Gate of God – ตอนที่ 989 หนี ทำไมถึงหนี?!

  …

  ที่หน้าผาด้านหน้าศาลาเต๋าสวรรค์ฟางเจิ้งจือไม่ได้สนใจความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่ตีนเขา อย่างไรก็ตามตัดสินจากเวลา ตอนนี้โม่ฉานฉือน่าและคนอื่นน่าจะเข้าไปในซากปราสาทสีดำแล้ว

  เช่นนั้นเขาต้องจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด!

  หลังจากปิงหยางไปหลบด้านหลังเขาแล้วฟางเจิ้งจือดึง ดาบที่เปล่งประกายสีเขียวออกมาทันที

  มันเป็นดาบที่เขาได้มาจากหอคอยหลิงหยุนแม้ว่ามันจะไม่ดีเท่าดาบไร้ร่องรอย แต่มันก็นับได้ว่าเป็นดาบชั้นยอดเช่นกัน ในแง่ของคุณภาพและความคม

  เมฆเคลื่อนไหวไปตามใบดาบ

  แสงสีเขียวจากใบดาบสะท้อนไปถึงฟากฟ้า  โฮก!ในเวลาเดียวกันราวกับมีมังกรสีเขียวอ้าปากกว้างอยู่ด้านหน้าใบดาบ

   ระวังท่านเทพปีศาจ!  แม้ว่าราชาอสูรและทหารปีศาจจะหวาดกลัวความโหดร้ายของเทพปีศาจ แต่เขาก็นับได้ว่าเป็นความหวังเดียวของชัยชนะครั้งนี้

  ในเวลาเดียวกันโจวฉีลุกขึ้นยืนจากพื้น

  สภาพของเขาดูน่าสงสารเล็กน้อยใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยผงปูนขาว เขาไม่แม้แต่จะสามารถลืมตาขึ้นได้

  นอกจากนี้ยังมีคราบเลือดเปื้อนทั่วใบหน้าและมุมปากของเขา

   ตาย! เขาตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว

  ไม่มีใครรู้ว่าโจวฉีได้ยินคำเตือนจากราชาอสูรทั้งหกและทหารปีศาจหรือไม่อย่างไรก็ตามคลื่นพลังสีเทาถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขาราวกับสัตว์ร้าย

  ครืน!   พื้นดินแตกออกเพราะแรงกดดันอันทรงพลังยิ่งไปกว่านั้นหญ้าที่เขียวขจีบนพื้นกลายเป็นสีดำในทันที

  โจวฉีกระโจนเข้าหาดาบสีเขียวของฟางเจิ้งจือทันที

  ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกใจ

  ทั้งราชาอสูรและทหารปีศาจพวกเขาไม่สามารถเชื่อสายตาของตัวเองได้

  นอกจากพวกเขาแม้แต่ฟางเจิ้งจือเองก็ตกตะลึงเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นคนโง่พอที่จะกระโดดเข้าใส่ดาบของเขา

  ตูม!

  โจวฉีชนเข้ากับดาบสีเขียวอันเปล่งประกายคลื่นสีเทารอบตัวเขาหายไปทันที

  แต่ทันใดนั้นแสงสีเขียวอันเปล่งประกายบนใบดาบกลับถูกดูดเข้าไปในรอยแผลเป็นรูปกากบาทที่หน้าผากของโจวฉี

  มันแปลกมาก

   เกิดอะไรขึ้น? ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังแปลกใจ เขาสังเกตุเห็นว่าบาดแผลของโจวฉีกำลังได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว

   โอ้ดูเหมือนเจ้าโจวฉีจะแข็งแกร่งมาก!  ปิงหยางอ้าปากค้างกับฉากตรงหน้า

   อย่างนั้นรึ? ฟางเจิ้งจือถามนาง

   เอ่อ…พวกเราควรหนีไหม? ปิงหยางกระพริบตาและถามกลับ

   เป็นความคิดที่ดีแต่ไม่ใช่ตอนนี้… ฟางเจิ้งจือส่ายหน้า

  หลังจากจบประโยคโจวฉีที่พึ่งดูดซับพลังจากดาบสีเขียวได้พุ่งเข้ามาหาพวกเขาอีกครั้ง

  ตัดสินจากความเร็วของโจวฉี..

  เขาเร็วกว่าก่อนหน้านี้มาก

  ยิ่งกว่านั้นคลื่นพลังสีเทาปล่อยออกมาจากร่างเขาทุกทิศทางราวกับตาข่ายยักษ์ที่พุ่งเข้าหาฟางเจิ้งจือ

   วิ่ง! เมื่อเห็นตาขายยักษ์สีเทาพุ่งมา ฟางเจิ้งจือจับมือปิงหยางและกระโดดลงจากหน้าผาทันที

   หืม?เจ้าไม่ได้บอกว่านี่ไม่ใช่เวลาหนีงั้นหรือ?  ปิงหยางกอดแขนของฟางเจิ้งจืออย่างไม่สามารถควบคุมได้

  จากนั้น…

  ไม่มีจากนั้นเพราะนางถูกฟางเจิ้งจือดึงตกลงมาด้วย

   กรี้ด!ช่วยด้วย! 

   … บางครั้งฟางเจิ้งจือรู้สึกว่าความสามารถของปิงหยางนั้นพัฒนาขึ้น อย่างไรก็ตามบางทีเขารู้สึกว่าความสามารถในการแสดงยังดูอ่อนด้อยเช่นเคย การที่นางมาตะโกนขอความช่วยเหลือตอนนี้มันดูสมเหตุสมผลตรงไหน?

  ฟางเจิ้งจือไม่อยากสนใจปิงหยางมากนั้นเขาหันไปมองรอยยุบเล็กๆที่หน้าผาด้านบน

  มันเป็นตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ก่อนหน้านี้ตำแหน่งที่ถูกตาข่ายยักษ์สีเทาโจมตีใส่

  อย่างไรก็ตามเขามั่นใจว่าโจวฉีต้องตามมาแน่นอน

   ตาย! เสียงเย็นชาดังขึ้นอีกครั้งด้านหลังฟางเจิ้งจือ

  ฟางเจิ้งจือเดาไว้แล้วว่าโจวฉีต้องตามมาอย่างรวดเร็ว

  เขาไม่ได้กังวลเกินไปเพราะเขาได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว

  เขาบิดร่างกายไปด้านหลัง

  ปั้ง!ฝ่ามือของทั้งสองชนกันอีกครั้ง

  ร่างของโจวฉีลอยกลับขึ้นไปเล็กน้อยขณะที่ฟางเจิ้งจือและปิงหยางดิ่งลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็วเพราะแรงส่งจากฝ่ามือโจวฉี

   ท่านเทพปีศาจโปรดระวังมันอาจจะเป็นแผน! หนึ่งในราชาอสูรรีบกระโดดตามโจวฉีลงไปเพื่อเตือน

   เจ้าเด็กเหลือขอตายซะ! สีหน้าโจวฉีดำคล้ำอีกครั้งเมื่อเห็นฟางเจิ้งจือหลบหนีไปกับปิงหยาง

  ในขณะเดียวกันเขาเห็นร่างของราชาอสูรที่ตามลงมาเขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอามือตบเข้าที่หน้าอกของราชาอสูรและไล่ตามฟางเจิ้งจือไปด้วยความรวดเร็ว

  ปัง!ร่างของราชาอสูรลอยกระเด็นกลับขึ้นไปบนหน้าผา เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว เขาดูอ่อนแอราวกับตายไปแล้ว

   พี่หยิงท่านเป็นยังไงบ้าง?! 

   พี่หยิง! 

   ใครก็ได้รีบไปเอายามาเร็วเข้า! 

  สีหน้าของราชาอสูรคนอื่นเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขาไม่คิดว่าโจวฉีจะโหดร้ายขนาดทำร้ายราชาอสูรเพื่อไล่ตามเมิ่งเทียนได้ขนาดนี้

   บัดซบ! 

   เห้อ… 

  ราชาอสูรคนอื่นๆต่างถอนหายใจพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้จริงๆเมื่อเจอกับเมิ่งเทียนหรือต่อให้เป็นเทพปีศาจที่อยู่ฝ่ายเดียวกันก็ตาม  ด้านล่างสุดของผาโจวฉีเร่งตามฟางเจิ้งจือไปอย่างรวดเร็ว

  คลื่นสีเทาราวกับตาข่ายยักษ์แผ่ออกมารอบตัวของโจวฉีอย่างต่อเนื่อง

  ฟางเจิ้งจือกำลังเจอกับปัญหา

  ตอนแรกเขาคิดว่าจะได้เปรียบอย่างแน่นอนถ้าลอบโจมตีจากด้านหลังอย่างไรก็ตามเขาไม่คิดเลยว่าสภาพร่างกายของโจวฉีจะกลับเป็นปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

  เขาต้องใช้พลังอะไรบางอย่างแน่นอน

  มันจะเป็นการดูดกลืนพลังของคนอื่นเหมือนที่หนานกงเฮาเคยใช้หรือเปล่า?

  แต่มันดูต่างออกไปเล็กน้อย

  ฟางเจิ้งจือจำได้ว่าวิชาสังเวยเลือดของหนานกงเฮาสามารถดูดกลืนพลังได้แต่ต้องปลดปล่อยพลังที่เคยดูดไปก่อนหน้านี้

  แต่พลังของโจวฉีดูน่ากลัวกว่าเล็กน้อย…

  หลังจากดูดซับความเปล่งประกายจากดาบสีเขียวบาดแผลของเขาหายเป็นปกติและดูมีพลังมากขึ้น

  ราวกับว่าพลังของดาบนั้นถูกดูบซับโดยสมบูรณ์

  นอกจากนั้นคลื่นพลังสีเทาที่ปล่อยออกมาจากร่างของเขาดูหนาแน่นขึ้นและมีกลิ่นของความตาย

  สัญชาตญานของเขาบอกว่า…

  เขาไม่ควรเข้าไปติดอยู่ในตายข่ายยักษ์นั่นต่อให้เขาไม่ตายแต่ใช่ว่าปิงหยางจะรอด

   ตาย! ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังคิดวิธีโต้กลับ โจวฉีก็ตบมาที่เขาอย่างรวดเร็ว

   โง่หรือไง?จะเพิ่มความเร็วให้ข้าอีกงั้นรึ?  ฟางเจิ้งจือกำลังจะยืดฝ่ามือออกไป

  อย่างไรก็ตามก่อนที่ฝ่ามือของเขาจะกระทบกับฝ่ามือของโจวฉีเขาสังเกตุเห็นสายตาที่หรี่เล็กของโจวฉี

  ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้โง่!

  เขาผ่านการต่อสู้มามากมายเขาสามารถคาดเดาการกระทำของคู่ต่อสู้ได้  อย่างน้อยเขาก็มันใจว่ากาตบครั้งนี้ของโจวฉีต้องไม่ใช่การโจมตีธรรมดา

  ฟางเจิ้งจือดึงมือกลับเข้ามาอย่างรวดเร็วบวกกับก่อนหน้านี้ที่ฟางเจิ้งจือบีบเอวของปิงหยางเบาๆ

   กรี้ด! เสียงร้องของปิงหยางดังขึ้น

  ในเวลาเดียวกันแสงสีทองได้พุ่งไปที่ลำคอของโจวฉี

  หอกเพลิงฉีหลิน!

  หนึ่งในสิบสมบัติที่มีพลังโจมตีอันรุนแรงของอาณาจักรเซี่ย!

  นอกจากนี้มันยังเป็นอาวุธโปรดของปิงหยาง

  หลังจากฟางเจิ้งจือ’ส่งสัญญาน’นางก็โจมตีออกไปโดยไม่ลังเล มันทั้งแม่นยำและรุนแรง

  กลางอากาศแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะหลบ

  อย่างไรก็ตามโจวฉีเป็นคนธรรมดา?   ไม่มีทาง

  เมื่อโจวฉีเห็นหอกฉีหลินใกล้เข้ามาเขาจึงเคลื่อนไหวด้วยท่าทางแปลกๆราวกับตีลังกากลางอากาศ

   มันเป็นไปได้งั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือตกใจเล็กน้อยเพราะบนอากาศไม่มีพื้นผิวให้เขาใช้เป็นที่เหยียบ

  อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือรู้ได้อย่างรวดเร็วคลื่นสีเทาก่อตัวขึ้นที่เท้าของโจวฉี

  ดูเหมือนว่าเขาจะใช้ประโยชน์จากคลื่นอากาศ

  ฟางเจิ้งจือเองก็มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์เล็กน้อยนอกจากนี้มันเป็นเพราะพลังเฉพาะตัวของเทพปีศาจทำให้เขาตีลังกากลางอากาศได้

  แน่นอนว่าฟางเจิ้งจือก็มีบางอย่างที่บ้าบอพอกัน

  ปีก!

  ปีกสีดำขนาดมหึมาคู่หนึ่งเขาสามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้อย่างฉับพลันในอากาศ

  ฟึบ!ปีกสีดำขนาดใหญ่กางออกอย่างสมบูรณ์ ลมแรงพัดผ่านผ้าคลุมสีดำ

  กลางอากาศ!

  มันคือสมรภูมิหลักของฟางเจิ้งจือตอนนี้!

  ควบคุมคลื่นอากาศ?แม้ว่ามันจะทำให้โจวฉีเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศได้แต่มันจะเทียบกับปีกจริงๆได้ยังไง?

   นั่นมันปีกสีดำ! ท่าทีของโจวฉีเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นกล้ามเนื่อที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยของฟางเจิ้งจือ

   โอ้?เจ้ารู้จักมันด้วยหรือ?  ฟางเจิ้งจือตกใจเล็กน้อย เขาจำได้ว่าขโมยปีกสีดำนี้มาจากเจ้าปีศาจ

  จากน้ำเสียของโจวฉีดูเหมือนว่าเขาไม่เพียงแต่รู้จักมันแต่คุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี

   ตาย! ฟางเจิ้งจือจับมือของปิงหยางเพื่อบังคับทิศทางของหอก

  ฉึก!   เกิดรูลึกพอที่จะมองเห็นได้ว่ามีกระดูกปกคลุมร่างกายของโจวฉีอีกชั้น

  การแสดงออกของโจวฉีเปลี่ยนไปเขาหันร่างและแทงมือเข้าไปที่ผาหิน จากนั้นเขาก็ดึงคลื่นสีเทากลับเข้าร่างและใช้เท้าดันกับหน้าผาอย่างแรงเพื่อกระโจนขึ้นไปด้านบน

   หืม?เขาไม่สู้แล้วรึ?  ฟางเจิ้งจือแปลกใจเล็กน้อย เขาเห็นโจวฉีดึงพลังกลับไป

   เอ๋?…ดูเหมือนเขากำลังหนีหรือเปล่า? ปิงหยางเองก็แปลกใจเช่นกันเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

   หนี?! ฟางเจิ้งจือเคยวิ่งหนีจากสนามรบหลายครั้ง อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่ศัตรูหนีจากเขา

  เอาจริงดิ?

  เขาไม่ใช่ตัวตนระดับเทพเจ้าหรอกรึ?

  ทำไมเขาถึงหนี?

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset