Gate of God – ตอนที่ 980 โจวฉี

  !

  ……………………………………..

   รายงาน… 

  ถ้าราชาอสูรมีถ้วยชาอยู่ในมือมันคงแตกออกเป็นเสี่ยงๆเรียบร้อยแล้ว

  เมิ่งเทียนสองพันคน!

  ’เรื่องบ้าอะไรกัน?’

   ตัวปลอมพวกมันต้องเป็นตัวปลอม!  แม่ทัพปีศาจคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา

   สวะ!ข้ารู้อยู่แล้วว่าพวกมันเป็นตัวปลอม!  ราชาอสูรรู้สึกหงุดหงิดมาก เขาจะไม่รู้ได้ยังว่าเมิ่งเทียนหนึ่งพันคนเป็นตัวปลอม?

  แต่ปัญหาคือทำไมถึงมีเมิ่งเทียนมากมายขนาดนั้นแล้วจุดประสงค์คืออะไร?

   ถ่ายทอดคำสั่งของข้าออกไปเตรียมพร้อมทำสงคราม!  ราชาอสูรออกคำสั่งแม้ไม่รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเมิ่งเทียนคืออะไร   รับทราบ! 

   ข้าอยากจะรู้ว่าพวกเมิ่งเทียนตัวปลอมจะมีน้ำยาแค่ไหน! ราชาอสูรโกรธมากจนเกล็ดขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นตามร่างกาย

   แต่ว่า…นายน้อยบอกว่า… แม่ทัพปีศาจยังคงดูกังวล

   แน่นอนข้าย่อมทำตามคำสั่ง แต่เมิ่งเทียนจำนวนมากมายขนาดนี้จะไม่ให้ข้าทำอะไรเลยงั้นรึ?  ราชาอสูรตอบอย่างโกรธเกรี้ยว

   แต่ว่า… 

   หุบปากหยุดพูดไร้สาระได้แล้ว แจ้งไปยังเทพปีศาจ ตราบใดที่เขายังอยู่ที่นี่ เขาสามารถฆ่าเมิ่งเทียนตัวปลอมทั้งหมดได้!  ราชาอสูรโบกมือพร้อมกับดวงตาที่เป็นสีแดงก่ำ

   เข้าใจแล้วข้าจะจัดการเดี๋ยวนี้!  ทหารปีศาจกำหมัดแน่น แม้เขาจะกังวล แต่ก็เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันดี  มันเป็นแบบที่ราชาสูรพูดถึงแม้นายน้อยจะสั่งให้พวกเขาไม่ควรบุ่มบ่ามทำอะไร แต่พวกเขาจะอยู่เฉยๆได้ยังไง?

  ถ้าพวกเขาปล่อยให้เมิ่งเทียนสองพันคนบุกเข้ามาเฉยๆนั่นหมายความว่าพวกเขาต้องทิ้งศาลาเต๋าสวรรค์ไป

  ดังนั้นทางเลือกเดียวคือปกป้องมันไว้ด้วยชีวิตของพวกเขา

  โชคดีที่เพราะตำนานแหล่งพลังเทพเจ้าปรากฎขึ้นทำให้เทพปีศาจมาถึงที่นี่ไม่กี่วันก่อนพวกเขาจะต้องกลัวอะไร?

  …

  ศาลาเต๋าสวรรค์ล้อมรอบด้วยภูเขาทั้งสามด้านหนึ่งในนั้นเป็นหน้าผาสูงชันซึ่งเต็มไปด้วยอันตราย

  อย่างไรก็ตามด้านที่อันตรายใช่ว่าจะไม่ถูกบุกรุก โดยเฉพาะมู่ฉิงเฟิงและเหล่าศิษย์จากศาลาเต๋าสวรรค์ล้วนคุ้นเคยกับภูมิประเทศแถบนี้เป็นอย่างดี  มันเป็นแบบที่ราชาสูรพูดถึงแม้นายน้อยจะสั่งให้พวกเขาไม่ควรบุ่มบ่ามทำอะไร แต่พวกเขาจะอยู่เฉยๆได้ยังไง?

  ถ้าพวกเขาปล่อยให้เมิ่งเทียนสองพันคนบุกเข้ามาเฉยๆนั่นหมายความว่าพวกเขาต้องทิ้งศาลาเต๋าสวรรค์ไป

  ดังนั้นทางเลือกเดียวคือปกป้องมันไว้ด้วยชีวิตของพวกเขา

  โชคดีที่เพราะตำนานแหล่งพลังเทพเจ้าปรากฎขึ้นทำให้เทพปีศาจมาถึงที่นี่ไม่กี่วันก่อนพวกเขาจะต้องกลัวอะไร?

  …

  ศาลาเต๋าสวรรค์ล้อมรอบด้วยภูเขาทั้งสามด้านหนึ่งในนั้นเป็นหน้าผาสูงชันซึ่งเต็มไปด้วยอันตราย

  อย่างไรก็ตามด้านที่อันตรายใช่ว่าจะไม่ถูกบุกรุก โดยเฉพาะมู่ฉิงเฟิงและเหล่าศิษย์จากศาลาเต๋าสวรรค์ล้วนคุ้นเคยกับภูมิประเทศแถบนี้เป็นอย่างดี  ดังนั้นแผนการที่เรียกว่า’ล้อมภูเขาทั้งสามด้าน’จึงได้เกิดขึ้น

  แต่พวกปีศาจและอสูรได้เตรียมวางกับดักไว้เพื่อป้องกันถูกบุกจากภูเขาด้านหลัง

  ท้องฟ้ายามค่ำคืนมึดสนิท

  อย่างไรก็ตามคบเพลิงที่ถูกจุดรอบๆศาลาเต๋าสวรรค์ทำให้ยังมองเห็นทุกอย่างชัดเจน

   รายงานท่านเทพปีศาจ! แม่ทัพปีศาจไม่ได้เข้าไปด้านใน เขาเพียงยืนอย่างระมัดระวังอยู่ด้านนอกเท่านั้น

   นายน้อยมาถึงที่นี่แล้วงั้นรึ? เสียงเบาๆดังขึ้นจากด้านใน

   ไม่ขอรับนายน้อยจะมาถึงในช่วงบ่าย 

   ข้าไม่ได้บอกไปก่อนแล้วงั้นรึอย่ากวนข้าถ้านายน้อยยังไม่มาถึงที่นี่? หรือว่าเจ้า…ไม่เข้าใจที่ข้าพูด?  ครั้งนี้เสียงที่กล่าวออกมาเต็มไปด้วยจิตสังหาร

  แผ่นหลังของแม่ทัพปีศาจเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อแต่เขาก็ฝืนพูดออกไป  มีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องขอความช่วยเหลือจากท่านขอรับ 

   เป็นแค่เศษสวะกล้าดียังไง… 

   ท่านเทพปีศาจเรื่องนี้จำเป็นจริงๆ 

  ตูม!ประตูที่ตกแต่งอย่างงดงามถูกเปิดออกอย่างรุนแรง จากนั้นร่างหนึ่งก็พุ่งออกมาคว้าคอของแม่ทัพปีศาจไว้อย่างรวดเร็ว

   อั้ก… ร่างของแม่ทัพปีศาจสั่นไหวอย่างรุนแรง ใบหน้าของเขาซีดขาวขณะเตะเท้าไปมาอยู่บนอากาศ

   ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายบอกข้าว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าคำตอบของเจ้าทำให้ข้าพอใจไม่ได้คงรู้ใช่ไหมว่าจะเป็นเช่นไร?  หลังจากพูดจบ ร่างนั้นก็ปล่อยแม่ทัพปีศาจลงบนพื้น

  แม่ทัพปีศาจรีบคุกเข่าลงทันทีร่างของเขาสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

   ท่านเทพปีศาจเมิ่งเทียน…เทพสงครามเมิ่งเทียน…     เมิ่งเทียน?!หืมว่ามาสิ!  แสงอันเยือกเย็นปรากฎขึ้นบนดวงตาของเทพปีศาจ

   เมิ่งเทียนมากกว่าสองพันคน…พวกมันกำลังตรงมาที่ศาลาเต๋าสวรรค์จากทุกทิศทางพวกเรา…ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรดี จึงหวังว่าท่านเทพปีศาจจะช่วย… 

   เมิ่งเทียนมากกว่าสองพันคน? 

   ใช่ใช่แล้ว! 

   เหอะ!ก็แค่พวกเศษสวะ!  ร่างนั้นยกมือขึ้นและตบลงมาอย่างรุนแรง ปัง! หัวของแม่ทัพปีศาจกระแทกพื้น ร่างของเขาแน่นิ่งไปในทันที

  กองเลือดปรากฎขึ้นอาศัยแสงสะท้อนจากดวงจันทร์สามารถมองเห็นรอยแผลรูปกากบาทปรากฎขึ้นบนหน้าผากของเขา

   ท่านเทพปีศาจ! ทหารปีศาจที่อยู่รอบๆคุกเข่าลงทันทีเมื่อเห็นสภาพของแม่ทัพปีศาจ

   ฮ่าฮ่าฮ่า… ร่างที่ยืนอยู่ยังคงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง  ปัง!

  แกรก..

  เสียงกระดูกที่แตกร้าวดังขึ้นจากนั้นร่างของแม่ทัพปีศาจก็ทรุดตัวลงบนพื้นอย่างสมบูรณ์

  ตัวตนระดับเทพเจ้า!

  ไม่มีใครเคยได้ยินคำพูดนี้มาก่อน

  อย่างไรก็ตามเป็นเวลาห้าเดือนมาคำพูดนี้แสดงให้เห็นถึงพลังอันเหลือล้น

  ไม่มีใครรู้ว่าสนามรบโบราณนั้นเป็นเช่นไรแต่ปีศาจและอสูรที่เอาชีวิตรอดมาได้ย่อมทรงพลังอย่างแน่นอน

  นอกจากพลังแล้วพวกเขายังมีบุคลิกที่โดดเด่น

  โจวฉี!

  ชื่อที่แปลกประหลาดไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นเพียงชื่อปลอมหรือชื่อจริงของเขา แต่ทุกคนเรียกเขาว่าโจวฉี  ยิ่งไปกว่านั้นตัวตนระดับเทพเจ้าคนอื่นๆไม่มีใครอยากร่วมมือหรืออยู่ใกล้กับเขา

  หยุนชิงวูได้สั่งให้มอบหมากสีดำตัวหนึ่งให้กับโจวฉี

  สีดำที่แสดงถึงความมืดมิด!

  อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ถึงความหมายที่แท้จริงของมัน

  หลังจากโจวฉีมาถึงเขาปรากฎตัวน้อยครั้งมากและไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะทำอะไรและไปที่ไหน

  ตอนนี้โจวฉีมาถึงศาลาเต๋าสวรรค์

  ไม่มีใครรู้เหตุผลของเขาอาจจะเป็นเพราะคำสั่งของหยุนชิงวูหรือเขามาที่นี่ด้วยความต้องการของตัวเองก็เป็นได้

  อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าของพวกเขาทำให้ร่างของปีศาจทุกคนสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวเสียงหัวเราะของโจวฉีทำให้พวกเขารู้สึกถึงความตายได้ตลอดเวลา  จิตสังหารที่ถูกปล่อยออกมาจากร่างโจวฉีนั้นรุนแรงเกินไป

  ฟุ้บ!ร่างของโจวฉีหายไปทันที เขาจากไปอย่างไม่ใยดีต่อพวกปีศาจที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น

   ท่านเทพปีศาจไปที่ใดกัน? 

   ข้าไม่รู้ 

   แล้วพวกเราควรทำเช่นไร?เทพปีศาจหายไปแล้วพวกเราจะบอกราชาอสูรยังไงดี? 

   … 

  ทหารปีศาจมองหน้ากันด้วยความหวาดกลัว

  …

  ที่ทะเลสาบณ ตีนเขาของศาลาเต๋าสวรรค์

  นี่คือสถานที่ที่ฟางเจิ้งจือได้สังหารเซียนสามคนจากเกาะจันทราสีดำและยังเป็นที่ที่เหยียนซิวกลายเป็นอาชูร่าคลั่งเพราะโกรธเกรี้ยวในความไร้ประโยชน์ของตัวเอง  ฟางเจิ้งจือที่ปกปิดใบหน้าด้วยหน้ากากสีดำยืนอยู่ข้างทะเลสาบเงียบๆเขามองทะเลสบายที่สะท้อนเงาดวงจันทร์ด้วยสายตาอันซับซ้อน

   เจ้าไร้ยางอายเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่? ปิงหยางรบกวนความคิดของฟางเจิ้งจือ จากนั้นเขาก็ชี้ไปยังแสงไฟที่สว่างอยู่ด้านพลังพวกเขา  เจ้าเป็นคนส่งเมิ่งเทียนเหล่านั้นมาทั้งหมดเลยหรือ? 

   แค่บางคน ฟางเจิ้งจือนั่งลงบนหินสีเขียว จากนั้นเขาก็เอนหลังลง

  เห็นแบบนี้นางก็ขึ้นไปนั่งบนหินสีเขียวด้วยเช่นกัน

   เจ้าพยายามจะทำอะไรถึงส่งเมิ่งเทียนมามากมายขนาดนี้? 

   ลองทายดูสิ? 

   ข้า…ข้าจะรู้ได้ยังไง?โอ้ ข้ารู้แล้วเจ้าพยายามจะเข้าไปในซากปราสาทสีดำขณะที่เมิ่งเทียนคนอื่นๆอยู่ที่ตีนเขาใช่ไหม?     น่าเสียดายผิด! เจ้าเป็นหนี้ข้าหนึ่งหมื่นเหรียญทอง! 

   ข้าไปพนันกับเจ้าตอนไหน? 

   แล้วเจ้ายังอยากจะรู้ไหม? 

   ฮ่าฮ่าไม่แล้วเพราะข้าไปดูด้วยตัวเองก็ได้!  ปิงหยางกระโดดลงจาก้อนหินและเตรียมเดินไปที่ตีนเขา

   … ฟางเจิ้งจือพูดไม่ออกดูเหมือนในที่สุดปิงหยางก็เริ่มฉลาดขึ้นแล้ว  เจ้าฉลาดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร? หมดกันหนทางหาเงินของข้า! 

  …

  ประมาณห้ากิโลเมตรจากศาลาเต๋าสวรร์..

  กองทัพเมิ่งเทียนจำนวนมหาศาลกำลังเข้าใกล้ตีนเขาศาลาเต๋าสวรรค์ด้วยความเร็วที่น่าตกใจนอกจากนี้ยังมีกองทัพแบบเดียวกันนี้จากทุกทิศทาง

   ผู้นำนิกายวู่พวกเราจะเริ่มโจมตีเลยไหม?  เมื่อเห็นว่าเข้าใกล้ศาลาเต๋าสวรรค์แล้ว โม่ฉานฉือได้ถามออกมาด้วยความหงุดหงิด

  หลังจากที่ต้องอดทนมาถึงห้าเดือนในที่สุดเขาก็ได้ออกมาจากภูเขาหลิงเซียวเสียที

   โอ้ใช่เทพสงครามเมิ่งเทียนได้มอบกล่องนี้ให้ข้าและบอกให้ข้าเปิดมันตอนที่อยู่ใกล้กับศาลาเต๋าสวรรค์ 

   แล้วรออะไรอยู่เปิดมันออกเลยสิ!  โม่ฉานฉือกล่าว

  ผู้นำสำนักอื่นๆกำลังรออย่างใจจดใจจ่อว่ามีอะไรอยู่ในกล่องนั้น

  ในไม่ช้าวู่จวี้เอ๋อก็เปิดมันออกด้านในเป็นบันทึกที่เขียนลงบนแผ่นผ้า

  นางกวาดตามองมันทันใดนั้นสีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันที

   มันเขียนไว้ว่าเช่นไร? โม่ฉานฉือถามอีกครั้ง

   เทพสงครามเมิ่งเทียนกล่าวว่าให้เซียนทั้งหมดแบ่งออกเป็นสี่กลุ่มกลุ่มละยี่สิบคนโจมตีศาลาเต๋าสวรรค์จากทั้งสี่ทิศทางในทันที

   โจมตีทันที?แต่รองรอยของพวกเราถูกเปิดเผยไปแล้ว พวกเราจะโจมตีอย่างกระทันหันได้ยังไง?  โม่ฉานฉือสับสน

   สิ่งที่เขากล่าวหมายความว่า…ให้เซียนโจมตีทันทีแต่คนที่เหลือให้รอก่อน  วู่จวี้เอ๋ออธิบายหลังจากพบว่าโม่ฉานฉือเข้าใจผิด

   หืมรองั้นหรือ? 

   ใช่แล้วผู้อาวุโสเมิ่งเทียนแนะนำไว้ว่าทั้งสี่กองกำลังต้องล่าถอยทันทีที่สังหารราชาอสูรได้หนึ่งคนหรือสังหารแม่ทัพปีศาจได้ 

   ถอย?พวกเราจะไม่สู้งั้นรึ?! 

   ใช่นั่นคือสิ่งที่เขาบอก 

   เทพสงครามเมิ่งเทียนกำลังทำอะไรกันแน่?! โม่ฉานฉือไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

   ตาเฒ่าโม่ใจเย็นๆก่อนรอให้หัวหน้านิกายวู่กล่าวจบก่อน  มู่ฉิงเฟิงยิ้มอย่างขมขื่นหลังจากเห็นโม่ฉานฉือที่อารมณ์ไม่ดีเท่าไรนัก

   ก็ได้ๆเขาเขียนอะไรไว้อีกไหม? เขาคงไม่ให้พวกเรามาที่นี่เพื่อฆ่าราชาอสูรคนเดียวหรอกใช่ไหม? 

   ท่านผู้นำโม่เข้าใจผู้อาวุโสเมิ่งเทียนผิดไปเขาหมายความว่าพวกเราสามารถเข้าไปด้านในปราสาทสีดำได้หลังจากที่ฆ่าราชาอสูร 

   เข้าไปด้านในหลังจากฆ่าราชาอสูร?!แล้วถ้าพวกเราเจอตัวตนระดับเทพเจ้าล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้นข้ายังได้ยินว่าหยุนชิงวูจะมาถึงที่นี่ช่วงบ้าน พวกเราจะทำยังไงกับเรื่องพวกนั้น? 

   ผู้อาวุโสเมิ่งเทียนบอกว่าเขามีวิธีรับมือกับพวกนั้นด้วยตัวเอง! 

   เรื่องนี้…ทำไมข้ากลับรู้สึกว่ามันเหมือนเป็นกับดัก? โม่ฉานฉือหรี่ตา เขารู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ

  ผู้นำสำนักอื่นๆต่างมองหน้ากันพวกเขาไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่เมิ่งเทียนให้คำแนะนำเช่นนี้กับพวกเขา

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset