Ch.16 – สั่นสะเทือน
Translator : Koel / Author
[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 11
[คลาส] ดยุค, ราชันของกลุ่ม
[ทักษะ] <<บัญชาการ>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B->> <<โลภะที่ไม่สิ้นสุด>><< การจ้องมองจากปีศาจ >> <<การเชื่อมต่อจิตวิญญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>><<การเต้นรำแห่งความตาย>><< ดวงตาของงูสีชาด >>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย
[คุณลักษณะ] ความมืด, ความตาย
◇◆◇
เป้าหมายในวันนี้คือฝูงกวางเอเรล
พวกมันถูกพบโดยลูกน้องของผมขณะออกสำรวจ
ตอนนี้กวางประมาณ 30 ตัวกำลังดื่มน้ำจากทะเลสาบและกินหญ้า พวกมันอยู่เบื้องหน้าผม
“เปลี่ยนตัวข้าให้กลายเป็นดาบ (enchant)”
ผมที่ซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้ร่ายเวทมนตร์เสร็จ ก็มีความมืดเคลื่อนไหวห่อหุ้มดาบ
มันสังเกตเห็นถึงการปรากฏตัวของผม? อาจเป็นเพราะสัญชาตญาณที่เติบโตมาในป่า? หรือเพราะว่าเจตนาฆ่า? พวกมันก็มองมาที่ผมทันที
จากนั้นพวกมันก็หันหลังและวิ่งหนีไป
แต่ผมสั่งให้พวกก็อบลินให้ปิดทางหนีไว้แล้ว พวกมันจึงต้องหยุดวิ่งและหันหลังกลับ
ด้วยความเร็วบวกกับน้ำหนักตัว ผมที่เผชิญหน้าอยู่ใช้ดาบเสริมพลังเวทย์ฟันพวกมันขาดเป็นสองท่อน มันเร็วจนแม้แต่พวกมันไม่อาจส่งเสียงร้องออกมา
…ความรู้สึกเหมือนเอาเอามีดไปตัดกับเนย
“สุดยอด…”
ในขณะที่ผมกำลังหลงใหลในพลังของเวทมนตร์ พวกก็อบลินดูเหมือนจะสามารถล่ากวางเอเรลได้แล้ว การรวมกลุ่มๆละสามคนมีประสิทธิภาพมากกว่าที่คิด
มันจะสร้างรากฐานให้พวกเขาในอนาคต
… แต่เหนือสิ่งอื่นใด เป้าหมายหลักคือการทำให้ท้องอิ่ม เพราะคุณไม่อาจสู้เต็มประสิทธิภาพขณะท้องว่าง
น่าเสียดายที่การรมควันเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เราทำได้
ในขณะที่ผมคิด ผมก็ได้ยินเสียงหวาดกลัวของกวาง
“กูรูนรุน!”
โอ้?
เมื่อมองไปตามทิศทางของเสียง ผมเห็นก็อบลินที่ฆ่ากวางได้มีไอระเหยออกมาจากร่าง มันกำลังเลื่อนคลาส?
ผิวของมันเปลี่ยนไปเป็นสีแดงและกล้ามเนื้อก็โตขึ้น การแสดงออกที่แข็งแกร่งเมื่อพัฒนาร่าง
เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นใครบางคนเลื่อนคลาสต่อหน้า ผมอดไม่ได้ที่จะแต่จ้องไปที่เขาและค่าสถานะก็ปรากฎขึ้น
[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 1
[คลาส] แรร์
[ทักษะ] <<ตามรอย>> <<ขว้างปา>> << ความชำนาญการใช้ขวาน D+>> <<กินไม่เลือก>> <<โกรธ>> <<ความรู้สึกของมอนสเตอร์>> <<ผู้ฝึกสัตว์>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] ไม่มี
[คุณลักษณะ] ไม่มี
หือ?
ดูเหมือน [ทักษะ] << ดวงตาของงูสีชาด >> กำลังทำงาน
มันยังใช้กับพวกพ้องได้ ไม่ใช่แค่เฉพาะกับศัตรู
เก็บความสงสัยไว้ก่อน ตอนนี้ควรให้ความสำคัญกับการล่ามากกว่า
“ราชัน”
เมื่อคิดว่าหากมีใครเลื่อนคลาส ผมจะตั้งชื่อให้
“ต่อไปนี้เจ้าชื่อว่า กิกิ”
จากนั้นมันก็คุกเข่าขอบคุณผมหลายครั้ง บังเอิญที่ผมได้ดูทักษะของกิกิ
ผู้ฝึกสัตว์
ตอนเขายังเป็นก็อบลิน เขายังควบคุมได้เพียงไม่กี่ตัว ตอนกลายเป็นก็อบลินแรร์ความสามารถต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
หลังจากเวลาผ่านไป เราจึงพากวางเอเรล 2 และกระต่าย 3 ตัวกลับไปยังหมู่บ้าน
◇◆◇
เมื่อผมกลับหมู่บ้านก็สั่งให้ก็อบลินยืนตามลำดับคลาสของมัน
ตอนนี้ผมจะตรวจสอบพวกเขา
โชคร้ายที่ทักษะ << ดวงตาของงูสีชาด >>ทำงานเฉพาะกับคนที่มีเลเวลต่ำกว่า มีก็อบลินไม่มากนักที่ผมตรวจสอบได้ จึงมีประโยชน์ไม่มากนัก
ถ้าไม่นับกิกิ มันมีจำนวนน้อยจริงๆ
แต่ผมจึงต้องมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มเลเวลเพื่อที่จะตรวจสอบความถนัดของก็อบลินแต่ละตัว ถ้าผมพบว่าทักษะไหนมีประโยชน์ ผมจะฝึกเขาให้พัฒนาทักษะนั้นๆ
น่าเสียดายที่ผมมองไม่เห็นค่าสถานะของกิกูวและกิก้า
◇◆◇
การพูดคุยกับเรเชียเกือบจะกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ผมคุยกับเธอเพื่อหาข้อมูล
วิธีที่ทำได้คือการสร้างความไว้วางใจให้กับเธอในแง่ต่างๆ อย่างเช่นการช่วยเหลือการโจมตีของออร์คก่อนหน้า
อันที่จริงการโจมตีของออร์คก็ทำให้เกิดผลดีบางอย่าง มันช่วยให้เราพัฒนาตัวเอง ตอนนี้ก็อบลินสามารถออกล่าและทำตามคำสั่งได้ดียิ่งขึ้น
แต่เอาจริงๆผมไม่ได้มีความสุขมากนัก…
ความสูญเสียในครั้งนั้น…
แม่ง!
ก็ยังดี…ที่ความสูญเสียครั้งนี้ยังใช้ประโยชน์ได้ แต่ถ้าไม่ได้พวกเขาช่วยไว้ ผมคงจะตายพร้อมกับพวกอออร์คนั่น
บ้าเอ๊ย!
พวกมันเป็นสัตว์ร้าย เพียงแค่หมากตัวหนึ่ง เป็นแค่มอนสเตอร์!
ผมกำลังคิดอะไรอยู่!?
“——คุณฟังฉันอยู่รึเปล่า?”
เสียงของเรเชียทำให้ผมรู้สึกตัว
“โทษที ข้ากำลังคิดอะไรบางอย่าง”
“ ถ้าคุณไม่ตั้งใจฟัง ฉันจะกลับแล้วนะ”
“ ไม่ มันเป็นปัญหากวนใจเล็กน้อย มาต่อกันเถอะ ”
“ คุณกล้าพูดอย่างนั้นได้ยังไง คนที่ไม่ตั้งใจฟังคือคุณต่างหาก!”
“ ข้าจะให้เจ้าอาบน้ำทุกสองวัน”
“ไม่เลว แต่เราตกลงกันไว้แล้ว คุณต้องให้ชินอสและแมนติสอาบด้วย”
ดูเหมือนว่าพรสวรรค์ของหญิงสาวจะไม่ได้เป็นแค่ฮีลเลอร์ธรรมดา เธอยังเป็นแม่ค้าที่น่ากลัวด้วย
“ได้ แต่ข้าต้องบอกคนคุ้มกันก่อน”
“ดี งั้นมาต่อกัน”
สิ่งที่ผมต้องการเรียนรู้จากเรเชีย คือ ภูมิศาสตร์ต่างๆ ที่อยู่ของมนุษย์อยู่ไกลแค่ไหน เมืองที่ใกล้ที่สุดเรียกว่าอะไร พวกเขามีทหารกี่คน ภาษาเขียนของมนุษย์ ความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆและสิ่งที่เธอรู้เกี่ยวกับป่าแห่งนี้ แต่แน่นอนว่าผมไม่ได้เชื่อไปทุกอย่าง”
มาลองคิดดูว่ามันเป็นเวลา 10 วันหลังจากที่ผมจับเรเชียไว้ จึงไม่แปลกถ้าจะเจอมนุษย์ที่ออกมาตามหาเธอ
ด้วยการออกเดินทางเพียงลำพัง ผมไม่เพียงแต่สำรวจ แต่ยังออกล่าเพื่อเพิ่มเลเวลด้วย เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นักสองตัว
แต่แน่นอนมันอันตรายด้วยเช่นกัน
ถึงผมจะกลายเป็นดยุคก็อบลินแล้วก็ตาม แต่ก็มีค่าสถานะเท่ากับแมงมุมยักษ์เท่านั้น สิ่งที่แตกต่างกันคือผมฉลาดกว่าและสามารถใช้เวทมนตร์ได้ แต่ยังมีจุดอ่อนที่ผมต้องแก้ไขอีกมาก
ยกตัวอย่างเช่นถ้าเจอกับคนที่สามารถฆ่าผมได้ในทีเดียวทักษะ <<การเต้นรำแห่งความตาย>> จะไม่ทำงาน หรือถ้าคนที่ใช้เป็นอาวุธที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> ก็จะไม่ทำงานเช่นกัน
…ระหว่างทางผมเจอกับออร์คสามตัว
“เปลี่ยนตัวข้าให้กลายเป็นดาบ (enchant)!!”
พวกออร์คก็สังเกตเห็นผมเช่นกัน
“กว้าาาาาาาาาาา!”
พวกมันถูกกดดันอย่างสมบูรณ์จากเสียงที่คำรามออกไป
ไม่เหมือนกับก่อนหน้า ครั้งนี้ผมก้าวออกไปในฐานะของผู้ล่า
◆◇◇◆◆◇◇◆
เนื่องจากคุณลักษณะเวทมนตร์คือความมืดและความตาย เวทมนตร์ที่คุณสร้างจะเป็นมนตร์ดำ
เนื่องจากคุณได้ใช้มนตร์ดำ จิตใจของคุณจึงได้รับผลกระทบ
[ทักษะ] <<นักรบคลั่ง>> เรียนรู้แล้ว
ถ้าใช้งานทักษะ พลังและความเร็วจะเพิ่มขึ้น แต่คุณจะสูญเสียสติอย่างช้าๆ