ไม่กลัวตาย? หยานหยิงตกใจเล็กน้อยเขาเชื่อว่าการแก้แค้นที่หนานกงเทียนพูดถึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเขาในอดีต
อย่างไรก็ตามตอนนี้หนานกงเทียนไม่สนใจชีวิตของเขาเลย แผนของตระกูลหนานกงคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างการแก้แค้นแล้ว
’แผนของพวกเขาคืออะไรกันแน่?’
หยานหยิงมองไปที่ต้นไม้เทพเจ้าและสายรุ้งที่เชื่อมต่อกับภูเขาสวรรค์ เขารู้สึกได้ถึงลางร้ายเช่นกัน
ในตอนนี้หนานกงเฮาที่ลอยอยู่กลางอากาศ เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว
ตรงศูนย์กลางที่หนานกงเฮาอยู่ดอกไม้สีขาวทั้งเก้าปรากฎขึ้นและหมุนวนรอบตัวเขาอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันแววตาของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาด
ดวงตาข้างหนึ่งเป็นสีแดงราวกับเลือดดวงตาอีกข้างเป็นสีขาวบริสุทธิ์ มันต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ในตอนนั้นเเองแรงดูดกลืนแพร่กระจายไปทั่วพื้นที่ราวกับคลื่นทะเล ก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนเหมือนกับหลุมดำ
ไม่หยุดเขาเดี๋ยวนี้! ท่าทีของหยานหยิง เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาอยากจะพุ่งไปหาหนานกงเฮาโดยเร็ว แต่มีบางอย่างขวางทางเขาไว้
หยานหยิงข้ายังไม่ตาย! เลือดไหลที่มุมปากของหนานกงเทียน สีหน้าของเขายังคงตื่นเต้นไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย
หนานกงเทียนเจ้ารนหาที่ตาย!
ตูม!เขาทั้งสองกลับสู่การต่อสู้อีกครั้ง เสียงระเบิดเกิดขึ้นทัวทุกที่
อย่างไรก็ตามเป็นอย่างที่หนานกงเทียนพูด แม้หยานหยิงจะอยู่ในระดับเซียนขันสูงสุด เขาก็ไม่สามารถเอาชนะหนานกงเทียนได้ในเวลาอันสั้นอยู่ดี เห็นได้ชัดว่ามู่งฉิงเฟิงเองก็สังเกตุเห็น
หลังจากที่เห็นท่าทีของหนานกงเฮาเปลี่ยนไปเขาก็ไม่สามารถใจเย็นได้อีกต่อไป ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสำนักทั้งห้าของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่อยากให้โลกมีการเปลี่ยนแปลงมากไปกว่านี้อีกแล้ว
เฒ่าโม่ไปกันเถอะ! ในขณะที่มู่ฉิงเฟิงพูด เขาก็รีบพุ่งไปหาหนานกงเฮาราวกับลำธารแสง
ดวงตาของโม่ฉานฉือเบิกกว้าง
นานมากแล้วนะที่ข้าไม่ได้ออกแรง… โม่ฉานฉือ ไม่ลังเลเพียงเพราะคำพูดกวนใจของไป่เฟยแม้แต่น้อย
ตอนนี้มู่ฉิงเฟิงเคลื่อนไหวแล้วเขาจะเสียเวลาต่อไปได้ยังไง
โม่ฉานฉือหายไปในพริบตาปรากฎตัวที่ด้านหลังของมู่ฉิงเฟิงทันที
ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดสองคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เข้าจู่โจมพร้อมกัน เป็นภาพที่หาดูได้ยากอาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบศตวรรษ อย่างน้อยเหล่าศิษย์ที่เฝ้ามองดูต่างก็พากันตื่นเต้นไม่หยุดกับสิ่งที่พวกเขาเห็น
มู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือโจมตีพร้อมกัน!
กลิ่นอายที่เปล่งออกนั่นรุนแรงมากนี่คือพลังของสองผู้แข็งแกร่งแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ?
พวกเขาแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
เหล่าศิษย์ต่างจับอาวุธของพวกเขาแน่นเมื่อมองไปที่มู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือที่กำลังพุ่งเข้าหาหนานกงเฮา อย่างไรก็ตามไม่มีใครโง่พอจะเข้าร่วมการต่อสู้
หากมีกำลังคนมากเกินไปโม่ฉานฉือและมู่ฉิงเฟิงอาจจะทำร้ายคนอื่นโดยไม่รู้ตัว
ตาของฟางเจิ้งจือเบิกกว้าง
เขารู้ถึงจุดแข็งของมู่ฉิงเฟิงอยู่บ้างมู่ฉิงเฟิงนั้นแข็งแกร่งกว่าเทียนซิงผู้นำคนก่อนของเก้าขุนเขา ทั้งๆที่ไม่มีพลังสายเลือด ในขณะเดียวกันโม่ฉานฉือที่มีอายุมากและเป็นถึงผู้นำของหุบเขาฟู่ซี่ถ้าคิดว่าเขาอ่อนแอคงไม่สมเหตุสมผลนัก
คำๆหนึ่งพูดไว้ว่า’มนุษย์จะแข็งแกร่งขึ้นตามอายุ’
แม้ฟางเจิ้งจือจะไม่เคยพิสูจน์เรื่องนั้นด้วยตัวเองมันก็ไม่ได้หมายเขาจะต้องลองพิสูจน์มันอยู่ดี
แต่ฟางเจิ้งจือรู้สึกดีที่ได้เฝ้ามองเหล่าผู้ที่แข็งแกร่งอย่างมู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือ
ใส่ให้สุดแรงไปเลยเหล่าตาเฒ่า! ฟางเจิ้งจือส่งเสียงเชียร์ออกไป
อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาพูดชายชุดดำสองคนก็ปรากฎขึ้นด้านหน้าพวกเขาทั้งสอง
นั่นคือผู้อาวุโสของเก้าขุนเขา
ท่านมู่ท่านโม่ ผู้นำของเราได้พูดแล้วว่าชีวิตของหนานกงเฮาเป็นของพวกเรา โปรดถอยไปด้วย! หนึ่งในชายสองคนพูดขึ้น
หลีกไป! โม่ฉานฉือ ไม่อยากเสียเวลาพูด ถึงแม้สำนักทั้งห้าจะเป็นพันธมิตรกันตลอดมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทนต่อความโอหังที่เก้าขุนเขาทำอยู่ตอนนี้
จากนั้นมือของโม่ฉานฉือก็พุ่งหาชายทั้งสองในเสี้ยววินาทีมือของเขาหนักแน่นราวกับภูเขา
เงาขนาดยักษ์ลอยเหนือมือข้างนั้นมันเป็นรูปแบบที่ซับซ้อนมาก และดูเหมือนเป็นค่ายกลโบราณ
ตูม!
ผู้อาวุโสทั้งสองถอยไปห้าก้าวชุดคลุมถูกลมพัดเผยให้เห็นถึงใบหน้าของทั้งสอง
ช่างเป็นพลังที่รุนแรงจริงๆ!
ผู้อาวุโสทั้งสองคนจากเก้าขุนเขาเองก็แข็งแกร่งเช่นกันพวกเขาถอยไปเพียงห้าก้าวเท่านั้น?
ไม่เลวนี่!
เหล่าศิษย์ที่มองดูต่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามโม่ฉานฉือแววตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นเยือก
ฮืม?เจ้าไม่ใช่คนของเก้าขุนเขา เจ้าเป็นใครกัน? ในฐานะที่เป็นผู้นำของหุบเขาฟู่ซี่ เขาพอรู้เกี่ยวกับผู้อาวุโสเก้าขุนเขาอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตามสองคนตรงหน้าเป็นคนที่เขาไม่รู้จักอย่างแน่นอน พวกเขาไม่ใช่ผู้อาวุโสของเก้าขุนเขา
ท่านโม่พูดอะไรของท่านถ้าพวกเราไม่ใช่คนของเก้าขุนเขาจะเป็นที่ไหนได้อีก? ผู้อาวุโสทั้งสองยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ฮึ่มข้าจะเปิดเผยตัวตนของพวกเจ้าในวันนี้! โม่ฉานฉือไม่คิดจะถามเพิ่มต่อเพราะรู้ว่ามันเสียเวลาเปล่า
โม่ฉานฉือกระโจนเข้าพวกเขาอีกครั้งรูปแบบที่ซับซ้อนปรากฎเหนือหัว เส้นแสงสีทองไหลวนตั้งแต่หน้าผากลงไปถึงมือทั้งสองข้าง
หืมนั่นอะไรกัน? ฟางเจิ้งจือเห็นท่าทีของโม่ฉานฉือเปลี่ยนไป เขามั่นใจว่าโม่ฉานฉือไม่มีพลังสายเลือด
อย่างไรก็ตามรูปแบบที่ซับซ้อนมันดูแข็งแกร่งมากราวกับเป็นพลังสายเลือด
เขาชี้นิ้วไปที่ผู้อาวุโสคนหนึ่ง
เสียงระเบิดดังสนั่น
มันคือดัชนีพิฆาต
เมื่อรวมกับความเร็วที่เหลือเชื่อของมู่ฉิงเฟิงการโจมตีปรากฎที่ด้านหน้าผู้อาวุโสทั้งสองเกือบจะในทันที ออร่าที่คมกริบพุ่งตรงไปที่หน้าอกของพวกเขา
ท่านมู่ท่านไม่สนเรื่องพันธมิตรของดินแดนศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ?! ผู้อาวุโสพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆในขณะที่นิ้วเข้ามาใกล้ จากนั้นร่างนั้นก็ขยับไปทางซ้ายเหลือเพียงเงาจางๆเท่านั้น
ร่างจำแลง? มู่ฉิงเฟิงเหล่มองเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ถูกหลอกล่อด้วยคำพูดแต่อย่างใด เพราะเขายังเห็นใบหน้าของผู้อาวุโสทั้งสองอย่างชัดเจนในตอนที่โจมตี
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เก้าขุนเขาแต่การสังเกตที่เฉียบแหลมของโม่ฉานฉือทำให้เขามั่นใจ
ผู้อาวุโสสองคนตรงหน้าไม่ใช่ผู้อาวุโสของเก้าขุนเขา!
ถ้างั้นไม่มีอะไรต้องกังวล!
แสงสว่างที่ปลายนิ้วแยกออกเป็นสองพุ่งเข้าหาร่างที่อยู่ด้านข้าง
ตูม!ร่างที่อยู่ด้านข้างหายไปทันที เหลือเพียงเงาจางๆเช่นเดิมเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าร่างจำแลงนั้นคือร่างจริงๆของเขา
ในขณะเดียวกันเขาได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าโม่ฉานฉือได้โจมตีออกไปอีกครั้ง
ผู้อาวุโสทั้งสองกระเด็นออกไปอีกครั้ง
เพียงแต่ครั้งนี้ชุดคลุมสีดำของพวกเขาถูกทำลายโดยสมบูรณ์และมันไม่สามารถปกปิดใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของพวกเขาได้อีกต่อไป
หืม? พวกเขายังเด็กงั้นเหรอ?!
ผู้อาวุโสของเก้าขุนเขามีอายุเท่านี้ได้ยังไง?
เหล่าศิษย์ที่เฝ้าดูเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นชัดเจนอย่างไรก็ตามผู้อาวุโสทั้งสองยังเด็กเกินไป
ครืน!
เสียงดังขึ้นไม่ไหกลจากพวกเขามันเป็นการปะทกันระหว่างแปดกรงเล็บมังกรของหุบเขาฟู่ซี่กับผู้อาวุโสอีกสองคนของเก้าขุนเขา
แปดกรงเล็บมังกรส่งเสียงคำรามอย่างต่อเนื่องและระเบิดผู้อาวุโสทั้งสองกระเด็นออกไปเช่นกัน ชุดคลุมสีดำของทั้งสองถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ และเผยให้เห็นว่าเขาทั้งสองก็มีใบหน้าที่อ่อนเยาว์เช่นกัน
พวกเขาไม่ใช่ผู้อาวุโสของเก้าขุนเขา!
เกิดอะไรขึ้น?เก้าขุนเขากลายเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน? ถ้าเป็นแบบนี้แล้วคนของเก้าขุนเขาหายไปไหนหมด?
ทุกคนต่างรู้สึกโง่งมเมื่อเห็นใบหน้าของผู้อาวุโสทั้งสี่
เพราะที่นี่คือการประชุมพันธมิตรสวรรค์!
ใครกันที่กล้ามาสร้างปัญหาที่นี่?
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขากล้าปลอมตัวเป็นคนของเก้าขุนเขา?
คำถามเกิดขึ้นมากมายในหัวของพวกเขาอย่างไรก็ตามไม่นานพวกเขาก็ได้รับคำตอบเพราะโม่ฉานฉือและมู่ฉิงเฟิงโจมตีอีกครั้งจนผู้อาวุโสทั้งสองยืนไม่มั่นคงอีกต่อไป ขณะที่พวกเขาล้มลงไปบนร่างของพวกเขาเริ่มปรากฎเกล็ดให้เห็น
เกล็ด?
พวกเขาเป็นอสูร!
อสูร?!
เหล่าศิษย์ต่างรู้ความจริงในทันทีเพราะร่างกายของอสูรนั้นมีร่างกายเป็นเอกลักษณ์ต่างจากเผ่าอื่น
อสูร?!พวกมันไม่ได้อยู่ที่หนองน้ำยักษ์งั้นหรือ? ทำไมพวกมันถึงมาปรากฎที่นี่ได้?
หรือว่าตระกูลหนานกงจะร่วมมือกับพวกอสูร?
เป็นไปได้ยังไงกัน?
ทุกคนต่างอุทานออกมาด้วยความตกใจ
สายตาของทุกคนจ้องไปที่อสูรทั้งสี่และหนานกงเฮา
สีหน้าของหนานกงเทียนก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
อสูร? หนานกงเทียนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า แม้แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าอยู่ดีๆทำไมอสูรถึงปรากฎตัวขึ้นที่นี่
หัวหน้าตระกูลหนานกงเจ้ากล้าร่วมมือกับพวกอสูรงั้นรึ? สายตาของหยานหยิงเต็มไปด้วยจิตสังหาร
ในฐานะมนุษย์เจ้ากล้าวางแผนชั่วร้ายแบบนี้ได้ยังไง! ไร้สาระตระกูลหนานกงเป็นลูกหลานของหยานฮวง ทำไมพวกเราต้องไปร่วมมือกับพวกอสูรด้วย! เมื่อได้ยินสิ่งที่หยานหยิงพูด หนานกงเทียนก็ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
ลูกหลานของหยางฮวง?เจ้านะรึ? หึ! หยานหยิงเยาะเย้ย
ฮ่าฮ่าถ้าพวกเราตระกูลหนานกงไม่ใช่ลูกหลานของหยานฮวงก็ไม่มีใครในโลกที่สมควรเป็นลูกหลานของหยานฮวงแล้ว!
หยุดพูดไร้สาระตายซะ!
หยานหยิงเจ้าไม่สามารถหยุดพวกเราได้ พวกเราถูกลิขิตให้ชนะ!
ฝันไปเถอะ!
หลังจากถกเถียงกันพวกเขาทั้งคู่เริ่มสู้กันอีกครั้งไม่มีใครกล้ายืนใกล้ๆพวกเขาทั้งคู่แม้แต่น้อย
ทันใดนั้นเต๋าฮุนที่นั่งอยู่ก็ลุกขึ้นความเย็นชาปรากฎขึ้นในดวงตาของเขา
อสูรซ่อนตัวอยู่ในหนองน้ำยักษ์มานานแสนนานข้าไม่คิดว่าพวกมันจะปรากฎตัวขึ้นตอนนี้และกล้ามาขัดขวางการประชุมพันธมิตรสวรรค์! แทนที่จะมองไปยังอสูรบนท้องฟ้า เขากลับมองไปที่ฟางเจิ้งจือ ถ้าเขาเข้าใจถูก ข้าคงต้องทำอะไรกับฟางเจิ้งจือเสียก่อน
ฟางเจิ้งจือ? หนึ่งในผู้อาวุโสแปลกใจเล็กน้อย
อาจจะเป็นเพราะเผ่าอสูนทำให้ฟางเจิ้งจือรอดมาได้!
สมเหตุสมผลถ้าไม่ใช่เพราะพวกมัน ฟางเจิ้งจือคงไม่มีโอกาสรอดแน่นอน ผู้อาวุโสเห็นด้วยกับความคิดของเต๋าฮุนในทันที
……………………………………..
