Gate of God – ตอนที่ 875 ผู้ที่ปรากฎตัว

   เขาแข็งแกร่งเกินไป! 

   พวกเขาไม่มีโอกาสเลยสักนิด! 

   พลังสายเลือด…เขามีพลังแบบนั้นได้ยังไง?! 

  ศิษย์โดยรอบต่างประหลาดใจอย่างมากพวกเขาหวาดกลัวกับสิ่งที่เห็น

   ท่านโม่เราควรทำยังไงดี?  ผู้อาวุโสแห่งหุบเขาฟู่ซี่หันมองโม่ฉานฉืออย่างกังวล

  แม้ว่าหุบเขาฟู่ซี่จะเสียสิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขันแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะกลายเป็นคนนอกในการประชุม

  ความสมดุล!

  พื้นฐานการดำรงอยู่ของสำหนักทั้งห้าในดินแดนศักดิ์สิทธิ์

  ความขัดแย้งระหว่างสำนักทั้งห้าที่ไม่เคยข้ามเส้นกันตลอดพันปีที่ผ่านมานั้นอาจจะถูกทำลายลงในตอนนี้   ผู้ที่โดดเด่นจะถูกริษยาจากผู้คน! โม่ฉานฉือกำมือของเขาแน่นแล้วพูดอย่างเยือกเย็น

   ท่านโม่ท่านไม่ผิด แต่ในตอนนี้ หนานกงเฮาเป็น …  กู่หยวนมองที่หนานกงเฮา เขาเข้าใจถึงความหมายที่โม่ฉานฉือพูด อย่างไรก็ตามมันไม่สามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ อย่างเช่นตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าหนานกงเฮาที่ไม่ใช่คนที่สามารถควบคุมได้

   สำนักทั้งห้าจะต้องไม่ถูกทำลายลงถ้าจำเป็นก็ต้องรวมสำนักทั้งห้าเข้าด้วยกัน 

   เข้าใจแล้ว กูหยวนพยักหน้าและหยุดถามเพิ่ม เพราะเขารู้ว่านี่เป็นทางออกเดียวในตอนนี้

  ในขณะเดียวกันที่ศาลาเต๋าสวรรค์

  มู่ฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นแม้เขาจะพยายามปกป้องผลที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของโลกด้วยาการจัดประชุมพันธมิตรสวรรค์ขึ้น แต่เขาก็มีเป้าหมายอีกประการหนึ่ง  อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะไม่สามารถควบคุมได้

  ทั้งเรื่องที่เหยียนซิวและปิงหยางเข้าถึงพลังระดับเซียนเหล่าเซียนของตระกูลหนานกงที่มีมากกว่าสิบคน พวกเขามีพลังทัดเทียมสำนักทั้งห้าของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ว่าได้

  และยิ่งไปกว่านั้นที่แม้แต่หนานกงมู่และหนานกงเฮษก็ปรากฎตัวขึ้นจนทำให้ศาลาเต๋าสวรรค์ต้องจนมุม

  หนานกงเฮา…

  แข็งแกร่งเกินไป!

   เจ้ายังมีชีวิตอยู่หยานฉิง? 

   … 

   เอาล่ะถึงตาของข้าบ้าง เตรียมตัวตายได้เลย หนานกงเฮา!  คำพูดของปิงหยางขัดจังหวะความคิดของมู่ฉิงเฟิง และดึงผู้คนกลับสู่การต่อสู้อีกครั้ง

   ปิงหยางอย่า!  ฉือกูเหยียนหวาดหวั่นเมื่อเห็นปิงหยางพุ่งเข้าหาหนานกงเฮา นางต้องการหยุดปิงหยางแต่มันก็สายเกินไป

  หนานกงเฮาเผยยิ้มเล็กน้อยท่าทีของเขาสบายๆพร้อมกับแสงสีเลือดที่สะท้อนออกมาจากดวงตา

  แสงที่อ่อนนุ่มส่องสว่างออกมาเล็กน้อย

  ปิงหยางถูกส่งตัวไปข้างหลัง

  เลือดไหลออกที่ไหล่ของนางถ้านางไม่ได้อยู่ในระดับเซียนคงแย่กว่านี้แน่

   หยางเอ๋อร์! 

   ปิงหยาง! 

  เฉียนยู่และหลินมู่ไป่ตะโกนออกมาพร้อมกัน

  ในตอนนั้นเองฉือกูเหยียนก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง หางงูห้าสีฟาดไปที่หนานกงเฮาราวกับสายฟ้า

  ตูม!หนานกงเฮาล่าถอยแต่ก็เพียงก้าวเดียวเท่านั้น

  อย่างไรก็ตามการโ๗มตีของฉือกูเหยียนไม่ได้จบแค่นั้น หลังจากการโจมตีครั้งแรก หางของนางก็สั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง

  ตูมตูมตูม…เสียงฟ้าผ่าสั่นสะเทือนไปทั่วยอดเขา พื้นดินแตกร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ

  อย่างไรก็ตามมันเป็นการโจมตีที่ไม่นานนัก

  นั่นเพราะการควบคุมพลังสายเลือดต้องใช้พลังมากมันทำให้ร่างของนางซีดขาวจนกระอั่กเลือดออกมา

   พรวด! เลือดพุ่งไปทั่วอากาศ

  ในขณะนั้นเองมีเสียงที่เหมือนกับโลหะกระทบกันดังขึ้น

  หางที่แกว่งไปมาหยุดเคลื่อนไหวเพราะมีมือข้างหนึ่งจับเอาไว้แน่น

  อย่างไรก็ตามในตอนนั้นเองมีใครคนหนึ่งปรากฎตัวขึ้นข้างๆหนานกงเฮาเขาเร็วดุจแสงและมีรอยเลือดที่มุมปาก แต่นั่นไม่ทำให้ความเร็วของเขาลดลงเลย

  เขาปล่อยหมัดออกไป  ตูม!หนานกงเฮาถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แต่ดวงตาของเขายังคงเป็นประกาย

  มันเป็นการต่อสู้ที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อย

  การต่อสู้แบบหนึ่งต่อสามปิงหยาง, ฉือกูเหยียนและหยานฉิงไม่สามารถร่วมมือการต่อสู้กันได้ดีนัก

  หลังจากหยานฉิงต่อยออกไปครั้งแรกเขาเตรียมจะต่อยอีกหมัดตามไปในทันที

  อย่างไรก็ตามเขายังไม่ทันได้ต่อยอีกครั้งเพราะดาบของหนานกงเฮานั้นไวยิ่งกว่า หยานฉิงถูกส่งกระเด็นออกมาแทบจะในทันที

  ในเวลาเดียวกันหนานกงเฮาก็ดึงมือกลับมาแทบจะในทันที สัญลักษณ์สีทองไหลเวียนอยู่บนชุดเกราะของเขาขณะที่ดึงฉือกูเหยียนเข้ามาหาตัวเอง

   พี่เหยียน! ปิงหยางตะโกนขึ้นอย่างกระวนกระวายพร้อมแทงหอกออกไปข้างหน้า อย่างไรก็ตามหอกของนางไม่สามารถแทงทะลุหอกของหนานกงเฮาได้  ตูม!หนานกงเฮาเตะปิงหยางออกไปให้พ้นทาง ร่างของฉือกูเหยียนเองก็กระแทกลงพื้นอย่างแรงแทบจะในเวลาเดียวกัน หน้าของนางซีดขาว

   เขาแข็งแกร่งมาก! 

   เป็นไปไม่ได้ที่ฉือกูเหยียนจะเอาชนะหนานกงเฮาต่อให้ร่วมมือกับหยานฉิงและปิงหยางก็ตาม! 

   ทำไมหนานกงเฮาถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้?! 

  ศิษย์ที่ยืนอยู่รอบๆต่างส่ายหน้าขณะมองฉือกูเหยียนและปิงหยางที่ล้มอยู่บนพื้นรวมถึงหยานฉิงที่พยายามจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง

  มันชัดเจนถึงความแตกต่างของพลัง

   สารเลวหนานกงเฮาพี่เหยียน…ท่านเป็นอะไรไหม?  เลือดไหลออกมาจากริมฝีปากของปิงหยาง แต่ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแน่วแน่

   ข้า…ขาไม่เป็นอะไร… ฉือกูเหยียนต้องการจะลุกขึ้นแต่แขนของนางสั่นไม่ยอมหยุด

  เหล่าผู้อาวุโสศาลาเต๋าสวรรค์ต่างกำมือแน่น

   ท่านมู่พวกเราจะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้! 

   ใช่…หนานกงเฮาแข็งแกร่งเกินไปยิ่งไปกว่านั้นฉือกูเหยียนนางบาดเจ็บหนัก…ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป… 

   พวกท่านคิดว่านางจะยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆงั้นหรือ? มู่ฉิงเฟิงกัดริมฝีปากแน่น เขารู้สิ่งที่ผู้อาวุโสคนอื่นๆกังเวล แต่เขารู้นิสัยของฉือกูเหยียนดี

  นางไม่มีทางยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆ

  ตูม!หยานฉิงที่ลุกขึ้นมาได้พุ่งเข้าไปหาหนานกงเฮาทันที แต่เขาก็ถูกส่งกระเด็นออกมาอีกครั้ง ขณะที่เขาร่วงลงบนพื้นได้มีดาบเล่มหนึ่งแทงเข้าไปบริเวณหน้าอกของเขา

   อั้ก! หยานฉิงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆเช่นกัน

   ช่างเป็นร่างกายที่แข็งแกร่งมาก! หนานกงเฮามองดาบในมือที่ค่อยๆแทงเข้าไปในร่างของหยานฉิง เขาไม่ไดต้องการฆ่าหยานฉิง แต่เขาไม่อยากให้หยานฉิงลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง

   พี่เหยียนท่านพักไปก่อนเดี๋ยวข้าจะหยุดเขาเอง!  ปิงหยางหยิบยาออกมาและใส่มันลงในปากของฉือกูเหยียนทันที จากนั้นนางก็ก้าวเดินออกไปข้างเพื่อป้องกันฉือกเหยียนเอาไว้

   ปิงหยางเจ้าโตขึ้นมาก… ฉือกูเหยียนต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่นางก็เลือกที่จะเงียบ

   เข้ามาเลยหนานกงเฮาถ้ามีอาวุธข้าอาจจะสู้เจ้าไม่ได้ เจ้ากล้าสู้ข้าด้วยมือเปล่าหรือเปล่าล่ะ?!  ขณะที่พูดนางก็แทงหอกในมือลงไปบนพื้น

   องค์หญิงท่านต้องการจะซื้อเวลางั้นหรือ? 

   แค่ตอบมาว่าเจ้ากล้าหรือไม่!     ได้ตามที่ท่านปรารถนา 

   งั้นก็เข้ามา! ปิงหยางกัดฟันพร้อมพุ่งไปหาหนานกงเฮา เขาได้เก็บดาบไปแล้ว

  มือของปิงหยางปกคลุมไปด้วยด้วยเปลวเพลิงสีแดง

  ฟุ้บ!เกิดเสียงดังขึ้น

  ไฟสีแดงบนมือของปิงหยางหายไปในทันทีก่อนที่หมัดของหนานกงเฮาจะต่อยเข้าที่หน้าของปิงหยาง

  ตูม!ร่างของนางกระเด็นออกมาไกล

   หยางเอ๋อร์… เฉียนยู่ต้องการจะพูดบางอย่างแต่นางเงียบทันทีเมือเห็นแสงในดวงตาของปิงหยาง

  ปิงหยางลุกขึ้นอีกครั้งนางไม่สนใจชุดเกราะที่แตกออกของตัวเอง

   ไม่เลวอีกครั้ง!  นางพุ่งเข้าไปหาหนานกงเฮาอีกครั้ง

  แต่ผลลัพธ์นั้นก็ออกมาเช่นเดิม   แค่กแค่ก หนานกงเฮา…การต่อสู้ด้วยมือเปล่าของเจ้าไม่เลวเลย แต่ข้าไม่ยอมแพ้ง่ายๆ! 

  ตูม!

   อีกครั้ง! 

  ตูม!

   … 

  ปิงหยางลุกขึ้นและพุ่งไปข้างหน้าและกระเด็นกลับมาหลายครามันไม่ได้นานมาก แต่เลือดที่ไหลรินอยู่บนพื้นนั้นเกินกว่าที่ใครจะทนดูได้

   ปิงหยาง… หลินมู่ไป่กัดฟันแน่น

  เขาต้องการจะหยุดการต่อสู้แต่เขาเองก็เหมือนเฉียนยู่ เขารู้ความคิดของปิงหยางดี

   เห็นๆอยู่ว่ายังไงก็ไม่มีทางเอาชนะได้ทำไมนางถึงยังสู้ต่ออีก! 

   ใช่จะมีอะไรเปลี่ยนไปต่อให้ฉือกูเหยียนจะอาการดีขึ้นมาเล็กน้อย? เห็นชัดเจนว่าหนานกงเฮานั้นแข็งแกร่งกว่าหนานกงมู่!     ใช่การกระทำของนางนั้นไร้ประโยชน์จริงๆ 

  ศิษย์ที่อยู่รอบๆต่างรู้สึกสับสนเมื่อเห็นการกระทำของปิงหยาง

  มันเป็นเรื่องโง่เง่าที่คิดจะสู้ต่อ…

   นางลุกขึ้นอีกครั้ง?เป็นไปได้ยังไง นี่มันครั้งที่สิบสามแล้ว! 

  ตูม!

  ปิงหยางล้มลงบนพื้นอีกครั้งเกราะบนร่างของนางแตกละเอียด

   ครั้งที่สิบสี่แล้ว! 

   อ..อ…อีกครั้ง! ปิง หยาง แทบจะหายใจไม่ทันแล้ว หน้าของนางกลายเป็นสีม่วง ผมเต็มไปด้วยเลือด นางไม่เหลือภาพลักษณ์ขององค์หญิงอีกต่อไป

  แต่นางก็ยังเลือกที่จะลุกขึ้นมาอีกครั้ง

   ปิงหยางพวกเราต้องร่วมมือกัน!  แขนข้างหนึ่งพยุงฉือกูเหยียนเอาไว้   พี่เหยียน…ข้า…ข้าไม่เป็นไรท่านพักเถอะ….  ปิงหยางตัวสั่น แต่นางยังคงส่ายหัว

   แม้พวกเราจะแพ้ข้าก็หวังว่าพวกเราจะแพ้ด้วยกัน!  ฉือกูเหยียนลูบหัวของปิงหยาง พร้อมกับเอาเลือดที่เปรอะเปื้อนผมของนางออก จากนั้นนางก็หันไปมองหนานกงเฮา  นี่เป็นการโจมตีครั้งสุดท้าย พวกเราจะร่วมมือกัน! 

   ตกลง! 

  ตูม!แสงสีแดงปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าเหนือภูเขา

  ในเวลาเดียวกันสองร่างก็กระเด็นขึ้นไปบนอากาศ

   พี่เหยียน..แค่ก…พวกเราแพ้แล้ว… ปิงหยางไม่อยากยอมรับความจริงแต่นางยังคงยิ้มออกมาจางๆ

   อืมพวกเราแพ้แล้ว… ฉือกูเหยียนพยักหน้าพร้อมกับจับมือของปิงหยางเอาไว้ ใบหน้าของนางยังคงมีรอยยิ้มเช่นกัน  ตูม!ทันใดนั้นสายฟ้าสีม่วงก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า มันมาพร้อมกับพายุอันรุนแรง พัดเศษฝุ่นที่ปกคลุมลานประลองกระเด็นออกไปทั่ว

   เชี่ยเอ้ยสารเลวหน้าในกล้ามาทำร้ายผู้หญิงของข้า! 

  ……………………………………..

   เขาแข็งแกร่งเกินไป! 

   พวกเขาไม่มีโอกาสเลยสักนิด! 

   พลังสายเลือด…เขามีพลังแบบนั้นได้ยังไง?! 

  ศิษย์โดยรอบต่างประหลาดใจอย่างมากพวกเขาหวาดกลัวกับสิ่งที่เห็น

   ท่านโม่เราควรทำยังไงดี?  ผู้อาวุโสแห่งหุบเขาฟู่ซี่หันมองโม่ฉานฉืออย่างกังวล

  แม้ว่าหุบเขาฟู่ซี่จะเสียสิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขันแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะกลายเป็นคนนอกในการประชุม

  ความสมดุล!   พื้นฐานการดำรงอยู่ของสำหนักทั้งห้าในดินแดนศักดิ์สิทธิ์

  ความขัดแย้งระหว่างสำนักทั้งห้าที่ไม่เคยข้ามเส้นกันตลอดพันปีที่ผ่านมานั้นอาจจะถูกทำลายลงในตอนนี้

   ผู้ที่โดดเด่นจะถูกริษยาจากผู้คน! โม่ฉานฉือกำมือของเขาแน่นแล้วพูดอย่างเยือกเย็น

   ท่านโม่ท่านไม่ผิด แต่ในตอนนี้ หนานกงเฮาเป็น …  กู่หยวนมองที่หนานกงเฮา เขาเข้าใจถึงความหมายที่โม่ฉานฉือพูด อย่างไรก็ตามมันไม่สามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ อย่างเช่นตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าหนานกงเฮาที่ไม่ใช่คนที่สามารถควบคุมได้

   สำนักทั้งห้าจะต้องไม่ถูกทำลายลงถ้าจำเป็นก็ต้องรวมสำนักทั้งห้าเข้าด้วยกัน 

   เข้าใจแล้ว กูหยวนพยักหน้าและหยุดถามเพิ่ม เพราะเขารู้ว่านี่เป็นทางออกเดียวในตอนนี้  ในขณะเดียวกันที่ศาลาเต๋าสวรรค์

  มู่ฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นแม้เขาจะพยายามปกป้องผลที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของโลกด้วยาการจัดประชุมพันธมิตรสวรรค์ขึ้น แต่เขาก็มีเป้าหมายอีกประการหนึ่ง

  อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะไม่สามารถควบคุมได้

  ทั้งเรื่องที่เหยียนซิวและปิงหยางเข้าถึงพลังระดับเซียนเหล่าเซียนของตระกูลหนานกงที่มีมากกว่าสิบคน พวกเขามีพลังทัดเทียมสำนักทั้งห้าของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ว่าได้

  และยิ่งไปกว่านั้นที่แม้แต่หนานกงมู่และหนานกงเฮษก็ปรากฎตัวขึ้นจนทำให้ศาลาเต๋าสวรรค์ต้องจนมุม

  หนานกงเฮา…

  แข็งแกร่งเกินไป!

   เจ้ายังมีชีวิตอยู่หยานฉิง? 

   …    เอาล่ะถึงตาของข้าบ้าง เตรียมตัวตายได้เลย หนานกงเฮา!  คำพูดของปิงหยางขัดจังหวะความคิดของมู่ฉิงเฟิง และดึงผู้คนกลับสู่การต่อสู้อีกครั้ง

   ปิงหยางอย่า!  ฉือกูเหยียนหวาดหวั่นเมื่อเห็นปิงหยางพุ่งเข้าหาหนานกงเฮา นางต้องการหยุดปิงหยางแต่มันก็สายเกินไป

  หนานกงเฮาเผยยิ้มเล็กน้อยท่าทีของเขาสบายๆพร้อมกับแสงสีเลือดที่สะท้อนออกมาจากดวงตา

  แสงที่อ่อนนุ่มส่องสว่างออกมาเล็กน้อย

  ปิงหยางถูกส่งตัวไปข้างหลัง

  เลือดไหลออกที่ไหล่ของนางถ้านางไม่ได้อยู่ในระดับเซียนคงแย่กว่านี้แน่

   หยางเอ๋อร์! 

   ปิงหยาง! 

  เฉียนยู่และหลินมู่ไป่ตะโกนออกมาพร้อมกัน

  ในตอนนั้นเองฉือกูเหยียนก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง หางงูห้าสีฟาดไปที่หนานกงเฮาราวกับสายฟ้า

  ตูม!หนานกงเฮาล่าถอยแต่ก็เพียงก้าวเดียวเท่านั้น

  อย่างไรก็ตามการโ๗มตีของฉือกูเหยียนไม่ได้จบแค่นั้น หลังจากการโจมตีครั้งแรก หางของนางก็สั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง

  ตูมตูมตูม…เสียงฟ้าผ่าสั่นสะเทือนไปทั่วยอดเขา พื้นดินแตกร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ

  อย่างไรก็ตามมันเป็นการโจมตีที่ไม่นานนัก

  นั่นเพราะการควบคุมพลังสายเลือดต้องใช้พลังมากมันทำให้ร่างของนางซีดขาวจนกระอั่กเลือดออกมา

   พรวด! เลือดพุ่งไปทั่วอากาศ

  ในขณะนั้นเองมีเสียงที่เหมือนกับโลหะกระทบกันดังขึ้น

  หางที่แกว่งไปมาหยุดเคลื่อนไหวเพราะมีมือข้างหนึ่งจับเอาไว้แน่น  อย่างไรก็ตามในตอนนั้นเองมีใครคนหนึ่งปรากฎตัวขึ้นข้างๆหนานกงเฮาเขาเร็วดุจแสงและมีรอยเลือดที่มุมปาก แต่นั่นไม่ทำให้ความเร็วของเขาลดลงเลย

  เขาปล่อยหมัดออกไป

  ตูม!หนานกงเฮาถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แต่ดวงตาของเขายังคงเป็นประกาย

  มันเป็นการต่อสู้ที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อย

  การต่อสู้แบบหนึ่งต่อสามปิงหยาง, ฉือกูเหยียนและหยานฉิงไม่สามารถร่วมมือการต่อสู้กันได้ดีนัก

  หลังจากหยานฉิงต่อยออกไปครั้งแรกเขาเตรียมจะต่อยอีกหมัดตามไปในทันที

  อย่างไรก็ตามเขายังไม่ทันได้ต่อยอีกครั้งเพราะดาบของหนานกงเฮานั้นไวยิ่งกว่า หยานฉิงถูกส่งกระเด็นออกมาแทบจะในทันที

  ในเวลาเดียวกันหนานกงเฮาก็ดึงมือกลับมาแทบจะในทันที สัญลักษณ์สีทองไหลเวียนอยู่บนชุดเกราะของเขาขณะที่ดึงฉือกูเหยียนเข้ามาหาตัวเอง

   พี่เหยียน! ปิงหยางตะโกนขึ้นอย่างกระวนกระวายพร้อมแทงหอกออกไปข้างหน้า อย่างไรก็ตามหอกของนางไม่สามารถแทงทะลุหอกของหนานกงเฮาได้

  ตูม!หนานกงเฮาเตะปิงหยางออกไปให้พ้นทาง ร่างของฉือกูเหยียนเองก็กระแทกลงพื้นอย่างแรงแทบจะในเวลาเดียวกัน หน้าของนางซีดขาว

   เขาแข็งแกร่งมาก! 

   เป็นไปไม่ได้ที่ฉือกูเหยียนจะเอาชนะหนานกงเฮาต่อให้ร่วมมือกับหยานฉิงและปิงหยางก็ตาม! 

   ทำไมหนานกงเฮาถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้?! 

  ศิษย์ที่ยืนอยู่รอบๆต่างส่ายหน้าขณะมองฉือกูเหยียนและปิงหยางที่ล้มอยู่บนพื้นรวมถึงหยานฉิงที่พยายามจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง

  มันชัดเจนถึงความแตกต่างของพลัง   สารเลวหนานกงเฮาพี่เหยียน…ท่านเป็นอะไรไหม?  เลือดไหลออกมาจากริมฝีปากของปิงหยาง แต่ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแน่วแน่

   ข้า…ขาไม่เป็นอะไร… ฉือกูเหยียนต้องการจะลุกขึ้นแต่แขนของนางสั่นไม่ยอมหยุด

  เหล่าผู้อาวุโสศาลาเต๋าสวรรค์ต่างกำมือแน่น

   ท่านมู่พวกเราจะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้! 

   ใช่…หนานกงเฮาแข็งแกร่งเกินไปยิ่งไปกว่านั้นฉือกูเหยียนนางบาดเจ็บหนัก…ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป… 

   พวกท่านคิดว่านางจะยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆงั้นหรือ? มู่ฉิงเฟิงกัดริมฝีปากแน่น เขารู้สิ่งที่ผู้อาวุโสคนอื่นๆกังเวล แต่เขารู้นิสัยของฉือกูเหยียนดี

  นางไม่มีทางยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆ

  ตูม!หยานฉิงที่ลุกขึ้นมาได้พุ่งเข้าไปหาหนานกงเฮาทันที แต่เขาก็ถูกส่งกระเด็นออกมาอีกครั้ง ขณะที่เขาร่วงลงบนพื้นได้มีดาบเล่มหนึ่งแทงเข้าไปบริเวณหน้าอกของเขา

   อั้ก! หยานฉิงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆเช่นกัน

   ช่างเป็นร่างกายที่แข็งแกร่งมาก! หนานกงเฮามองดาบในมือที่ค่อยๆแทงเข้าไปในร่างของหยานฉิง เขาไม่ไดต้องการฆ่าหยานฉิง แต่เขาไม่อยากให้หยานฉิงลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง

   พี่เหยียนท่านพักไปก่อนเดี๋ยวข้าจะหยุดเขาเอง!  ปิงหยางหยิบยาออกมาและใส่มันลงในปากของฉือกูเหยียนทันที จากนั้นนางก็ก้าวเดินออกไปข้างเพื่อป้องกันฉือกเหยียนเอาไว้

   ปิงหยางเจ้าโตขึ้นมาก… ฉือกูเหยียนต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่นางก็เลือกที่จะเงียบ

   เข้ามาเลยหนานกงเฮาถ้ามีอาวุธข้าอาจจะสู้เจ้าไม่ได้ เจ้ากล้าสู้ข้าด้วยมือเปล่าหรือเปล่าล่ะ?!  ขณะที่พูดนางก็แทงหอกในมือลงไปบนพื้น

   องค์หญิงท่านต้องการจะซื้อเวลางั้นหรือ? 

   แค่ตอบมาว่าเจ้ากล้าหรือไม่! 

   ได้ตามที่ท่านปรารถนา 

   งั้นก็เข้ามา! ปิงหยางกัดฟันพร้อมพุ่งไปหาหนานกงเฮา เขาได้เก็บดาบไปแล้ว

  มือของปิงหยางปกคลุมไปด้วยด้วยเปลวเพลิงสีแดง

  ฟุ้บ!เกิดเสียงดังขึ้น

  ไฟสีแดงบนมือของปิงหยางหายไปในทันทีก่อนที่หมัดของหนานกงเฮาจะต่อยเข้าที่หน้าของปิงหยาง

  ตูม!ร่างของนางกระเด็นออกมาไกล

   หยางเอ๋อร์… เฉียนยู่ต้องการจะพูดบางอย่างแต่นางเงียบทันทีเมือเห็นแสงในดวงตาของปิงหยาง

  ปิงหยางลุกขึ้นอีกครั้งนางไม่สนใจชุดเกราะที่แตกออกของตัวเอง

   ไม่เลวอีกครั้ง!  นางพุ่งเข้าไปหาหนานกงเฮาอีกครั้ง

  แต่ผลลัพธ์นั้นก็ออกมาเช่นเดิม

   แค่กแค่ก หนานกงเฮา…การต่อสู้ด้วยมือเปล่าของเจ้าไม่เลวเลย แต่ข้าไม่ยอมแพ้ง่ายๆ! 

  ตูม!

   อีกครั้ง! 

  ตูม!

   … 

  ปิงหยางลุกขึ้นและพุ่งไปข้างหน้าและกระเด็นกลับมาหลายครามันไม่ได้นานมาก แต่เลือดที่ไหลรินอยู่บนพื้นนั้นเกินกว่าที่ใครจะทนดูได้

   ปิงหยาง… หลินมู่ไป่กัดฟันแน่น

  เขาต้องการจะหยุดการต่อสู้แต่เขาเองก็เหมือนเฉียนยู่ เขารู้ความคิดของปิงหยางดี   เห็นๆอยู่ว่ายังไงก็ไม่มีทางเอาชนะได้ทำไมนางถึงยังสู้ต่ออีก! 

   ใช่จะมีอะไรเปลี่ยนไปต่อให้ฉือกูเหยียนจะอาการดีขึ้นมาเล็กน้อย? เห็นชัดเจนว่าหนานกงเฮานั้นแข็งแกร่งกว่าหนานกงมู่! 

   ใช่การกระทำของนางนั้นไร้ประโยชน์จริงๆ 

  ศิษย์ที่อยู่รอบๆต่างรู้สึกสับสนเมื่อเห็นการกระทำของปิงหยาง

  มันเป็นเรื่องโง่เง่าที่คิดจะสู้ต่อ…

   นางลุกขึ้นอีกครั้ง?เป็นไปได้ยังไง นี่มันครั้งที่สิบสามแล้ว! 

  ตูม!

  ปิงหยางล้มลงบนพื้นอีกครั้งเกราะบนร่างของนางแตกละเอียด

   ครั้งที่สิบสี่แล้ว! 

   อ..อ…อีกครั้ง! ปิง หยาง แทบจะหายใจไม่ทันแล้ว หน้าของนางกลายเป็นสีม่วง ผมเต็มไปด้วยเลือด นางไม่เหลือภาพลักษณ์ขององค์หญิงอีกต่อไป

  แต่นางก็ยังเลือกที่จะลุกขึ้นมาอีกครั้ง

   ปิงหยางพวกเราต้องร่วมมือกัน!  แขนข้างหนึ่งพยุงฉือกูเหยียนเอาไว้

   พี่เหยียน…ข้า…ข้าไม่เป็นไรท่านพักเถอะ….  ปิงหยางตัวสั่น แต่นางยังคงส่ายหัว

   แม้พวกเราจะแพ้ข้าก็หวังว่าพวกเราจะแพ้ด้วยกัน!  ฉือกูเหยียนลูบหัวของปิงหยาง พร้อมกับเอาเลือดที่เปรอะเปื้อนผมของนางออก จากนั้นนางก็หันไปมองหนานกงเฮา  นี่เป็นการโจมตีครั้งสุดท้าย พวกเราจะร่วมมือกัน! 

   ตกลง! 

  ตูม!แสงสีแดงปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าเหนือภูเขา

  ในเวลาเดียวกันสองร่างก็กระเด็นขึ้นไปบนอากาศ

   พี่เหยียน..แค่ก…พวกเราแพ้แล้ว… ปิงหยางไม่อยากยอมรับความจริงแต่นางยังคงยิ้มออกมาจางๆ

   อืมพวกเราแพ้แล้ว… ฉือกูเหยียนพยักหน้าพร้อมกับจับมือของปิงหยางเอาไว้ ใบหน้าของนางยังคงมีรอยยิ้มเช่นกัน

  ตูม!ทันใดนั้นสายฟ้าสีม่วงก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า มันมาพร้อมกับพายุอันรุนแรง พัดเศษฝุ่นที่ปกคลุมลานประลองกระเด็นออกไปทั่ว

   เชี่ยเอ้ยสารเลวหน้าในกล้ามาทำร้ายผู้หญิงของข้า! 

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset