เงียบ
ทั้งโถงตกอยู่ในความเงียบ
ใครก็ตามที่ตอนแรกคิดว่า’เมิ่งเทียน’เป็นตำนานที่ยุนชิงวูสร้างขึ้นพวกเขาต้องเปลี่ยนใจทันทีเมื่อเห็นหัวของหลินจี
นั่นเป็นเพราะหยุนชิงวูไม่มีทางยอมเสียสละหัวของเทพอสูรเพื่อสร้างตำนานของเมิ่งเทียนขึ้นมาแน่นอน
ดูเหมือนว่าเทพสงครามเมิ่งเทียนจะมีชีวิตอยู่จริงๆ! หลังจากความเงียบปกคลุม เสียงหนึ่งก็ได้ดังขึ้น เป็นผู้นำสำนักที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้
ใช่นั่นเป็นความเป็นไปได้เดียวที่เป็นไปได้!
ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผู้อาวุโสเมิ่งเทียนยังมีชีวิตอยู่!มันน่าเหลือเชื่อมาก!
เมื่อความสงสัยในใจของพวกเขาเริ่มหายไปมันถูกแทนที่ด้วยความยินดีที่เมิ่งเทียนยังมีชีวิตอยู่
ทันใดนั้นเต๋าซิงลุกขึ้นและเดินไปก้มหัวให้วู่จวี้เอ๋อ
ในเมื่อผู้นำนิกายเงาเคยพบกับผู้อาวุโสเมิ่งเทียนมาก่อนท่านสามารถอธิบายถึงการปรากฎตัวของเมิ่งเทียนจำนวนมากในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่?
ใช่แล้วทำไมมีเมิ่งเทียนมากมายขนาดนั้น?
เกิดอะไรขึ้น?
ผู้คนที่อยู่รอบๆมองวู่จวี้เอ๋อด้วยความสับสนหลังจากได้ยินคำพูดของเต๋าซิง
เหตุผลนั้นง่ายมากเมิ่งเทียนเหล่านั้นเป็นตัวปลอมที่ข้าได้จัดเตรียมไว้ วู่จวี้เอ๋อมองไปรอบๆพร้อมกับรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์
นั่นเป็นเมิ่งเทียนที่ท่านสร้างขึ้นงั้นหรือ?
แน่นอนข้าได้ขออนุญาติจากท่านเมิ่งเทียนแล้ว
แล้วทำไมท่านวู่จวี้เอ๋อต้องทำเช่นนี้ด้วยเล่า?
เพื่อหาข้อมูล!
ข้อมูล?
ใช่แล้วกลุ่มพันธมิตรกำลังรวมตัวอยู่ที่ภูเขาหลิงเซียว ศิษย์ที่ทำหน้าที่เรื่องการหาข้อมูลต้องระมัดระวังตัวเป็นอย่างมากและมักจะพบกับสถานการณ์ที่เป็นอันตราย ในทางกลับกันฝั่งปีศาจและอสูรกับสามารถหาข้อมูลได้อย่างเปิดเผย ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปพวกเราจะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก วู่จวี้เอ๋ออธิบาย
ข้าเห็นด้วยในเรื่องนี้ เต๋าซิงพยักหน้า
นั่นเป็นเพราะนางเข้าใจในสิ่งที่วู่จวี้เอ๋อกล่าวข้อมูลนั้นเป็นปัจจัยสำคัญในการต่อสู้เสมอ
ถ้าใครรู้ข้อมูลของศัตรูมักจะมีความได้เปรียบในการต่อสู้
การขาดข้อมูลข่าวสารอาจจะทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดและนำไปสู่ความพ่ายแพ้ในที่สุด
ตัดสินจากสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว…
มนุษย์ไม่ได้ทรงพลังเท่ากับเผ่าอสูรและปีศาจแล้วถ้าพวกเขายังคงเสียเปรียบเรื่องข้อมูลอีกมันยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะชนะ
เทพสงครามเมิ่งเทียนกล่าวว่าพวกเราจะปลอมเป็นเขากี่คนก็ได้ไม่ว่าจะสิบ ร้อย หรือแม้กระทั่งนับพัน! วู่จวี้เอ๋อกล่าวอีกครั้ง
พวกเราสามารถปลอมเป็นเมิ่งเทียนได้ด้วย?
ถูกต้องลองคิดว่าถ้ามีเมิ่งเทียนปรากฎตัวทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์ พวกปีศาจและอสูรจะสามารถสืบหาข้อมูลได้อย่างสบายใจได้ยังไง? วู่จวี้เอ๋อพยักหน้า
ไม่พวกมันไม่สามารถทำแบบนั้นได้แน่นอน ถ้าพวกเราทุกคนกลายเป็นเมิ่งเทียน พวกนั้นก็เท่ากับคนตาบอด ผู้คนรอบข้างต่างเข้าใจแผนการของวู่จวี้เอ๋อและเทพสงครามเมิ่งเทียน
เปลี่ยนทุกคนเป็นเมิ่งเทียน!
แผนที่ยอดเยี่ยม!
ยิ่งไปกว่านั้นเมิ่งเทียนตัวจริงยังถูกซ่อนอยู่ท่ามกลางเมิ่งเทียนนับร้อยหรือแม้แต่มู่ฉิงเฟิง โม่ฉานฉือก็อาจจะกลายเป็นเมิ่งเทียนได้
ด้วยเหตุนี้ศิษย์ของสำนักต่างๆสามารถเดินทางออกจากภูเขาหลิงเซียวได้อย่างโจ่งแจ้ง
แผนการที่ยอดเยี่ยม!ไม่น่าแปลกใจที่เขาได้รับสมญานานามว่าเทพสงคราม!
ถูกต้องเราไม่จำเป็นต้องปกป้องที่นี่อีกต่อไป ถ้าเราปลอมเป็นเมิ่งเทียนเราจะทำอะไรก็ได้ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ต่อให้พวกเราถูกพบก็แค่หนี!
ใช่แล้วๆนอกจากนี้พวกเราสามารถกดดันพวกปีศาจและอสูรได้
หลังจากได้ยินคำพูดของมู่ฉิงเฟิงทุกคนตื่นเต้นมากเพราะมันหมายความว่าพวกเขาจะได้เป็นผู้ควบคุมสถานการณ์
เป็นเวลากว่าห้าเดือนที่มนุษย์ต้องติดอยู่บนภูเขาหลิงเซียวไม่สามารถไปไหนได้พวกเขาแค่ส่งศิษย์ออกไปรวบรวมข้อมูลเท่านั้น
แผนการที่วู่จวี้เอ๋อกล่าวออกมานั้นเป็นเหมือนการปลดปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระ
งั้นพวกเราก็ทำตามแผนนี้กันเถอะสร้างหน้ากากสีดำที่มีคำว่า’เทพเจ้า’อยู่ ข้าไม่ต้องการอยู่ในที่เส็งเคร็งเช่นนี้อีกแล้ว! เสียงของโม่ฉานฉือดังขึ้น มันดังก้องไปทั่วทั้งโถง
ผู้นำสำนักอื่นๆและเหล่าศิษย์พยักหน้า
เมื่อเห็นแบบนี้ท่าทีของเต๋าฮุนเปลี่ยนไปทันที
โม่ฉานฉือนั้นไม่ใช่คนที่มีอำนาจหน้าที่ในการออกคำสั่ง
ขณะที่พวกเขากำลังจะพูดอะไรบางอย่างเขาก็เห็นเต๋าซิงส่ายหน้า เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากกลืนคำพูดกลับไป เขาสามารถเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดได้ว่าทำไมเต๋าซิงถึงทำเช่นนี้ความวุ่นวายในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องที่ตัวเขาคนเดียวจะหยุดได้
ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนก็ใช่ว่าจะยอมรับตำแหน่งผู้นำกลุ่มพันธมิตรสวรรค์ของเขา
แค่กๆ!
เต๋าฮุนยืนขึ้นและกระแอมเบาๆ
อย่างไร้ก็ตามไม่มีใครฟังเขาแม้แต่น้อย
ห้องโถงยังคงเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยด้วยความตื่นเต้น
เต๋าฮุนรู้สึกกระอักกระอวนเล็กน้อย
เทพสงครามเมิ่งเทียน!เขาเอาตำแหน่งผู้นำกลุ่มพันธมิตรสวรรค์ของข้าไปทั้งๆที่ยังไม่ได้มาเหยียบภูเขาหลิงเซียวเลยแม้แต่น้อย? เต๋าฮุนกัดฟันแน่น
เพื่อให้ได้ตำแหน่งผู้นำมนุษยชาติเขาใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังต้องพยายามสร้างความน่าเชื่อถืออย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทุกคนเชื่อใจเขาแม้แต่แจกจ่ายยารักษาจากศาลาหยินหยางไปยังผู้นำสำนักอื่นๆเพื่อซื้อใจพวกเขา
แล้วตอนนี้เป็นยังไง?
เมิ่งเทียนที่โผล่มาจากไหนไม่รู้สามารถเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย
น่าชิงชังสิ้นดี! เต๋าฮุนกำหมัดแน่น
ในขณะเดียวกันเหล่าผู้นำสักและศิษย์จำนวนมากต่างได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็วทุกสำนักต่างส่งคนไปสร้างหน้ากากสีดำ
ผู้นำเต๋าพวกเรากำลังรีบต้องขอตัวก่อน!
ใช่พวกเราต้องรีบสร้างหน้ากากสีดำขึ้น หวังว่ามันจะมีเพียงพอต่อทุกคน!
หลังจากพวกเขากล่าวเสร็จก็จากไปทันที
ด้านเต๋าฮุนเขาพยายามยกมือขึ้นอย่างไม่มีทางเลือก เขาฝืนยิ้มออกมา ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของพวกเจ้า! …
กลางดึกสิบวันต่อมา…
ดวงดาวส่องแสงระยิบระยับกลางค่ำคืนเสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังไปทั่วป่าทึบ
กลางคืนที่ควรจะเงียบสงบ
อย่างไรก็ตามศาลาเต๋าสวรรค์กลับไม่สามารถสงบลงได้แม้จะเป็นตอนกลางดึกแต่แสงสว่างยังคงส่องออกมาพร้อมกับเงาที่เคลื่อนไหวตลอดเวลา
รายงานข่าวร้ายพวกเราพบเมิ่งเทียนห่างออกไปไม่ไกลด้านทิศตะวันออก แต่เพราะมันมืดมากทำให้พวกเราคาดเดาจำนวนได้แค่คร่าวๆ น่าจะประมาณ…สามร้อยคน!
หา?เมิ่งเทียนสามร้อยคน?! สีหน้าของราชาอสูรที่ยืนอยู่บนยอดเขาศาลาเต๋าสวรรค์เปลี่ยนไปทันที
เมิ่งเทียนสามร้อยคน?
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?!
มันเป็นเรื่องจริงแน่นอน! ผู้รายงานข้อมูลยืนยัน
บัดซบ!แค่ครั้งที่แล้วพวกเราก็อับอายกับเมิ่งเทียนตัวปลอมมากพอแล้ว ตอนนี้มีเมิ่งเทียนโผล่มาจากไหนมากมายอีก? ราชาอสูรสบถออกมา
ท่านราชาอสูรนายน้อยได้ส่งจดหมายมาตั้งแต่ห้าวันที่แล้วว่าจะมาถึงตอนบ่ายๆ พวกเราควรทำยังไงกับเมิ่งเทียนทั้งหมดดี? หนึ่งในปีศาจที่ยืนอยู่ด้านข้างราชาอสูรถามขึ้นมา
พวกเราจะทำอะไรได้?นายน้อยบอกว่าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเมื่อเจอเมิ่งเทียน ยิ่งตอนนี้มีเมิ่งเทียนสามร้อยคน เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไรงั้นรึ? หน้าของราชาอสูรดำทะมึนในทันที
รายงาน…รายง่านด่วน!
มีเรื่องอะไรอีก?รีบพูด!
ทางใต้…ข้าเห็นเมิ่งเทียนอย่างน้อยสามร้อยคนพวกเขาสวมหน้ากากและผ้าคลุมแบบเดียวกันหมด!
เจ้าพูดว่าอะไรนะ?ไหนพูดอีกครั้งสิ?! ราชาอสูรนิ่งอึ้งไปชั่วครู่
ข้า…ข้าพบเมิ่งเทียนอย่างน้อยห้าร้อยคนไกลออกไปในทิศใต้!
รายงานด่วน…พบเมิ่งเทียนสี่ร้อยคนทางทิศตะวันตก!
รายงาน…ด้านเหนือพบเมิ่งเทียนจำนวนมากกำลังมุ่งตรงมายังพวกเรามีเมิ่งเทียนอย่างน้อยหนึ่งพันคน…
…