ตั้งแต่ยังเด็กเฉียนยู่อาศัยอยู่ที่หอคอยหลิงหยุนและได้รับการเลี้ยงดูจากผู้นำหอคอยหลันฉิง
เฉียนเยว่เองก็เช่นกัน
หลันฉิงพิจารณาผู้คนได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งเฉียนยู่และเฉียนเยว่ได้รับการแนะแนวทางต่างๆจากหลันฉิง สองพี่น้องมีชื่อเสียงมากในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และยังเป็นอนาคตของหอคอยหลุงหยุนอีกด้วย
จนกระทั่งเหตุการณ์เมื่อหลายสิบปีก่อน…
การต่อสู้เพื่อแย่งชิงศิลาเซียนระหว่างเผ่าพันธุ์ทั้งสามพันธมิตรทั้งห้าสำนักต่กสู้เพื่อไม่ให้ศิลาเซียนตกไปอยู่ในมือของเผ่าปีศาจและอสูร สงครามเริ่มต้นนอกเมืองหลวงของอาณาจักรเซี่ย
สงครามรุกรานไปจนถึงทะเลสาปสิบลี้กองซากศพทับถมเป็นภูเขา เลือดสีแดงไหลนองไปทั่วพื้น และผู้นำหอคอยหลิงหยุน หลันฉิงได้ตายลง
หลังจากนั้นทุกอย่างได้กลับสู่ความสงบสุข
แม้เฉียนยู่จะไม่ถูกตำหนิที่เป็นชนวนสงครามแต่นางรู้สึกอยู่เสมอว่าตนเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดและทำให้หลันฉิงต้องตายจากไป
แม้นางจะเป็นอาจารย์แต่ก็ทำให้เฉียนยู่เสียใจอย่างมากหลันฉิงเปรียบเสมือนแม่ของนาง
แต่ฉากที่เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อนกำลังเกิดขึ้นอีกครั้งตรงหน้า นางรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่หัวใจ นางกำมือแน่นและแหงนหน้ามองไป่ฉือบนท้องฟ้า
อาจารย์ขอให้ข้าได้ทำให้ความปรารถนาของท่านเป็นจริง!
โฮก!ราชาอสูรพุ่งเข้าหาเฉียนยู่อย่างรอบคอบ
พวกเขารู้ถึงความกล้าของเฉียนยู่เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามเขายังประเมินเฉียนยู่ต่ำเกินไป
เช่นเดียวกับเฉียนเยว่เมื่อดวงจันทร์ทั้งแปดดวงปรากฎขึ้นเหนือหัวของเฉียนยู่ เหล่าราชาอสูรต่างก็เบิกตากว้าง
ดวงจันทร์แปดดวง?! ราชาอสูรตกใจอย่างมาก หลายปีก่อนนางมีดวงจันทร์เพียงดวงเดียว
แต่ตอนนี้…
ดวงจันทร์แปดดวง?!
ราชาอสูรรู้สึกกังวลอย่างไรก็ตามมันสายเกินไป ลมกระโชกแรงพัดโหมจากด้านหลัง
เกือบจะในทันทีร่างของราชาอสูรห้อมล้อมด้วยแสงสีเงินและถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาว
ฟุ่บ!ร่างๆหนึ่งพุ่งผ่านเขาไป เฉียนยู่!
อย่างไรก็ตามนางไม่ได้สนใจราชาอสูรมากนัก ขณะที่พุ่งผ่านร่างของนางราวกับลำแสง นางยื่นมือไปที่หัวราชาอสูร
แครก!หัวที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะแตกออกและร่วงลงไป ไม่มีเลือดสาดกระเซ็นแม้แต่น้อย
ตูม!ทั้งหัวและไข่มุกอสูรสีทองระเบิดออก เหลือเพียงหิมะที่โปรบปรายบนท้องฟ้า
ในขณะเดียวกันเฉียนยู่พุ่งตัวไปข้างหน้า
ฉากนี้สร้างความตกใจให้กับเต๋าฮุนที่อยู่ใกล้ๆเป็นอย่างมาก
เฉียนยู่…นางมีพลังมากขนาดนี้ได้ยังไง? แม้เต๋าฮุนไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง แต่เขาต้องเชื่อดวงจันทร์ทั้งแปดดวงที่ลอยอยู่เหนือหัวของนาง
แต่เฉียนยู่ไม่ได้หันมองเต๋าฮุนแม้แต่น้อยนางยังคงพุ่งไปข้างหน้า
หลังจากล้มราชาอสูรลงนางมีความเร็วที่น่าเหลือเชื่อย่างมาก แสงสีเงินอ่อนที่ส่องสว่างบนดวงจันทร์ทั้งแปด ร่างของนางกำลังเปล่งประกายบนท้องฟ้าที่มืดมิด
ผู้นำเฉียนยู่!
นางเอาชนะราชาอสูร!
นางต้องมีพลังเทียบเท่าผู้นำหลันฉิงเป็นแน่
เหล่าศิษย์ที่ถูกราชาอสูรขัดขวางต่างมองด้วยสายตาที่เบิกกว้างพวกเขาทั้งตกใจและตื่นเต้น
ในขณะเดียวกันไป่ฉือที่อยู่บนบอดต้นไม้เทพเจ้าก็สังเกตุดวงจันทร์ทั้งแปด
หืม?สาวน้อยกบฎคนนั้นเข้าถึงดวงจันทร์ชั้นแปดเลยหรือ? ดวงตาสีเขียวเข้มของไป่ฉือเต็มไปด้วยความตกใจ
ไป่ฉือเอาอาจารย์ของข้าคืนมา! เสียงของเฉียนยู่ดังขึ้นพร้อมกับดวงจันทร์ที่ส่องสว่างสีเงินขาว
เส้นผมและผิวหนังถูกปกคลุมด้วยเกราะสีเงินที่ไหลผ่านร่างกาย
วาบ!แสงสีเงินส่องสว่างทั่วท้องฟ้า
ด้วยดาบยาวสองเล่มในมือนางแทงเข้าที่คอของไป่ฉืออย่างไม่ลังเล นางเร็วมากจนไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
ไร้สาระชีวิตของหลันฉิงแลกกับชัยชนะในสงคราม เป็นข้าก็ยินดีที่จะทำ! ไป่ฉือเย้ยหยัน หางจิ้งจอกยักษ์ฟาดไปด้านซ้ายและขวาของเฉียนยู่ด้วยความเร็วสายฟ้า
ตูม!
แสงสีเงินและหางทั้งสองข้างเข้าปะทะกันราวกับการต่อสู้ของมังกรสองตัว
ฮึ่ม?! ไป่ฉือตกใจอย่างเห็นได้ชัดแม้นางจะไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ แต่หางของจิ้งจอกทั้งสองก็แข็งแกร่งมาก
พูดตามตรงหางเพียงหนึ่งข้างก็สามารถเอาชนะหนานกงเฮารวมไปถึงโม่ฉานฉือและมู่ฉิงเฟิงได้แล้ว
ถึงอย่างนั้นเฉียนยู่กลับป้องกันการโจมตีของหางทั้งสองข้างได้
นางป้องกันได้?!
แข็งแกร่งมาก!
ผู้นำเฉียนยู่นางแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?
เหล่าศิษย์ที่มองดูจากด้านล่างตกใจอย่างเห็นได้ชัดพวกเขารู้ถึงความแข็งแกร่งของจักรพรรดินีอสูร
ใช้ดาบยาวเพียงสองเล่มนางสามารถป้องกันการโจมตีของจิ้งจอกเก้าหางและไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย มันต้องทำให้พวกเขาตกใจอย่างแน่นอน
ตาย! เฉียนยู่ตะโกนอีกครั้งอีกครั้ง ในขณะเดียวกันนางตวัดดาบทั้งสองเล่ม และวิ่งไปบนหางของจิ้งจอกพุ่งเข้าหาไป่ฉือ
เฒ่าโม่โจมตีพร้อมกันเถอะ! เมื่อเห็นสิ่งตรงหน้า มู่ฉิงเฟิงก็ไม่อาจอยู่เฉยได้ ด้วยเสียงคำรามเขาพุ่งไปข้างหน้าเช่นกัน
โม่ฉานฉือไม่ได้โง่แม้เขาไม่ค่อยได้เจอกับเฉียนยู่บ่อยนัก แต่เขารู้ว่าในฐานะศิษย์ของหลินฉิงคงไม่อ่อนแออย่างแน่นอน
แน่นอนว่าเฉียนยู่แสดงให้เห็นถึงพลังที่แข็งแกร่ง
แม้ว่าโม่ฉานฉือและมู่ฉิงเฟิงจะประทับใจเล็กน้อยแต่เฉียนยู่ก็ยังเด็กกว่าพวกเขา
หยานหยิงไม่ได้พูดอะไร
อย่างไรก็ตามเขาพุ่งตามเข้าไปเช่นกัน
โฮก!จักรพรรดินีอสูรร้องคำราม ใบหน้าและร่างกายเต็มไปด้วยขนสีขาว
ในที่สุดนางก็คืนร่างเป็นจิ้งจอกขาวอย่างสมบูรณ์
ตูม!
ตูม!
กรงเล็บที่แหลมคมหางยักษ์ทั้งเก้าที่กวัดแกว่ง ทุกๆการเคลื่อนไหวของไป่ฉือมาพร้อมกับฟ้าผ่าและลมแรง
แม้พวกเขาจะคอยหลบการโจมตีแต่ก็ค่อยๆเข้าใกล้ร่างของไป่ฉือมากขึ้นเรื่อยๆ
หยดเหงื่อที่ไหลอาบแก้มทั้งสองถูกสายลมพัดปลิวออกไป
มันเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด
สี่คนที่แข็งแกร่งที่สุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์กำลังต่อสู้กับจักรพรรดินีอสูรไป่ฉือ
เหล่าศิษย์ต่างมึนงงและสับสนเมื่อเห็นฉากที่งดงามด้านบน
แต่นั่นไม่ใช่ปฏิกริยาของทุกคน
อย่างไรก็ไม่ใช่ฟางเจิ้งจือแน่ๆแม้เขาจะหนีออกไปแต่ก็กลับมา
ใช่แล้ว!
ฟางเจิ้งจือกลับมา
เหมือนกับที่เขาหนีไปอย่างโจ่งแจ้งเขาก็กลับมาอย่างโจ่งแจ้งเช่นกัน อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้หลบหนีไปจากสายตาของไป่ฉือและนักสู้ทั้งสี่
เด็กเหลือขอในที่สุดเจ้าก็รู้จักผิดชอบชั่วดี! โม่ฉานฉือตกตะลึงเมื่อเห็นฟางเจิ้งจือ แต่ก็เผยยิ้มอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเขาก็เห็นถึงความสามารถของฟางเจิ้งจือ และรู้ว่าพลังนั้นเทียบเท่ากับคนสี่คน
ด้วยพลังของฟางเจิ้งจือกับผู้แข็งแกร่งทั้งสี่จะสามารถรับมือกับไป่ฉือได้อย่างแน่นอน
โฮก!ไป่ฉือร้องคำรามอีกครั้งพร้อมจ้องมองด้วยสายตาที่เย็นเยือก ฟางเจิ้งจือ เจ้ายังกล้ากลับมาอีกได้ยังไง?
เจ้าไม่ได้ตาบอดไม่ว่าข้าจะกล้ากลับมาหรือไม่ เจ้าก็มองด้วยตาของเจ้าซะ! ฟางเจิ้งจือจ้องไปที่ไป่ฉือด้วยความดูถูก ราวกับไม่เกรงกลัวหรือกังวลแม้แต่น้อย
ฟางเจิ้งจือค่ายกลห้าธาตุ! มู่ฉิงเฟิงตรงไปตรงมากว่ามโม่ฉานฉือ เขามองไปที่ฟางเจิ้งจือและส่งสัญณาณให้คนอื่นๆด้วยสายตา ก่อนจะเคลื่อนไหวไปด้านข้างเพื่อเว้นที่ให้ฟางเจิ้งจือ
เอาล่ะ หยานหยิงพยักหน้าเข้าใจอย่างเห็นได้ชัดแม้เขาจะไม่สบอารมณ์กับความไร้ยางอายของฟางเจิ้งจือ แต่เขาต้องยอมรับว่าฟางเจิ้งจือสามารถช่วยพวกเขาได้
แม้พวกเขาจะไม่สามารถเอาชนะไป่ฉือได้อย่างทันทีแต่ความพยายามเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเคลื่อนย้ายไปตามตำแหน่ง ก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ นั่นคือฟางเจิ้งจือไม่เข้าตำแหน่ง
เขาวิ่งไปยังตำแหน่งอื่นแทน
ที่สำคัญไปกว่านั้นฟางเจิ้งจือมองว่าเขาแค่ผ่านมาเท่านั้น นั่นทำให้หยานหยิงสับสน
ท่านป้ายอดเยี่ยม! ฟางเจิ้งจือพูดอย่างสุภาพในขณะที่ผ่านเฉียนยู่ไป
ถ้าเจ้าอยากได้ความดีความชอบหยุดพูดเรื่องไร้สาระ เฉียนยู่ไม่ได้ตอบสนองฟางเจิ้งจือโดยตรง ท่าทีของนางแปลกไปเล็กน้อย
นั่นเพราะว่านางไม่คาดหวังว่าฟางเจิ้งจือจะกลับมา แต่เขากลับมา
อย่างไรก็ตาม
การจะพึ่งพาฟางเจิ้งจือ?
นางจะเชื่อถือได้หรือไม่?
เฉียนยู่คิดกับตัวเองถ้าเขาเอาชนะไป่ฉือได้ นางจะได้สมที่ปรารถนา
ท่านป้ารู้จักข้าดีข้าจะหยุดพูดไร้สาระแล้ว ฟางเจิ้งจือพยักหน้าหลังได้ยินคำพูดของเฉียนยู่
แสงสีน้ำเงินปรากฎขึ้นและฟางเจิ้งจือหายไปจากตำแหน่งเดิม
เขาปรากฎขึ้นอีกที่หนึ่งชุดคลุมสีน้ำเงินกระพือด้วยสายลมที่รุนแรง
ช่างเป็นฉากที่น่าหลงไหลอย่างไรก็ตาม ตำแหน่งที่ฟางเจิ้งจือปรากฎตัวทำให้มู่ฉิงเฟิง โม่ฉานฉือ หยานหยิงและเฉียนยู่ตกตะลึง
นอกจากพวกเขาแล้วไป่ฉือเองก็ตกตะลึงเช่นกัน ฟางเจิ้งจือไม่ได้ปรากฎตัวณ ตำแหน่งที่พวกเขาเว้นไว้ให้ แต่กลับแรากฎตัวขึ้นข้างๆผลไม้เทพเจ้า
ที่สำคัญกว่านั้นรอยยิ้มที่เบิกบานปรากฎขึ้นบนใบหน้า พร้อมกับมือที่เอื้อมไปยังผลไม้สีทอง
เขาพอใจกับท่าทีของนักสู้ทั้งสีและสีหน้าของไป่ฉืออย่างมากเขารู้อยู่แล้วว่าการกระทำของเขาจะสร้างความตกใจไม่น้อย
การต่อสู้เปิดโอกาสให้บุคคลที่สาม
หลังจากได้เห็นทั้งสี่คนเขาต่อสู้กับไป่ฉือเขาจะปล่อยโอกาสนี้ไปได้อย่างไร
ผลไม่เทพเจ้า
ยอดเยี่ยม!
ไม่! ในขณะที่มือของฟางเจิ้งจือกำลังจะสัมผัสกับผลไม้สีทอง เสียงที่ร้อนรนอย่างมากก็ดังขึ้นชัดเจน
……………………………………..