ ก่อนเขาจะดึงดาบคู่สีขาวและดำออกมา ข้าศิษย์ศาลาหยินหยาง ฟางโหม่ว อายุยี่สิบแปดปีเช่นกัน พลังของข้าอยู่ในระดับจุติขั้นสูงสุด! เขาแนะนำตัวเองเช่นกัน
ฟางโหม่ว?! ข้าไม่คิดว่าศาลาหยินหยางจะส่งเขาออกมาสู้ในรอบแรกข้าเคยได้ยินมาว่าตอนเขาอยู่ในอาณาจักรแสงจันทร์เขาเป็นนักรบชั้นยอดก่อนที่จะเข้าร่วมกับศาลาหยินหยาง เขาได้รับการสั่งสอนจากเต๋าฮุนโดยตรง พูดได้ว่าเขาน่าจะเป็นคนหนึ่งที่เก่งที่สุดในผู้ฝึกยุทธรุ่นเยาว์ในศาลาหยินหยางแล้ว!
คนของสำนักอื่นๆต่างตื่นเต้นเมื่อได้ยินชื่อของฟางโหม่วเขาเป็นคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากในการต่อสู้
รอบแรกฟางโหม่วจากศาลาหยินหยางเจอกับมีดทมิฬจากเก้าขุนเขาเริ่มการแข่งขันได้! ศิษย์ที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ประกาศขึ้นในทันที
มีดทมิฬเคลื่อนไหวก่อนฟางโหม่วในทันที
สู้ระยะประชิดงั้นรึ? ฟางโหม่วผงะด้วยความแปลกใจไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะกดเท้าขวาลงไปบนพื้นอย่างมั่นคงและถอนหลังไปอย่างรวดเร็ว มีศิษย์ที่เก่งกาจหลายคนในศาลาหยินหยาง แต่เหตุผลที่เต๋าฮุนเลือกส่งฟางโหม่วออกมาก่อน เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะการตัดสินใจที่เยือกเย็นของเขาแม้ว่าจะเห็นมีดทมิฬเข้ามาใกล้ก็ตาม เขาไม่ได้อ่อนแอในการต่อสู้ระยะประชิด แต่เขายังไม่ต้องการโจมตีตอนนี้ เขาต้องการศึกษาความสามารถและแนวทางการต่อสู้ของศัตรูให้ดีก่อน
อย่างไรก็ตามขณะที่ฟางโหม่วกำลังถอยหลังเขากลับรู้สึกเย็นวาบขึ้นที่ด้านหลังตามมาด้วยความรู้สึกไม่สบายใจและอันตรายต่อชีวิต เขาพบว่ามันแปลกมากเพรามีดทมิฬอยู่ด้านหน้า แต่เขากลับรู้สึกถึงอันตรายที่ด้านหลัง เป็นไปได้ไหมที่ใครบางคนจากเก้าขุนเขาใช้วิชาหลอกเขา? เป็นไปไม่ได้ผู้นำของทั้งห้าสำนักก็นั่งอยู่รอบๆ การที่พยายามจะโกงการแข่งขันไม่มีทางรอดสายตาจากพวกเขาได้ แม้ว่าฟางโหม่วจะเชื่อมั่น แต่เขาก็ไม่ประมาท เขาแทงดาบสีขาวไปด้านหลังและป้องกันด้านหน้าด้วยดาบสีดำ
กึก!
เสียงของกระดูกแตกหักดังขึ้น พร้อมกับแขนข้างหนึ่งที่กระเด็นขึ้นไปบนฟ้า แขนข้างที่มือจับดาบสีขาวแน่น
สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าได้เกิดขึ้นแขนที่ถือดาบสีดำอีกข้างได้ลอยกระเด็นขึ้นไปบนฟ้าเช่นกัน
อ้ากกก!!! ฟางโหม่วตะโกนด้วยความเจ็บปวดแต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะหยุดมีดทมิฬได้ ท่ามกลางความมึนงงของผู้คน ในสายตาของพวกเขาเห็นเงาจำนวนมากห้อมล้อมร่างของฟางโหม่วอยู่ แต่ละร่างต่างถือมีดสีดำแดงเช่นกัน
มีดทมิฬหยุด! โม่ฉานฉือตะโกนออกมาเขาเองก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน
เงาทมิฬหยุดยืนอยู่ที่เดิมมีดในมือของเขาจ่ออยู่ที่ลำคอของฟางโหม่วที่ตอนนี้ทั้งร่างโชกไปด้วยเลือด
เฮือก ศิษย์ของสำนักอื่นๆกลั้นหายใจด้วยความหวาดกลัวตอนแรกแม้พวกเขาจะสงสัยในตัวตนของมีทมิฬ แต่เมื่อเห็นการต่อสู้ตรงหน้า จากความสังสัยได้กลายเป็นความหวาดกลัวแทน มันเกิดขึ้นเร็วมาก! เร็วเกินไป! แค่กระบวนท่าเดียวมีดทมิฬจากเก้าขุนเขาสามารถจัดการศิษย์ของศาลาหยินหยางได้อย่างราบคาบ
เขาเป็นใครกันแน่?!
น่าสนใจจริงๆ! เต๋าฮุนกำมือแน่น สายตาของเขามองไปที่ฟางโหม่วที่ล้มคุกเข่าอยู่บนพื้น ฟางโหม่วเป็นศิษย์ที่เขาฝึกมาเองกับมือเป็นเวลาเกือบสามเดือน แต่ตอนนี้กลับแพ้ให้กับคู่ต่อสู้ในกระบวนท่านเดียว เต๋าฮุนพบว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่จะอดกลั้นความโกรธในใจของเขาตอนนี้
ดูเหมือนอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้อาวุโสหก เต๋าซิงที่นั่งอยู่ข้างๆเต๋าฮุนกล่าวขึ้นมานางหันไปมองชายหนุ่มผู้สวมหน้ากากหยินหยางและพยักหน้าให้เบาๆ
อืมตอนนี้พวกเราคงไม่มีทางเลือกอื่นแล้วพวกเราถอนไม่ได้อีกแล้ว!
เต๋าซิงกล่าวออกมาพร้อมมองไปที่เต๋าฮุน ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ที่ทำหน้าที่บรรยายการแข่งขันเองก็ยืนนิ่งอยู่เช่นกันตัวเขาเองก็ตกตะลึงกับผลการแข่งขันที่จบเร็วเกินไปเช่นกัน
เขามองฟางโหม่วเลือดท่วมตัวที่ล้มอยู่บนพื้น ก่อนจะหันไปมองมู่ฉิงเฟิงที่นั่งอยู่ หลังจากเห็นมู่ฉิงเฟิงพยักหน้าให้ เขาก็สูดหายใจลึกๆก่อนจะประกาศผลการแข่งขันออกมา
มีดทมิฬจากเก้าขุนเขาเป็นผู้ชนะการแข่งขันในคู่แรก!
……………………………………..