เทพปีศาจหนีไปอย่างรวดเร็วเขาหายตัวไปในชั่วพริบตา
อย่างไรก็ตามเขายังคงมึนงงอยู่เล็กน้อยทำให้เขาหนีไปได้ไม่ไกลนักเขาสุ่มตำแหน่งที่จะปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญอีกต่อไป
ตราบใดที่เขาพ้นระยะการโจมตีของฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนมันก็เพียงพอแล้ว
เขาต้องรออีกเพียงเล็กน้อยเพื่อให้อาการวิงเวียนหายไปโดยสมบูรณ์จากนั้นเขาจะสามารถแสดงพลังที่แท้จริงของเขาได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาพุ่งออกมาจากพื้นที่ว่างเขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติราวกับร่างของเขาจมลงไปในแอ่งโคลน
ตรึง เสียงเบาๆดังขึ้น แต่เขากลับได้ยินมันชัดเจน อะไรกัน?! ท่าทีของเทพปีศาจเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์ เขาเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
อย่างไรก็ตามทำไมเสียงที่เกิดขึ้นถึงราวกับทำนายตำแหน่งที่เขาจะปรากฎตัวได้
เป็นไปได้ยังไง?
ไม่มีทาง!
เทพปีศาจไม่เชื่อว่าฉือกูเหยียนจะสามารถทำนายตำแหน่งของเขาได้อย่างถูกต้องเพราะแม้แต่ตัวเขาเองยังไม่รู้เลยว่าจะปรากฎตัวออกมาในตำแหน่งไหน
อย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญอีกต่อไปเพราะมันสายเกินไปแล้ว
ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงลำแสงสีม่วงที่ส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้าแม้แต่ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ยังสู้ความสว่างของมันไม่ได้
ไม่!!! เทพปีศาจร้องคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาเบิกตากว้าง ตอนนี้เขาได้สติอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถทำอะไรได้เพราะแสงสีม่วงได้ตัดผ่านร่างของเขาด้วยความเร็วอันสูงสุด
ยิ่งไปกว่านั้นแสงสีม่วงนั้นแหลมคมจนแม้แต่ชุดเกราะของเขาก็ไม่สามารถป้องกันได้
หน้าอกของเขาแยกออกด้วยใบดาบที่แหลมคมเลือดไหลทะลักออกมาทันที
มันทำให้เทพปีศาจตกตะลึง
เขาไม่เคยได้รับบาดเจ็บสาหัสแบบนี้มาเป็นเวลานานแล้วแม้แต่ครั้งสงครามโบราณก็ตาม
แต่ตอนนี้…
มันยังไม่จบ
ทันใดนั้นดาบแสงโจมตีใส่เขาแสงสว่างจ้าของใบดาบกระทบกับดวงตาของเขา เขารู้สึกว่าโลกทั้งใบกำลังกลับหัว
ท้องฟ้าอยู่ด้านล่างพื้นโลกอยู่ด้านบน จากนั้นทุกอย่างก็หมุนวนอย่างต่อเนื่อง…
เทพปีศาจมองสิ่งที่อยู่ด้านล่างจากนั้นเขาก็รู้ว่าตัวเองกำลังลอยอยู่บนอากาศ
แต่ทุกอย่างกลับหมุนวนอย่างรวดเร็ว
….
เหล่าราชาอสูรต่างมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยร่างที่นิ่งราวกับรูปปั้นบนใบหน้าของพวกเขาแสดงความรู้สึกแบบเดียวกัน
ความประหลาดใจ
ใช่แล้วความประหลาดใจ!
พวกเขาจะไม่ประหลาดใจได้ยังไงเพราะหัวของเทพปีศาจกำลังตกลงมาจากท้องฟ้า
หัวของเทพปีศาจ…
ถูกตัดขาดอย่างง่ายดาย
ราชาอสูรจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าพวกเขาได้ยังไง?มันเกิดขึ้นทันทีหลังจากสายตาพวกเขากลับมามองเห็นปกติจากแสงสีขาว
นอกจากพวกเขาแล้วแม้แต่หยุนชิงวูเซียนสวรรค์พักพิงและเหยียนเฉียนหลี่ที่ยืนอยู่ด้านล่างก็ไม่สามารถเชื่อได้เช่นกัน แม้วู่จวี้เอ๋อจะรู้ว่าฟางเจิ้งจือได้โจมตีใส่เทพปีศาจจริงๆแต่มันไม่น่าจะตัดหัวเทพปีศาจได้ง่ายๆ
เขาเป็นถึงสิ่งมีชีวิตที่กล้าอ้างตัวเองเป็นพระเจ้า!
พระเจ้าที่เคยผ่านสงครามโบราณครั้งใหญ่
คำว่า’ประหลาดใจ’ยังไม่สามารถอธิบายความรู้สึกของวู่จวี้เอ๋อในตอนนี้ได้แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนไม่ยอมแพ้ให้กับเทพปีศาจ
ตาย! ฟางเจิ้งจือร้องตะโกนขณะที่พุ่งเข้าไปหาหัวของเทพปีศาจพร้อมกับฉือกูเหยียน
ท่านแม่! หยุนชิงวูร้องตะโกนออกมาด้วยความกังวลอีกครั้ง ไม่มีใครรู้ว่านางกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของไป่ฉือหรือหัวของเทพปีศาจที่กำลังร่วงลงพื้น อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องยากที่จะเห็นหยุนชิงวูมีท่าทีวิตกกังวลเช่นนี้ ตูม!เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง จากนั้นแสงสีขาวก็ระเบิดขึ้นกลางท้องฟ้า
มันเป็นขนสีขาวที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กขนทุกเส้นราวกับเข็มที่แหลมคมมันพุ่งออกมาจากร่างไป่ฉือไปทั่วทุกทิศทางบนท้องฟ้า
อะไรกัน?ยายแก่นั่น… ฟางเจิ้งจือไม่เห็นตำแหน่งที่ไป่ฉือได้รับบาดเจ็บ แต่เขาคิดว่ามาตลอดว่าไป่ฉือน่าจะใกล้ตายแล้ว ต่อให้ไม่ตายมันก็เป็นไปไม่ได้ที่นางจะระเบิดพลังเช่นนี้ออกมา
เทพปีศาจโจมตีพลาดงั้นหรือ?
หรือเพราะไป่ฉือลังเลไปชั่วขณะ?
อาจจะเป็นเพราะเสียงเตือนของหยุนชิงวูหรือเปล่า?
ฟางเจิ้งจือไม่แน่ใจแต่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นในแผนการของเขาจริงๆมันทำให้เขาไม่สามารถโจมตีครั้งสุดท้ายได้!
ตูม!หางจิ้งจอกที่แข็งราวกับเหล็กทุบลงบนหลังของฟางเจิ้งจือ ขนอันแหลมคมเจาะเข้าไปในชุดเกราะสีดำของฟางเจิ้งจือ
ร่างของฟางเจิ้งจือสั่นสะท้านเขากระอักเลือดออกมาจากปากทันที
อั้ก!เลือดที่พ่นออกมาหล่นลงบนหัวของเทพปีศาจเพิ่มความน่าเกลียดน่ากลัวให้กับหัวของเขา
ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงคำราม
อ้าก!!! ในขณะที่เขาร้องตะโกน หัวของเขาได้หายไป
จากนั้นหัวเทพปีศาจก็ปรากฎขึ้นห่างจากเดิมประมาณสามก้าวอย่างไรก็ตามดวงตาของเทพปีศาจที่เดิมทีเป็นสีดำกลับกลายเป็นสีทองส่องสว่าง
มันเป็นฉากที่แปลกประหลาดของเหลวสีทองค่อยๆไหลออกมาจากดวงตาปีศาจปกคลุมไปทั่วใบหน้า
พวกมันค่อยๆแข็งตัวและเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน… ร่างกายของมนุษย์ก็ถูกสร้างขึ้น
เขายังไม่ตายอีกหรือ?! ตอนแรกฟางเจิ้งจือไม่แน่ใจว่าเทพปีศาจตายแล้วหรือยังหลังจากถูกตัดหัว อย่างไรก็ตามเขาเตรียมใจไว้เสมอ
จุดตายของมนุษย์อาจจะเป็นที่คอและหัวใจสำหรับอสูรคือไข่มุกอสูร อย่างไรก็ตามสำหรับปีศาจมันเป็นที่ดวงตาปีศาจที่หน้าผาก
สำหรับปีศาจที่ไปถึงระดับเซียนพวกเขาจะไม่ตายแม้ดวงตาปีศาจจะได้รับความเสียหาย
ในฐานะเทพปีศาจผู้ทรงพลังเขามีพลังพอที่จะสามารถสร้างร่างกายขึ้นมาใหม่ได้ทันที
มันคือการเดิมพันของฟางเจิ้งจือ
เขาอาจจะชนะถ้าไม่มีการโจมตีของมาแทรกในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด
ใกล้แล้ว!อีกแค่เอื้อมมือเดียวเท่านั้น! ฟางเจิ้งจือกัดฟันแน่น แม้เขาจะถูกโจมตีจากไป่ฉือจนร่างสั่นสะท้าน ดวงตาของเขายังคงตรึงอยู่ที่เทพปีศาจ
เมื่อเขาเห็นของเหลวสีทองค่อยๆแข็งตัวช้าๆเขาไม่รู้ว่ามันจะสายเกินไปแล้วหรือเปล่า
เพราะแม้เทพปีศาจจะสูญเสียพลังส่วนใหญ่ไปเขายังมีความสามารถในการเอาตัวเองเข้าไปในพื้นที่ว่างจนตอนนี้หัวของเขาห่างออกไปจากตำแหน่งเดิมสามก้าว
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเขาได้ร่างกลับคืนทุกอย่างที่เขาทำมาจะกลายเป็นศูนย์ไปในทันที
ฟางเจิ้งจือไม่มีทางยอมรับเรื่องนี้เขาวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อที่จะฆ่าเทพปีศาจได้สำเร็จ
ตอนแรกเขาโจมตีที่ร่างกายของเทพปีศาจ
เขาไม่รู้ว่าจุดอ่อนของเทพปีศาจอยู่ที่ดวงตาปีศาจหรือเปล่าเขาสามารถทำนายตำแหน่งที่เทพปีศาจจะปรากฎตัวได้เพราะพลังของฉือกูเหยียน แต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่าเทพปีศาจที่ปรากฎตัวออกมาจะมีท่าทางยังไง? คุกเข่า? หันหลังให้เขา? ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเล็งไปที่ดวงตาปีศาจ
ฟางเจิ้งจือไม่คิดจะทำอะไรที่เสี่ยงเกินไปดังนั้นเขาเลือกโจมตีที่หน้าอกของเทพปีศาจก่อน จากนั้นการโจมตีต่อไปเขาปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉือกูเหยียน น่าเศร้าที่นางก็คิดแบบเดียวกับเขา นางไม่ต้องการให้เทพปีศาจได้สติโดยสมบูรณ์ นางเห็นร่างของเทพปีศาจเพียงลางๆเท่านั้น ดังนั้นการที่จะโจมตีให้โดนดวงตาปีศาจไม่ใช่เรื่องง่าย มันเสี่ยงเกินไปเช่นกัน! ดวงตาปีศาจมีขนาดเล็กมาก!
ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่รู้ว่าเทพปีศาจจะถูกสะกดด้วยดวงตาปีศาจได้นานแค่ไหนดังนั้นเขาบอกฉือกูเหยียนให้โจมตียังไงก็ได้ให้เทพปีศาจบาดเจ็บหนักที่สุด
ฉือกูเหยียนตัดหัวของเทพปีศาจได้ภายในดาบเดียว!
แม้แต่ตัวของฟางเจิ้งจือเองยังตกตะลึงเมื่อเห็นหัวของเทพปีศาจกระเด็นออกไปแต่เขายังมีเวลาพอที่จะไปถึงหัวของเทพปีศาจ
ทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบถ้าไม่มีการโจมตีของไป่ฉือ!
ถ้าไม่มีการโจมตีอย่างไป่ฉือเขาสามารถจัดการหัวของเทพปีศาจได้อย่างง่ายดายต่อให้เขาจะถอยออกไปสามก้าวก็ตาม
อย่างไรความจริงนั้นยากที่จะยอมรับตอนนี้เขาอาจจะสูญเสียโอกาสที่จะฆ่าเทพปีศาจแล้ว…
ฟางเจิ้งจือเริ่มรู้สึกสิ้นหวัง…
.
.
.
.
เจ้าไร้ยางอายเจ้ายังมีโอกาสสุดท้ายอยู่! ทันใดนั้นเสียงอันใสกังวาลดังขึ้นข้างๆหูฟางเจิ้งจือ
ยังมีโอกาสอยู่อีกงั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือรู้ว่าเป็นฉือกูเหยียนที่พูดแต่เขาไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ‘โอกาสสุดท้าย’ ที่ฉือกูเหยียนพูด
ยิ่งไปกว่านั้นเขามั่นใจว่าตัวของนางเองก็โดนไป่ฉือโจมตีใส่เช่นกัน
เขาไม่เข้าใจจริงๆ
อย่างไรก็ตามเรื่องน่าตกใจได้เกิดขึ้นตรงหน้าเขาร่างของฉือกูเหยียนไถลไปด้านหน้าและพุ่งไปหาเทพปีศาจด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ
ราวกับสายฟ้าสีชมพูที่ผ่าลงมาจากท้องฟ้า
เร็วมาก?ทำไมนางถึงเร็วขนาดนี้?! หรือว่า… ฟางเจิ้งจือตกตะลึงเมื่อเขาเห็นแผลเหวอะหวะด้านหลังฉือกูเหยียน
นางดูบาดเจ็บหนักกว่าฟางเจิ้งจือด้วยซ้ำนางพุ่งออกไปพร้อมกับเลือดที่ไหลเป็นสายในอากาศ
ตอนนั้นเองที่ฟางเจิ้งจือเข้าใจทำไมฉือกูเหยียนถึงพุ่งออกไปได้ด้วยความเร็วขนาดนั้น นั่นเป็นเพราะนางไม่ได้ป้องกันการโจมตีของไป่ฉือ!
หรือก็คือฉือกูเหยียนใช่ร่างกายของตัวเอง…
รับการโจมตีทั้งหมดของไป่ฉือ?!
จากนั้นก็ใช้แรงส่งจากการโจมตีนั้นเพื่อพุ่งไปด้านหน้า
ร่างของฟางเจิ้งจือสั่นสะท้านนั่นเพราะมันเป็นวิธีที่ดีก็จริงแต่มันทำให้นางพบกับความสูญเสียอันใหญ่หลวง อย่างไรก็ตามเขาไม่เห็นร่องรอยของความเสียใจบนใบหน้าของนางแม้แต่น้อย
มันมีแต่เพียงการตัดสินใจที่แน่วแน่เท่านั้น!
……………………………………..