Gate of God – ตอนที่ 865 ตระกูลหนานกงปรากฎตัว!

  ร่างหนึ่งเป็นชายอ้วนวัยกลางคนสวมชุดบางปกคลุมถึงลำคอ

  ชายคนนั้นไม่ได้ร่อนลงมาเร็วนักเขาค่อยๆร่อนลงมาอย่างเงียบเชียบ ราวกับหิมะที่โปรยปราย

  อย่างไรก็ตามแสงที่ส่องสว่างทำให้ดวงตาของมู่ฉิงเฟิง โม่ฉานฉือ เต๋าฮุนและเต๋าซินต่างเบิกกว้างเกือบจะทันทีที่ได้เห็นชายอ้วนวัยกลางคน

   หนานกงเทียน?! มือของมู่ฉิงเฟิงเกร็งเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเขายิ้มได้อย่างรวดเร็วก่อนจะพูดขึ้นว่า  ไม่คิดเลยว่าผู้นำตระกูลหนานกงจะมาที่การประชุมพันธมิตรสวรรค์โดยลำพัง เป็นความผิดข้าเอง ที่ศาลาเต๋าสวรรค์ไม่ได้เชิญท่านมา! 

   ผู้นำศาลาสุภาพเกินไปแล้ว ตระกูลหนานกงไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสำนักใด หรือแม้แต่สี่อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเราไม่ได้รับเชิญจากผู้นำมู่  หนานกงเทียนยิ้มและแสดงความเคารพต่อมู่ฉิงเฟิง

   การประชุมพันธมิตรสวรรค์จัดขึ้นเพื่อเชิญผู้ที่ต้องการปกป้องโลกจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะแบ่งแยกสำนักหรืออาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ และเนื่องจากท่านเป็นถึงผู้นำตระกูลต้องสามารถเข้าร่วมได้แน่นอน  มู่ฉิงเฟิงยิ้มอีกครั้ง

   ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ขอบคุณท่านมู่สำหรับการต้อนรับ หนานกงเทียนพยักหน้าก่อนจะแหงนหน้ามองท้องฟ้าและยกมือขึ้น

  ทุกคนต่างมองตามเมื่อเห็นหนานกงเทียนทำเช่นนั้นอย่างไรก็ตามพวกเขาสังเกตุเห็นสัตว์ร้ายร่างยักษ์บินบนท้องฟ้ากว่า 20 ตัว

  โฮก!

  โฮก!โฮก!

  จากนั้นเหล่าผู้คนก็ร่อนลงจากท้องฟ้ายืนอยู่หลังหนานกงเทียน พวกเขาไม่พูดอะไร

  อย่างไรก็ตามท่าทีของมู่ฉิงเฟิง โม่ฉานฉือ เปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขารู้ทันทีว่าหนานงกงเทียนเตรียมพร้อมเพื่อมาที่นี่

  อย่างไรก็ตามอย่างที่มู่ฉิงเฟิงพูด แม้หนานกงเทียนจะไม่ได้ถูกเชิญมาที่นี่ เขาก็มาถึงแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไล่หนานกงเทียนออกไป

   เตรียมที่นั่งให้ตระกูลหนานกง! 

   รับทราบ! 

  หลังจากคำสั่งของมู่ฉิงเฟิงศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ก้ปรากฎตัวด้านหน้าหนานกงเทียนอย่างรวดเร็วเพื่อพาไปยังที่นั่ง

  ในพื้นที่ทั้งหมดบนยอดเขาถูกจัดเตรียมที่นั่งไว้สำหรับสำนักต่างๆในดินแดนศักดิ์สิทธิ์และอาณาจักรทั้งสี่ เนื่องจากตระกูลหนานกงไม่ใช่ส่วนหนึ่งของที่ใด พวกเขาจึงต้องนั่งรวมกับสำนักต่างๆและอาณาจักรทั้งสี่

  อย่างไรก็ตามหนานกงเทียนไม่ได้มีท่าทีไม่พอใจแต่อย่างใด รอยยิ้มเล็กๆยังคงอยู่บนใบหน้าของเขา และค่อยๆนั่งลงอย่างเงียบสงบ

  จากนั้นศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ที่รับผิดชอบการแข่งขันก็เริ่มดำเนินการแข่งขันต่อไป

  อย่างไรก็ตามหนานกงเทียนพูดขึ้นมาก่อนที่ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์จะได้เอ่ยปาก

   เนื่องจากตระกูลของข้ามีคุณสมบัติพอที่จะได้เข้าร่วมการประชุมพันธมิตรสวรรค์พวกเราได้รับอนุญาติให้ร่วมการแข่งด้วยหรือไม่?  หนานกงเทียนมองที่มู่ฉิงเฟิงก่อนจะพูดต่อ  ผู้นำมู่ ท่านว่าอย่างไร? 

   ท่านต้องการเข้าร่วมการแข่งขันงั้นหรือ? มู่ฉิงเฟิงประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินคำพูดของหนานกงเทียน

  แม้ตระกูลหนานกงจะเป็นที่รู้จักกันดีบนโลกแต่พวกเขามักแยกตัวอยู่เสมอและไม่มีบทบาทมาตลอด 2-3 ศตวรรษที่ผ่านมา

  อย่างไรก็ตามตอนนี้ …

  เห็นได้ชัดว่าหนานกงเทียนวางแผนบางอย่างไว้   ใช่ข้าคิดว่าผู้นำมู่คงไม่ปฏิเสธพวกเราใช่ไหม?  หนานกงเทียนพยักหน้าอย่างสงบ แม้น้ำเสียงของเขาจะดูเยือกเย็น แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจชัดเจน

  เหล่าศิษย์จากสำนักต่างๆหันมองหน้ากันเมื่อได้ยินเช่นนั้นพวกเขาไม่รู้ว่าเขามั่นใจพอจะทำแบบนั้นได้ยังไง

   เข้าร่วมการแข่งขันการประชุมพันธมิตรสวรรค์? 

   ตระกูลที่ไม่สำคัญแบบตระกูลหนานกงมีคุณสมบัติเพียงพองั้นหรือ? 

  ถ้าไม่นับเรื่องที่พวกเขามาช้าล่ะก็ไม่มีใครเชื่อว่าตระกูลหนานกงแข็งแกร่งพอจะกลายเป็นผู้นำพวกเขา

   อืม…เนื่องจากการแข่งรอบแรกจบลงไปแล้ว คงไม่เหมาะนักที่จะให้ตระกูลท่านเข้าแข่งขันในรอบที่สอง  มู่ฉิงเฟิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่กังวล

   แม้พวกเราจะมาช้าข้าก็ไม่เห็นด้วยกับที่ผู้นำมู่พูด ก็จริงที่ศาลาหยินหยาง หอคอยหลิงหยุน และนิกายเงาผ่านรอบแรกไปแล้ว ยังไงก็ตาม ศาลาเต๋าสวรรค์ยังไม่ได้ต่อสู้ในการแข่งขันรอบแรก ถูกไหม?  หนานกงเทียนพูดต่อ

   ฮ่าฮ่าตามกฎแล้ว ศาลาเต๋าสวรรค์สามารถผ่านเข้ารอบที่สองได้เลย เนื่องจากพวกเราได้ฉลากหมายเลข 7! 

   นั่นเพราะมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด7 แห่ง ถ้าหากมี 8 แห่ง ศาลาเต๋าสวรรค์ก็ต่อสู้กับกลุ่มที่ได้ฉลากหมายเลข 8! 

   ผู้นำตระกูลหนานกงท่านจงใจท้าทายศาลาเต๋าสวรรค์งั้นหรือ?  ไม่มีทางที่มู่ฉิงเฟิงจะไม่เข้าใจเจตนาของหนานกงเทียนในตอนนี้

   ถูกต้องผู้นำมู่ ท่านจะยอมรับคำท้าทายนี้หรือไม่?  หนานกงเทียนพยักหน้า แววตาของเขาสงบนิ่งราวกับสายน้ำ

  เหล่าศิษย์ตกตะลึงกับคำพูดของหนานกงเทียนพวกเขาไม่เข้าใจว่าหนานกงเทียนกล้าพอที่จะท้าทายศาลาเต๋าสวรรค์ได้ยังไง

   เขาท้าทายศาลาเต๋าสวรรค์? 

   นั่นเขาไม่มั่นใจเกินไปใช่ไหม? 

   ข้าได้ยินว่าฉือกูเหยียนเอาชนะอัจฉริยะอันดับหนึ่งอย่างหนานกงเฮาได้เมื่อหลายปีก่อนข้าสงสัยว่าเขากล้าท้าทายศาลาเต๋าสวรรค์ได้ยังไง? 

  เหล่าศิษย์ต่างสับสนเพราะตระกูลหนานกงเป็นตระกูลที่มีประวัติยาวนานที่สุดอย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของพวกเขายังห่างชั้นกับห้าสำนักหรืออาณาจักร

   ศาลาเต๋าสวรรค์กลัวการท้าทายงั้นหรือ? หนานกงเทียนไม่สนใจการถกเถียงของเหล่าศิษย์โดยรอบ และพูดต่ออย่างใจเย็น

   ข้าประหลาดใจที่ผู้นำตระกูลหนานกงในวันนี้ช่างหยาบคายนักอย่างไรก็ตาม การประชุมพันธมิตรสวรรค์มีเป้าหมายเพื่อจัดลำดับขั้นของสำนักต่างๆ หากท่านดึงดันจะเข้าร่วมให้ได้ ท่านไม่คิดจะแสดงพลังของตระกูลท่านให้เห็นหน่อยหรือ?  มู่ฉิงเฟิงขมวดคิ้วอย่างชัดเจน หลังจากได้ยินสิ่งที่หนานกงเทียนพูด

  อย่างไรก็ตามในฐานะผู้นำศาลาเต๋าสวรรค์และผู้จัดการประชุมพันธมิตรสวรรค์ขึ้นเขาเป็นคนที่หนักแน่น เขาจะไม่ตัดสินใจเพียงเพราะคำยั่วยุจากอีกฝ่าย

  เหล่าศิษย์ต่างพยักหน้าตามคำพูดของเขา

  ถ้าตระกูลหนานกงต้องการเข้าร่วมการแข่งขันพวกเขาต้องแข็งแกร่ง อย่างน้อยก็มีพลังพอที่จะเป็นผู้นำ

   ข้าเห็นด้วยท่านผู้นำมู่กรณีเช่นนี้ ข้าจะแสดงพลังของพวกเราให้เห็น!  หนานกงเทียนดูไม่ประหลาดใจนัก เขาตอบกลับและพยักหน้าให้กับคนที่อยู่ด้านหลัง

  ตูม!

  คนนับสิบยืนขึ้นในทันทีไม่ได้มีแสงส่องสว่างออกมาจากร่างกายพวกเขา เพียงแต่มีอักขระที่ซับซ้อนปรากฎขึ้นบนหน้าผากอย่างพร้อมเพรียง

   พวกเขาทั้งหมดอยู่ในระดับเซียน! 

   เป็นไปได้ยังไงตระกูลเล็กๆอย่างตระกูลหนานกง ทำไมถึงมีเซียนมากเช่นนี้?! 

   เป็นไปไม่ได้นี่มันเป็นไปไม่ได้ ตระกูลหนานกง …ทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้! 

  เหล่าศิษย์ตะลึงงันไปตามๆกันไม่ใช่แค่เหล่าศิษย์จากสำนักอื่นๆ แม้แต่คนจากสำนักทั้งห้าของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างก็พากันเบิกตากว้างด้วยความไม่เชื่อ

  เซียนมากกว่าสิบคน!

  พลังของพวกเขาเทียบเท่ากับสำนักใหญ่ๆได้เลยแม้จะเป็นเพียงคนในตระกูล ทุกคนอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น

   ผู้นำมู่ท่านคิดว่าพลังเท่านี้เพียงพอหรือไม่?  หนานกงเทียนพูดขึ้นอีกครั้ง และเหล่าคนที่ลุกขึ้นด้านหลังเขาก็ถอยกลับออกไป   ฮ่าฮ่าฮ่า…น่าสนใจ มู่ฉิงเฟิง ข้าเกรงว่าศาลาเต๋าสวรรค์ต้องสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งเสียแล้ว!  จู่ๆโม่ฉานฉือก็หัวเราะเสียงดังออกมา

  ในขณะเดียวกันคิ้วของมู่ฉิงเฟิงก็ขมวดตึงในทันที

  เขาจ้องไปที่หนานกงเทียนจากนั้นก็หันมองเหล่าผ้คนที่ตกตะลึงรอบๆ เขากำมือแน่นและเอ่ยพูด  ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น สิ่งทีเ่กิดขึ้นที่ศาลาเต๋าสวรรค์เมื่อ 2-3 เดือนก่อน มันส่งผลต่อศาลาเต๋าสวรรค์และเก้าขุนเขา ผู้นำตระกูลหนานกง ท่านจะช่วยชี้แจงเรื่องนั้นได้หรือไม่? 

   ถ้าศาลาเต๋าสวรรค์ชนะพวกเราข้ายินดีจะตอบทุกคำถามของท่าน ผู้นำมู่  หนานกงเทียนพยักหน้า

   ตกลงมีเพียงแค่ผู้ที่อายุน้อยกว่า 30 ปีเท่านั้นที่จะเข้าร่วมการแข่งขันได้ ผู้นำตระกูลหนานกง ใครจะเป็นผู้เข้าแข่งขันกับศาลาเต๋าสวรรค์?  เมื่อมู่ฉิงเฟิงได้ยินหนานกงเทียนตอบ เขาก็กัดฟันและพูดขึ้น   มู่เอ๋อร์เจ้าไป  หนานกงเทียนพยักหน้าให้กับคนที่อยู่ด้านหลัง

   รับทราบ ชายคนนั้นกระโจนลงไปในลานประลองทันที เขาสวมชุดคลุมสีเทาอมเขียว ดูธรรมดาเป็นอย่างมาก

  ใบหน้าของเขามีรอยแผลที่น่ากลัวชายคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหนานกงมู่ ลูกชายคนที่สองของตระกูลหลัก

   หนานกงมู่? มู่ฉิงเฟิงตกใจเมื่อได้เห็นเขา

  ในเรื่องของความแข็งแกร่งนั้นหนานกงมู่ยอดเยี่ยมทีเดียว

  เขาเข้าสู่ระดับจุติแล้วแม้จะมีอายุเพียง 20 ปี ความสามารถของเขาเป็นที่จับตามองของอาณาจักรทั้งสี่ แต่ก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะทั่วไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์

   หนานกงเทียนร้องเรียกการแข่งขันอยู่นานแต่สุดท้ายกลับส่งเด็กที่ไม่มีความสามารถลงแข่งงั้นหรือ?     เจ้าเคยได้ยินชื่อเด็กคนนี้มาก่อนหรือไม่? ั

   ไม่แต่ข้าได้ยินว่าอัจฉริยะในตระกูลหนานกงชื่อหนานกงเฮา ถ้าข้าเดาถูกชายคนนี้คือน้องชายของเขา! 

  เหล่าศิษย์เริ่มถกเถียงกันอีกครั้งเมื่อได้ยินชื่อหนานกงมู่พวกเขาประหลาดใจกับการตัดสินใจของหนานกงเทียน

   อาจารย์ข้าจะไป  ฉือกูเหยียนพูดขึ้นพร้อมกับก้าวออกมาช้าๆ

   ไม่ มู่ฉิงเฟิงส่ายหัวและพูดต่อด้วยน้ำเสียงสับสน  ข้าไม่คิดว่าทั้งปิงหยางและเหยียนซิวจะเข้าถึงระดับเซียนได้ แม้ว่าหยานฉิงจากนิกายเงาจะไม่ใช่เซียน แต่ว่าสามารถเอาชนะคนอื่นได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากเจ้ายังไม่เข้าถึงระดับเซียน พลังของเจ้าอยู่หลังพวกเขาหนึ่งขั้น คงจะดีกว่าถ้าตอนนี้เจ้าเก็บพลังไว้ก่อน! 

   ตระกูลหนานกงอาศัยอยู่อย่างสันโดษในสภาพแวดล้อมที่เย็นเยือกและเหี้ยมโหดมาหลายร้อยปีพวกเขาแทบจะไม่เคยออกห่างจากถื่น มีเพียงพวกรุ่นเล็กๆเท่านั้นที่เข้าร่วมการทดสอบกฎแห่งเต๋า และในวันนี้พวกเขาตัดสินใจปรากฎตัวออกมา นั่นหมายความว่าหนานกงมู่ต้องพัฒนาขึ้นมากแน่ ข้ากลัวว่า … ฉือกูเหยียนลังเลที่จะพูดความในใจออกมา

   เจ้าไม่ต้องกังวลไปข้าเห็นพลังของหนานกงมู่เมื่อหลายเดือนก่อน เขาไม่ได้แข็งแกร่งเกินไป นอกจากนี้ การแข่งขันนี้เป็นการแข่งสามรอบ อย่างเลวร้ายที่สุด มันก็ไม่สายเกินที่เจ้าจะเข้าร่วม! 

   เข้าใจแล้วกูเหยียนจะฟังการตัดสินใจของอาจารย์  ฉือกูเหยียนพยักหน้าเล็กน้อยและถอยกลับไป

  ในเวลาเดียวกันบางคนด้านหลังฉือกูเหยียนก็ก้าวออกมา คิ้วของเขาคมเข้มราวกับใบดาบ เขาสวมชุดปราชญ์สีขาวมีดาบคู่หนึ่งไขว้อยู่ด้านหลัง มันเป็นดาบสั้นและดาบยาว

   ศิษย์ชิวจิ้งเฟิง ยินดีรับคำท้า  ศิษย์หนุ่มแสดงความเคารพต่อหน้ามู่ฉิงเฟิงหลังจากก้าวออกมา

   เอาล่ะชิวจิ้งเฟิง แม้ข้าช่วยเจ้าเมื่อปีก่อน แต่ก็ต้องระวังการต่อสู้ในครั้งนี้ เจ้าได้เห็นเขาสู้เมื่อหลายเดือนก่อนแล้ว ข้าเชื่อว่าเจ้ารู้ถึงความแข็งแกร่งของหนานกงมู่ดี ถ้าไม่นับเรื่องขีดจำกัดสายเลือดของหยานฉิงล่ะก็ หนานกงมู่แข็งแกร่งกว่าเขาเสียอีก!  มู่ฉิงเฟิงพยักหน้าหลังจากมองชิวจิ้งเฟิง

   รับทราบข้าเข้าใจ ข้าจะต่อสู้ด้วยความระวัง! ชิวจิ้งเฟิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง

   ไปได้ 

   รับทราบ! ชิวจิ้งเฟิงพยักหน้าและดวงตาส่องสว่างขึ้น

  เขาไม่ได้พูดอะไรก่อนจะกระโจนลงไปด้านหน้าหนานกงมู่จากนั้นก็แสดงความเคารพต่อหน้าผู้คน

   ข้าชื่อชิวจิ้งเฟิงศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์อายุ 29 ปี และพึ่งเข้าสู่ระดับเซียนได้ไม่นาน!  ชิวจิ้งเฟิงแนะนำตัวเองและจับมือกับหนานกงมู่อย่างสุภาพ

   เขาอยู่ในระดับเซียน?! 

   ข้าจำได้ว่าเมื่อครึ่งปีก่อนเขาอยู่ในระดับจุติข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะอยู่ในระดับเซียนแล้ว! 

   เราไม่ควรประมาทศาลาเต๋าสวรรค์พวกเขาไม่เพียงแต่มีผู้ถูกเลือกอย่างฉือกูเหยียน แต่ยังมีชิวจิ้งเฟิงที่อยู่ในระดับเซียนอีกด้วย! 

  ศิษย์ของสำนักต่างพากันประหลาดใจหลลังจากได้ยินคำประกาศของชิวจิ้งเฟิงเป็นเรื่องที่ยากมาก ที่จะเข้าถึงระดับเซียนได้ก่อนอายุ 30

   ดูเหมือนตาเฒ่ามู่จะเตรียมพร้อมมาอย่างดี! โม่ฉานฉือ พูดในขณะที่จ้องไปทางชิวจิ้งเฟิงและมู่ฉิงเฟิงที่ดูสงบเสงี่ยม ดูเหมือนเขาเองก็คิดหนักเช่นกัน

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset