Gate of God – ตอนที่ 872 ไม่เกี่ยวข้องอีกต่อไป

  แสงสีแดงปรากฎขึ้นบนฝ่ามือของผู้อาวุโส

  ทันใดนั้นผู้ที่ยืนอยู่ด้านหลังหนานกงเฮารีบเข้ามาขวางผู้อาวุโสไว้ทันที

   หนานกงเทียน! 

   เขาเองก็อยู่ในระดับเซียน! 

   ดูเหมือนเขาจะแข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสศาลาเต๋าสวรรค์ด้วย?! 

  ทุกคนต่างไม่คาดคิดว่าวันนี้จะมีเซียนที่พวกเขาไม่รู้จักปรากฎตัวขึ้นมามากขนาดนี้

   ผู้อาวุโสศาลาเต๋าสวรรค์คิดจะรังแกคนอื่นหรือไงกัน? หนานกงเทียนพูดขึ้นด้วยความสงบ เขาไม่แม้แต่จะหันไปมองผู้อาวุโส

   เจ้า… ผู้อาวุโสต้องการเข้าไปต่อสู้อีกครั้งแต่เขาเห็นสายตาของมู่ฉิงเฟิง

   หัวหน้าตระกูลหนานกงท่านปิดบังพลังได้ดีเหลือเกิน  มู่ฉิงเฟิงกล่าวขึ้นมา   ท่านก็ชมข้าเกินไป หนานกงเทียนยิ้ม มองไปรอบๆก่อนจะพูดต่อ  ในเมื่อท่านเป็นผู้จัดการประลองนี้ขึ้น ท่านคิดจะเอาเปรียบตระกูลหนานกงในเรื่องจำนวนงั้นหรือ? 

   ท่านไม่คิดว่าท่านกล่าวเกินจริงไปหน่อยงั้นรึ? 

   ข้าพูดผิดงั้นรึที่พวกผู้อาวุโสเข้ามาโจมตีเฮาเอ๋อร์เพราะกลัวแพ้ในการประลองงั้นสิ?  หนานกงเทียนเยาะเย้ย

   เจ้า… 

   มากเกินไปแล้วนะ! 

   หนานกงเฮาทำเรื่องเลวร้าวกับศาลาเต๋าสวรรค์ยิ่งไปกว่านั้นเขาเป็นศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ ทำไมพวกเราจะทำอะไรเขาไม่ได้? 

   ฮ่าฮ่าดูเหมือนศาลาเต๋าสวรรค์จะวางแผนไว้จริงๆสินะ อย่างไรก็ตามตระกูลหนานกงไม่มีทางหวาดกลัว!  หนานกงเทียนโบกมือ จากนั้นคนจำนวนหนึ่งก็ยืนขึ้นมา

  ศิษย์จากสำนักอื่นๆต่างมองหน้ากันพวกเขาถอยกลังออกไปโดยไม่รู้ตัว

   การประชุมพันธมิตรสวรรค์จะกลายเป็นการต่อสู้ที่ยุ่งเหยิงแล้วงั้นหรือ? เสียงของเต๋าฮุนดังขัดขึ้นมา

   ผู้อาวุโสถอยกลับมาก่อน มู่ฉิงเฟิงกล่าว พร้อมหันไปมองหนานกงเทียนอีกครั้ง  หนานกงเทียน เจ้าคิดจะส่งหนานกงเฮาเข้าร่วมในรอบที่สามจริงๆงั้นหรือ? 

   แน่นอน หนานกงเทียนพยักหน้า

   เจ้าคิดจะส่งหนานกงเฮาแต่เจ้ารู้ไหมว่าแม้หนานกงเฮาจะเป็นคนตระกูลหนานกง แต่เขาก็เป็นศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์เช่นกัน? 

   หมายความว่าพวกท่านกลัวเฮ่าเอ๋อร์ของข้าและต้องการให้เฮ่าเอ๋อร์เป็นตัวแทนของศาลาเต๋าสวรรค์งั้นสิ? หนานกงเทียนยิ้มแล้วตอบคำถาม

   กฎของศาลาเต๋าสวรรค์คือให้ความสำคัญกับสำนักมากกว่าตระกูลตัวเองเจ้ารู้เรื่องนี้หรือไม่?  มู่ฉิงเฟิงกำหมัดแน่น เขารู้ว่าหนานกงเทียนพยายามยั่วยุเขา

  อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ปัจจุบัน….

  เขาต้องทน

   ศาลาเต๋าสวรรค์ช่างไร้ยางอายจริงๆ! หนานกงเทียนหัวเราะ  งั้น ถ้าให้เฮาเอ๋อร์ออกจากศาลาเต๋าสวรรค์ล่ะ? 

   เจ้าคิดว่าจะทำอะไรตามใจได้ง่ายๆงั้นหรือ? 

   หรือว่าศาลาเต๋าสวรรค์จะกลัว? 

   กฎย่อมเป็นกฎพวกเราไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรทั้งนั้น  มู่ฉิงเฟิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเจ้าสำนักทั้งห้าความอดทนของเขานั้นหาผู้ใดเปรียบได้ยาก

   น่าสนใจ!ดูเหมือนว่า… 

   ท่านพ่อข้าจะแก้ปัญหานี้เอง ข้าเป็นคนที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น  ในที่สุดหนานกงเฮาก็พูดออกมา ก่อนที่เขาจะค่อยๆเดินไปหาหนานกงเทียน   เฮ่าเอ๋อร์ผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้… 

   ข้ารู้ 

   ได้งั้นฝากเจ้าจัดการที่เหลือด้วย  หนานกงเทียนพยักหน้า เขาไม่พูดอะไรอีกและนั่งลงบนที่หน้าตัวเอง

  มู่ฉิงเฟิงขมวดคิ้วมองหนานกงเฮาและฉือกูเหยียนด้วยความช่วยไม่ได้เขาไม่เคยอยู่ในสถานการณ์ลำบาเช่นนี้มาก่อน เขามีเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น เพราะเขารู้ว่าถ้าหนานกงเฮาเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้…

  ศาลาเต๋าสวรรค์จะแพ้แน่นอน!

  ทันใดนั้นเองเสียงของหนานกงเฮาดังขึ้น อาจารย์ท่านรู้ไหมว่าทำไมข้ายังมีชีวิต? 

   ท่านย่อมรู้ว่าข้าเป็นคนที่ใช้วิชาสังเวยเลือดเพื่อเปิดประตูสวรรค์เช่นนั้นข้าย่อมรู้วิธีที่จะเอาชีวิตรอดและวิธีที่จะออกมา ท่านพอใจกับคำตอบหรือไม่?  หนานกงเฮาพูดอย่างใจเย็น แต่มู่ฉิงเฟิงดูเหมือนกำลังคิดหนักกับคำตอบของหนานกงเฮา   เจ้ากำลังพยายามจะพูดอะไรกันแน่? ในที่สุดมู่ฉิงเฟิงก็ถามออกมา

   ถ้าอาจารย์ต้องการให้ข้าเป็นตัวแทนศาลาเต๋าสวรรค์ข้าจะไม่ปฏิเสธ เพราะกฎของสำนัก อย่างไรก็ตามถ้าท่านไม่ได้ต้องการให้ข้าเป็นตัวแทนของศาลาเต๋าสวรรค์ในการแข่งขันรอบต่อไป ในฐานะคนของตระกูลหนานกง ข้ามีสิทธิ์ที่จะสู้เพื่อความรุ่งโรจน์ของตระกูล!  หนานกงเฮายังคงพูดต่อไป

   ข้าเข้าใจ แน่นอนว่ามู่ฉิงเฟิงย่อมรู้ว่าหนานกงเฮาพยายามจะพูดอะไร

  ถ้าศาลาเต๋าสวรรค์ส่งหนานกงเฮาไปต่อสู้หนานกงเฮาย่อมยอมแพ้เพื่อให้ตระกูลหนานกงชนะแน่นอน แต่อีกทางเขาก็ไม่สามารถห้ามหนานกงเฮาสู้เพื่อตระกูลตัวเองได้

   ข้าขอถามท่านอีกครั้งท่านต้องการให้ข้าสู้ให้ศาลาเต๋าสวรรค์หรือไม่?  หนานกงเฮาแสดงความเคารพมู่ฉิงเฟิงก่อนจะพูดออกมา

   เจ้าไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นในเมื่อเจ้าแสดงความเคารพข้าแล้ว ข้าจะถือว่าจากนี้เจ้าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับศาลาเต๋าสวรรค์อีก!  ในที่สุดมู่ฉิงเฟิงก็ตัดสินใจได้

   ข้าอยากจะขอบคุณอาจารย์ที่เคยสั่งสอนข้า หนานกงเฮาพยักหน้าเบาๆและโค้งให้มู่ฉิงเฟิงอีกึีั้ง

  ศิษย์จากสำนักอื่นๆต่างเงียบเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นวิธีของหนานกงเฮานั้นสันติมากแต่ได้ผลอย่างดี

   เขากำลังจะทำอะไรกันแน่? 

   ตระกูลหนานกงไม่กลัวว่าศาลาเต๋าสวรรค์จะล้างแค้นพวกเขางั้นหรือ? 

   กูเหยียนกลับมาก่อน มู่ฉิงเฟิงไม่ได้พูดอะไรอีก ในเมื่อทุกอย่างเป็นแบบนี้เขาก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะหยุดมันได้

   อาจารย์ไม่เป็นไร  ฉือกูเหยียนส่ายหน้าและค่อยๆยกดาบขึ้นอีกครั้ง

   กูเหยียน.. 

   โปรดวางใจ…    มู่ฉิงเฟิงต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่ฉือกูเหยียนขัดเขาอีกครั้ง ดวงตาของนางส่องประกายแสงห้าสี

  ทุกคนรอบๆลานประลองต่างรู้สภาพของฉือกูเหยียนในตอนนี้ดี

  นางพึ่งสู้กับฉือกูเหยียนในรอบที่แล้วไป

  ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้…

  สู้ต่อ?

  ไม่มีใครเชื่อว่าฉือกูเหยียนจะชนะ

  อย่างไรก็ตามความแน่วแน่ในดวงตาของนางทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง

   สภาพตอนนี้เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก หนานกงเฮามองฉือกูเหยียนพร้อมกับส่ายหน้า

   ข้าจะรู้ได้ยังไงถ้าไม่ลอง? ฉือกูเหยียนตอบกลับเรียบๆ

   เจ้าต้องทำขนาดนี้เพื่อศาลาเต๋าสวรรค์ด้วยงั้นหรือ? แสงสีแดงเลือดส่องประกายออกมาจากดวงตาของหนานกงเฮา   ถ้าข้าไม่ทำก็ต้องมีคนอื่นที่ทำอยู่ดี ฉือกูเหยียนตอบพร้อมส่ายหน้า เงาด้านหลังของนางสั่นไหวราวกับพร้อมจะหายไปทุกเมื่อ

   ข้าเข้าใจ หนานกงเฮาไม่ได้พูดอะไรต่อไป เขาค่อยๆเดินเข้าไปในลานประลองและหยุดต่อหน้าฉือกูเหยียนอย่างรวดเร็ว

  ขณะเดียวกันปิงหยางกำมือแน่นด้วยความโกรธ

   หนานกงเฮาเจ้ามันสารเลว! รู้ว่าพี่เหยียนสู้ไม่ไหวแล้ว ยังคิดจะเอาเปรียบนางอีก!  ขณะที่นางพูดนางก็ปลดปล่อยพลังออกมาโดยไม่ทันรู้ตัว

   หยางเอ๋อร์ถ้าเป็นเจ้าจะทำยังไงถ้าต้องสู้กับหนานกงเฮา?  เฉียนเยว่เหลือบตามองหนานกงเฮาและฉือกูเหยียน

   ข้าจะตีเขาให้ตาย! ปิงหยางตอบโดยไม่คิด

   ถ้าเขาแข็งแกร่งกว่าเจ้าล่ะ? 

   เป็นไปไม่ได้ข้ารู้ว่าหนานกงเฮาแข็งแกร่งแค่ไหน เขาอยู่แค่ระดับจุติสูงสุดเท่านั้น… 

   ข้าพูดว่าถ้า เฉียนเยว่ขัดปิงหยาง

   ข้าก็จะจัดการเขาอยู่ดี! ปิงหยางยังคงพูดอย่างมั่นใจ

   ถ้าข้าบอกให้เจ้ายอมแพ้ล่ะ? 

   ยอมแพ้? ปิงหยางสับสน

   ใช่ยอมแพ้ 

   ทำไมท่านแม่ต้องการให้ข้ายอมแพ้ล่ะ? 

   เจ้าจะรู้คำตอบของคำถามนั้น…เร็วๆนี้ เฉียนเยว่ส่ายหน้า หลังจากใช้เวลากับปิงหยางมาหลายวันนางรู้ดีว่าปิงหยางหัวแข็ง และมั่นใจในตัวเองมาก

  ซึ่งมันเหมือนกับ….นางมาก

  ปิงหยางเงียบไปนางไม่ได้พูดอะไรอีกแต่หันไปมองฉือกูเหยียนและหนานกงเฮาอีกครั้ง ด้วยดวงตาอันเป็นประกาย

  สายลมหนาวพัดผ่านยอดภูเขา  ร่างสองร่างยืนเผชิญหน้ากันในลานประลอง

  ฉือกูเหยียนบนร่างเต็มไปด้วยเลือดใบหน้าเหนื่อยอ่อนมาก อย่างไรก็ตาม ร่างกายของนางกลับสงบมาก

  หนานกงเฮายังไม่เคลื่อนไหวเช่นกันเขาไม่พูดหรือโจมตีฉือกูเหยียน ราวกับกำลังรอให้ฉือกูเหยียนอาการดีขึ้น หรือก็คือรอให้ฉือกูเหยียนโจมตีเขาก่อน

  เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

  ห้านาทีผ่านไป

  เงาด้านหลังนางกลับมามั่นคงอีกครั้งความงดงามทำของนางทำให้ใครที่เห็นรู้สึกตกตะลึงเหมือนเดิม

  ฉือกูเหยียนจับดาบอย่างหนักแน่นจากนั้นแสงห้าสีก็ปรากฎขึ้นในดวงตาของนางอีกครั้ง มันหมุนวนอยู่ในดวงตาของนาง

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset