Gate of God – ตอนที่ 986 ไม่สามารถหนีได้

  อย่างไรก็ตามหัวหน้าราชาอสูรไม่มีทางได้รับคำตอบ

  ฟางเจิ้งจือไม่ได้โหดร้ายเกินไปความจริงเขาเป็นคนดีพอที่จะยื่นแอปเปิ้ลและป้อนให้ราชาอสูร

  แม้ว่าแอปเปิ้ลอาจจะมีพิษแต่ก็ไม่สำคัญ

   เจ้าเคยได้ยินคำว่า’เต๋าเลียนแบบกฎของธรรมชาติ’ ไหม? เสียงของฟางเจิ้งจือนุ่มนวลแต่ชัดเจน

   เต๋า…เลียนแบบกฎของธรรมชาติ? ร่างของหัวหน้าราชาอสูรสั่นไหว เขาไม่เข้าใจว่าทำไมฟางเจิ้งจือถึงพูดเรื่องนี้ และไม่สนใจคำถามของเขาแม้แต่น้อย

  ราชาอสูรไม่ต้องการจะตอบเพราะมันเป็นเพียงความรู้ของมนุษย์ซึ่งต่างจากชีวิตของเขาอย่างสิ้นเชิง

   เจ้าไม่อยากตอบข้าหรือ?เจ้าเคยได้ยินคำพูดที่ว่า ‘ถ้าไม่คิดจะทำให้เขาก็อย่าหวังว่าเขาจะทำให้เราาเลย’ หรือไม่? ฟางเจิ้งจือพูดอีกครั้ง

   อะไร…เจ้าไม่ความถึงอะไร? หัวหน้าราชาอสูรพูดอย่างจริงจัง

   เห้อเจ้าโง่หรือไง? ถ้าเจ้าไม่คิดจะตอบข้าแล้วทำไมข้าต้องตอบเจ้าด้วย? 

   …. หัวหน้าราชาอสูรเบิกตากว้างสีแดงก่ำภายในดวงตาของเขาค่อยๆจางหายไป

  เขาเข้าใจว่าฟางเจิ้งจือหมายถึงอะไรแต่เขาไม่มีแรงที่จะพูด

  เขาไม่ยอมตาย!

  เป็นอย่างที่ฟางเจิ้งจือพูดถ้าเขาไม่คิดจะตอบคำถาม ฟางเจิ้งจือก็ไม่จำเป็นต้องตอบเช่นกัน

  มันเป็นการเยาะเย้ย

  ’ถ้าไม่คิดจะทำให้เขาก็อย่าหวังว่าเขาจะทำให้เรา…’

  หัวหน้าราชาอสูรรู้สึกเสียใจเล็กน้อยเขาควรจะฟังคำแนะนำของแม้ทัพปีศาจโดยการหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับเมิ่งเทียน ถ้าเขายอมฟังคงไม่ต้องมาตายแบบนี้

  อย่างไรก็ตามสิ่งที่แตกต่างกันคือราชาอสูรตายด้วยฝีมือของเมิ่งเทียนแต่แม่ทัพปีศาจถูกเหยียบย่ำโดยโจวฉี

  ตูม!ร่างของเขาตกกระแทกพื้นอย่างแรงขณะที่ดวงตาค่อยๆปิดลง

  ฉากนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไปจนน่าขนลุก

  ราชาอสูรโดยรอบยังไม่สามารถตอบสนองได้ถึงวิธีที่เมิ่งเทียนฆ่าหัวหน้าราชาอสูรเขาดึงร่างที่แท้จริงของอสูรออกมาจากร่างอสูรยักษ์ที่เป็นเปลือกได้ยังไง?

  มันแปลกเกินไป

  มันเป็นปริศนาที่หาคำตอบไม่ได้

  ดังนั้นพวกเขาควรทำยังไงต่อไป?

  ในอดีตนี่เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบแม้แต่น้อยเพราะเหล่าอสูรไม่เคยหนีจากการต่อสู้  อย่างไรก็ตามพวกเขาเริ่มคิดหนีในตอนนี้

  นั่นเพราะพวกเขามีโอกาสชนะน้อยมากความจริงแล้วราชาอสูรสองคนตายลงต่อหน้าพวกเขาภายในเวลาไม่ถึงสิบห้านาที

  ยิ่งกว่านั้นพวกเขาถูกฆ่าโดยคนคนเดียว

  คนที่มีแววตาสีเงินมองพวกเขาราวกับนักล่า

   หนี! นี่เป็นการตัดสินใจยากลำบากสำหรับพวกเขาแต่ตอนนี้พวกเขาต่างคิดเหมือนกัน

  …

  ที่หน้าผาของศาลาเต๋าสวรรค์มู่ฉิงเฟิงที่แต่งตัวเหมือนกับเมิ่งเทียนได้ล่าถอยพร้อมกับเซียนอีกสิบคน ทันใดนั้นมีร่างหนึ่งปรากฎขึ้นตรงหน้าพวกเขา

   อาจารย์ข้ามีเรื่องสำคัญรายงาน! 

   พูด! มู่ฉิงเฟิงจำได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ซึ่งเป็นสายคอยรายงานสถานการณ์ในศาลาเต๋าสวรรค์   เมิ่งเทียนปรากฎตัว! 

   เมิ่งเทียนงั้นหรือ?!หมายความว่ายังไง? 

   เมิ่งเทียนตัวจริงที่ฆ่าหลินจีและจับตัวเจ้าปีศาจที่เมืองเงาเลือด! ร่างนั้นตอบกลับ

   เจ้าบอกว่าเมิ่งเทียนตัวจริงงั้นหรือ?!ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน? มู่ฉิงเฟิงตกตะลึง

   ที่หน้าผาศาลาเต๋าสวรรค์! 

   เป็นไปไม่ได้ข้าพึ่งกลับมาจากที่นั่น นอกจากนี้ยังมีราชาอสูรแปดคนคอยคุ้มกันอยู่ เมิ่งเทียนจะปรากฎตัวที่นั่นได้ยังไง? เดี๋ยวก่อน เจ้าหมายความว่าเมิ่งเทียนกำลังถูกล้อมด้วยราชาอสูรแปดคน? หรือหรือว่าผู้อาวุโสเมิ่งเทียนเป็นพวกของอสูรและปีศาจ? มู่ฉิงเฟิงส่ายหัว เขาคิดบางอย่างและเกิดคำถามขึ้นในทันที

   เขาถูกล้อมอยู่แต่… 

   แต่อะไร?! 

   จากที่ข้าเห็นผู้อาวุโสเมิ่งเทียนข้าคิดว่าเขาเป็นพวกของอสูรและปีศาจแต่ …     แต่อะไร? มู่ฉิงเฟิงถามอีกครั้ง

  ในขณะเดียวกันเหล่าศิษย์โดยรอบต่างก็ตั้งตารอคำตอบเช่นกัน

   ผู้อาวุเมิ่งเทียน…เขา …เขาฆ่าราชาอสูรไปสองคน! 

   อะไรนะ?! 

  นอกจากมู่ฉิงเฟิงแล้วเหล่าศิษย์ต่างเบิกตากว้าง

  มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนๆหนึ่งจะฆ่าราชาอสูรอย่างไรก็ตามมันเกิดขึ้นที่หน้าผาด้านหน้าศาลาเต๋าสวรรค์

  มีราชาอสูรอยู่ที่นั่นถึงแปดคนบวกทหารปีศาจถืออาวุธครบมือนับไม่ถ้วนคอยคุ้มกัน

  มู่ฉิงเฟิงเองก็ได้ฆ่าราชาอสูรไปเช่นกัน

  อย่างไรก็ตามเขาเป็นเหยื่อล่อให้ราชาอสูรคนอื่นออกไปเพื่อให้เซียนทั้งสิบคนร่วมมือกันฆ่าราชาอสูร

  อย่างไรก็ตามตั้งแต่ตอนที่มู่ฉิงเฟิงออกมาจากศาลาเต๋าสวรรค์ยังผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาที นั่นหมายความว่ามันเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น?

  นี่มัน?

  เขาใช้เวลาแค่ไหนกันในการฆ่าราชาอสูรหนึ่งคน?

  ผู้ที่ถูกปิดล้อมโดยราชาอสูรแปดคนกลับสามารถฆ่าสองในแปดนั้นได้อย่างง่ายดายเขามีพลังแค่ไหนกัน? เป็นไปได้ไหมว่าเทพสงครามเมิ่งเทียนก็อยู่ในระดับเทพเจ้าเช่นกัน?

  ถ้าหากหัวของหลินจีที่วู่จวี้เอ๋อแสดงให้เห็นยังไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์พลังของเมิ่งเทียนอย่างไรก็ตามรายงานตอนนี้ทำให้ความสงสัยของพวกเขาหายไปในทันที

  นั่นเพราะอสูรและปีศาจไม่มีทางทำเช่นนี้!

  แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่สามารถฆ่าราชาอสูรสองตนและตัวตนระดับเทพเจ้าเพื่อโน้มน้าวให้มนุษยชาติเชื่อในตัวเมิ่งเทียน

  ยิ่งกว่านั้นหยุนชิงวูคงไม่สังเวยอสูรที่แข็งแกร่งถึงสามคนเพื่อสร้างเทพสงครามเมิ่งเทียนขึ้นมาอย่างแน่นอนจักรพรรดินีอสูรไป่ฉือจะยอมรับเรื่องนี้ได้ยังไง?

   สถานการณ์บนหน้าผาเป็นยังไงบ้าง? หลังจาดสูดหายใจเข้าลึกๆมู่ฉิงเฟิงก็สงบใจลง

   หลังจากฆ่าราชาอสูรสองคยราชาอสูรที่เหลือก็เตรียมหลบหนีเมื่อเห็นฉากที่เกิดขึ้น 

   เอาล่ะกลับขึ้นไปและหากมีอะไรเกิดขึ้นอีกให้รีบรายงานข้าทันที! 

   รับทราบ! ร่างนั้นพุ่งไปกระโจนขึ้นบนหลังของสัตว์ร้ายขนาดเล็ก

  มันคือสัตว์ร้ายที่ได้รับการฝึกพิเศษเพื่อรายงานข่าวบริเวณรอบศาลาเต๋าสวรรค์มันสามารถบินได้สูงพอสมควรและด้วยขนาดตัวที่เล็กทั้งยังปกคลุมด้วยผ้าสีดำโปร่งใสทำให้หลบซ่อนตัวได้ในเวลากลางคืน

  หลังจากศิษย์จากไปมู่ฉิงเฟิงก็หันมองเหล่าเซียนรอบๆและกำมือแน่นราวกับว่ากำลังตัดสินใจบางอย่าง

   รองแม่ผู้นำมู่ท่านคิดอะไรอยู่? หนึ่งในเซียนสัมผัสได้ถึงท่าทีของเขาอย่างคร่าวๆ

   พวกเจ้าคิดเช่นไรกับเรื่องนี้? แทนที่จะตอบเขากลับถามออกไปแทน

   ความจริงแล้วตอนแรกข้าไม่เชื่ออย่างไรก็ตามข้ายอมรับว่าแผนการของเมิ่งเทียนเป็นสิ่งที่คิดไตร่ตรองมาอย่างดี เซียนคนหนึ่งกล่าวขึ้น

   ใช่ตามรายงานจากกลุ่มอื่นพวกเราสามารถยืนยันได้ว่าทั้งสี่กลุ่มยังไม่พบความสูญเสียใดๆ และเป็นความจริงที่พวกเราฆ่าราชาอสูรได้อย่างรวดเร็ว หากเป็นเมื่อก่อนคงเป็นได้แค่ความฝัน! เซียนคนอื่นพยักหน้าและตอบกลับทันที

   ในเมื่อเรามีเมิ่งเทียนอยู่ยังต้องกลัวอะไรอีก? 

   ใช่แล้ว! 

   ด้วยพลังของผู้อาวุโสเมิ่งเทียนพวกเราสามารถหยุดยั้งตัวตนระดับเทพเจ้าในศาลาเต๋าสวรรค์ได้พวกเราให้ท่านตัดสินใจรองแผู้นำมู่! 

  เหล่าเซียนคนอื่นๆต่างก็ออกความคิดเห็น

   เอาล่ะงั้นส่งสัญญาณให้คนอื่น อย่างไรก็ตาม…พวกเราต้องให้เต๋าฮุนตัดสินใจเนื่องจากเขาเป็นผู้นำของกลุ่มพันธมิตร หลังจากคิดอยู่ชั่วขณะ มู่ฉิงเฟิงก็พยักหน้าและตัดสินใจ

   ช่างเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดท่านรองแม่ทัพมู่ เราจะติดต่อไปยังกลุ่มอื่นเอง! 

   อย่าลืมติดต่อวู่จวี้เอ๋อด้วยนางให้ความสำคัญกับกล่องที่ได้รับจากเมิ่งเทียน ข้าอยากรู้จริงๆว่ามีอะไรอยู่ในกล่องนั่น! 

   ฮ่าฮ่า…ข้าด้วย! 

  เซียนคนอื่นหัวเราะออกมาเมื่อได้ยิน

  …

  ที่หน้าผาฟางเจิ้งจือยืนมองดวงดาวอย่างเงียบสงบ

  ในขณะเดียวกันปิงหยางที่อยู่ด้านข้างกำลังเลียนแบบท่าทีของเขาอยู่แม้ว่าดวงตาของนางจะเต็มไปด้วยความซุกซน

  แน่นอนว่าใครก็ตามที่ถูกล้อมด้วยราชาอสูรและทหารปีศาจเช่นนี้นคงไม่มีอารมณ์เพลิดเพลินไปกับการดูดาวเป็นแน่น

  อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือทำเช่นนั้น

  เมื่อราชาอสูรตะโกนว่า หนี!  เขาก็ตอบกลับพวกนั้นในทันที

   วิ่งช้าๆล่ะเดี๋ยวหกล้มหรอก …ข้าจะไม่ได้คิดจะวิ่งไล่จับพวกเจ้าหรอกนะ!  ราชาอสูรทั้งหกตัวแข็งค้างในตำแหน่งของพวกเขาเมื่อได้ยินเสียงของฟางเจิ้งจือ

  เกิดอะไรขึ้น?

  เป็นการดูถูกเหยียดหยามงั้นหรือ?

  ราชาอสูรต้องการหนีไปให้ไกลจากฟางเจิ้งจืออย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถทำได้เมื่อได้ยินเช่นนั้น  พวกเขาทำได้เพียงแค่ปิดล้อมฟางเจิ้งจือเอาไว้…

  ไร้หนทางและทำอะไรไม่ได้

  มันแปลกเกินไป

  ราชาอสูรทั้งหกยืนห่างจากฟางเจิ้งจือเหล่าทหารปีศาจจับอาวุธในมือแน่น

  อย่างไรก็ตามไม่มีใครพุ่งไปด้านหน้า

   ช่างเป็นทิวทัศน์ที่งดงามอย่างที่เจ้าจะหาจากที่ไหนไม่ได้อีก ฟางเจิ้งจือพูดกับปิงหยาง

   ฮึ่มมข้าไม่เห็นว่ามันจะงดงามตรงไหน? ปิงหยางเลียนแบบน้ำเสียงของฟางเจิ้งจือและหัวเราะ จากนั้นนางก็กลอกตาขึ้น  ทำไมเราถึงไม่หนี 

   ใช่แล้วทำไมเจ้าถึงไม่หนีไปล่ะ? ฟางเจิ้งจือถามกลับ

   … ปากของปิงหยากระตุกเล็กน้อยนางเท้าสะเอวขึ้นและพูดว่า  ข้า …ข้าเนี่ยนะต้องหนี?!    ปิงหยางไม่พอใจแต่ก็สับสนเล็กน้อยตามนิสัยของฟางเจิ้งจือเขาน่าจะหนีไปนานแล้ว

  แม้นางไม่คิดว่าฟางเจิ้งจือจะเอาชนะตัวตนระดับเทพเจ้าที่ศาลาเต๋าสวรรค์ได้แต่จากการที่ได้อยู่กับเขาสองสามวันมานี้ นางสัมผัสได้ว่าฟางเจิ้งจือเองก็ไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะตัวตนระดับเทพเจ้าได้

  นั่นคือเหตุผลที่ปิงหยางคิดว่าฟางเจิ้งจือจะหนีไป

  นิสัยของฟางเจิ้งจือที่ปิงหยางรู้จักก็คือเขาจะไม่ทำสิ่งที่ไม่มั่นใจดังนั้นการลอบโจมตีจะเป็นตัวเลือกตามปกติของเขา?

  เจ้าไร้ยางอายเปลี่ยนไป?

  ในขณะที่ปิงหยางพยายามอ่านใจของฟางเจิ้งจือกลิ่นอายที่เย็นเยือกก็พุ่งเข้าหานางจากด้านหลัง มันให้ความรู้สึกราวกับวิญญาณนับไม่ถ้วนร้องโหยหวนอยู่ด้านหลังจนทำให้ร่างกายต้องสั่นเทา

  อันตราย!   ปิงหยางตอบสนองในทันทีแต่นางต้องการผลักฟางเจิ้งจือออกไปมากกว่า อย่างไรก็ตามก่อนที่นางจะเคลื่อนไหว ฟางเจิ้งจือก็เคลื่อนไหวก่อนแล้ว

   ข้ารู้ว่าเจ้าจะทำแบบนั้น ในขณะที่ฟางเจิ้งจือพูดเขาก็เบี่ยงตัวหลบและทำให้ปิงหยางพลาดไป ในขณะเดียวกันฟางเจิ้งจือถอนหายใจเบาๆ  ข้าก็อยากจะหนี แต่น่าเสียดายที่ข้าทำไม่ได้ 

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset