Gate of God – ตอนที่ 983 แอบคุย ล่อลวง ถูกพบตัว?

   ใช่ข้าได้ยินมาว่ามีตัวตนระดับเทพเจ้าเพียงคนเดียวที่ศาลาเต๋าสวรค์ พวกเราคงไม่ซวยเจอมันที่นี่หรอกกระมั้ง? 

  พวกเขารู้สึกราวกับพึ่งได้อุ่นเครื่องเท่านั้นทำไมพวกเขาต้องรีบไปจากที่นี่ด้วย?

  นอกจากนี้พวกเขายังสนุกกับการเข่นฆ่าเมื่อมีคนแนะนำให้ลอบฆ่าต่อไปพวกเขาย่อมเห็นด้วยอย่างแน่นอน

  อย่างไรก็ตามโม่ฉานฉือขมวดคิ้วและมองไปยังร่างของราชาอสูร

  โม่ฉานฉือมีความอดทนมากพอหลังจากถูกขังอยู่บนภูเขาหลิงเซียวมานานกว่าห้าเดือนตัวเขาเคยเป็นหนึ่งในผู้นำของดินแดนศักดิ์สิทธิ์

  ตอนนี้?

  เขาต้องระวังอย่างมากที่ศาลาเต๋าสวรรค์ด้วยการปลอมตัวเป็นเมิ่งเทียน  อย่างไรก็ตามแม้จะมีความไม่พอใจอยู่เต็มอกแต่ก็รู้ดีว่านี่ไม่ใช่เวลามาปลดปล่อยความโกรธแค้นด้วยการฆ่าราชาอสูร

  จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือแหล่งพลังเทพเจ้า!

  มันเกี่ยวพันถึงอนาคตของมนุษยชาติ

   ไปกันเถอะ! โม่ฉานฉือพูดขึ้น

   เราจะไปกันจริงๆหรือถ้าอยู่ที่นี่เราสามารถฆ่าราชาอสูรได้อย่างต่อเนื่อง และการตายของราชาอสูรหนึ่งตัวนับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของพวกมัน? 

   ใช่แล้วรองผู้นำโม่เราจะทำตามคำสั่งของเมิ่งเทียนทั้งๆที่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาจริงๆงั้นหรือ? 

  มีบางคนผิดหวังไม่น้อยหลังจากได้ยินคำพูดของโม่ฉานฉือ

   ในเมื่อเราทำตามแผนการของเมิ่งเทียนจนสามารถฆ่าราชาอสูรได้นั่นหมายความว่า…ข้าไม่อยากเสียเวลากับพวกเจ้า นี่เป็นคำสั่งถ้าเจ้ายืนยันที่จะอยู่ก็เตรียมรับผลการตัดสินใจด้วยตัวเอง! หลังพูดจบโม่ฉานฉือก็หันหลังกลับเข้าไปในป่าและหายไปในพริบตา

   คำสั่ง? 

   เห้อ… 

  พวกเขาต่างหันมองกันและถอนหายใจก่อนตามโม่ฉานฉือไป

  หลังจากพวกเขาหายไปไม่ถึงสิบห้านาทีร่างหนึ่งก็กระโดดมาจากท้องฟ้าและเหยียบลงบนร่างของราชาอสูร

  แครก!มือข้างหนึ่งค่อยๆยกศพราชาอสูรขึ้น

   เศษสวะไร้ประโยชน์ เสียงที่เย็นชาดังขึ้นจากร่างนั้นและขว้างศพของราชาอสูรใส่ต้นไม้ที่มีขนาดลำต้นหนาเท่ากับคนห้าคน

  ตูม!

  ต้นไม้ถูกทำลายในทันที

  มันเป็นฉากที่ดูเกินจริง  ที่น่าแปลกคือดูเหมือนว่ามันถูกดูดน้ำออกจนเหี่ยวแห้งทั้งต้นและใบ

  จิตสังหารแผ่กระจายไปทั่วผืนป่า

  แน่นอนว่านอกจากนั้นแล้วยังมีเสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง เศษสวะตายไปอีกคนอีกแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า… 

  …

  ในขณะที่การต่อสู้อันแปลกประหลาดได้เกิดขึ้นทางตะวันตกอีกด้านหนึ่งก็เกิดเรื่องที่คล้ายกัน

  เหล่ามนุษย์ทั้งสี่กลุ่มต่างบุกโจมตีอย่างฉับพลันทางเหนือ ทางใต้ ตะวันออก ตะวันตก ทหารปีศาจกว่าสองพันนายได้ตายลงรวมไปถึงราชาอสูรสี่คน

  อย่างไรก็ตามสถานการณ์ฝั่งมู่ฉิงเฟิงที่อยู่บริเวณหน้าผาด้านหน้าต่างกับโม่ฉานฉือที่อยู่ในป่าทึบ

  ไม่มีผืนป่าให้พวกเขาคอยหลบซ่อน

  อย่างไรก็ตามมู่ฉิงเฟิงไม่ได้เป็นคนที่มีจิตใจเมตตา

  ในฐานะอดีตผู้นำของศาลาเต๋าสวรรค์ความเกลียดชังและความโกรธแค้นที่มีต่ออสูรและปีศาจย่อมมากกว่าคนอื่น

  ดังนั้นภายใต้การนำทัพของเขาเป็นไปได้ยากมากที่จะถูกศัตรูพบเจอ

  สามารถเห็นได้เพียงการต่อสู้บางส่วนเท่านั้น

  นั่นเพราะมู่ฉิงเฟิงใช้ประโยชน์จากสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของศาลาเต๋าสวรรค์ความจริงแล้วเขาเป็นคนที่คุ้นเคยกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด

  ด้วยความได้เปรียบนี่มู่ฉิงเฟิงจึงวางกับดักไว้ที่หน้าผายาวด้านหน้าศาลาเต๋าสวรรค์ด้วยพลังของเซียนยี่สิบคน

  สำหรับวิธีการล่อให้ราชาอสูรเข้ามาติดกับนั้น..

  เป็นวิธีที่ค่อนข้างตรงไปตรงมามู่ฉิงเฟิงก็แค่บินขึ้นบนยอดเขาในขณะที่ขี่สัตว์ร้ายก่อนจะกระโดดลงไปและสร้างความตกใจให้กับราชาอสูร

  จากนั้นเขาก็พูดบางอย่าง…

   โทษทีข้ามาผิดที่! 

  ใช่นั่นคือสิ่งที่มู่ฉิงเฟิงพูดเขาบอกว่ามาผิดที่ และก่อนที่เหล่าราชาอสูรจะตอบสนองเขาก็หนีราวกับแกะน้อยที่กำลังหลงทาง

  นั่นเพราะเขาวิ่งเข้าไปในศาลาเต๋าสวรรค์

  ผลลัพธ์นั้นเห็นได้ชัด

  ราชาอสูรไม่มีทางปล่อยให้แกะตัวนั้นหนีรอดไปได้อย่างแน่นอน

  หลังจากพวกเขาไล่ตามเข้าไปก็ตระหนักได้ว่าแกะน้อยตัวนั้นรวดเร็วมากหลังจากไล่ตามไปประมาณสองรอบ แกะตัวนั้นก็หายลับไปจากสายตา

  ราวกับมันหายไปในอากาศ

  ราชาอสูรรู้สึกเหมือนถูกสาปอสูรและปีศาจทั้งกลุ่มไม่สามารถจับตัวมนุษย์เพียงคนเดียวได้?   มันเป็นเรื่องอัปยศแค่ไหนกัน?!

  หลังจากราชาอสูรและหัวหน้าดินแดนปีศาจกลับมาจากยอดเขาพวกเขาก็ตระหนักว่าเหลือราชาอสูรที่คุ้มกันยอดเขาน้อยกว่าหนึ่งคน

   … 

   … 

  ชั้นสองในโถงหลักของศาลาเต๋าสวรรค์ร่างของทหารปีศาจสองสามตนนอนเกลื่อนกับพื้น

  จากทางหน้าต่างฟางเจิ้งจือและปิงหยางได้เห็นทุกอย่างกับตาตัวเอง

   ผู้นำมู่สร้างปั่นป่วนได้ยอดเยี่ยมมาก ฟางเจิ้งจือรู้ว่าคนเดียวที่สามารถทำเช่นนี้กับราชาอสูรได้มีแต่มู่ฉิงเฟิงเท่านั้น

  เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถหนีรอดไปจากการไล่ล่าของราชาอสูรและปีศาจได้ด้วยพลังของคนคนเดียวมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวนั่นคือมู่ฉิงเฟิงที่รู้จักพื้นที่ภายในศาลาเต๋าสวรรค์เป็นอย่างดี

   ทำไมข้าถึงรู้สึกว่ากลยุทธ์การต่อสู้ของมู่ฉิงเฟิงคล้ายกับเจ้ามาก ปิงหยางกระพริบตาและไม่สามารถเข้าใจได้มู่ฉิงเฟิงผู้ที่ปกติแล้วเป็นคนซื่อตรงกลับมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป

  โดยเฉพาะประโยคนั้น’โทษที ข้ามาผิดที่?’

  ปิงหยางเกือบจะสำลักน้ำลายออกมา

   แน่นอนว่าข้าเป็นคนสอนเขาเอง ฟางเจิ้งจือตอบกลับ

   เจ้าสอนเขาเหรอเจ้าไม่ได้อยู่กับข้าตลอดเวลางั้นหรือ? ปิงหยางสับสน

   ปิงหยางข้าขอถามอะไรหน่อย 

   พูด 

   อะไรก็ตามที่เจ้าพูดออกมานี่ใครเป็นคนสอนเจ้ากัน? 

   แน่นอนว่าต้องเป็นเจ้า!     … ปากของฟางเจิ้งจือกระตุกเล็กน้อยเขาไม่สามารถพูดออกมาได้ สิ่งเดียวที่ได้คือการถอนหายใจ  ไปกันเถอะ 

   ไม่ข้าจะไม่ไปจนกว่าเจ้าจะบอกว่าไปแอบคุยกับมู่ฉิงเฟิงเมื่อไร! 

   อะไรเจ้าหมายความถึงอะไร? แอบคุยกัน? ทำไมเจ้าถึงใช้ภาษาได้สองแง่สองง่ามเช่นนี้?  ฟางเจิ้งจือพยายามแก้ไขสิ่งที่ปิงหยางพูด

   อืม…ข้าควรจะพูดว่า ‘ล่อลวง’ งั้นเหรอ? 

   … ฟางเจิ้งจืออยากจะชูนิ้วกลางให้ปิงหยางอย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะทำ นิ้วกลางของปิงหยางก็ปรากฎต่อหน้าเขาแล้ว

  ฟางเจิ้งจือหยุดพูดก่อนจะยกมือตีไปที่บั้นท้ายของนางทันที

   โอ๊ย! ปิงหยางกรีดร้องออกมา

   นั่นใคร?! ทหารปีศาจที่เดินลาดตระเวนได้ยินเสียงและถามออกมา

  ขณะที่ปิงหยางกรีดร้องเสียงดังประตูห้องนั้นก็เปิดออก

   โอ้เราถูกเจอตัวแล้ว! สีหน้าของปิงหยางเต็มไปด้วยความตกใจ นางคว้าแขนของฟางเจิ้งจือไว้แน่น

  ฟางเจิ้งจือไม่พูดอะไรแม้แต่น้อย

  แน่นอนว่าเขาจะไม่หลงกลการแสดงของปิงหยางเขามั่นใจว่านางตั้งใจส่งเสียงร้องออกไป

  ปิงหยางไม่ได้ตาบอดและต้องเห็นทหารปีศาจที่เดินลาดตระเวนอย่างแน่นอน

  สำหรับเหตุผลที่ปิงหยางทำเช่นนี้ฟางเจิ้งจือก็มั่นใจเช่นกัน

  ไม่กี่ปีที่ผ่านมาฟางเจิ้งจือพบกับปิงหยางในเมืองหลวงทั้งสองคนนั้นเรียกว่าได้ว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน

  หลักฐานที่เห็นชัดที่สุดก็คือการกระทำที่โหดเหี้ยมในเมืองหลวงของปิงหยางที่ทำให้บ้านขององค์รัชทายาทมอดไหม้

  แต่ตอนนี้ปิงหยางและฟางเจิ้งจือได้พบกันอีกครั้ง

  และไม่ได้ทำอะไรวุ่นวายนอกเหนือจากการร่วมมือกันที่หอคอยหลิงหยุนและการต่อสู้บนภูเขาสวรรค์

  ดังนั้นสิ่งที่นางทำนั้นง่ายมากนางก็แค่อยากแกล้งฟางเจิ้งจือที่ได้พบกันอีกครั้งเท่านั้น

  นางมีความหัวดื้อเล็กน้อย

  อย่างไรก็ตามนั่นเป็นนิสัยของปิงหยางนอกจากนี้มันเป็นเพราะความไว้ใจที่มีต่อฟางเจิ้งจือ

  นางเชื่อว่าฟางเจิ้งจือสามารถหนีไปได้อย่างแน่นอน

  เหมือนกับที่ฟางเจิ้งจือยั่วยุให้ปิงหยางเผาบ้านพักขององค์รัชทายาทเพราะนางเชื่อว่าเขาจะหนีไปได้

  อย่างไรก็ตามความต่างเพียงอย่างเดียวคือเหตุผลของความเชื่อใจในตอนนั้นเป็นเพราะหลินมู่ไป่ในขณะที่ตอนนี้เป็นเพราะพลังที่แท้จริงของฟางเจิ้งจือ

  พลังที่คล้ายกับเทพสงครามเมิ่งเทียน!

  พลังที่บุกเมืองเงาเลือดด้วยตัวคนเดียว!

   เจ้าไร้ยางอาย…ข้ากลัว พวกมันจะโจมตีเราแล้ว สีหน้าของปิงหยางเต็มไปด้วยความประหม่าเมื่อเห็นทหารปีศาจพุ่งมาที่ชั้นสอง

  ในขณะเดียวกันเหล่าทหารที่มาถึงชั้นสองต้องพบกับความตกใจที่เห็นศพนอนเกลื่อนอยู่บนพื้นนับสิบ

  นั่นหมายความว่าพลังของเมิ่งเทียนทั้งสองคนนี้ไม่ใช่ธรรมดา

  ความจริงแล้วหลังจากได้รับรายงานการตายของราชาอสูร ทหารปีศาจทั้งสี่คนก็กลัวในตัวตนของเมิ่งเทียน

  อย่างไรก็ตามคำพูดของปิงหยางทำให้เกิดความสับสน

   กลัวเหรอ?!นางพูดว่ากลัวงั้นหรือ? ทหารปีศาจหันมองกัน จากความหวาดกลัวกลายเป็นการเยาะเย้ยในทันที พวกเขาชี้หอกไปทางฟางเจิ้งจือ

   ยอมแพ้ซะ! 

   หรือจะตายที่นี่! 

  หลังจากเหล่าทหารพูดจบพวกเขาก็ล้อมพวกฟางเจิ้งจือในทันที

  ฟางเจิ้งจือส่ายหัวและจับใบหน้าที่กังวลของปิงหยาง

   อยากเล่นไหม? 

   แน่นอนข้าอยากเล่นสักนิด ปิงหยางพยักหน้าอย่างต่อเนื่องพร้อมกับดวงตาที่เป็นประกาย

   เอาล่ะงั้นเราก็เจอของเล่นของเจ้าแล้ว แต่เจ้าต้องสัญญาก่อนว่าจะทำตัวดีๆหลังจากนี้ เข้าใจไหม? ฟางเจิ้งจือยิ้มภายใต้หน้ากากสีดำในขณะที่พูด

   ตกลง! ปิงหยางตอบตกลงอย่างรวดเร็ว

   งั้นเจ้าพร้อมหรือยัง? 

   แน่นอนข้าพร้อม!     ไปกันเถอะ! ฟางเจิ้งจือตะโกนเมื่อเขาเห็นปิงหยางพยักหน้ารับคำจากนั้นก็ผลักหน้าต่างและกระโดดออกไป

  หลังจากนางเห็นฟางเจิ้งจือกระโดดออกไปนางก็กระโดดไปบนขอบหน้าต่างเตรียมกระโดดเหมือนกับฟางเจิ้งจือ

  อย่างไรก็ตามเมื่อนางกระโดดไปที่ขอบหน้าต่างเสียงอันชัดเจนก็ดังขึ้น  เจ้าอสูร เดี๋ยวก่อน ข้าหมายถึงเจ้าปีศาจ… เจ้าอสูรและปีศาจ มีศัตรูอยู่บนชั้นสอง นางสวมหน้ากากสีดำ จับนาง! 

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset