Gate of God – ตอนที่ 910 ถอยหนี

  ไป่ฉือไม่เพียงแต่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นนางมีทั้งความสามารถ สติปัญญา และประสบการณ์มากมาย ดังนั้นเมื่อมีโอกาสนางจะไม่ทิ้งมันไปอย่างแน่นอน

  แม้จะถูกเฉียนยู่โจมตีจากด้านหลังนางก็ไม่ลังเลและยังมุ่งเป้าไปที่มู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือ

  ไป่ฉือมั่นใจว่าการดิ้นรนของมนุษย์จะจบลงหากเอาชนะมู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือได้

  หลังจากนั้นนางจะเข้าควบคุมหนานกงเฮาอีกครั้งและจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอีก

  ตูม!สายฟ้าผ่าลงมา

  โม่ฉานฉือถูกส่งลอยออกไปอีกครั้งสายฟ้าสีม่วงหมุนวนกระจายไปรอบตัวเขา ท่าทีของเขาเจ็บปวดอย่างมาก

   ผู้นำหุบเขา!     อาจารย์! 

  เหล่าศิษย์หุบเขาฟู่ซี่ร้องตะโกนอย่างกังวลมังกรสีเงินที่เกิดจากเหล่าศิษย์นับร้อยเริ่มเคลื่อนไหว

  ราชาอสูรบางตนเห็นการเคลื่อนไหวนั้น

  เหล่าอสูรมีชีวิตอยู่ในหุบเขาลึกและดูดซับพลังจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ในสภาพแวดล้อมเช่นนั้นทำให้พวกเขาตอบสนองไวเป็นพิเศษ

  ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดในโลกที่จะเอาชนะเหล่าอสูรได้ในแง่ของการฉวยโอกาสมันเป็นธรรมชาติของพวกเขา

  เมื่อเห็นมังกรสีเงินเคลื่อนไหวพวกเขาก็เตรียมพร้อมในทันที เหล่าราชาอสูรโจมตีใส่พวกศิษย์ที่กำลังกังวล

  แครก!มังกรเงินที่เชื่อมกันอยู่แตกออกจากศูนย์กลาง แสงสีเงินพังทลาย ร่างของศิษย์สองสามคนถูกตัดขาดครึ่งตัว เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วท้องฟ้าอีกครั้ง  มันเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่!

  เมื่อสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของหุบเขาฟู่ซี่ถูกทำลายการที่โม่ฉานฉือตกอยู่ในวิกฤตทำให้เหล่าศิษย์ได้รับผลกระทบไปด้วย

  ความจริงแล้วมันไม่ได้ส่งผลต่อศิษย์ของหุบเขาฟู่ซี่เท่านั้น

  ค่ายกลดาบของศาลาเต๋าสวรรค์เองก็ไม่สมบูรณ์เช่นกันเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างกังวลถึงความปลอดภัยของมู่ฉิงเฟิง

  เมื่อผู้นำของฝ่ายหนึ่งตกที่นั่งลำบากแน่นอนว่ามันทำให้ผู้ติดตามต้องเสียกำลังใจไม่มากก็น้อย

  ผลลัพธ์เช่นนี้ส่งผลให้ฝ่ายอสูรได้เปรียบอย่างมาก

  ในสงครามใหญ่หลายสิบปีก่อนแม้เผ่าอสูรและปีศาจจะมีพลังมากกว่ามนุษย์ แต่ก็พ่ายแพ้ไปในที่สุด ไม่เพียงเท่านั้นทั้งสองเผ่าพันธุ์ยังเข่นฆ่ากันเองจนเกือบหมด

  แต่หลังจากเวลาผ่านพ้นไป  สถานการณ์กลายเป็นตรงกันข้าม

  ในเรื่องของจำนวนพวกมนุษย์ได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามโอกาสที่จะชนะริบหรี่ลงทุกที

  โฮก!

   โจมตี! 

  ด้วยเสียงคำรามจิตสังหารของเหล่าอสูรแผ่กระจายอย่างบ้าคลั่ง แทนที่จะตั้งรับพวกเขาเปลี่ยนเป็นบุกโจมตีทันที

   ไม่ราชาอสูรกำลังโจมตีพวกเราแล้ว! 

   หนีเร็ว! 

  ศิษย์จากสำนักต่างๆไม่สามารถรับมือกับราชาอสูรได้เมื่อพวกเขาเห็นราชาอสูรพุ่งเข้ามาส่งผลให้พวกเขาตื่นตระหนก

  นอกจากเหล่าศิษย์พวกทหารองครักษ์ของอาณาจักรทั้งสี่ต่างก็เคลื่อนไหว

   ปกป้องฝ่าบาท! 

   ฝ่าบาทโปรดหนีไปที่นี่อันตรายเกินไป!     เร็วเข้าประจำตำแหน่ง! 

  ความวุ่นวายเกิดขึ้นที่เบื้องล่างทันที

  ในการต่อสู้ที่เดิมพันด้วยอนาคตของมนุษย์เช่นนี้พวกเขาทุกคนเตรียมพร้อมที่จะสู้จนตัวตาย อย่างไรก็ตามการเตรียมใจกับตายจริงๆมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง

  ไม่มีใครอยากตาย

  ดังนั้นแม้จะรู้ว่าไม่ควรถอยหนีแต่เมื่อเห็นเหล่าราชาอสูรก็ทำให้พวกเขาล่าถอยโดยไม่รู้ตัว

  เมื่อมีคนหนึ่งเริ่มถอยหนีคนรอบข้างก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน

   หยุดเดี๋ยวนี้ห้ามหนีไปไหน! 

   ถ้าเราสู้ด้วยพลังทั้งหมดราชาอสูรก็เอาชนะเราไม่ได้หรอก! 

   พวกเราต้องร่วมมือกันเอาชนะราชาอสูร! 

  ในที่สุดก็มีศิษย์ตอบสนองอย่างไรก็ตามมันสายเกินไปจิตวิญญานที่กล้าหาญของพวกเขาได้หายไปแล้ว

  เปลี่ยนจากการโจมตีเป็นการป้องกัน!

   ท่านผู้นำอันดับสองสถานการณ์กำลังแย่ลง พวกเราควรทำอย่างไร… ทางฝั่งหอคอยหยินหยาง ผู้อาวุโสคนหนึ่งมองดูเต๋าซิงด้วยความกังวล

   ถ้าผู้นำหอคอยยังอยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรต้องกังล เต๋าซิงขมวดคิ้ว ผ้าคลุมหน้าถูกลมพัดเบาๆเผยให้เห็นใบหน้าที่สดใส

   อย่างไรก็ตามหอคอยหยินหยางเป็นที่รู้จักในนามของการฟื้นฟูสนับสนุน ตอนนี้คนของหุบเขาฟู่ซี่และศาลาเต๋าสวรรค์แตกพ่ายไปแล้ว ตอนนี้แนวหน้าเหลือเพียงหอคอยหยินหยางและหอคอยหลิงหยุน อย่างไรก็ตามศิษย์หอคอยหลิงหยุนนั้นแข็งแกร่ง แต่ศิษย์หอคอยหยินหยางไม่มีพลังมากพอ ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปพวกเราจะเป็นฝ่ายที่สูญเสียมากที่สุด! ผู้อาวุโสพูดขึ้น

   อืม… เต๋าซินขมวดคิ้วอย่างหนักเมื่อได้ยินเช่นนั้น นางมองดูผู้คนที่แข็งแกร่งกำลังถอยหนีและกำมือแน่น  เราถูกกำหนดให้พ่ายแพ้ …มันเป็นเรื่องยากที่จะ… 

   ได้โปรดตัดสินใจท่านผู้นำอันดับสอง! 

   การหนี…ไม่ใช่ตัวเลือก! ไม่มีใครสามารถหนีไปได้ในสถานการณ์เช่นนี้ ใครก็ตามที่หนีเป็นคนแรกจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน เว้นแต่ …พวกเราจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสนับสนุนทั้งหมด! 

   เปลี่ยนแปลงรูปแบบการสนับสนุน?…เข้าใจแล้ว! เมื่อได้ยินผู้อาวุโสก็ตกตะลึงชั่วครู่ไม่นานก็เข้าใจสิ่งที่เต๋าซิงพูด

  เขาพูดถูกศิษย์ของหอคอยหยินหยางมีความสามารถด้านการรักษาและฟื้นฟูนี่คือเหตุผลที่เหล่าศิษย์ของหอคอยหยินหยางถูกจัดสรรให้กับสำนักต่างๆ

  พวกเขาถูกแบ่งออกไปเพื่อช่วยเหลือแต่ละสำนัก!

  การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสนับสนุนหมายถึงรวมศิษย์ทั้งหมดที่กระจัดกระจายกลับมาอีกครั้งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้ศิษย์หอคอยหยินหยางมีโอกาสได้ถอยหนีออกมา

  …

  แน่นอนว่าเต๋าฮุนเป็นปัจจัยสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้!

  แทนที่จะเข้าสู้กับไป่ฉือเต๋าฮุนยังคงต่อสู้กับราชาอสูร นั่นทำให้เหล่าศิษย์มีโอกาสถอยหนีไปรวมตัวใกล้ๆเต๋าฮุน

  ถ้าศิษย์หอคอยหยินหยางไปรวมตัวต่อสู้ใกล้ๆกับเต๋าฮุนด้วยการป้องกันของเต๋าฮุนจะลดการสูญเสียของพวกเขาได้

  ผู้อาวุโสเข้าใจความคิดของเต๋าซิงและออกคำสั่งไปยังเหล่าศิษย์โดยไม่ลังเล รวมตัวที่ด้านซ้ายของข้า ตั้งค่ายกลหยินหยาง! 

   รับทราบ! หลังจากได้ยินคำสั่งของผู้ฮาวุโสเหล่าศิษย์หอคอยหยินหยางก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อไปรวมตัวกันทางด้านที่ผู้อาวุโสชี้นำ  ด้วยการเคลื่อนไหวของพวกเขาเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์และหุบเขาฟู่ซี่ต่างตกตะลึง

  หากไม่ได้รับการฟื้นฟูจากศิษย์หอคอยหยินหยางเหมือนกับว่าพวกเขาติดเกาะร้างที่ไม่มีทั้งน้ำและอาหาร

  พวกเขาต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน!

  ถอยหนีถอยหนี ถอยหนีอย่างต่อเนื่อง…

  แม้พวกเขาจะไม่ได้พูดออกมาแต่ประโยคนี้ดังสะท้อนอยู่ในหัวของเหล่าศิษย์

   … 

  ฉากตรงหน้าทำให้ทุกคนพูดไม่ออก

  มันเป็นความจริงที่โหดร้ายเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ถึงแก่ชีวิต แม้แต่ผู้ที่มั่นใจก็ยังหลบหนีไปยังที่ที่ปลอดภัย

   ฝ่าบาทดูเหมือนพวกเราจะพ่ายแพ้ ได้โปรดพาองค์หญิงทั้งสองหนีไป! แม่ทัพของอาณาจักรเซี่ยที่คอยปกป้องปิงหยางและฉือกูเหยียนหันมองหลินมู่ไป่   เยว่เอ๋อร์ยังอยู่ท่ามกลางสนามรบข้าจะหนีไปได้ยังไง หลินมู่ไป่ขมวดคิ้ว และเหวี่ยงแขนอย่างรุนแรง

   พลังขององค์จักรพรรดินีแข็งแกร่งแม้สถานการณ์จะเลวร้าย แต่ก็สามารถหลบหนีได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเรายังอยู่ที่นี่ต่อมันอาจส่งผลต่อการหลบหนีของจักรพรรดินีได้! 

   ใช่แล้วฝ่าบาท …โปรดพาองค์หญิงทั้งสองหนีไป! 

   ชีวิตขององค์หญิงคือความหวังคนหนึ่งเข้าสู่สถานะเซียนได้สำเร็จ อีกคนหนึ่งเป็นถึงผู้ถูกเลือกตามคำทำนายเป็นความหวังของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ท่านไม่ควรมากังวลเกี่ยวกับกระแสสงครามในตอนนี้! 

  หลังจากได้เช่นนั้นรัฐมนตรีและแม่ทัพแห่งสี่อาณาจักรก็เริ่มโน้มน้าว

  ริมฝีปากของหลินมู่ไป่กระตุกเล็กน้อยเขาอยากอยู่ต่อ แต่เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้หลังจากเหลือบมองปิงหยางที่หมดสติและฉือกูเหยียนที่บาดเจ็บสาหัส   พวกเจ้าพาองค์หญิงทั้งสองออกไปและทหารร้อยนายมากับข้า คอยป้องกันจากด้านหลัง! ในที่สุดหลินมู่ไปก็ตัดสินใจ

   นี่มัน… รัฐมนตรีและแม่ทัพม้องด้วยความลังเลพวกเขาจะให้จักรพรรดิคอยคุ้มกันด้านหลังได้ยังไง

   ใครที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งของข้ามันต้องตาย! หลินมู่ไป่โกรธเคืองเมื่อเห็นรัฐมนตรีและแม่ทัพอยู่นิ่งกับที่

   รับทราบฝ่าบาท! หลังจากหลินมู่ไป่ตะคอกด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นทั้งรัฐมนตรีและแม่ทัพต่างก็ไม่ลังเลอีกต่อไป

  ในตอนนั้นเองเสียงที่แผ่วบางก็ดังขึ้น

   ข้าไม่ไปพาปิงหยางหนีไปซะ เสียงนั้นคือฉือกูเหยียน ในขณะที่พูดนางค่อยๆยืนขึ้นอย่างลำบากชุดสีชมพูดของนางพริ้วไหวไปตามสายลมราวกับดอกไม้ที่ผลิบาน

   องค์หญิง… 

   หยุดพูดพาปิงหยางออกไป ฉือกูเหยียนโบกมือขัดรัฐมนตรีและแม่ทัพไม่ให้มีโอกาสได้พูด

   รับทราบ! รัฐมนตรีและแม่ทัพรู้ว่าฉือกูเหยียนเป็นคนอย่างไร พกวเขาอยากจะพูดบางอย่างแต่ไม่สามารถทำได้

  ด้านของรัฐมนตรีและแม่ทัพจากอาณาจักรทั้งสามทิ้งจักรพรรดิเอาไว้และค่อยๆล่าถอยอย่างเป็นระเบียบ

  …

   ฮ่าฮ่าฮ่า… เสียงหัวเราะของไป่ฉือดังก้องไปทั่วท้องฟ้าเมื่อมองดูเบื้องล่าง

  นี่เป็นการดูถูกอย่างเห็นได้ชัด

  เป็นการดูถูกที่อาจกระตุ้นให้พวกเขาระเบิดความโกรธออกมา

  ไม่ว่าจะเป็นสำนักทั้งห้าของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรือสี่อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ หรือแม้แต่นิกายเล็กๆ ตราบใดที่พวกเขาถอนนั่นหมายถึงความวุ่นวายอันยิ่งใหญ่ที่จะตามมา

   อ่า…ข้ายังไม่อยากตาย!     ข้ายังเด็กอยู่เลย…ข้ายังมีเมียอีกห้าคนรออยู่ที่บ้าน… 

   อย่า…อย่าฆ่าข้า! 

  ในขณะที่เหล่าศิษย์ต่างส่งเสียงร้องคร่ำครวญอย่างทรมานได้มีชายชราคนหนึ่งวิ่งไปขวางทางพวกเขาเอาไว้

   พวกเจ้ากล้าดียังไงถึงได้หนีออกมา?! เขากล่าวออกมาด้วยความโกรธ

   อ่า…ข้าไม่อยากอยู่เพื่อรอความตาย! ศิษย์ที่ถูกขัดขวางวิ่งเข้าหาชายชราโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย

   เจ้าอยากตายหรือไง? ดาบยาวในมือของชายชราแทงไปด้านหน้า

  ฟุ่บ!คมดาบทะลุผ่านร่างของศิษย์คนนั้น เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset