Gate of God – ตอนที่ 932 ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการฆ่า!

   จริงใจ?จักรพรรดิฮวง?  เทพปีศาจมองเข้าไปในดวงตาของฟางเจิ้งจือ เขาไม่รู้ว่าฟางเจิ้งจือนั้นไร้เดียงสาเกินไปหรือโง่เกินไป

  เขาจะเชื่อได้ยังไง?แม้แต่เด็กห้าขวบยังไม่มีทางเชื่อฟางเจิ้งจือ ต่อให้เขาเชื่อแล้วมีอะไรต่างจากไปเดิม?

  ต่อให้ฟางเจิ้งจือคือจักรพรรดิฮวงกลับมาเกิดใหม่จริงๆเขาต้องแสดงความเมตตาต่อฟางเจิ้งจืออย่างงั้นหรือ? ทำไมเขาต้องปล่อยให้ตัวปัญหามีชีวิตอยู่ต่อด้วย?

  เทพปีศาจต้องการหัวเราะออกมา

  เขาไม่อยากจะเสียเวลากับฟางเจิ้งจืออีกต่อไป

  แต่ความดื้อดึงของฟางเจิ้งจือนั้นเหนือกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้นักหลังจากความพยายามในการเข้าไปโจมตีฟางเจิ้งจือด้วยตัวเองสองถึงสามครั้ง เขาค่อนข้างกลัวที่จะเข้าไปใกล้ฟางเจิ้งจืออีก เพราะเขารู้ว่าเมื่ออยู่ใกล้ๆฟางเจิ้งจือเขาไม่ได้มีความได้เปรียบเรื่องความเร็วมากนัก

  นอกจากนี้พลังโจมตีของฟางเจิ้งจือภายใต้การสนับสนุนของเต๋าอาชูร่าและดาบไร้ร่องรอยมันกลับรุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อแม้จะไม่สามารถเทียบกับตัวเขาได้ แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่สามารถใช้ร่างกายรับการโจมตีของฟางเจิ้งจือตรงๆได้

  อีกเรื่องคือการตัดสินใจของฟางเจิ้งจือ

  หรือเขาควรเรียกว่าการจินตนาการดี?ฟางเจิ้งจือมักทำอะไรที่เขาคาดไม่ถึงเสมอและมักจะทำให้เขาเสียเปรียบ

  อย่างไรก็ตามความกังวลอีกเรื่องคือฟางเจิ้งจือมีฉือกูเหยียนอยู่ด้วยนางเป็นคนที่ใจเย็น เด็ดขาดและฉลาดมาก

  หากการโจมตีของฟางเจิ้งจือนั้นเต็มไปด้วยช่องโหว่การโจมตีของฉือกูเหยียนก็นับได้ว่าเป็นการปกปิดช่องโหว่เหล่านั้นโดยสมบูรณ์  เทพปีศาจกำลังรู้สึกว่าแผนการทั้งหมดของเขาถูกมองออกโดยฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียน

  มันทำให้เขาทนไม่ได้

   ข้าแค่ต้องทำให้พวกมันอ่อนแรงไปเอง! เทพปีศาจกัดฟัน ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดคือรักษาระยะห่างจากทั้งคู่เพื่อที่จะใช้ความได้เปรียบในเรื่องระดับพลังและความเร็ว เช่นนั้นปัญหาก็จะเหลือเพียงเรื่องเวลา

  พูดถึงเวลา…

  เขาไม่ได้กังวลมากนัก

   ดูเหมือนเทพปีศาจจะต้องการให้พวกเราอ่อนแรงไปเอง เสียงของฉือกูเหยียนดังขึ้นในใจของฟางเจิ้งจือ

  มันไม่ใช่พลังจิตแต่เพราะฟางเจิ้งจือและนางกำลังโคจรพลังหยินและหยางร่วมกันอยู่

   อืมข้ารู้แล้ว  ฟางเจิ้งจือเองก็รู้ถึงความสามารถนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเรื่องที่น่าตกตลึงที่สุดคือเขาพบความลับของฉือกูเหยียน!   ขีดจำกัดสายเลือดของฉือกูเหยียนทำให้นางได้รับพลังที่ยากจะต่อกรพลังที่สามารถค้นหาและตรวจจับอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ

  ฟางเจิ้งจือเป็นคนที่มีความรู้ค่อนข้างมาก

  เขาเข้าใจความสามารถแบบนี้ดีมันเป็นความสามารถพิเศษของสัตว์บางชนิดเช่นงู

  ถ้าเป็นโลกเก่าของเขามันอาจจะถูกเรียกว่า’อินฟาเรด!’

  มีการพิสูจน์แล้วว่าแก้มของงูบางเผ่าพันธุ์นั้นมีความสามารถในการตรวจจับอินฟาเรดแม้แต่ในตอนกลางคืนก็สามารถตรวจสอบสัตว์เลือดอุ่นที่อยู่รอบๆได้

  ดังนั้น…เจ้าแม่หนี่วาเป็นงูหรือเปล่า?

  ฟางเจิ้งจือคิดว่าสมมติฐานนี้ถูกต้อง

  ยิ่งไปกว่านั้นพลังของฉือกูเหยียนยังสามารถใช้ป้องกันการลอบโจมตีได้ก่อนที่การลอบโจมตีจะถึงเป้าหมาย ฉือกูเหยียนสามารถรับรู้ถึงตำแหน่งของมันได้อย่างแม่นยำ   … ฟางเจิ้งจือรู้สึกกลัวความสามารถของฉือกูเหยียนเล็กน้อยในอดีตถ้าฉือกูเหยียนมีความสามารถนี้ตั้งแต่เกิด และบังเอิญเขาไปเตะนางตกแม่น้ำเขาคงไม่มีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้

   พลังในการส่งผ่านอาวุธผ่านพื่นที่ว่างของเทพปีศาจนั้นเร็วเกินไปต่อให้ข้าจะรู้ตำแหน่งที่ถูกต้อง แต่ข้าก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีของเขาได้อย่างสมบูรณ์  ฟางเจิ้งจือได้ยินเสียงของฉือกูเหยียน

   ใช่แต่เจ้าไม่จำเป็นต้องป้องกันการโจมตีทั้งหมดของเขา ถ้าเจ้าทำแบบนั้นเทพปีศาจจะรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ พวกเราควรใช้โอกาสในตอนที่เขายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!  ฟางเจิ้งจือส่ายหัว

  นับตั้งแต่ที่เขารู้ถึงความสามารถของนางเขารอโอกาสที่ฆ่าเทพปีศาจ เขาไม่ต้องการให้เทพปีศาจรับรู้ถึงพลังนี้เขาจึงเลือกที่จะป้องกันการโจมตีให้ฉือกูเหยียนแทน

  มันจะทำให้เทพปีศาจคิดว่าฟางเจิ้งจือมีพลังพิเศษแทน

  ฟางเจิ้งจือไม่รู้ว่าเทพปีศาจจะหลงกลหรือเปล่า

  ยิ่งไปกว่านั้นเทพปีศาจผู้ทรงพลังกลับยอมละทิ้งความภูมิใจและเริ่มใช้กลยุทธ์’ถ่วงเวลา’กับมนุษย์ผู้อ่อนแอนี่เป็นสิ่งที่ฟางเจิ้งจือคาดไม่ถึง

  แต่เขาก็ต้องตั้งรับต่อไป!

  จนกว่าเขาจะเห็นโอกาส

  ตอนนี้เทพปีศาจทิ้งระยะจากพวกเขาทั้งสองคนฟางเจิ้งจือไม่มีทางเลือกนอกจากอดทน

  ตูม!

  ตูม!ตูม!

  เสียงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องการต่อสู้ระหว่างเทพปีศาจและฟางเจิ้งจือยังคงดำเนินต่อไป

  สิ่งนี้ทำให้ราชาอสูรประหลาดใจ  หากฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนรับมือเทพปีศาจได้เพียงช่วงเวลาสั้นๆพวกเขายังสามารถพูดได้ว่าเทพปีศาจบังเอิญลืมเรื่องที่พนันไว้กับหยุนชิงวู

  อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาต่อสู้กันมานานมากกว่าหนึ่งชั่วโมงมันแสดงให้เห็นว่าฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนไม่ใช่ผู้ที่จะถูกจัดการได้ง่ายๆ

  ทำไมเรื่องแบบนี้จึงเกิดขึ้น

  ราชาอสูรไม่เข้าใจพวกเขาอยากจะช่วยเหลือ แต่พวกเขาไม่ได้รับคำสั่งจากไป่ฉือ

  มันไม่ได้น่าแปลกใจ

  ต่อให้ปีศาจและอสูรเป็นพันธมิตรกันแต่เทพปีศาจก็ยังคงเป็นปีศาจนอกจากนี้ความคิดของเขาก็ไม่ชัดเจนไม่มีใครรู้ว่าเขาจะทำอะไรหลังจากฆ่าฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนเสร็จ

  ไม่มีใครรู้คำตอบดังนั้นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือการรอและระวังการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น   ดูเหมือนว่าเขาต้องการฆ่าฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไป่ฉือเข้าใจเรื่องนี้ดี

  ถ้าเป็นตัวนางเองก็ไม่คิดจะปล่อยทั้งคู่รอดไปไม่อย่างนั้นปัญหามากมายในอนาคตจะตามมา

   ท่านแม่วางแผนจะโจมตีงั้นหรือ? หลังจากได้ยินที่ไป่ฉือพูดหยุนชิงวูพยักหน้ารับเบาๆ

   มีอะไรผิดปกติงั้นรึ? ไป่ฉือถามออกมา

   ถ้าท่านเข้าไปโจมตีแต่แรกเทพปีศาจอาจจะคิดว่ามันไม่จำเป็น อย่างไรก็ตามหากท่านเขาไปตอนนี้เขาน่าจะไม่ว่าอะไร  หยุนชิงวูอธิบาย

   เจ้าหมายว่าตอนนี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ข้าควรจะเข้าไปโจมตีใช่ไหม? ไป่ฉือถามอีกครั้ง

   ใช่แต่ว่า… หยุนชิงวูลังเล

   ในเมื่อมันเป็นเวลาที่ดีที่สุดมันไม่น่ามีปัญหาอะไร ถ้าฟางเจิ้งจือหรือฉือกูเหยียนไม่ตายไปสักคน ข้าคงนอนไม่หลับแน่!  ไป่ฉือไม่รีรออีกต่อไป

  นางตัดสินใจแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างน้อยนางต้องฆ่าพวกเขาทิ้งสักคนหนึ่ง

  นางไม่ลังเลอีกต่อไป

   ปกป้องจักรพรรดินีน้อย! ไป่ฉือออกคำสั่ง ก่อนที่นางจะหายตัวไปและปรากฎตัวห่างออกไปจากฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนสิบก้าว

   รับทราบ ราชาอสูรรับคำสั่งและพุ่งไปหาหยุนชิงวูอย่างไม่ลังเล

  นอกจากนั้นยังมีเหล่าปีศาจอาวุโสปกป้องหยุนชิงวูด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

  พวกเขาไม่กังวลถ้าไป่ฉืออยู่กับหยุนชิงวูอย่างไรก็ตามเรื่องไม่แน่นอนสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ

   ท่านหยุนชิงวูพวกเราไปหาที่หลบ… 

   ไม่เป็นไร หยุนชิงวูส่ายหน้า จากนั้นนางก็หันไปหาเหล่าปีศาจอาวุโสและราชาอสูรทั้งหมด  ใช้ค่ายกลเจ็ดร่าง! 

   รับทราบ! ปีศาจอาวุโสทั้งหมดรับคำก่อนที่พวกเขาจะยืนเป็นวงกลมล้อมรอบหยุนชิงวูเอาไว้พร้อมปล่อยพลังเพื่อสร้างค่ายกลขึ้นมาทันที

  ค่ายกลรวมกับการป้องกันของเหล่าราชาอสูรฟางเจิ้งจือไม่สามารถเข้าใกล้หยุนชิงวูได้ง่ายๆแน่นอน

   ท่านแม่เลือกตำแหน่งได้ดีแต่…ช่างมันเถอะ หวังว่าสิ่งที่ข้าคิดจะไม่เกิดขึ้น  หลังจากมองตำแหน่งที่ไป่ฉือปรากฎตัว หยุนชิงวูขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่นางไม่ได้พูดอะไรออกมา

  อย่างที่นางพูดตอนนี้คือเวลาที่ดีที่สุดที่ไป่ฉือจะเข้าไปโจมตีเทพปีศาจอยู่ด้านหน้าและไป่ฉือด้านหลัง พวกเขาสามารถร่วมมือกันโจมตีได้ ยิ่งไปกว่านั้นไป่ฉือยังทิ้งระยะห่างเพื่อเป็นการขออนุญาติจากเทพปีศาจก่อน

   ยายแก่ทำไมท่านถึงหนังหนาจัง?  ฟางเจิ้งจือตกใจเมื่อเห็นไป่ฉือปรากฎตัวขึ้น สีหน้าของฉือกูเหยียนเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน นางพยายามที่จะรักษาความสงบเอาไว้

   ฮ่าฮ่าคำพูดของเจ้ายังคงทิ่มแทงเช่นเคย อย่างไรก็ตามเจ้าพลาดแล้วฟางเจิ้งจือ ท่านเห็นด้วยกับข้าไหมท่านเทพปีศาจ?  ไป่ฉือยิ้มบางๆ แม้นางจะพูดกับฟางเจิ้งจือแต่สายตาของนางยังคงจับจ้องอยูที่เทพปีศาจ

   หึ เทพปีศาจไม่พูดอะไรออกมา เขาไม่ได้ตำหนิสิ่งที่ไป่ฉือทำ

  เมื่อเห็นแบบนี้ไป่ฉือยิ่งยิ้มอย่างสดใสมากยิ่งขึ้นนางรู้ว่าเทพปีศาจยอมรับความร่วมมือจากนางแล้ว

  อย่างไรก็ตามความคิดของเขายังทำให้นางกังวลเพราะมันหมายความว่าเทพปีศาจไม่สามารถจัดการฉือกูเหยียนและฟางเจิ้งจือได้ด้วยตัวคนเดียว

   พวกมันแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยงั้นหรือ? ไป่ฉือมองดูฉือกูเหยียนและฟางเจิ้งจือ ขนสีขาวค่อยๆปกคลุมร่างกายของนาง

  แม้นางจะยังอยู่ในร่างมนุษย์แต่ลักษณะของนางก็เหมือนจิ้งจอกเก้าหาง

  นางไม่เชื่อ!

  อย่างไรก็ตามนางระมัดระวังตัวมาก

  แม้ว่าฟางเจิ้งจือกำลังหายใจหอบถี่และมีเหงื่อมากมายบนใบหน้าร่างของเขาปกคลุมไปด้วยเลือดราวกับใกล้ตาย แต่มันทำให้ไป่ฉือยิ่งระวังตัวมากยิ่งขึ้น

   เจ้าเด็กเหลือขอข้าอยู่มาก่อนที่ปู่ของเจ้าจะเกิดเสียอีก เจ้าคิดว่าการกระทำของเจ้าจะหลอกข้าได้ง่ายๆงั้นหรือ? ไร้เดียงสามาก!  ท่าทีของไป่ฉืออยู่ในความสงบมาก นางกำลังรอช่วงเวลาดีที่สุดในการฆ่าฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset